สะเก็ดเงิน (Psoriasis) เดิมทีโรคนี้เกิดมาจากปัญหาความบกพร่องของร่างกายที่มีมาแต่กำเนิด และในปัจจุบันยังพบอีกว่าผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือ คนอ้วน ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคสะเก็ดเงินได้เช่นกัน แต่เรื่องราวของสะเก็ดเงินนี้จะเป็นอย่างไร มีความสัมพันธ์กับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินอย่างไรบทความนี้มีคำตอบ.
สะเก็ดเงิน คืออะไร
สะเก็ดเงิน จัดเป็น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ชนิดหนึ่ง เกิดจากเกิดการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ ซึ่งโรคสะเก็ดเงิน ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่มีการติดเชื้อ และไม่แพร่เชื้อ นอกจากนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถลดอาการของโรคลงได้
มักจะพบเจอได้บ่อยในผู้ใหญ่รวมถึงเด็ก ที่สามารถสืบทอดทางพันธุกรรมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า 50% ของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน จะมีญาติที่ป่วยเป็นโรคนี้เช่นเดียวกัน และปัจจุบันนี้ก็พบได้ในผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ความอ้วน อีกด้วย
สาเหตุและอาการ โรคสะเก็ดเงิน
โรคสะเก็ดเงิน จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วย จะเริ่มเห็นผื่นและแสดงอาการเริ่มต้นจากการเป็นที่ศรีษะก่อน แล้วกระจายจนลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ เช่น เล็บ สะเก็ดเงินที่แขน ข้อศอก ข้อพับ สะเก็ดเงินที่ขา หรือในบริเวณที่มีการเสียดสีหรือเกาบ่อยๆ ทำให้ ผิวหนังอักเสบ
สะเก็ดเงิน มีลักษณะเป็นผื่นแดง ค่อนข้างหนา บริเวณผื่นมีขุยสีขาวติดอยู่ด้วย ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วย หรือในผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง อาจมีตุ่มหนองได้
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค สะเก็ดเงิน
สะเก็ดเงิน (Psoriasis) มักเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และภูมิคุ้มกันก็ส่งสารเคมีไปยังเซลล์ผิวหนัง ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็ว จนเกิดเป็นผื่นผิวหนังตามบริเวณจุดต่างๆ พร้อมกับมีสะเก็ดเป็นขุยสีขาวตรงผิวหนัง นี่เลยเป็นที่มาของชื่อ ‘โรคสะเก็ดเงิน’
โรคนี้ถูกถามเข้ามาเยอะมากๆ บางคนก็เกิดอาการกลัวว่าอยู่ใกล้ชิดแล้วจะติดไหม ต้องขอเน้นย้ำกับผู้ป่วยและญาติๆ ด้วยว่าโรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ กรณีจะติดต่อได้นั้นหากมีคนในครอบครัวเช่น พ่อ-แม่ คนใดคนหนึ่งเป็นโรคสะเก็ดเงิน โอกาสที่ลูกจะเป็นจะอยู่ที่ 10-14% แต่ถ้าพ่อและแม่ต่างก็เป็นโรคสะเก็ดเงินทั้งคู่โอกาสที่ลูกจะเป็นก็จะเพิ่มขึ้น 30-40%
ยิ่งถ้าประกอบเข้าด้วยกันกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด นอนดึก เป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังมีการบาดเจ็บ ติดเชื้อ หรือใช้ตัวยาบางตัว ก็อาจเป็นตัวส่งเสริมให้เกิดโรคสะเก็ดเงินหรือมีอาการผื่นกำเริบได้ (นับเป็นปัจจัยร่วมที่ยังไม่สามารถลงน้ำหนักได้ว่าเกิดจากจุดไหน)
พฤตกรรมกระตุ้น
การไม่บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ชอบแกะเกาแผล รับประทานอาหารที่มีเคซีน ติดการกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่ออกกำลังกาย ติดการพนัน และนอนดึก
ระยะของ โรคสะเก็ดเงิน
สำหรับระยะอาการของโรคสะเก็ดเงิน หลักๆ จะมีด้วยกัน 4 แบบ
- โรคสะเก็ดเงิน (ผื่นนูนหนา) จะมีลักษณะเป็นผื่นนูนแดงหนามีสะเก็ดอยู่ตามผิวหนังบริเวณต่าง ๆ เป็นชนิดที่พบเจอได้บ่อย
- โรคสะเก็ดเงิน (ตุ่มนูนขนาดเล็ก) ส่วนมากจะพบได้ในผู้ป่วยอายุน้อยและมักจะมีประวัติจากการเป็นไข้นำมาก่อนแต่หลังจากไข้หายก็จะมีอาการผื่นแสดงออกมาชนิดนี้จัดว่าไม่รุนแรงผู้ป่วยบางรายก็หายไปได้เองในผู้ป่วยบางรายก็จะมีอาการเรื้อรัง(เป็น ๆ หาย ๆ)ไปตลอด
- โรคสะเก็ดเงิน (ผื่นลอกแดงทั่วตัว) ชนิดนี้ถือว่าเป็นชนิดที่รุนแรงเกิน 90% ที่ผู้ป่วยจะมีผื่นแดงเต็มบริเวณพื้นที่บนร่างกายพร้อมกับมีขุยบาง ๆ ลอกทั่วตัวถ้าพบในผู้ป่วยสูงอายุจะถือว่าเป็นอันตราย เนื่องจากจะมีอาการเสียเกลือแร่ สูญเสียโปรตีน จนทำให้มีอาการติดเชื่อแทรกซ้อนขึ้นมาได้
- โรคสะเก็ดเงิน (ตุ่มหนอง) จะพบว่าผู้ป่วยมีสะเก็ดเงินร่วมกับตุ่มหนองเกิดขึ้นตามร่างกาย
ในกลุ่มของผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินจะมีโรคร่วมที่พบได้ตามมาอีกหลายโรคเหมือนกัน
โรคแทรกซ้อน ที่พบเจอได้บ่อย
โรคข้ออักเสบ ร่วมกับ โรคสะเก็ดเงิน ก็คือจะมีข้อบวม ปวดตามที่ต่างๆ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ก็ควรแจ้งแพทย์เนื่องจากอายุรแพทย์ด้านโรคข้อ จะมีอาการรักษาทำให้อาการรักษาดีขึ้นและป้องกันการเกิดข้อพิการได้
โรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่สามารถเกิดได้ เช่น การติดเชื้อ เล็บพิการ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
วิธีรักษา สะเก็ดเงิน
ตัวเลือกทางการรักษาก็จะมีตั้งแต่ ยารับประทาน การฉายแสงอาทิตย์เทียม และยาฉีดชีวภาพ ซึ่งระบบการรักษาต้องอาศัยปัจจัยอยู่หลายอย่าง เช่น ผู้ป่วยมีเวลาหรือสะดวกตามวันนัดหมายของการรักษาหรือไม่
รักษาแบบไหนใช้เวลาในการพบแพทย์บ่อยที่สุด
- การฉายแสงอาทิตย์เทียม
การฉายแสงอาทิตย์เทียม คืออะไร?
มีทั้งแบบ UVA-UVB เพื่อช่วยในการรักษาโรคผิวหนัง อย่าง ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โรคด่างขาว และโรคสะเก็ดเงิน สำหรับผลลัพธ์ของการฉายแสงอาทิตย์จะเห็นผลประมาณ 80% และความเข้ารับการรักษาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเป็นระยะเวลา3เดือน
หากเวลาไม่เพียงพอต่อการเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาล อาจใช้เป็นยารับประทานในการรักษา (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และการพิจารณาจากประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว) แต่ถ้าในกรณีผู้ป่วยกับชนิด สะเก็ดเงินชนิดรุนแรง ผู้ป่วยอาจจะต้องรับเป็นยาฉีดชีวภาพแทน
ยาทาสะเก็ดเงิน
- Topical corticosteroids เป็นตัวยาที่ถูกนิยมนำมาใช้ในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน ชนิดของยาเป็นครีมสีขาว ใข้ง่ายและตอบสนองของการรักษาได้ดี เหมาะสำหรับสะเก็ดเงินชนิดผื่นนูนหนา ไม่ว่าจะศีรษะ เล็บ ข้อพับ แต่ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากเพราะอาจเกิดเป็นผลเสียที่ตามมาได้
- Coal tar มาในรูปแบบชนิดขี้ผึ้ง ที่จะมาช่วยในการลดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวที่ผิดปกติ เป็นยาที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง
- ยูเรียครีม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยรักษาอาการผื่นผิวหนังและอาการ คัน
โรค สะเก็ดเงิน ห้ามกินอะไร หรือ อาหารชนิดใดที่ทำให้โรคกำเริบ
- แป้งสาลี แป้งสาลีมีสารกลูเตนที่เป็นตัวทำให้เกิดการแพ้ทุกๆชนิดได้เลย
- นมวัว /ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ชีส เนย ไอศกรีม นมพร่องมันเนย นมยูเอชที นมจืด นมข้นหวาน ที่อุดมไปด้วยโปรตีนอย่างเคซีนที่ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำและส่งผลให้เกิดการแพ้โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่จะมีอาการอักเสบ เป็นผื่น นูน แดง
- น้ำตาล โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเกิน รับประทานน้ำตาลมาก ๆเข้าก็ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบมีภาวะแพ้เกิดขึ้น
- ไขมัน มีรายงานทางการแพทย์เผยว่าภาวะไขมันสูงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เสี่ยงทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน โดนเฉพาะเรื่องภาวะน้ำหนักเกิน ปัจจุบันนี้ถูกเป็นข้อสังเกตว่าอาจส่งผลให้เกิดโรค เพราะโรคสะเก็ดเงินจะถูกสร้างขึ้นในเซลล์ไขมันได้ดี ฉะนั้นแล้วการมีไขมันที่สูง หรือมีภาวะที่น้ำหนักเกินก็ส่งผลเสี่ยงต่อการเกิดโรคสะเก็ดเงินได้
- ยากลุ่มสเตียรอยด์ ที่ผสมในรูปแบบของชนิดยาต่าง ๆ แม้ว่าจะช่วยให้อาการดีขึ้นบ้างแต่ก็จะกลับมาเกิดขึ้นและรุนแรงกว่าเดิมได้ด้วย
- แอลกอฮอล์ ถือเป็นศัตรูตัวร้ายของโรคสะเก็ดเงินเลย เพราะเมื่อไหร่ที่แอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปขยายหลอดเลือดทำให้ลิมโฟไซต์ที่ทำหน้าที่ในการรับมือกับเชื้อโรคในเม็ดเลือดขาวถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักทำให้เซลล์หนังกำพร้าเกิดการแบ่งตัวที่รวดเร็วอย่างผิดปกติ จนทำให้เกิดผิวหนังอักเสบและลุกลามมากขึ้น
- พืชผักทีมีสาร โซลานีน (Solanine) ผลและหัวของพืชตระกูลมะเขือ ซึ่งพบว่าเป็นประเภทที่ได้รับการรายงานว่าสารมาสามารถกระตุ้นโรคสะเก็ดเงินที่ส่งผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหารของมนุษย์และอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ โดยเฉพาะ มันฝรั่ง พริกหยวก มะเขือและ มะเขือเทศ
สมุนไพรรักษาสะเก็ดเงิน
- ขมิ้น มีฤทธิ์ในการต่อต้านและฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง และต่อต้านยีสต์ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันตก ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส เช่น แบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผล แบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง
- กระชาย (โสมไทย) กระชายมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ รักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกายได้ งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนั้นมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด
ชาสมุนไพรรักษาสะเก็ดเงิน
- ชารางจืด รางจืดมีสรรพคุณช่วยขับพิษ ป้องกันภาวะเป็นพิษต่อระบบตับจากการดื่มแอลกอฮอล์ ต้านมะเร็งและช่วยให้แผลหายดี
- ชาใบบัวบก ใบบัวบกเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการฟกซ้ำ ช่วยลดปัญหาการอักเสบตามผิวหนังได้
อาหารเสริมรักษาสะเก็ดเงิน
- วิตามินเอ (Vitamin A) ในกลุ่มของ Beta- Carotene ที่จะเข้ามาช่วยลดการแบ่งตัวของเซลล์ และลดการสร้างสารพิษ
- วิตามินบี 1 5 6 12 จะมาช่วยซ่อมแซมบำรุงผิว สมานแผล ลดการติดเชื้อ สำหรับคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินจึงเหมาะแก่การได้รับวิตามินBในการเสริมเพื่อบรรเทาอาการ
- วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยทำให้แผลที่เป็น ไม่ว่าจะแผลสด แผลหนอง แผลตกสะเก็ดค่อย ๆ ฟื้นตัวและเริ่มหายเป็นปกติได้ ป้องกันโจคมะเร็ง และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ช่วยให้ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไปและแทนที่ด้วยผิวชั้นใหม่ที่มีความเรียบเนียนมากขึ้น
- เควอเซติน เป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย ช่วยปกป้องอาการแพ้ และช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค
- กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega 3) ช่วยลดการอักเสบในร่างกายรวมถึงผิวหนังอักเสบจากสะเก็ดเงินได้ และส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นมาก ๆ ด้วย
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ขาด วิตามินบี 12 เสี่ยงภาวะโรคซึมเศร้า อัลไซเมอร์ !
ชีวจิตแก้ สะเก็ดเงิน
สำหรับอาการของโรคสะเก็ดเงินนั้น ยังไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถที่จะทำให้โรคนั้นสงบลงและไม่กลับมาเกิดขึ้นได้ มีจำนวนผู้ที่เป็นและได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดทั้งกายและใจจำนวนมากซึ่งบางท่านเองก็ต้องเลือกหนมามอบความสุขให้ตัวเองโดยการทำให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่พาตัวเองไปอยู่ในความเครียด
ซึ่งการบำบัดรักษาด้วยวิธีทำให้จิตใจสงบจะส่งผลให้ร่างกายนั้นได้รับแต่สิ่งที่ดี ผิวพรรณดี ที่สำคัญกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากๆกับการรักษาให้โรคสะเก็ดเงินนี้สงบลง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำได้และดีที่สุดคือการทำให้ร่างกายมีความสุขในทุก ๆ วันไม่นอนดึก ไม่คิดมาก มั่นใช้เวลาในยามว่างให้เกิดประโยชน์ เช่น ปั่นจักรยาน เดินเล่นที่สวน ปลูกต้นไม้ รวมถึงการทำสมาธิ ก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายหมดปัญหาในเรื่องโรคภัยต่าง ๆ แล้ว
วิธีป้องกัน สะเก็ดเงิน
นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ผู้ป่วยจะต้องดูแลตัวเอง พยายามลดน้ำหนักให้อยู่ในเกินปกติ ไม่เครียด ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และผื่นของโรคสะเก็ดเงินก็จะดีขึ้นไปเองด้วยพร้อมกับการรักษาแบบทางการแพทย์
โดยปัจจุบันแล้วผื่นสะเก็ดเงินยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ด้วยการแพทย์ปัจจุบันที่มีอยู่สามารถทำให้ผื่นสะเก็ดเงินดีขึ้นเรื่อยๆ ได้ ผื่นจะลดลงไปได้ถึง 50-75% ในระยะเวลา 3-6 เดือน
นอกจากนี้การดูแลสภาพจิตใจของผู้ป่วยก็จะช่วยลดภาวะควาเครียดลงได้มีคุณภาพชีวิตและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขด้วย
Reference: https://today.line.me/th/v2/article/B0eYow , https://www.cheewajithome.com/
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
Biography