ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น วิธีแก้ ปัญหาจุดซ่อนเร้น การรับมือง่ายๆ

ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น วิธีแก้ การมีกลิ่นเหม็นจากช่องคลอดเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกข้าม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นอาการของภาวะแสดงอาการของโรคหรืออาการผิดปกติทางสุขภาพต่าง ๆ ดังนั้น การตรวจสอบและการรักษาต้องดำเนินการโดยเร็ว เกี่ยวกับปัญหาจุดซ่อนเร้น การรับมือง่าย ๆ คือการรักษาความสะอาดของบริเวณเรียวช่องคลอดโดยประจำ โดยการล้างหรือทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและเจลที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในช่องคลอด และทำให้กลิ่นเหม็นลดลง แต่ถ้าปัญหายังคงอยู่หลังจากที่ทำการล้างแล้ว คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

สาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อในช่วงการตั้งครรภ์ หรือการติดเชื้อระหว่างการคลอด นอกจากนี้ การไม่รักษาแผลหลังการคลอดอย่างเหมาะสมหรือไม่คำนึงถึงความสะอาดของบริเวณช่องคลอด ก็อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นช่องคลอดได้เช่นกัน ดังนั้น หากมีอาการกลิ่นผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาโรคและภาวะสุขภาพที่เกี่ยวกับช่องคลอดให้ดียิ่งขึ้น

การรักษาความสะอาดของช่องคลอดโดยสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการป้องกันกลิ่นผิดปกติ โดยแพทย์อาจแนะนำให้ทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดด้วยน้ำอุ่นและสบู่ทุกวัน รวมถึงการใช้ผ้าเปียกหรือผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดช่องคลอดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ หากมีอาการติดเชื้อหรืออาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอด แพทย์อาจสั่งให้ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อโรค หรือใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดในช่องคลอด อีกทั้งแพทย์ยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและรักษาช่องคลอดให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ โดยเน้นการรักษาความสะอาดด้วยวิธีล้าง ไม่ให้มีกลิ่น เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการผิดปกติใด ๆ ในช่องคลอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง

กลิ่นของจุดซ่อนเร้น ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ด้วยสภาวะสุขภาพหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างที่ทำให้สาว ๆ หลายคนมีปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณจุดซ่อนเร้นทำให้หมดความมั่นใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าปัญหากลิ่นจุดซ่อนเร้นจะแก้ไม่ได้ เพราะถ้าคุณสาว ๆ ทำตามวิธีที่หยิบมาแนะนำช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นกับวิธีแก้ที่จะทำให้กลิ่นปลาเค็มที่น้องสาวจะจางลงได้อย่างแน่นอน

• ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ต้องบอกก่อนว่ากลิ่นของจุดซ่อนเร้นนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการทำความสะอาดไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการเช็ดทำความสะอาดจากหลังมาหน้าซึ่งเป็นวิธีที่ผิด อีกทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น จนเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นควรเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง จะช่วยลดกลิ่นและการติดเชื้อได้
• ดูแลขนบริเวณจุดซ่อนเร้นให้มากขึ้น ขนบริเวณน้องสาวก็เหมือนดาบสองคมสำหรับผู้หญิง เพราะหากดูแลไม่ถูกวิธีจะทำให้เกิดกลิ่นปลาเค็มได้ง่าย แต่หากรักษาความสะอาดก็จะช่วยลดการเกิดกลิ่นที่ซ่อนอยู่ได้ ยังเป็นเกราะป้องกันเชื้อโรคจากภายนอก และช่วยรักษาสมดุลภายในช่องคลอด ดังนั้นคุณสาว ๆ ควรให้ความสำคัญกับขนบริเวณจุดซ่อนเร้น หรือหากคิดว่าดูแลได้ไม่ดี ก็ควรกำจัดออกเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความสะอาด
• เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น สาว ๆ หลายคนเมื่อน้องสาวมีกลิ่นก็ต้องหาวิธีรักษา สบู่ล้างจุดซ่อนเร้นที่วางขายตามท้องตลาด เป็นสิ่งที่สาว ๆ นิยมใช้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเชื่อว่าช่วยลดกลิ่นตัวและทำให้จุดซ่อนเร้นสะอาดขึ้น แต่หากใช้ไปนาน ๆ อาจส่งผลเสียได้เท่ากับการสวนล้างช่องคลอด ดังนั้นเพียงแค่ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำสะอาดเท่านั้นก็เพียงพอ

อ่านเพิ่มเติม : จิ๋มตด รักษาอย่างไร ?

ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น วิธีแก้ ง่ายมาก เพราะสาว ๆ หลายคนเมื่อน้องสาวตัวเองมีกลิ่นก็จะรู้สึกอายและเสียความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก เมื่อ “น้องสาวมีกลิ่นผิดปกติ” เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน เพียงแค่คุณรู้จักดูแลตัวเองเป็นพิเศษ อาหารก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ เพราะอาหารที่รับประทานมีทั้งกลิ่น รสชาติและส่วนผสมที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในด้านแบคทีเรีย น้ำตาล และบางครั้งเคมีในร่างกายบางชนิด สิ่งนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการขับกลิ่นอาหารบางอย่างของร่างกาย ซึ่งจะทำให้เกิดอาการตกขาว ทำให้มีความอับชื้นบริเวณจุดซ่อนเร้นมากกว่าปกติจนทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น จนต้องหาวิธีแก้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นที่บริเวณช่องคลอดขึ้นได้ แต่จะมีอาหารประเภทใดบ้างนั้นมาดูกัน

• การกินโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวสามารถช่วยลดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ เพราะเมื่อน้องสาวมีกลิ่น ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด การกินโยเกิร์ตหรือนมหมักที่มีแบคทีเรียดีสามารถช่วยปรับสมดุลนี้ได้ ผู้ที่รับประทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำลายแบคทีเรีย “แลคโตบาซิลัส” ที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ทำให้เกิดตกขาวที่มีกลิ่นได้เช่นกัน
• หากคุณกินกระเทียม หัวหอม เครื่องเทศบางชนิด หรือแกงบางประเภทมากเกินไป ซึ่งอาหารประเภทนี้จะมีกลิ่นที่ฉุน หากรับประทานมากเกินไป กลิ่นอาจกระจายไปตามรูขุมขน ไม่เว้นแม้แต่ในที่ซ่อนเร้นของคุณ
• กินอาหารหวานบ่อยก็ต้องระวัง สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทานอาหารหวานหรือชอบทานของหวานบ่อย ๆ อาหารหวาน ๆ ที่มีน้ำตาลสูงจะไปทำลายแบคทีเรียชนิดดีในระบบย่อยอาหารและทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และการทานอาหารหวานมากเกินไปก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราในจุดซ่อนเร้นได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานหรือน้ำตาลในเลือดสูงอยู่แล้วจะมีความเสี่ยงสูง
• อาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น เนื้อแดง หน่อไม้ฝรั่ง ผลิตภัณฑ์จากนม บรอกโคลี และแอลกอฮอล์ สามารถเปลี่ยนสมดุลของร่างกายและทำให้เสี่ยงที่จะเกิดเชื้อโรคที่จุดซ่อนเร้นได้ง่าย

ในการทำความสะอาดช่องคลอด ให้ทำตามคำแนะนำด้านล่าง ช่วยทำความสะอาดช่องคลอดได้ และสามารถช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

• ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้อง แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือกระดาษชำระเนื้อนุ่ม
• ควรล้าง 1-2 ครั้งต่อวัน เมื่อคุณอาบน้ำ หรือมากกว่านั้นหากคุณทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้เหงื่อออกหรือออกกำลังกาย
• เลือกใช้สบู่ฤทธิ์อ่อนหรือไม่ผสมน้ำหอม ความจริงแล้ว การล้างไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ แต่หากต้องการใช้สบู่ ควรเลือกเป็นสบู่ฤทธิ์อ่อนหรือไม่ผสมน้ำหอมเพราะสบู่ฤทธิ์แรงหรือสบู่ที่ผสมน้ำหอมอาจทำให้ระคายเคืองได้
• การไม่สวนล้างหรือการไม่ให้น้ำหรือสบู่เข้าไปในช่องคลอดอาจทำให้เสียสมดุลตามธรรมชาติของจุลินทรีย์ได้ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์มากกว่าเดิม โดยปกติ จะมีกลไกตามธรรมชาติในการทำความสะอาดตัวเองอยู่ตลอดเวลา ด้วยการผลิตเมือกซึ่งช่วยในการขับเลือด คราบอสุจิ หรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ ออกนอกร่างกาย

กลิ่นเหม็นช่องคลอดอาจป้องกันได้หากปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

• ควรทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นของเรา เพื่อไม่ให้ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ซึ่งจะต้องมาหาวิธีแก้ไข โดยปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นที่เราได้กล่าวไปแล้ว
• หากมีเพศสัมพันธ์ควรสวมถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
• หากมีการสอดใส่อวัยวะเพศชายทางทวารหนัก ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด
• แนะนำให้สวมกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพราะจะช่วยระบายอากาศได้ดีไม่ทำให้อับชื้น
• ในขณะที่มีประจำเดือน แนะนำให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 4 – 6 ชั่วโมง ไม่ควรใช้แผ่นอนามัยทุกวัน เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ง่ายขึ้น
• เพื่อเป็นการกระตุ้นการขับสารคัดหลั่งภายในช่องคลอดควรดื่มน้ำในปริมาณที่มาก เพราะสารคัดหลั่งภายในจะช่วยทำความสะอาดได้ และยังช่วยกำจัดสารตกค้างจากปัสสาวะที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นได้
• เมื่อปัสสาวะเรียบร้อยแล้วให้เช็ดก่อนทวารหนัก หากทำความสะอาดทวารหนักก่อนอาจทำให้แบคทีเรียจากทวารหนักแพร่กระจายไปยังช่องคลอดได้ง่าย ซึ่งจะนำไปสู่การติดเชื้อได้

อ่านเพิ่มเติม :

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์