การแก้ไขหน้าบวมและแก้มที่เยอะอาจจะใช้เทคนิคศัลยกรรมบางอย่าง อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าศัลยแพทย์เทคนิคศัลยกรรมเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยง ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงหรือปัญหาหลังการเข้ารับบริการได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมลดหน้าบวม แต่ก่อนที่จะไปศึกษาถึงเทคนิคเหล่านั้นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าหน้าบวมส่วนใหญ่เกิดจากอะไร ทำไมสาว ๆ ถึงต้องหาวิธีที่จะทำให้หน้าของตัวเองมีรูปหน้าที่เรียวสวยได้รูปกัน
ปัญหาหน้าบวม ที่สาว ๆ ส่วนใหญ่ไม่พอใจ มักเกิดจากอะไร ?
- การบริโภคอาหารที่มีปริมาณไขมันสูงอย่างต่อเนื่อง การกินไม่หยุดอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณใบหน้า ซึ่งจะทำให้หน้าดูบวมขึ้น เช่น อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวเช่น อาหารจานหลักที่ใช้น้ำมันในการทอด อาหารชนิดเส้นใหญ่ที่มีน้ำมันเยอะ หรือขนมปังที่มีไขมันสูง เป็นต้น
- เมื่อน้ำหนักของร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไขมันส่วนเกินอาจสะสมบริเวณใบหน้าด้วย ซึ่งสามารถทำให้หน้าดูบวมขึ้นได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างกล้ามเนื้อใบหน้า เนื่องจากการเพิ่มน้ำหนักอาจส่งผลให้หน้าบวมขึ้นด้วย
- หน้าบวมอาจเกิดจากการเป็นภูมิแพ้ต่อสารต่าง ๆ เช่น อาหาร สัตว์เลี้ยง ฝุ่นละออง หรือสารเคมีที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม ซึ่งการตอบสนองภูมิต้านทานที่ไม่เหมือนกันของร่างกายอาจทำให้เกิดการบวมใบหน้า
- การบริโภคอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงเป็นประจำอาจทำให้ร่างกายเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้หน้าดูบวมและทำให้เกิดการสะสมของน้ำใต้ผิวหนังใบหน้า
- การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอหรือการนอนไม่หลับเพียงพออาจทำให้ร่างกายเสียสมดุล และทำให้หน้าดูบวมขึ้น เนื่องจากส่งผลต่อกระบวนการหมุนเวียนน้ำเหลืองในร่างกาย
- การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งทำให้เกิดการสะสมน้ำใต้ผิวหนัง และทำให้หน้าดูบวมขึ้น
วิธีลดหน้าบวม สร้างหน้าเรียว เห็นผลจริง ทำได้ไม่ยาก
วิธีลดปัญหาหน้าบวมและหน้าอ้วนสามารถเริ่มต้นด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องซ้ำซาก นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยลดปัญหาดังกล่าว:
- หน้าบวมโซเดียม ควรลดบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง: การลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป อาหารจานเดียว และอาหารที่มีการเติมเครื่องปรุงอื่น ๆ จะช่วยลดการสะสมน้ำในร่างกาย และช่วยลดการบวมบนใบหน้า
- ดื่มน้ำมาก ๆ: การดื่มน้ำเป็นประจำทั้งวันช่วยล้างสารพิษและส่งเสริมกระบวนการขับถ่ายของร่างกาย นอกจากนี้ น้ำยังช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื่น และลดอาการบวมบนใบหน้าได้
- นวดหน้าในตอนเช้า: การนวดหน้าในตอนเช้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในใบหน้า ทำให้ผิวหน้าดูสดชื่นและลดอาการบวมได้
อย่างไรก็ตาม วิธีลดปัญหาหน้าบวมและหน้าอ้วนดังกล่าวต้องการความพยายามและความเสียสละในการดำเนินการให้ต่อเนื่อง ผลลัพธ์อาจจะไม่เห็นได้ทันที ดังนั้น หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีกว่า มีหลายวิธีหัตถการที่สามารถช่วยลดปัญหาหน้าบวมและหน้าอ้วนได้ ตัวอย่างเช่น:
- การนวด RF (Radio Frequency): เป็นเทคนิคการนวดหน้าที่ใช้คลื่นรังสีแบบความถี่สูง เพื่อกระตุ้นการผลักดันของผิวหนัง ช่วยยกกระชับผิวพร้อมกับลดไขมันบริเวณหน้าได้
- การยกกระชับผิวพร้อมสลายไขมัน: เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคการผสมผสานระหว่างการนวดหน้าและเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์หรือความถี่เสียง ในการยกกระชับผิวหน้าพร้อมกับลดไขมันบริเวณที่มีปัญหา
- การดูดไขมันเหนียง: เป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องดูดไขมันเพื่อลดปัญหาไขมันเหนียงบริเวณหน้า ทำให้หน้าดูบางเรียวขึ้น
เทคนิคลดหน้าบวมที่วงการศัลยกรรมนิยมใช้มีอะไรบ้าง ?
ในวงการแพทย์มีเทคนิคต่าง ๆ ที่นิยมใช้เพื่อลดหน้าบวม ซึ่งอาจมีดังนี้:
- Hifu เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย หน้าบวมข้างเดียว และลดเหนียง นอกจากนี้ยังช่วยในการสลายไขมันเหนียงและยกกระชับใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้หน้าดูเรียววีเชฟและกระชับมากขึ้น การรักษายังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ จึงทำให้ผิวของคุณยกกระชับขึ้นได้ ผลลัพธ์หลังการรักษาจะเห็นได้ทันทีประมาณ 20% โดยผลลัพธ์เต็มที่จะเห็นได้ในระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรักษาตามคำแนะนำของแพทย์และรับการติดตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างแน่นอน
- Thermage เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการยกกระชับและลดไขมันบริเวณแก้มหรือหน้าที่บวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยประสิทธิภาพที่มีความแม่นยำสูง หน้าของคุณจะมีความกระชับและผิวหนังดูแน่นขึ้น คุณจะสังเกตเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งระบบการทำงานของ Thermage FLX สามารถปรับแก้รูปหน้าให้เป็นรูปทรงที่มีความเรียวเฉียบและสวยงาม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเข็มหรือการผ่าตัด เนื่องจากวิธีการใช้งานที่ไม่เข้าถึงผิวหนังจึงไม่ต้องใช้กระบวนการศัลยกรรม เมื่อได้รับการรักษาด้วย Thermage FLX ผลลัพธ์จะเป็นการยกกระชับใบหน้าได้ทันทีถึง 20% และคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อผ่านเวลาประมาณ 2-3 เดือน
- ฉีดเมโสแฟต การใช้เมโสแฟตถือเป็น วิธีลดหน้าบวม อีกหนึ่งวิธีโดยแพทย์จะทำการฉีดสารเข้าไปยังจุดที่ต้องการ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันและลดการสร้างเซลล์ไขมันใหม่ด้วย เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณแก้ม ไขมันในบริเวณนั้นจะเริ่มลดลงประมาณ 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรก ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสามารถเห็นได้ในระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ ซึ่งบริเวณที่ฉีดจะเล็กลง ใบหน้าจะมีรูปร่างเรียวและวีเชฟมากขึ้น
ดูดไขมัน ช่วยลดหน้าบวมได้จริงหรือ ?
การดูดไขมันอาจช่วยลดหน้าบวมได้บ้าง แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามบุคคล การฉีดไขมันใต้ตาและการดูดไขมันบนหน้าเป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคทางการแพทย์หรือเครื่องมือพิเศษในการลดปริมาณไขมันในบริเวณที่มีหน้าพุพอง หรือผิวหน้าที่มีเซลลูไลต์เยอรมันสูง ประกอบไปด้วยการส่องกล้อง เพื่อทำให้เห็นชัดถึงพื้นผิวและไขมันใต้ผิว นอกจากนี้ การดูดไขมันบนหน้ายังสามารถผสมกับการขยายของรูขุมขนในหน้าเพื่อลดรอยแผลเป็นไปได้ ผลการดูดไขมันอาจช่วยลดหน้าบวม ตาบวมและเพิ่มความเรียบเนียนของผิวหน้า อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณไขมันที่จะถูกดูดออก ความระมัดระวังในกระบวนการดูดไขมัน และการดูแลรักษาหลังการดูดไขมันอย่างถูกต้อง หากคุณสนใจในกระบวนการดูดไขมันควรพบแพทย์เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมและประเมินสภาพและความเหมาะสมกับคุณ
ก่อนทำการลดหน้าบวม ด้วยการดูดไขมันต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
- สิ่งแรกที่คุณควรทำคือพบแพทย์ด้านความงามเพื่อให้คำแนะนำและประเมินความเหมาะสมของการดูดไขมันหน้าบวมสำหรับคุณ ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมันและผลลัพธ์ที่คุณคาดหวังได้และยังบอกได้ว่าคุณมีสุขภาพที่ดีพอที่จะทำการดูดไขมันได้โดยปลอดภัยหรือไม่
- กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าคุณต้องการลดไขมันในบริเวณใดบนใบหน้า อาจเป็นไขมันบริเวณแก้ม กราม หรือคาง เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูดไขมันให้ถูกต้องตามความต้องการของคุณ
- การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้หน้าบวมและเป็นสาเหตุที่ทำให้การดูดไขมันไม่ได้ผล ดังนั้นควรหยุดการสูบบุหรี่และเลิกดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยก่อนและหลังจากการดูดไขมัน
- เพื่อให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นและมีความสม่ำเสมอ คุณสามารถรักษาระดับคอลลาเจนในผิวหน้าได้โดยการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้สด ผัก และอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่มีน้อยไขมัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจนที่รับรองคุณภาพจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้
- ก่อนที่จะทำการดูดไขมันต้องปรึกษาแพทย์เพื่อให้รับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการดูดไขมันหน้าบวม
หลังการลดหน้าบวมด้วยการดูดไขมัน ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- แม้ว่าการดูดไขมันจะเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยมากขึ้นในปัจจุบัน แต่คุณควรพูดคุยกับแพทย์ก่อนการดำเนินการ เพื่อให้ได้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัว ขั้นตอนที่เหมาะสม และอาการหลังดูดไขมัน
- การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญในการลดหน้าบวมอย่างรวดเร็ว คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการเดินเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในพื้นผิวหน้า
- คุณควรรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ที่มีประโยชน์ เช่น ไก่ ปลา และอาหารที่รู้สึกว่าดีต่อสุขภาพโดยรวม เพื่อประโยชน์ในการฟื้นตัวหลังดูดไขมัน
- คุณควรดูแลรักษาความสะอาดของรูขุมขนหลังจากการดูดไขมัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและปัญหาอื่น ๆ เช่นการอักเสบ
- หลังการดูดไขมันในหน้า ผิวหน้าจะอ่อนแอและต้องการการปกป้องเพิ่มเติมจากแสงแดด คุณควรใช้สิ่งที่ปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด เช่น การสวมหมวกกันแสง หรือใช้ครีมกันแดดที่มีปัจจัยการปกป้องผิวหน้าอย่างเหมาะสม
- การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์สามารถส่งผลทำให้ผิวหน้าบวมและแห้งได้ ซึ่งอาจทำให้การดูดไขมันมีปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนได้
สรุป
หน้าบวม แก้มเยอะเป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอ เพราะสาเหตุหลักมาจากการสะสมไขมันในบริเวณนี้ ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพทั่วไปอาจช่วยลดหน้าบวมบ้าง แต่บางครั้งการต้องการผลที่รวดเร็ว การพึ่งศัลยกรรมทางการแพทย์อาจเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้หน้าเรียวอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณควรพูดคุยกับแพทย์ศัลยกรรมเพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจอย่างมั่นใจและปลอดภัยก่อนที่จะทำการศัลยกรรม
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย