Thermage HIFU และ Ulthera แตกต่างกันอย่างไร

Thermage (เทอร์มาจ), HIFU (ไฮฟู่) และ Ulthera (อัลเทอร่า) ต่างเป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งการยกกระชับผิวที่สามารถรักษาได้ถึงชั้นผิวลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากนี้ ทั้ง 3 นวัตกรรมยังสามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้า ทั้งในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวอิ่มฟู เต่งตึง และแลดูอ่อนเยาว์ สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะดูแลผิวหน้าด้วยเทคโนโลยีไหนดี หรืออะไรดีกว่ากัน รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ มีคำตอบค่ะ

เทคโนโลยีการแพทย์และความงามได้ก้าวกระโดดขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาไม่นานมานี้ และมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งภายใต้กระบวนการวิจัยและทดลองจากหลายประเทศทั่วโลก ได้มีนวัตกรรมที่น่าสนใจอย่าง HIFU, Ulthera และ Thermage ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหนังแบบไม่ต้องใช้มีดผ่าตัด หรืออุปกรณ์อื่นที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บ รวมถึงไม่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน

เทอร์มาจ (Thermage) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นวิทยุระดับสูง (RF : Radio Frequency) เพื่อลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับปรับรูปหน้าให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยคลื่นวิทยุที่มีความถี่สูงจะถูกส่งลงไปในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นที่ประกอบไปด้วยไขมันและคอลลาเจน โดยความร้อนที่เกิดจากคลื่นวิทยุจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทันที

ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นใยคอลลาเจน ลดการหย่อนคล้อยของเส้นใยคอลลาเจน และเพิ่มความขึ้นตัวของเกลียวที่ขึงไว้ โดยเป็นปัจจัยสำคัญในการยกกระชับผิวหน้า รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงและการแสดงอารมณ์ด้วย

การรักษาด้วยเทคโนโลยี Thermage เป็นการรักษาที่ไม่ต้องเจาะผิวหนังหรือทำการผ่าตัด เนื่องจากการใช้คลื่นวิทยุระดับสูงจะผลักดันการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทคโนโลยี Thermage ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในการใช้งานในวงการความงามและสุขภาพผิวหนังหลายประเทศทั่วโลก

Thermage (เทอร์มาจ) เหมาะสำหรับใคร

เทอร์มาจ (Thermage) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีรอยร่องแก้มลึก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว และผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน โดยสามารถใช้งานได้ทั้งใบหน้าและลำตัว นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้าตรงแก้มเยอะด้วย

ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วยเทอร์มาจ (Thermage)

ผลลัพธ์ของการรักษาด้วยเทอร์มาจ (Thermage) จะเห็นผลแทบทันที แต่ผลลัพธ์ที่เห็นเป็นเพียงประมาณ 20% เท่านั้น และผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นจะเห็นได้ในช่วงเดือนที่ 2-3 หลังการทำทรีตเมนต์ ซึ่งผิวหน้าจะดูยกขึ้นและเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ เนื่องจากการทำ Thermage นั้นช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการสลายไขมันชั้นใต้ผิว และผลลัพธ์จะมีอายุการอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี

Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับหน้าที่ใช้พลังงานคลื่นเสียง MFU-V (Microfocused Ultrasound with Visualization) เพื่อกระตุ้นให้เกิดรอยหดตัวขนาด 1 มม. ที่ใต้ผิวหนังชั้น SMAS แบบไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม โดยสามารถฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ลึกถึงชั้นผิว SMAS ที่ลึกลงไปถึง 4.5 มม. และช่วยยกกระชับหน้าได้ตามจุดที่ต้องการ โดยไม่เจ็บปวดเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรม

อัลเทอร่ามีระบบหน้าจอแสดงชั้นผิวแบบ Real-Time ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้โดยตรง แม่นยำและได้ผลการรักษาที่แน่นอนกว่า ผลลัพธ์จะทำให้ผิวเรียบเนียน ยกกระชับได้ดี เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับการดูแลผิวพรรณและการยกกระชับ

Ulthera (อัลเทอร่า) เหมาะสำหรับใคร

Ulthera หรือ Ultherapy เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับคนอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า กรอบหน้าชัด ปรับแก้มหรือเหนียงหย่อนคล้อยให้ยกขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม และไม่ต้องพักฟื้น

หากคุณมีผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ไม่เต่งตึง และมีริ้วรอยรอบดวงตา หนังตาตก คิ้วตก ดูแก่กว่าวัย รวมถึงมีริ้วรอยบริเวณลำคอ และเนินอก การใช้ Ulthera จะช่วยปรับสภาพผิว กระชับรูขุมขน และเพิ่มความตึงกระชับและความยืดหยุ่นให้ผิวหน้า เพื่อให้กรอบหน้ามีมิติและดูสวยงามขึ้น

นอกจากนี้ การใช้ Ulthera ยังเหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้าทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน และต้องการปรับรูปหน้าแนวโหนกแก้มให้สมมาตรกันอีกด้วย

ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย Ulthera (อัลเทอร่า)

โดยผลลัพธ์ของการรักษาจะเห็นได้แทบทันที แต่จะเป็นผลลัพธ์ประมาณ 20% ของผลลัพธ์จริง และจะสังเกตเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นในเดือนที่ 2-3 อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการทำอัลเทอร่าจะอยู่ได้นาน 1-2 ปี สิ่งที่ทำให้อัลเทอร่าเป็นเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมากที่สุดคือ แพทย์สามารถปรับจูนคลื่นเสียงให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเกิดบาดแผลขณะทำการรักษา

HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ความเข้มสูงเพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก โดยเฉพาะชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา แนวคิดนี้คล้ายคลึงกับเทคโนโลยีอัลเทอร่า (Ulthera) แต่ HIFU มีจุดเด่นเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าและเจ็บน้อยกว่า แต่ด้อยกว่าในเรื่องของระยะเวลาของผลลัพธ์และการรักษาที่ตรงจุดน้อยกว่า ดังนั้น HIFU เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับ ฟื้นฟูผิวหน้าโดยมีงบที่จำกัด

HIFU (ไฮฟู่) เหมาะสำหรับใคร

ไฮฟู่ (HIFU) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลักษณะใบหน้าและผิวหนังตามสภาพปัญหาต่าง ๆ ของผิว เช่น ริ้วรอยบนใบหน้าระดับปานกลาง ที่มักเกิดขึ้นหลังจากอายุ 25-35 ปี เป็นต้นไป รวมถึงยกกระชับหน้า ทำแนวคิ้วให้ยกขึ้น ลดเหนียงใต้คางหรือคางสองชั้น โดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ผลการใช้ HIFU อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวหนังและปัจจัยต่าง ๆ ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์เพื่อตรวจสอบว่า HIFU เหมาะสมกับคุณหรือไม่ รวมถึง Ulthera, HIFU และ Thermage 3 เทคโนโลยีนี้ ตัวไหนเหมาะสมกับคุณที่สุด

ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย HIFU (ไฮฟู่)

ผลลัพธ์ของการทำไฮฟู่จะเป็นไปตามลำดับของกระบวนการสร้างคอลลาเจนของผิว ซึ่งจะเห็นผลได้ทันทีหลังทำ และจะเริ่มมีการยกกระชับผิวขึ้นในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้จะยังคงอยู่ได้นานถึง 6 เดือน-1 ปี โดยหากมีการรับการทำไฮฟู่เป็นประจำจะช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้มากขึ้น และผลลัพธ์ที่เห็นได้จะชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย

โดยสรุปแล้ว เครื่องไหนดีกว่ากัน ระหว่าง Thermage, HIFU และ Ulthera หากแบ่งตามผลลัพธ์ HIFU กับ Ulthera จะเน้นในเรื่องของการยกกระชับ ปรับใบหน้าให้เรียวเข้ารูปได้ทรงสวย ส่วนการที่ริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าตื้นขึ้นและมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นผลพลอยได้ โดยอัลเทอร่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ส่วนเทอร์มาจ (Thermage) จะเน้นการลดเลือนริ้วรอยและการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวมากกว่าสองเทคโนโลยีข้างต้น รวมถึงลดไขมันชั้นใต้ผิวได้ดีอีกด้วย