หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาตามเป้าหมายและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยควรใส่ใจในการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร เช่น การเคี้ยวให้ละเอียดและทานในปริมาณน้อย การพักผ่อนอย่างเหมาะสมและการติดตามอาการกับแพทย์ตามนัดหมายจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ขั้นตอนการฟื้นตัวในห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยจะถูกส่งไปยังห้องพักฟื้นเพื่อรับการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด การติดตามสัญญาณชีพ เช่น ชีพจร ความดันโลหิต และการหายใจ เป็นส่วนสำคัญที่พยาบาลจะตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อดูความพร้อมในการฟื้นตัว
- การใช้ออกซิเจนเสริม ในช่วงแรกหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยอาจได้รับออกซิเจนเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ โดยเฉพาะหากมีการดมยาสลบซึ่งอาจทำให้ระบบหายใจอ่อนแรงลงชั่วคราว
- การให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือด เนื่องจากผู้ป่วยยังไม่สามารถรับประทานอาหารตามปกติได้ จึงจำเป็นต้องได้รับน้ำเกลือและสารอาหารผ่านทางหลอดเลือดเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอในการฟื้นฟู
- การดูแลแผลผ่าตัด ทีมพยาบาลจะตรวจสอบแผลเพื่อดูว่ามีการอักเสบ เลือดออก หรือภาวะแทรกซ้อนใด ๆ หรือไม่ นอกจากนี้ แพทย์จะสั่งจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บแผลและทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น
- การบรรเทาอาการคลื่นไส้ บางครั้งผู้ป่วยอาจรู้สึกคลื่นไส้จากยาสลบ แพทย์จะให้ยาบรรเทาอาการนี้ และแนะนำให้นั่งตัวตรงหรือลุกขึ้นเดินเบา ๆ เพื่อช่วยลดความรู้สึกคลื่นไส้
- การกระตุ้นให้ขยับตัวเล็กน้อย ทีมแพทย์จะกระตุ้นให้ผู้ป่วยขยับตัวบ่อย ๆ แม้ในช่วงแรก ๆ เช่น ยกขาหรือแขนในเตียง หรือการลุกขึ้นนั่ง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
การฟื้นตัวในห้องพักฟื้นจะเป็นการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จและการฟื้นฟูเป็นไปได้อย่างราบรื่น
การปฏิบัติตัวเพื่อการฟื้นตัวที่ปลอดภัย
หลัง ผ่าตัดกระเพาะอาหาร การปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงและสนับสนุนการฟื้นตัวให้รวดเร็วและปลอดภัย โดยทั่วไปผู้ป่วยควรปฏิบัติดังนี้
- ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น รับประทานยาตามกำหนด และตรวจติดตามตามนัด
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักในช่วงแรก
- ควบคุมอาหารและดื่มน้ำอย่างเหมาะสม เริ่มจากอาหารเหลว และค่อย ๆ เพิ่มชนิดอาหาร
- ขยับตัวเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ หรือยกขาในเตียงเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
อาการที่พบได้หลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยอาจพบอาการทั่วไปที่เกิดจากการปรับตัวของร่างกาย ดังนี้
- อาการคลื่นไส้ เกิดจากผลข้างเคียงของยาสลบและการปรับตัวของกระเพาะอาหาร แพทย์อาจให้ยาบรรเทาและแนะนำให้จิบน้ำบ่อย ๆ
- การปรับตัวของระบบย่อยอาหาร ผู้ป่วยอาจรู้สึกแน่นท้องหรือไม่สบายท้อง เนื่องจากกระเพาะมีขนาดเล็กลง การทานอาหารควรค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ
- การพักฟื้นและอาการอ่อนเพลีย การรับพลังงานและสารอาหารน้อยลงอาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ซึ่งจะดีขึ้นเมื่อระบบย่อยอาหารปรับตัว
การควบคุมอาหารหลังการผ่าตัด
หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร การควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ระบบย่อยอาหารปรับตัวได้ดี ผู้ป่วยควรเริ่มจาก อาหารเหลว เช่น น้ำซุปใส น้ำผลไม้ และโปรตีนเชค จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มปริมาณและชนิดอาหารไปสู่ อาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือซุปเนื้ออ่อน ๆ อาหารที่ทานควรเป็น มื้อเล็ก ๆ หลายมื้อ ตลอดวัน เน้นโปรตีนเป็นหลัก หลีกเลี่ยงของหวานและอาหารไขมันสูง ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด และหยุดทานเมื่อรู้สึกอิ่ม
เทคนิคการเคี้ยวและการทานอาหารหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยควรใส่ใจในการเคี้ยวและการทานอาหารอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและลดความเสี่ยงต่ออาการไม่สบายท้อง ดังนี้
- เคี้ยวช้า ๆ และละเอียด เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากขึ้น (อย่างน้อย 20-30 ครั้งต่อคำ) เพื่อลดภาระการย่อยอาหารของกระเพาะ
- ทานอาหารในปริมาณเล็ก ๆ หลีกเลี่ยงการทานมื้อใหญ่ และแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ ตลอดวัน
- เลือกอาหารที่ย่อยง่ายและมีโปรตีนสูง เช่น โยเกิร์ต เนื้อปลานุ่ม ๆ และซุปผัก ลดการทานอาหารไขมันสูงและน้ำตาล
- จิบน้ำระหว่างวัน แต่ไม่ดื่มขณะทานอาหาร เพื่อไม่ให้กระเพาะอาหารตึง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนหรือหลังมื้ออาหารประมาณ 30 นาที
ความสำคัญของการรับประทานโปรตีน
โปรตีนมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากปริมาณอาหารที่ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้ลดลง จึงจำเป็นต้องเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น การรับโปรตีนที่เพียงพอยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ลดการสลายของเนื้อเยื่อ และสนับสนุนการฟื้นตัวที่เร็วขึ้น
การรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน
หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ร่างกายมักได้รับสารอาหารลดลงเนื่องจากกระเพาะมีขนาดเล็กลงและการย่อยอาหารเปลี่ยนไป ผู้ป่วยจึงควรเสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น วิตามินบี 12, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม และวิตามินดี เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารและเสริมสร้างพลังงานสำหรับการฟื้นตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อตรวจระดับวิตามินในร่างกายและเลือกอาหารเสริมที่เหมาะสม
การดูแลแผลผ่าตัด
หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร การดูแลแผลผ่าตัดอย่างถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและเร่งการฟื้นตัว ผู้ป่วยควรรักษาความสะอาดแผลด้วยการทำความสะอาดตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือถูแผลมากเกินไป และงดการออกกำลังกายหนักในช่วงแรกเพื่อไม่ให้แผลอักเสบ หากแผลมีอาการบวมแดง เจ็บ หรือมีน้ำเหลือง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การตรวจสุขภาพตามนัดและการติดตามผลการรักษา
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การมาตรวจสุขภาพตามนัดหมายมีความสำคัญมากเพื่อให้แพทย์ติดตามผลการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แพทย์จะประเมินการทำงานของระบบย่อยอาหาร ระดับสารอาหาร การลดน้ำหนัก และการฟื้นตัวของแผลผ่าตัดอย่างละเอียด การตรวจนี้ช่วยให้แพทย์สามารถปรับแผนการรักษาได้หากพบปัญหา เช่น ภาวะขาดสารอาหาร หรืออาการแทรกซ้อน การมาตามนัดสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แนวทางการปฏิบัติเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน
การลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างราบรื่น แนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้แก่
- ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ รักษาความสะอาดของแผลผ่าตัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยไม่จำเป็น และทำตามคำแนะนำการทำแผลอย่างเคร่งครัด
- การฟื้นฟูสุขภาพหลังผ่าตัด รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เพิ่มโปรตีนและวิตามิน และมาตรวจสุขภาพตามนัดหมายเพื่อตรวจสอบสัญญาณผิดปกติ
การออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การออกกำลังกายเบา ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ผู้ป่วยควรเริ่มจากการเคลื่อนไหวเบา ๆ เช่น การเดินในช่วงแรก เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มระดับการออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การยืดกล้ามเนื้อหรือการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเบา ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและรักษาระดับน้ำหนักให้คงที่
โภชนาการและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินระยะยาว
หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร การปรับพฤติกรรมการกินระยะยาวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาน้ำหนักและเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ผู้ป่วยควรเน้นทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ผัก และผลไม้ที่ให้วิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ลดการทานน้ำตาล ไขมันสูง และอาหารที่ย่อยยาก การทานมื้อเล็ก ๆ หลายครั้งต่อวันและการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
โภชนาการหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยจำเป็นต้องปรับแผนโภชนาการเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและคงสภาพสุขภาพในระยะยาว โดยมักเริ่มด้วยอาหารเหลว เช่น น้ำซุปใส น้ำผลไม้ที่ไม่หวาน จากนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือซุปผักเบา ๆ นอกจากนี้ เน้นอาหารโปรตีนสูง เช่น ปลา ไข่ และเนื้อไม่ติดมัน ลดน้ำตาลและไขมัน รวมถึงแบ่งทานมื้อเล็ก ๆ หลายมื้อต่อวันเพื่อสนับสนุนการย่อยและดูดซึม
ทีมแพทย์ลดขนาดกระเพาะ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
นพ. ปณต ยิ้มเจริญ
ศัลยแพทย์
น.ท.นพ. เสรษฐสิริ
พันธุ์ธนากุล
ศัลยแพทย์
ร.อ.นพ. ดุษฎี สุรกิจบวร
ศัลยแพทย์
นพ. กฤติน อู่สิริมณีชัย
อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม
พญ. ณัฐกานต์ หุ่นธานี
วิสัญญีแพทย์
พญ. สุชาดา
ประพฤติธรรม
วิสัญญีแพทย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดกระเพาะควรเริ่มทานอาหารอย่างไร?
- เริ่มจากอาหารเหลว เช่น น้ำซุป น้ำเต้าหู้ จากนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอาหารอ่อนตามแพทย์แนะนำ
- สามารถออกกำลังกายได้เมื่อไร?
- แนะนำให้เริ่มจากการเดินเบา ๆ หลังแผลหายดีแล้วจึงค่อยเพิ่มกิจกรรมตามคำแนะนำแพทย์
- ต้องทานวิตามินเสริมหรือไม่?
- การเสริมวิตามิน เช่น วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และแคลเซียม อาจจำเป็น ควรปรึกษาแพทย์
- น้ำหนักจะลดลงเร็วแค่ไหน?
- น้ำหนักลดลงในช่วงแรกอย่างรวดเร็ว และจะช้าลงเมื่อร่างกายปรับตัว
- ต้องพบแพทย์บ่อยแค่ไหนหลังผ่าตัด?
- ควรตรวจตามนัดเพื่อประเมินความคืบหน้าและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะอาหารช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและเร่งการฟื้นตัว ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารโปรตีนสูงในปริมาณเล็ก ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ควรออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และติดตามอาการกับแพทย์ตามนัด เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง