รอยแตกลาย (Stretch Mark) มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในทุกคน ซึ่งแม้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ในบางคนอาจเป็นสิ่งที่สร้างความไม่มั่นใจได้ ทั้งการใส่เสื้อผ้า ไปเที่ยว ออกงาน หรือแม้แต่ในการใช้ชีวิตประจำวัน รอยแตกลายสามารถเกิดได้ง่ายในเด็กที่มีการเติบโตไว คุณแม่หลังคลอด และผู้ที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นต้น รอยแตกลายนั้นจะเกิดขึ้นที่ผิวหนังชั้นกลางและสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายที่บริเวณ หน้าอก หน้าท้อง ต้นขา น่องและสะโพก เป็นต้น ซึ่งเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มากนั่นเอง
ประเภทของรอยแตกลาย ทำความรู้จักกับรอยของตนเอง
สาเหตุของการเกิดรอยแตกลาย
ผิวแตกลาย มักเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว เด็กที่อยู่ในช่วงวัยกำลังโต คุณแม่หน้าท้องลายหลังคลอด คนที่มีผิวแห้ง ผู้ที่มีการใช้ยาหรือรับประทานยาในกลุ่มสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานานหรือใช้ในปริมาณไม่เหมาะสม และคนที่ผิวขาดวิตามินซีและวิตามินอี เป็นต้น นอกจากนี้กลุ่มผู้ที่เล่นกล้ามหรือออกกำลังกายอย่างหนักก็มีโอกาสเกิดผิวแตกลายได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการยืดหดของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
รอยแตกลายแดง
รอยแตกลายแดง (Striae Rubra) เป็นรอยผิวแตกลายที่เกิดขึ้นใหม่ที่มักเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเรายืดตัวเร็วเกินไป โดยรอยแตกลายเหล่านี้จะมีหลอดเลือดอยู่ภายใต้ผิวหนังซึ่งทำให้ผิวมีสีแดงหรือสีม่วงตามสภาพผิวของบุคคล ข้อดีของรอยแตกลายสีแดงคือยังสามารถรักษาได้ง่ายกว่ารอยแตกลายสีขาว
รอยแตกลายขาว
รอยแตกลายขาว (Striae Alba) เป็นรอยผิวแตกลายเก่าที่เกิดขึ้นนานแล้ว โดยเป็นรอยสีขาวที่มาจากการค่อย ๆ จางลงของหลอดเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นรอยเก่า การรักษาจึงมีความยากกว่ารอยแตกลายใหม่นั่นเอง
ซึ่งลักษณะของผิวแตกลายสามารถมองเห็นได้ 4 แบบ ดังนี้
- Striae distensae รอยแตกลาย มีลักษณะเป็นลายเส้นขนานจากการยืด
- Striae atrophicans มีลักษณะเป็นลายเส้นขนานโดยมีอาการผิวฝ่อ
- Striae rubra มีลักษณะเป็นลายเส้นขนานสีแดง
- Striae alba มีลักษณะเป็นลายเส้นขนานสีขาว
การป้องกันและการรักษารอยแตกลาย
รอยแตกลาย สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้อย่างไร
เนื่องจากรอยแตกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในกลุ่มคนที่มีการยืดหดของผิวหนังที่รวดเร็ว การป้องกันจึงไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100% อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดรอยแตกลายขึ้นแล้ว มีวิธีที่ช่วยให้รอยแตกลายดูจางลงหรือไม่เพิ่มเติม ดังนี้
- ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เพราะวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการเกิดรอยแตกลาย สามารถใช้ครีมบำรุงผิวเนื้อเต็ม หรือใช้น้ำมันบำรุงผิวเนื้อ
- การฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง หรือทำการออกกำลังกายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อในบริเวณที่มีรอยแตกลาย เช่น กายภาพบำบัด ยกน้ำหนักเล็กน้อย และเดินเร็ว เป็นต้น
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระชับและบำรุงผิวได้ดี
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะสารเคมีที่อยู่ในบุหรี่สามารถทำลายโครงสร้างผิวหนังได้ ทำให้ผิวหนังมีความไม่แข็งแรงพอที่จะต้านต่อการแตกลายของผิว
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดโดยไม่มีการป้องกันด้วยสารกันแดด
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เลี่ยงการรับประทานอาหารเยอะ ๆ รวมถึง การทำให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
การรักษารอยแตกลายด้วยเลเซอร์ หรือนวัตกรรมทางการแพทย์
เลเซอร์รักษารอยแตกลาย ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถเห็นผลได้ไว และประสิทธิภาพของการรักษาเองก็สามารถทำได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ ซึ่งเลเซอร์ที่เหมาะกับการรักษาผิวแตกลาย ได้แก่
1. รักษารอยแตกลายด้วย E-Matrix
E-Matrix สามารถรักษา รอยแตกลาย ได้ เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุส่งไปยังใต้ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ และทำให้เม็ดสีจางลง โดยไม่มีผลต่อสีผิวของเรา รวมถึงไม่เกิดรอยไหม้แบบเลเซอร์อีกด้วย
เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้ทำการรักษาติดต่อกันที่ 4-5 ครั้ง หรือจนกว่ารอยจะจางลงจนเป็นที่น่าพอใจ และควรทำห่างกันในระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำการรักษาเสมอเพื่อตรวจสอบว่าเป็นปัญหาที่เหมาะสมกับการรักษานี้หรือไม่
2. Pico Laser รักษารอยแตกลาย
Pico Laser สำหรับการรักษารอยแตกลายจะได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยให้เม็ดสีที่มีความผิดปกติใต้ชั้นผิวได้รับการแก้ไขฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว และละเอียดมากที่สุดหากเปรียบเทียบกับการรักษาประเภทอื่น ๆ โดยเลเซอร์จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในบริเวณผิวส่วนที่มีรอยแตกลาย รอยที่เห็นได้ชัดจะค่อย ๆ ลดเลือนจางลง
การรักษารอยแตกลายด้วย Pico เลเซอร์นั้นรักษาได้ทั้งผิวแตกลายแดงและขาว ทั้งใหม่และเก่า แต่ถ้ารอยแตกลายขาวแนะนำให้รักษาต่อเนื่องที่ 3 ครั้งขึ้นไป หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผิวที่เนียนสวยกว่าเดิม
3. Morpheus NEO
Morpheus NEO สามารถรักษารอยแตกลายด้วยการไปช่วยกระตุ้นการเกิดเกิดใหม่ของคอลลาเจนและอิลาสติน ส่งผลให้ผิวกลับมาเรียบเนียน มีสีผิวสม่ำเสมอ ได้ทั้งสีแดงและสีขาว ได้ทั่วร่างกาย เช่น ต้นแขน ท้องแขน หน้าอก หน้าท้อง และสะโพก ปัญหานี้มักพบมากขึ้นในบุคคลที่มีน้ำหนักมากหรือในผู้หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วสามารถทำให้ผิวหนังไม่ทนทานต่อการขยายตัว และมอร์เฟียส นีโอ
รอยแตกลาย สามารถรักษาได้ด้วยเลเซอร์ โดยการรักษาที่ดีคือการรักษาด้วย Pico Laser และ E-Matrix ซึ่งจะช่วยลดเลือนผิวที่มีรอยแตกลายให้ดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด หากสนใจบริการเลเซอร์ลบรอยแตกลาย สามารถสอบถามได้ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ หรือ ดูรีวิวเลเซอร์ก้นแตกลาย เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยค่ะ
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง