หลายคนอาจเคยพบกับอาการปวดหัวข้างขวาอยู่บ่อย ๆ และบางครั้งอาจสงสัยว่าทำไมจึงมีอาการนี้ สาเหตุอะไรบ้าง และอันตรายหรือไม่ อีกทั้งยังสงสัยว่าทำไมต้องเจอกับอาการปวดข้างขวา การปวดหัวมีหลากหลายประการที่เกิดขึ้นในตำแหน่งต่าง ๆ และมีสาเหตุที่แตกต่างกัน แต่อาการปวดหัวข้างขวาจี๊ดๆ นั้นมักจะเป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยที่สุด ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับต้นตอของอาการปวดหัวข้างขวา ปวดหัวข้างซ้าย พร้อมแนะนำวิธีการรับมือและปวดแบบไหนถึงต้องรีบพบแพทย์
สาเหตุของอาการปวดหัวข้างขวา
อาการปวดหัวข้างขวาอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประการดังนี้
- พฤติกรรมและวิถีชีวิตประจำวันมีผลต่อสุขภาพทั่วไปของเรา การอดอาหาร ความเครียด ความอ่อนเพลีย และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เป็นปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวข้างขวาได้
- การเจ็บป่วยต่าง ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง เช่น โรคภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบจากการติดเชื้อ ภาวะถอนคาเฟอีน ปัญหากล้ามเนื้อบริเวณคอ ภาวะบาดเจ็บ ภาวะเส้นโลหิตแดงโป่งพอง เนื้องอกทั้งชนิดธรรมดาและเนื้อร้ายที่เป็นเซลล์มะเร็ง รวมถึงอาการทางประสาท เช่น ปวดเส้นประสาทท้ายทอย โรคหลอดเลือดบริเวณขมับอักเสบ และโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า เป็นต้น
- การใช้ยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวด้านขวา เช่น ผลข้างเคียงจากการใช้ยาหรือการใช้ยาในปริมาณมากเกินไป หรือการใช้ยาแก้ปวดที่หาซื้อได้เองเป็นระยะเวลานาน เป็นต้น
ประเภทของอาการปวดหัวข้างขวา
อาการปวดหัวมีหลายประเภทที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหัวข้างขวาได้ โดยลักษณะของอาการจะแตกต่างกันตามประเภทของการปวดหัวนั้น ต่อไปนี้คือลักษณะของการปวดหัวข้างขวาแต่ละประเภท
ปวดหัวจากความเครียดหรือกล้ามเนื้อเกร็ง
ปวดหัวที่มีสาเหตุจากความเครียดหรือกล้ามเนื้อที่เกร็งตัว เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหัวทั้งสองข้างหรือข้างเดียว มักปวดหัวตื้อ ๆ หรือคล้ายโดนบีบรัดบริเวณศีรษะ อาจกระทบต่อไหล่และคอด้วย นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ เช่น รู้สึกเหนื่อย หงุดหงิด ขาดสมาธิ ไวต่อแสงหรือเสียง และปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ปวดหัวไมเกรน
ไมเกรนเป็นอาการปวดหัวที่ตุบ ๆ ด้านเดียวหรือทั้งสองด้าน ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มองเห็นภาพไม่ชัด ไข้ รู้สึกร้อนหรือหนาวอย่างมาก หรือมีอาการของภาวะพาเรสทีเชียได้
ปวดหัวแบบคลัสเตอร์
ปวดหัวแบบคลัสเตอร์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มักเกิดในระยะเวลาที่ต่อเนื่อง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวด้านเดียวหรือบริเวณรอบดวงตา คอ ใบหน้า และไหล่ มักเกิดในระยะเวลาประมาณ 4-12 สัปดาห์ และอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น รู้สึกไม่สบายตัว ปวดแสบปวดร้อน ตาบวม รูม่านตาหดตัว ตาแดงหรือน้ำตาไหล คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล หน้าแดงและอุ่น เหงื่อออก และไวต่อแสง
ปวดหัวเรื้อรัง
ปวดหัวที่เกิดเป็นเวลามากกว่า 15 วันภายในระยะเวลา 1 เดือน อาจเกิดจากความเครียดหรือเป็นปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุและรับการรักษา
หากมีอาการปวดหัวด้านขวาในลักษณะใด ๆ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและรักษาตามคำแนะนำของแพทย์
7 วิธีแก้อาการปวดหัวข้างขวาด้วยตนเอง
การปวดหัวข้างขวาเป็นอาการที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน และมีวิธีแก้การปวดหัวข้างขวาที่สามารถช่วยลดอาการและเพิ่มความผ่อนคลายในร่างกายได้ ดังนี้
- ประคบอุ่นที่หลังคอ : การประคบอุ่นที่หลังคอช่วยลดอาการปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาความเครียดที่ส่งผลต่อการเกิดปวดหัว
- อาบน้ำอุ่น : การอาบน้ำอุ่นช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและสบายตัว นอกจากนี้ยังช่วยในการลดความตึงเครียดที่อาจส่งผลต่อการเกิดปวดหัว
- ปรับเปลี่ยนท่าทาง : การปรับเปลี่ยนท่าทางช่วยลดความตึงเครียดที่มีกับศีรษะ คอ และไหล่ เช่นการทำการยืดเหยียดเบา ๆ
- การพักงีบ : พักงีบเป็นการทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และช่วยบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดจากความเหนื่อยล้า
- ปล่อยผม : ไม่รวบตึงผมเป็นหางม้าหรือถักเปีย ทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น การปล่อยผมยังช่วยลดความดันที่มีต่อหน้าผาก
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ปวดหัว : หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบที่อาจทำให้เกิดการปวดหัว เช่น แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และผงชูรส
- บำบัดด้วยกลิ่นหอม (AROMATHERAPY) : ใช้มันหอมระเหยเช่น มันยูคาลิปตัส ลาเวนเดอร์ หรือสะระแหน่ เพื่อบรรเทาอาการปวดหัวจากความตึงเครียด ผ่านการให้กลิ่นหอมที่สงบเยือกเย็น
การปฏิบัติตามวิธีนี้อาจช่วยลดอาการปวดหัวและเพิ่มความผ่อนคลายในชีวิตประจำวันของคุณได้
ปวดหัวข้างขวาแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
อาการปวดหัวมีหลายประการ บางครั้งอาจหายเองได้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แต่ถ้าคุณกำลังเผชิญกับปวดหัวรุนแรงที่ไม่เคยมีมาก่อนหรือปวดมากขึ้นแม้กระทั่งหลังจากที่ได้ทานยาแก้ปวดแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อการประเมินและการรักษาที่เหมาะสมดังนี้
- การมีอาการเปลี่ยนแปลงในการมองเห็น เช่น เห็นภาพเบลอหรือภาพซ้อน อาจเป็นสัญญาณที่ต้องให้ความสนใจและพบแพทย์ทันที
- อาจมีอาการทางระบบประสาทอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ความสับสน ไข้ บาดเจ็บที่ศีรษะ หรือคอแข็ง (STIFF NECK) ที่กล้ามเนื้อลำคอด้านหลังแข็งเกร็ง
- อาจมีอาการที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายทั้งร่างกาย เช่น เคลื่อนไหวแล้วปวดหัวยิ่งขึ้น ผื่น หรือปวดหัวจนไม่สามารถนอนหลับได้
- ถ้ามีอาการพูดไม่ชัดหรือรู้สึกอ่อนแรง (WEAKNESS) ควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม อย่าละเลยอาการที่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องดูแลให้เร็วที่สุด
สรุป
อาการปวดหัวข้างขวาเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง หากคุณพบว่ามีอาการนี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการเพิ่มเติมเช่น ตาพร่ามัว น้ำหนักลด หรือขาดสติ ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยทันที เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การละเลยอาการนี้อาจทำให้ปวดหัวข้างเดียว หรือปวดหัวข้างขวากลายเป็นอาการที่รุนแรงมากขึ้น และอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นสังเกตอาการของตัวเองเมื่อมีอาการปวดหัวข้างขวาอย่างรุนแรงควรพบแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดที่สุด
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย