ลดแก้ม ลดเหนียง ตัวช่วยที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด ได้ผลจริง 

การลดแก้ม ลดเหนียง เป็นกระบวนการที่จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สำหรับบางคนอาจใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นในการลดแก้มและเหนียง ควรมีความอดทนและความสม่ำเสมอในการดำเนินการเพื่อให้ได้ผลที่ต้องการ นอกจากนี้ การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามอาจช่วยให้คุณได้คำแนะนำและการดูแลเพิ่มเติมที่เหมาะสมได้ง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณค้นพบหรือมีวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

โดยทั่วไปแล้ว การลดแก้ม ใน 1อาทิตย์ จำเป็นต้องพึ่งพาการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มการดื่มน้ำเพียงพอ และควบคุมน้ำหนักตัวอย่างสม่ำเสมอ การใช้เทคนิคแต่งหน้าและทรงผมที่เหมาะสมสามารถช่วยเบลอลักษณะแก้มและเหนียงให้ดูเล็กลงได้

หน้ากลมและแก้มเยอะ เกิดจากอะไร ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ ดังนี้

• พันธุกรรม มีความเป็นไปได้ว่าลักษณะนี้มาจากพันธุกรรมที่สืบต่อกันมา
• น้ำหนัก การสะสมไขมันในบริเวณหน้ากลมและแก้มเยอะส่วนมากเกิดจากน้ำหนักที่เกินความจำเป็น การกินอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง และการไม่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ
• อายุ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผิวหนัง ลำตัวและโครงสร้างอื่น ๆ ของร่างกายจะเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้ากลมและแก้มเยอะขึ้น
• การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จะทำให้หน้ากลมและแก้มเยอะขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่สูบบุหรี่มานาน
• การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์อย่างเกินจะทำให้มีการสะสมไขมันในบริเวณหน้ากลมและแก้มเยอะขึ้น

การลดแก้ม ลดเหนียงทำได้โดยการปรับพฤติกรรมการกินอาหาร ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ รวมถึงการใช้เทคนิคแต่งหน้าเพื่อลดการเน้นแก้มและหน้ากลม

การลดแก้ม ลดเหนียงโดยวิธีธรรมชาติอาจช่วยลดลงได้ โดยไม่ต้องพึ่งผลิตภัณฑ์เสริมความงามหรือการผ่าตัด เช่น

• การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ช่วยลดโครงของแก้มและเหนียงได้
• การเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ช่วยลดไขมันที่สะสมอยู่บริเวณแก้มและเหนียง เป็นวิธีลดแก้ม เหนียง ผู้ชาย และผู้หญิง
• ควรเลือกอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำและมีปริมาณผักและผลไม้เพียงพอ ลดการบริโภคอาหารแปลกปลอม และเครื่องดื่มที่มีความหวานสูง
• ควรดื่มน้ำเพียงพอต่อวันเพื่อช่วยเผาผลาญไขมันและขับสารพิษออกจากร่างกาย
• การนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยเพิ่มการผลักดันระบบภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับวิธีการลดแก้มและเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่สามารถสร้างผลในระยะเวลาสั้น ๆ ได้เหมือนการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แต่การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

วิธีการลดแก้ม ลดเหนียง คลินิก ที่ได้ผลดีแบ่งเป็น 2 วิธี คือ การลดเหนียงใต้คางด้วยวิธีทางการแพทย์ ได้แก่

1. เมโสแฟต (Meso fat) ที่ใช้วิธีการฉีดตัวยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปบริเวณใต้คาง เมโสแฟตมีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันได้อย่างตรงจุด ช่วยเร่งการเผาผลาญ และช่วยให้ร่างกายดูดซึมไขมันเข้ามาใช้เป็นพลังงาน ช่วยลดการสะสมไขมันและเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย และช่วยลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมน้อยถึงปานกลาง หลังฉีดจะเห็นผลไขมันสลายตัวได้ประมาณ 20-30% และเห็นผลชัดเจนมากขึ้นใน 1-3 สัปดาห์ ไขมันใต้คางจะเริ่มลดลง ผิวกระชับ และรูปหน้าเรียวสวยขึ้น

2. การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ซึ่งจะช่วยยกกระชับกรอบหน้าและลดเหนียง แต่ไม่ใช่การสลายไขมัน เทคนิค Nefertiti Lift จะใช้การฉีดตัวยาเข้าไปที่กล้ามเนื้อ Platysma ช่วงบริเวณลำคอและใบหน้าส่วนล่าง หรือใต้คาง เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อทำงานลดลง ส่งผลให้เหนียงลดลงและกรอบหน้าเรียวเรียบขึ้น

ผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกซ์จะเห็นได้ในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ และผลชัดเจนใน 1 เดือน แต่อาจจะนานขึ้นได้ตามสภาพของกล้ามเนื้อและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล การฉีดโบท็อกซ์เหนียงเหมาะกับผู้ที่มีเหนียงจากผิวหย่อนคล้อย และไม่ใช่เหนียงที่เกิดจากการสะสมของไขมัน นอกจากนี้ สามารถทำร่วมกับการฉีดเมโสแฟตเพื่อได้ผลลัพธ์ใบหน้าเรียวสวยที่มีประสิทธิภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้ด้วย

3. การร้อยไหม (Thread lift) เป็นวิธีการลดเหนียงกรอบหน้าและช่วยยกกระชับผิวหนังในบริเวณที่มีเหนียง โดยการใช้ไหมละลายร้อยที่ถูกซ่อนอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยการร้อยไหมจะเน้นไปที่การยกกระชับผิวหนังและไม่ได้เข้าไปช่วยสลายไขมันโดยตรง แต่เมื่อไหมถูกลายเข้าไปในชั้นไขมัน จะช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยลง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ การใช้ไหมยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นได้ ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับมากขึ้น

การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงใต้คางที่มีปริมาณไม่มาก แต่หากมีเนื้อเหนียงเยอะหรือผิวหนังค่อนข้างแน่น อาจไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากการใช้ไหมจะดึงผิวหนังไปยังจุดหนึ่งทำให้เนื้อหน้าถูกดึงไปหน้าบน ทำให้ใบหน้าดูอูม หรือหน้าใหญ่ขึ้นได้ การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแก้รูปหน้าและเก็บกรอบหน้ามากกว่าการลดไขมันใต้คาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใบหน้า

การบริหารง่าย ๆ ที่ช่วยลดแก้ม ลดเหนียงได้ดังนี้

• การยกกระชับหน้าผาก ใช้มือประคองหน้าผาก และยกขึ้นไปด้านบนเพื่อสร้างแรงกดบนแก้มและเหนียง
• การดูดแก้ม ล็อคปาก แล้วดูดแก้มเข้าไปภายในปาก ประมาณ 5 วินาที แล้วปล่อยออกมา ทำซ้ำ 10 ครั้ง
• การทำหน้าท้องลงพื้น นอนคว่ำบนพื้น แล้วยกหัวขึ้น ใช้มือเหยียดขึ้นมาเพื่อยกแก้มและเหนียง
• การทำวงแขนและไหล่ ยกวงแขนขึ้นเหนียงสูงสุด แล้วค่อย ๆ ลดลง ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ 10-15 ครั้ง
• การกลืนน้ำล่องหน นั่งตัวตรง ใช้ลิ้นปิดปากและกลืนน้ำล่องหน ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณน้ำล่องหนไปเรื่อย ๆ
• การชิดหมอนหรือลูกบอล วางหมอนหรือลูกบอลที่บริเวณแก้มและเหนียง แล้วใช้แรงกดบริเวณนั้นเพื่อลดแก้มและเหนียง
• การทำหน้ายืนขึ้นลง ยืนตัวตรง ลุกขึ้นตั้งแต่นิ้วเท้าไปจนถึงส้นเท้า แล้วกลับไปยืนตัวตรง ทำซ้ำเป็นชุด 10-15 ครั้ง
• การทำท่าบริหารง่าย ๆ เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบหมุนเวียน ช่ว

นั้นจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบหมุนเวียน ช่วยให้สามารถลดแก้มและเหนียงได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามเรายังมีวิธีกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้ที่ดีอีกด้วย หากมีปัญหาหรือไม่มีผลเป็นอย่างที่คาดหวัง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวพรรณและระบบหมุนเวียน อีกทั้งยังควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาหารและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอก

การนอนหน้าหรือในท่าที่หัวต่ำกว่าร่างกายอาจส่งผลกระทบต่อการเกิดเหนียง หน้าบวม และการคลายตัวอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากการนอนในท่านี้จะทำให้น้ำหนักของหน้าหรือส่วนบนของร่างกายเอียงลงมากกว่าส่วนล่าง ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลไปสะสมบริเวณหน้าหรือตำแหน่งที่ต่ำกว่า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการบวม และเหนียงได้ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนวิธีการนอนเป็นท่าที่สั่งสมมากขึ้น การนอนในท่าที่ถูกต้องและมีความสบาย สามารถช่วยลดการเกิดเหนียงและหน้าบวมได้ เนื่องจากการนอนในท่าไม่ถูกต้องอาจทำให้เหนียงหรือหน้าบวมได้ เช่น การนอนคว่ำหน้าหรือนอนตะแคงหลัง เป็นต้น

ดังนั้นการปรับวิธีการนอนให้ถูกต้องและมีความสบาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดแก้ม ลดเหนียงได้หลังเพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับร่างกาย หลังลดอาจจะทำให้คุณหน้าอกเล็กลงได้ แต่จะลดโอกาสในการเกิดการบวมหรือเหนียงได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้หมอนที่สูงขึ้นเมื่อนอนเพื่อช่วยให้หัวต่ำกว่าร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การนอนท่าไหนก็ตามที่สามารถทำให้สบายและหลีกเลี่ยงการเกิดอาการเจ็บปวด ก็ควรจะเลือกใช้และปรับเปลี่ยนตามความสะดวกและความเหมาะสมของแต่ละบุคคลด้วย การนอนในเวลาที่เพียงพอและคุณภาพการนอนที่ดีก็เป็นปัจจัยที่สำคัญในการลดการเกิดเหนียง หน้าบวมเช่นกัน