วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น วันตระหนักรู้โรคออทิสติกโลก (World Autism Awareness Day) โดยองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อส่งเสริมให้สังคมเข้าใจและยอมรับความเป็นอยู่ของบุคคลที่เป็นโรคออทิสติก และสนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคออทิสติกมีชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงมีสิทธิเท่าเทียมกับกลุ่มคนอื่น ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน
วันตระหนักรู้โรคออทิสติกโลก สร้างความเข้าใจผู้ป่วยโรคออทิสติกให้กับสังคมโลกอย่างกว้างขวาง
กลุ่มภาวะออทิสติก คืออะไร
ตามทฤษฎีที่พัฒนามาใหม่ โรคออทิสติกไม่ได้แยกเป็นกลุ่มอาการออทิสติกและโรคออทิสติกแยกกันแล้ว แต่ถูกนำมารวมเป็นกลุ่มภาวะออทิสติกทั้งหมด โดยมีการแยกออกเป็นระดับความรุนแรงตามอาการและภาวะออทิสติกที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล
ในกลุ่มเด็กที่มีอาการออทิสติก จะพบว่าพัฒนาการของพวกเขาจะล่าช้าไปใน 2 ด้านหลัก คือ ด้านภาษาเพื่อสื่อสารทางสังคม และ ด้านพฤติกรรม ซึ่งสองด้านนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก และมักจะทำให้เด็กมีความยากลำบากในการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการสื่อสารหรือปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในชีวิตประจำวันได้
ด้านภาษาในการสื่อสารทางสังคม ผู้ป่วยอาจแสดงออกเป็นการไม่สนใจการพูดคุยหรือไม่ตอบสนอง การพูดช้ากว่าวัยเดียวกัน หรือไม่สามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ นอกจากนี้ เมื่อโตขึ้นผู้ป่วยอาจยังมีปัญหาในการเริ่มต้นสนทนาและขาดความสามารถในการเข้าสังคมกับเพื่อนร่วมชั้น และมักไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ทางสังคมได้เนื่องจากไม่สามารถอ่านสีหน้าและอารมณ์ของผู้อื่น
ด้านพฤติกรรม เช่น มีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และไม่เหมาะสม เช่น การสะบัดมือซ้ำ ๆ การพูดซ้ำ ๆ การมองพัดลมหมุน ๆ การยึดติดกับอาหารและการกินอาหารซ้ำ ๆ และความไม่ยืดหยุ่น รวมถึงการมีความชอบในการทำตามขั้นตอนหรือแผนที่ได้วางไว้ และการมีความไวต่อการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่อาจมีประสิทธิภาพต่ำหรือสูงเกินไป เช่น ความไม่ชอบเสียงบางอย่าง การชอบที่จะดมกลิ่นอย่างมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นสัญชาตญาณของภาวะสุขภาพจิตหรืออาจมีสาเหตุอื่นเช่นภูมิต้านทานที่ต่ำลง
หากพบเจอว่าลูกหลานมีภาวะออทิสติก ควรทำอย่างไร
การดูแลและรักษาเด็กที่มีอาการออทิสติกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากพบอาการออทิสติกต้องพาไปตรวจดูแลรักษาโดยแพทย์และทีมสหวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมให้เด็กพัฒนาการได้ตามปกติ และช่วยปรับพฤติกรรม รวมถึงฝึกทักษะการเข้าสังคมให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เด็กที่มีอาการออทิสติกที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรก จะช่วยเพิ่มพัฒนาการเปลี่ยนแปลงได้อย่างดี เพื่อให้เด็กสามารถปรับตัวกับสังคม เข้าโรงเรียนได้ และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในอนาคต
เข้าใจและดูแลติดตามกลุ่มผู้มีภาวะออทิสติกได้อย่างไร
การติดตามอาการของออทิสติกจะมีความหลากหลายตามระดับความรุนแรงของอาการ ตั้งแต่อาการที่รุนแรงและชัดเจนถึงอาการที่เป็นน้อยแต่ต้องเฝ้าติดตามจนเด็กโตขึ้น เพื่อให้สามารถสังเกตและเข้าใจอาการได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ที่มีอาการออทิสติกอาจจะมีลักษณะเฉพาะตามส่วนต่าง ๆ ของอาการ เช่น การมีความสนใจเฉพาะในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือมีความรู้ลึกซึ้งและความสามารถพิเศษในด้านนั้น ๆ เช่น การวาดรูป การร้องเพลง หรือการคำนวณ เป็นต้น
ดังนั้น การเข้าใจและรับรู้อาการของผู้ที่มีออทิสติกจะต้องดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถช่วยเหลือและสนับสนุนได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ออทิสติกเป็นภาวะที่ทำให้คนมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของอาการ ดังนั้น ถ้าเรามีความตระหนักถึงกลุ่มเด็กที่มีอาการเหล่านี้ และให้โอกาสแก่พวกเขา ให้มีการรับรู้และการศึกษา จะช่วยส่งเสริมให้กลุ่มเด็กที่มีอาการออทิสติกสามารถเรียนรู้ ประกอบอาชีพ และใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนทั่วไป
จึงสรุปได้ว่า วันตระหนักรู้โรคออทิสติกโลก (World Autism Awareness Day) ในทุก ๆ ปี ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเพิ่มความตระหนักและเข้าใจเกี่ยวกับโรคออทิสติก รวมถึงส่งเสริมให้มีการรับรู้และการตอบรับกับกลุ่มเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีอาการออทิสติก โดยมีการจัดกิจกรรมและการแถลงข่าวต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโรคออทิสติกและการดูแลรักษาผู้ป่วยโดยเฉพาะ เพราะเป็นโอกาสในการสนับสนุนและช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วย และครอบครัวของพวกเขาได้
อ่านบทความเพิ่มเติมจาก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง