กาแฟลดน้ำหนัก ได้จริงหรือไม่ มีเคล็ดลับอะไรบ้างที่น่าสนใจ

กาแฟลดน้ำหนัก เป็นเมนูเครื่องดื่มที่หลายคนทานเป็นประจำทุกวัน ด้วยคุณประโยชน์ของคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟ ช่วยกระตุ้นการตื่นตัวของสมองและร่างกาย เพื่อให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ใครอยากดื่มกาแฟลดน้ำหนัก ก็ทำได้ หลายคนยังนำไปใช้ในการลดน้ำหนักและได้ผลอีกด้วย หลายคนไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีกาแฟสักแก้วในตอนเช้า การดื่มกาแฟทำให้เรามีพลังงานเหลือเฟือ แม้ว่าจะเป็นสิ่งเดียวที่เราบริโภคเข้าไปก็ตาม กาแฟเป็นที่รู้จักจากปริมาณคาเฟอีนซึ่งทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้น ระงับความอยากอาหาร รวมทั้งช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีและไขมัน นอกจากนี้คาเฟอีนยังมีคุณสมบัติในการทำให้เกิดความร้อน ซึ่งหมายความว่าสามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีในร่างกายได้

กาแฟดำคือกาแฟที่ไม่ใส่นม น้ำตาล หรือครีมเทียม มีรสขมและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีส่วนประกอบสำคัญ เช่น คาเฟอีน ช่วยกระตุ้นสมองและร่างกาย เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการทำงาน แต่คุณทราบหรือไม่ว่าคาเฟอีนในกาแฟลดน้ำหนัก สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลโดยเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก ซึ่งช่วยลดความอยากอาหาร ส่งผลให้น้ำหนักลดลง

สำหรับผู้ที่ไม่ชอบดื่มกาแฟดำเพราะมีรสขม เปลี่ยนไปใช้สารให้ความหวานได้ ใช้ซูคราโลส ซึ่งมีรสชาติเหมือนน้ำตาล และมีความหวานมากกว่าน้ำตาล 600 เท่า หรือเลือกใช้หญ้าหวานซึ่งมีรสช้ากว่าน้ำตาลเล็กน้อย แต่สามารถให้ความหวานได้มากกว่าถึง 300-450 เท่า ใช้ในปริมาณเล็กน้อยได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับใครที่ชอบรสชาติของกาแฟลดน้ำหนัก ไม่อยากใส่นม ลองเปลี่ยนมาใช้นมอัลมอนด์แทนนมวัวหรือครีมเทียมดูนะคะ นอกจากจะเพิ่มรสชาติให้กินนมอัลมอนด์ได้ง่ายขึ้นแล้ว นมอัลมอนด์เป็นนมที่มีแคลอรีต่ำ สำหรับคนอยากลดน้ำหนัก กาแฟแก้วนี้เหมาะมาก นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเครียด ปรับปรุงการทำงานของสมอง ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไม่ว่าคุณจะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

แม้ว่าคาเฟอีนในกาแฟดำจะมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก แต่การดื่มกาแฟดำในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ

แนะนำให้ดื่มกาแฟไม่เกิน 3-4 แก้วต่อวัน หรือปริมาณคาเฟอีนไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะจะส่งผลให้ความดันเลือดสูงขึ้น ทำให้ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

เวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟคือระหว่าง 09.30-11.30 น. โดยเฉพาะช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดในร่างกายยังไม่ทำงาน คาเฟอีนกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวแต่ไม่เครียด ทำให้ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม นี่คือเคล็ดลับบางประการ กาแฟสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ด้วยการเผาผลาญไขมันในช่วงเวลาที่คุณดื่ม ควรรับประทานหลังอาหารกลางวันประมาณ 30-60 นาที

สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักหรือต้องการเพิ่มอัตราการเผาผลาญการดื่มกาแฟลดน้ำหนัก สามารถช่วยได้ แต่ไม่ดื่มกาแฟใส่นมหวานใส่วิปครีม วันนี้มีเมนูกาแฟมาฝาก

1. เอสเปรสโซ่ช็อต เมนูกาแฟแรกกำลังดื่มกาแฟจากเครื่องเอสเปรสโซ โดยดื่มเป็นช็อตๆ ไม่ผสมน้ำ นม หรือน้ำตาล เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากกาแฟอย่างเต็มที่ ไม่มีน้ำตาล ไขมันต่ำ ดื่มได้ตามต้องการ
2. อเมริกาโนแบบไม่ใส่น้ำตาล ใครที่ต้องการลดความเข้มของกาแฟลงเล็กน้อยให้ลองเติมน้ำลงในช็อตเอสเปรสโซ แต่อย่าใส่น้ำตาลลงไป คุณจะได้เมนูกาแฟอเมริกาโน่ที่อร่อย ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายได้อีกด้วย
3. กาแฟดริป ใครชอบรสชาติกาแฟดริปชงแบบไม่ใส่น้ำตาลดื่มได้ทุกวัน เป็นเมนูกาแฟที่ดื่มได้ตลอด ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น มีรสชาติอร่อย และไม่เข้มข้นจนเกินไป
4. กาแฟผสมน้ำผลไม้ ปัจจุบันกาแฟผสมน้ำผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว แอปเปิ้ล มะพร้าว แม้ว่าจะมีน้ำตาลอยู่ก็ตาม แต่มีแคลอรีน้อยกว่าน้ำตาล นมบริสุทธิ์

นี่คือ 4 เมนูกาแฟที่ช่วยลดน้ำหนัก ไขมันต่ำ แคลอรีต่ำ เป็นตัวช่วยที่ดีให้เราได้ประโยชน์จากกาแฟ ยังช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย ดีกว่าใส่ครีม นม และน้ำตาลเต็มถัง

อ่านเพิ่มเติม : 

1. ดื่มกาแฟดำ

หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาล นม และสิ่งอื่นใดในกาแฟของคุณ แล้วคุณจะได้กาแฟดำที่ไม่มีแคลอรี คาเฟอีนและกรดคลอโรเจนิกในกาแฟดำช่วยเพิ่มการเผาผลาญ เร่งการลดน้ำหนัก หากเราใส่สารเพิ่มรสชาติให้กับกาแฟ จะเพิ่มแคลอรีที่ไม่จำเป็น ทำให้น้ำหนักลดลงช้าลง

2. หลีกเลี่ยงครีมเทียมและครีม

อย่างที่ทราบกันดีว่ากาแฟมีรสชาติดีขึ้นมากเมื่อเราใส่ครีมหรือครีมเทียมที่ไม่ใช่นม แต่การเพิ่มของอร่อยแบบนั้นยังเพิ่มไขมันและแคลอรีอีกด้วย เมื่อแคลอรีของกาแฟเพิ่มขึ้น มันก็ไม่ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้อีกต่อไป

3. ดื่มกาแฟคู่อาหารเช้า

กาแฟควรรวมอยู่ในอาหารเช้าตามการวิจัย คาเฟอีนในกาแฟสามารถกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร แต่ถ้าเราดื่มกาแฟโดยไม่ทานอาหาร กรดส่วนเกินสามารถทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารและเพิ่มระดับฮอร์โมนความเครียดได้

4. จำกัดการบริโภคไม่เกิน 2 – 3 ถ้วย

ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะอ่อน ๆ แต่นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้การดื่มกาแฟลดน้ำหนัก มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ดังนั้นควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนของคุณไว้ที่ 2-3 แก้วต่อวัน

5. ดื่มอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอน

การวิจัยกล่าวว่าปริมาณคาเฟอีนในกาแฟหนึ่งถ้วยสามารถทำให้คนตื่นได้นานถึง 6 ชั่วโมง สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามสุขอนามัยการนอนที่เหมาะสม การนอนหลับอย่างต่อเนื่อง 7 ชั่วโมงเป็นสิ่งสำคัญ คาเฟอีนทำให้เราตื่นตัวได้นานถึง 6 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เราหลับ ดังนั้นควรดื่มกาแฟแก้วสุดท้ายก่อน 16.00 น. หรือถ้าใครเข้านอน 20.00 น. ก็ควรดื่มกาแฟแก้วสุดท้ายประมาณเที่ยงวัน

สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและชงกาแฟกินเอง วันนี้เรามีสูตรกาแฟดี ๆ มาฝาก กับ 5 สูตรกาแฟ ซึ่งทั้งหมดนี้น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ ที่เราหยิบมาทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ใครไม่มีเครื่องชงกาแฟก็ใช้กาแฟสำเร็จรูปได้ แต่อย่าลืมเลือกเป็นกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล แคลอรีจะไม่เพิ่มขึ้น

1. กาแฟ + น้ำส้ม

สูตรกาแฟ สำหรับคนลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ กาแฟ + น้ำส้ม

ส่วนผสม

• กาแฟ 2 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว หรือกาแฟดำ 1 ช็อต
• น้ำส้มคั้น 100 ml.
• น้ำแข็ง 1 แก้ว

สำหรับสูตรนี้จะมีรสชาติของความเปรี้ยวอมหวานของน้ำส้มผสมกับรสกาแฟ เหมาะกับคนไม่ชอบดื่มกาแฟขม ๆ เพราะรสชาติของน้ำส้มจะช่วยลดความขม ในสูตรนี้จะมีความหวานในตัวส้มเท่านั้น ถ้ากลัวว่าน้ำตาลจะสูงแนะนำให้ใช้น้ำส้มคั้นสด ๆ ดีกว่า

2. กาแฟ + น้ำมะพร้าว

สูตรกาแฟ สำหรับคนลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ กาแฟ + น้ำมะพร้าว

ส่วนผสม

• กาแฟ 2 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว หรือกาแฟดำ 1 ช็อต
• น้ำมะพร้าวไม่ผสมน้ำตาล 100 ml.
• น้ำแข็ง 1 แก้ว

สูตรนี้ว่ากันว่าเป็นสูตรที่นักไดเอ็ตหลายคนชื่นชอบ เพราะกาแฟเข้ากันได้ดีกับน้ำมะพร้าวอย่างเหลือเชื่อ น้ำมะพร้าวมีความหวานอยู่ในตัวอยู่แล้ว เมื่อนำมาดื่มกับกาแฟจะช่วยลดความขมได้เป็นอย่างดี แต่ถึงหวานแค่ไหนแคลอรีก็ไม่สูงแน่นอน

3. กาแฟ + น้ำมะนาว + โซดา

สูตรกาแฟ สำหรับคนลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ กาแฟ + น้ำมะนาว + โซดา

ส่วนผสม

• กาแฟ 2 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว หรือกาแฟดำ 1 ช็อต
• น้ำมะนาว 1-2 ลูก
• โซดา 100 ml.
• น้ำแข็ง 1 แก้ว

สำหรับสูตรนี้เหมาะสำหรับคนชอบดื่มกาแฟที่ให้ความสดชื่นอย่างเหลือเชื่อ เพราะนอกจากจะใส่น้ำมะนาวที่เพิ่มความเปรี้ยวแล้ว ยังมีโซดาที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย ดื่มแล้วสดชื่นตลอดวัน

4. กาแฟ + น้ำมะนาว + น้ำผึ้ง

สูตรกาแฟ สำหรับคนลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ กาแฟ + น้ำมะนาว + น้ำผึ้ง

ส่วนผสม

• กาแฟ 2 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว หรือกาแฟดำ 1 ช็อต
• น้ำมะนาว 1-2 ลูก
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
• น้ำแข็ง 1 แก้ว

สูตรนี้เหมาะสำหรับคนชอบดื่มกาแฟรสชาติหวาน เพราะจะมีการใส่น้ำผึ้งลงไปเพิ่มความหวานด้วย ซึ่งสูตรนี้ ช่วยเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน ใครชอบกาแฟรสชาติกลมกล่อมต้องลองสูตรนี้

5. กาแฟ + นมอัลมอนด์

สูตรกาแฟ สำหรับคนลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ  กาแฟ + นมอัลมอนด์

ส่วนผสม

• กาแฟ 2 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว หรือกาแฟดำ 1 ช็อต
• นมอัลมอนด์ สูตรไม่หวานเลย 100 ml.
• น้ำแข็ง 1 แก้ว

สำหรับสูตรนี้เหมาะสำหรับคนชอบดื่มกาแฟนมอัลมอนด์ สูตรนี้จะเปลี่ยนจากการใช้นมอัลมอนด์ที่มีแคลอรีสูง เป็นกาแฟสูตรนมที่นอกจากจะมีแคลอรีต่ำแล้วยังมีไขมันดีอีกด้วย

อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม :