วันกาชาดสากล (World Red Cross and Red Crescent Day) ได้ถือมาจากหน่วยงาน “สภากาชาดสากล” (International Committee of the Red Cross) ที่ถือกำเนิดเกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1863 โดยมีภารกิจด้านมนุษยธรรมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการสู้รบและสถานการณ์รุนแรงอื่นที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง รวมถึงส่งเสริมและเสริมสร้างความรู้เรื่องกฎหมายมนุษยธรรมและหลักการมนุษยธรรมสากลเพื่อป้องกันความเดือดร้อนและจำกัดผลกระทบจากการสู้รบ เพื่อเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วย ไม่ว่าจะอยู่ในสงครามหรือยามสงบ
โดยเน้นการช่วยเหลือในทางการแพทย์และความเป็นมนุษย์ เช่น การให้อาหาร น้ำดื่ม การบรรเทาความเจ็บป่วย และการพยาบาล โดยใช้สัญลักษณ์แดงของกาชาดเป็นสัญลักษณ์ของการช่วยเหลือ วันกาชาดสากลถูกกำหนดให้เป็นวันที่ 8 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อระลึกถึงภารกิจของสภากาชาดสากลและพยายามเพิ่มความตระหนักให้กับผู้คนว่าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นสิ่งสำคัญ
วันกาชาดสากล สู่การเริ่มต้นของสภากาชาดไทย
ประวัติความเป็นมาของวันกาชาดสากล
วันกาชาดสากลเกิดขึ้นจากแรงผลักดันของ ญัง อังรี ดูนังต์ (Jean Henri Dunant) นายธนาคารชาวสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อเขาได้พบเหตุการณ์ที่น่าสลดใจในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2402 โดยเกิดการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังทหารของฝรั่งเศสร่วมกับอิตาลีกับกองกำลังทหารของออสเตรีย ณ บริเวณใกล้ ๆ หมู่บ้านของซอลเฟริโนซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี ทำให้มีทหารบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขาดคนช่วยเหลือพยาบาล เขาจึงได้รวบรวมบรรดาหมอชาวออสเตรียและกลุ่มนักเรียนแพทย์อิตาเลียนมาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บโดยไม่เลือกฝ่ายมิตรหรือศัตรู
เมื่อกลับถึงกรุงเจนีวา ญัง อังรี ดูนังต์ได้นำแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาถ่ายทอดผ่านหนังสือ “ความทรงจำที่ซอลเฟริโน” โดยในหนังสือนี้มีใจความสำคัญระบุว่า “จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะจัดตั้งองค์กรอาสาสมัครซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือดูแลทหารบาดเจ็บในสงคราม” และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม
ทางแนวคิดนี้ได้ถูกนำไปสู่การประชุมระหว่างประเทศที่กรุงเจนีวา โดยมีผู้แทนจาก 16 ประเทศเข้าร่วมประชุม และสร้างสภากาชาดสากลขึ้น ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี พ.ศ. 2406 โดยมีการก่อตั้ง “คณะกรรมการระหว่างประเทศเพื่อบรรเทาทุกข์ทหารบาดเจ็บ” ขึ้น ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศหรือ The International Committee of the Red Cross (ICRC) ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสงครามและภัยพิบัติต่าง ๆ
นอกจากนี้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศและสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศได้กำหนดให้วันที่ 8 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของนายอังรี ดูนังต์ ซึ่งเป็นวันกาชาดโลก ในวันนี้คนทั่วโลกจะระลึกถึงความสำคัญของกาชาดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสงคราม
ที่มาของสัญลักษณ์กาชาด
กิจการกาชาดเริ่มต้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยเครื่องหมายสีแดงบนพื้นขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของกาชาดที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในปัจจุบัน การใช้เครื่องหมายนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นสิ่งที่นับว่าสำคัญอย่างยิ่งในวงการกาชาดทั้งในและต่างประเทศ สัญลักษณ์ดังกล่าวจะมีลักษณะกลับกันกับธงชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดว่าเครื่องหมายกากบาทมีความสำคัญทางศาสนาคริสต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนได้
การใช้เครื่องหมายนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่เพียงแค่ในวงการกาชาด แต่ยังมีการกำหนดเครื่องหมายเสี้ยววงเดือนแดงใช้ในประเทศมุสลิมเพื่อแสดงความเคารพและเกียรติต่อศาสนา โดยเรียกว่า “สภาเสี้ยววงเดือนแดง” โดยมีหลักการและหน้าที่ที่ไม่แตกต่างกันจากสภากาชาด ซึ่งสภากาชาดจะยึดหลักการกาชาด 7 ประการคือ มนุษยธรรม ความไม่ลำเอียง ความเป็นกลาง ความอิสระ บริการอาสาสมัคร ความเป็นเอกภาพ และความเป็นสากล
ปัจจุบันมีสภากาชาดของประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศจำนวน 181 ประเทศ สำหรับสภากาชาดไทยเป็นสมาชิกของสหพันธ์สภากาชาด และสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศลำดับที่ 31
บทบาทของสภากาชาดสากล
บทบาทของสภากาชาดสากลได้แก่การสนับสนุนและสร้างสรรค์ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชนทั่วโลก โดยตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การสนับสนุนการศึกษาและการเรียนรู้ การสนับสนุนการดูแลสุขภาพ และการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชนโดยรวม
สภากาชาดสากลเป็นองค์กรอิสระที่เป็นผู้นำแนวคิดการประชุมของกาชาดจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับกาชาดในทุกๆ ประเทศ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาในด้านการประกอบอาชีพกาชาด การสร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะสำหรับคนที่สนใจในกาชาด และการสนับสนุนการกำกับดูแลองค์กรกาชาดในแต่ละประเทศ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สภากาชาดสากลประกอบด้วย 3 องค์กรหลัก ได้แก่
1. คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross หรือ ICRC) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีพันธกิจหลักในการคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามและความขัดแย้ง ทั้งในระดับระหว่างประเทศและภายในประเทศ มีการรับรองจากอนุสัญญาเจนีวาซึ่งเป็นกฏหมายระหว่างประเทศที่มีการลงนามรับรองโดย 194 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
เป้าหมายของ ICRC คือการสนับสนุนผู้ประสบภัยสงครามและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในการเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากและเสี่ยงภัย โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น การส่งกองทัพแดงเพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย การเผชิญหน้ากับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การสนับสนุนสถาบันทางการแพทย์และสาธารณสุข และการช่วยเหลือในการสร้างความเข้มแข็งและสร้างสันติภาพในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามและความขัดแย้ง การดำเนินงานของ ICRC เป็นอิสระและไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล และเน้นการทำงานร่วมกับองค์กรอื่นๆ เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับทุกคนในโลก
2. สหพันธ์กาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ หรือ IFRC เป็นองค์กรนานาชาติที่มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานและรวบรวมสรรพกำลังของประเทศสมาชิกในการตอบสนองและบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติขั้นรุนแรง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวและน้ำท่วม อีกทั้งยังมีการสนับสนุนและส่งเสริมให้กับการพัฒนาความแข็งแกร่งขององค์กรกาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงในแต่ละประเทศสมาชิกด้วย องค์กรนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านการป้องกันและบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติในระดับโลก และมีสมาชิกมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งได้รับการรับรองโดยอนุสัญญาเจนีวา และเป็นเจ้าภาพของการประชุมประจำปีของสหพันธ์กาชาดทุกปี
3. สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดง (National Societies) มีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดภัยพิบัติและบริการด้านสุขภาพและสังคมให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม และในบางกรณีมีหน้าที่ร่วมกับหน่วยบริการแพทย์ทหาร เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย ปัจจุบันสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงมีการดำเนินงานในประเทศต่าง ๆ กว่า 186 ประเทศทั่วโลก
สภากาชาดไทย ประวัติความเป็นมาและบทบาทที่ต้องทำ
เพื่อเริ่มกิจการกาชาดในประเทศไทย สภาอุณาโลมแดงถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2457 และในภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นสภากาชาดไทย คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศรับรองสภากาชาดไทยในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2463 และสันนิบาตสภากาชาดได้รับเข้าเป็นสมาชิกในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2464 เป็นต้นไป สภากาชาดไทยได้ก่อตั้งเพื่อช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บในกรณีพิพาท ร.ศ. 112 ซึ่งในภาวะสงบทางราชการถูกเปลี่ยนเป็นองค์การสาธารณกุศลเพื่อเพิ่มประโยชน์และบรรเทาทุกข์ภัยของประชาชนในอนาคต
วันกาชาดสากล ที่ส่งผลในปัจจุบัน สภากาชาดไทยยังคงปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมเพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดภัยพิบัติ การบริการด้านสุขภาพและสังคม โดยมีหน้าที่ช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบและช่วยงานของหน่วยบริการแพทย์ทหารตามสมควร ส่วนกิจกรรมการองค์การกาชาดไทยจัดงานประจำปีในทุก ๆ ปี เพื่อเผยแพร่หลักการ การดำเนินงาน ผลงาน และกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งหาเงินเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมสาธารณกุศลไว้รับใช้ประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง