ไขมันส่วนเกิน ปัญหาใหญ่ที่ทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนหมดความมั่นใจในการใช้ชีวิต มีความกังวลกับใบหน้าและร่างกายของตนเอง เราจึงรวม หัตถการลด สลาย กำจัดไขมัน ที่มาแรงและได้รับความนิยมในประเทศไทยมาแนะนำให้คนที่อยากขจัดไขมันส่วนเกินในร่างกายเหล่านี้ออก หมดกังวลเรื่องหน้าบาน เหนียงเยอะ พุงป่อง เอวห่วงยาง ต้นแขนต้นขาใหญ่และรักแร้ปลิ้น เป็นต้น
หัตถการกำจัดไขมัน นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยม
หัตถการลด สลาย กำจัดไขมันที่นิยมในประเทศไทย มีดังนี้
1. เมโสแฟต (Meso fat)
เมโสแฟต (Meso Fat) หรือที่เรียกกันว่า Meso Lipolysis เป็นการฉีดส่วนผสมที่ประกอบด้วยสารสกัดจากถั่วเหลือง วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นเข้าสู่ชั้นไขมันในร่างกายโดยตรง หัตถการนี้มีเป้าหมายเพื่อสลายไขมันสะสมเฉพาะจุดตามต้องการ โดยสารสกัดเหล่านี้จะทำงานเพื่อสลายไขมันที่เชื่อมต่อกัน และเปลี่ยนให้กลายเป็นของเหลว ต่อจากนั้นร่างกายจะกำจัดไขมันเหล่านี้โดยธรรมชาติผ่านกระบวนการเผาผลาญ ปัจจุบันแพทย์หลายคนไม่ค่อยแนะนำ เพราะผลลัพธ์ไม่ค่อยชัดเจนและมีวิธีอื่นที่ดีกว่า
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต ได้แก่
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันบนใบหน้าอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัด เช่น แก้มและคาง โดยปกติจะใช้เวลาภายใน 5-7 วัน
- ผู้ที่สนใจการฉีดเมโสแฟตที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ 100% เพื่อกระบวนการสลายไขมันที่ปลอดภัย นำไปสู่การขับถ่ายออกทางระบบเผาผลาญตามธรรมชาติของร่างกาย
- บุคคลที่มีตารางงานยุ่งและชอบวิธีที่ประหยัดเวลามากกว่า เนื่องจากเพียง 3-4 เข็มก็ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
บุคคลที่ควรงดเว้นการฉีดเมโสแฟต ได้แก่
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะผิวหนังอักเสบควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดเมโสแฟต
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาในปริมาณมาก เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือมะเร็ง จะต้องขอคำแนะนำจากผู้ให้บริการด้านการแพทย์ก่อนดำเนินการฉีดเมโสแฟต
2. FaceTite
FaceTite เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อทั้งกระชับผิวและกำจัดไขมัน โดยใช้ประโยชน์จากพลังของ Radio Frequency Assisted Lipolysis (RFAL) หัตถการนี้ช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับไขมันส่วนเกินและผิวหนังหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำคอ พร้อมทั้งลดผลข้างเคียงและลดขนาดแผลผ่าตัด ส่งผลให้เรามีเวลาพักฟื้นที่สั้นลง
เทคโนโลยีนี้จะทำงานโดยการปล่อยพลังงานความถี่วิทยุ RF ในรูปแบบไบโพลาร์ผ่าน Handpiece แบบพิเศษ พลังงานนี้จะถูกส่งไปที่อุณหภูมิตั้งแต่ 40-60 องศาเซลเซียส ทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย
เมื่อความร้อนซึมเข้าสู่ผิวหนัง จะทำให้เกิดการสลายไขมันใต้ผิวหนัง กระบวนการนี้นำไปสู่การลดการหย่อนคล้อยที่เกิดจากการสะสมของไขมันเฉพาะที่ รวมถึงการหดตัวของเส้นใยที่พยุงใต้ผิวหนัง
ประโยชน์ของ FaceTite ได้แก่ ลดคางสองชั้นลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้โครงหน้าดูชัดเจนยิ่งขึ้น ทรีตเมนต์นี้ยังช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยและรอยพับบนใบหน้า นอกจากนี้ ยังมุ่งเป้าไปที่ไขมันส่วนเกินที่ไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยวิธีการแบบเดิม ๆ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และเพิ่มความกระชับของใบหน้า ส่งเสริมรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
ข้อดีของ FaceTite
- ลดคางสองชั้นอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
- ปรับแก้รูปหน้าให้เรียวเล็กลงด้วยโครงหน้าที่ได้รับการปรับปรุง
- เปิดแผลขนาดเล็กเพียง 3 มม. โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ถาวร
- รู้สึกไม่สบายน้อยที่สุดและระยะเวลาการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
- ใช้คลื่น RF ที่ปลอดภัยในการสลายไขมันโดยไม่มีสารเคมีตกค้าง
- ให้ผลลัพธ์ยาวนานด้วยวิธีการที่คุ้มค่า
ข้อเสียของ FaceTite
- อาจเกิดอาการบวมแดงชั่วคราวได้ในช่วง 1-2 วันแรกหลังทำ
- จำเป็นต้องใช้ชุดกระชับใบหน้าหลังการรักษา
3. Thermage
Thermage เป็นเครื่องมือล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อยกกระชับผิว สลายไขมันบนใบหน้า และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน โดยการปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) เข้าสู่ผิวหนังโดยตรง โดยส่งจากผิวชั้นนอกสุดไปยังชั้นไขมันที่อยู่ด้านใน Thermage ต่างจากอุปกรณ์อื่น ๆ ตรงที่ปล่อยพลังงานในรูปของคอลัมน์ความร้อนเข้มข้นซึ่งเข้าถึงลึกเข้าไปในผิวหนังได้ดี
ความร้อนที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการหดตัวของผิวหนัง ลดการสะสมของไขมัน และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังตึงกระชับในระยะยาว เทอร์มาจจัดการปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และปัญหาใบหน้าส่วนลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสะสมของไขมันแก้ม ไขมันใต้ผิวหนัง ริ้วรอยรอบดวงตา ถุงใต้ตา และคิ้วตก นับว่าเป็น หัตถการลด สลาย กำจัดไขมัน ที่ครบเครื่องมาก ๆ
ข้อดีของการรักษาด้วย Thermage ได้แก่
- เพิ่มความกระชับของใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิว และริ้วรอยลดลง
- สลายไขมันเฉพาะจุดบริเวณใบหน้าและคาง
- ใช้ได้ทั้งผิวหน้า ลำคอ และลำตัว
- ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกิจกรรมประจำวันต่อได้ทันที
- ผิวกระชับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและสังเกตได้ชัดเจน โดยเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนที่ 2 เป็นต้นไป
- ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนาน โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล)
ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นของการรักษาด้วย Thermage
- มีรอยแดงชั่วคราวอาจเกิดขึ้นหลังจากทำหัตถการ แต่โดยทั่วไปจะหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมงโดยไม่มีอาการแทรกซ้อนเพิ่มเติม
- แผลไหม้อาจเกิดขึ้นได้หากแพทย์ใช้พลังงานความร้อนมากเกินไป หรือใช้อุปกรณ์ Thermage ปลอมที่มีคุณภาพต่ำซึ่งไม่เหมาะกับผิวหนังของผู้ป่วย
- ในบางกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ใบหน้าบิดเบี้ยวอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบจากการส่งผ่านพลังงานไปยังเส้นประสาทใบหน้า
4. CoolSculpting
CoolSculpting ใช้พลังความเย็นเพื่อกำจัดไขมัน เนื่องจากเซลล์ไขมันมีความไวต่อความผันผวนของอุณหภูมิ เช่นเดียวกับการที่อาหารที่มีไขมันแข็งตัวในตู้เย็นทั่วไป มีหัวดูดผิวหนังเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามา คล้ายกับกระบวนการบีบไขมันส่วนเกิน หัวดูดนี้จะปล่อยอุณหภูมิความเย็นที่ -11°C แช่แข็งไขมันที่สะสมไว้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเวลาประมาณ 35 นาทีในแต่ละจุดการรักษา
เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการแช่แข็งที่กำหนด จะมีการนวดเบา ๆ เพื่อเริ่มการตายของเซลล์ไขมัน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนของเซลล์ไขมันอย่างถาวร เซลล์ไขมันเหล่านี้จะถูกร่างกายกำจัดออกไปตามธรรมชาติ การสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง CoolSculpting โดยทั่วไปจะส่งผลให้ไขมันลดลงประมาณ 60-70cc ต่อครั้ง สำหรับบุคคลส่วนใหญ่ที่ต้องการปรับรูปร่าง โดยทั่วไปจำเป็นต้องใช้บริการ 2-4 ครั้งขึ้นไปจึงจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน
CoolSculpting เหมาะสำหรับการกำหนดเป้าหมายไขมันในพื้นที่เจาะจง เช่น หน้าท้อง เอว ข้างหลัง ต้นขาด้านใน บริเวณใต้ตะโพก หน้าอก (สำหรับผู้ชาย) ต้นแขน สะโพก ต้นขาด้านนอก เข่า และคางสองชั้น แต่ละจุดการรักษาใช้หัวที่แตกต่างกัน ซึ่งปรับให้เหมาะกับพื้นที่ที่กำลังรับการรักษา
ข้อได้เปรียบที่สำคัญของ CoolSculpting ได้แก่ ความสามารถในการละลายไขมันด้วยความเย็น โดยไม่ทำร้ายชั้นผิวด้านนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาพร้อมกับระบบ Freeze Detect ซึ่งจะหยุดขั้นตอนทันทีเมื่อตรวจพบความเย็นที่มากเกินไปในชั้นผิวด้านบน คุณลักษณะนี้ทำให้ CoolSculpting แตกต่างจากของเลียนแบบเกรดต่ำ เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงของความเสียหายต่อผิวหนังที่เกิดจากความเย็น
5. ดูดไขมัน
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นขั้นตอนการผ่าตัดที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินซึ่งต้องใช้ความชำนาญของศัลยแพทย์และทีมพยาบาลเนื่องจากลักษณะการผ่าตัด อาจมีการดมยาสลบในระหว่างขั้นตอน ผู้ป่วยจำเป็นต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตามผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนหลังจากทำหัตถการเบื้องต้น ทำให้สามารถปรับสัดส่วนของร่างกายได้ตามต้องการ
หัตถการลด สลาย กำจัดไขมัน ประเภทนี้จะมีการกรีดแผลขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร โดยจะมีการสอดท่อเข้าไปเพื่อดูดไขมันใต้ผิวหนังใต้ผิวหนังผ่านแผล ซึ่งหลอดนี้จะเชื่อมต่อกับเครื่องดูดไขมัน และปัจจุบันมีเทคโนโลยีดูดไขมันหลายประเภทให้เลือก โดยแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียเฉพาะตัว
การดูดไขมันประเภทต่าง ๆ ได้แก่
- การดูดไขมันช่วยดูด (SAL) – ใช้ cannula ธรรมดาพร้อมการดูดสุญญากาศเพื่อขจัดเซลล์ไขมัน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง หลอดเลือด หรือเส้นประสาทเสียหายน้อยที่สุด เนื่องจากเซลล์ไขมันสลายตัวตามธรรมชาติ
- Radio Frequency (RF) – คล้ายกับ SAL แต่ใช้พลังงานความถี่วิทยุในระดับอุณหภูมิที่ควบคุมได้ เพื่อกระชับผิวไปพร้อม ๆ กัน
- Laser-Assisted Liposuction (LAL) – ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ในการกำจัดไขมันพร้อมทั้งช่วยกระชับผิว แม้ว่าผลลัพธ์อาจใช้เวลานานกว่าจึงจะเห็นผลจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยสูง
- การดูดไขมันแบบ Power-Assisted (PAL) – อาศัยพลังงานกลเพื่อเพิ่มความถี่ในการเคลื่อนไหวของเข็มดูดไขมัน สร้างการสั่นสะเทือนที่ช่วยให้สลายไขมันได้ง่ายขึ้น ช่วยให้สามารถกำจัดปริมาณไขมันที่มีปริมาณมากในขณะที่ลดการเสียดสีของเนื้อเยื่อและผิวหนัง
- การดูดไขมันด้วยคลื่นอัลตราโซนิก – ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เพื่อสร้างพลังงานความร้อนเพื่อการกำจัดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้นลง และลดความรู้สึกไม่สบายของผู้ป่วย
- การดูดไขมันด้วยพลังน้ำ – ใช้แรงดันน้ำเพื่อสลายเซลล์ไขมันอย่างอ่อนโยน เพื่อรักษาเนื้อเยื่อและหลอดเลือดโดยรอบ
ข้อดีของการดูดไขมัน ได้แก่
- ลดไขมันใต้ผิวหนังทันทีและสัดส่วนของร่างกายดีขึ้น
- กำจัดไขมันสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณที่ลดเองได้ยาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และเอว
- มีหลากหลายเทคโนโลยีจากเครื่องดูดไขมันให้เลือกตามความต้องการของแต่ละบุคคล
- ไขมันที่สกัดได้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อเสริมส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ ทำให้ได้รูปลักษณ์ที่สมดุลมากขึ้นตามความชอบส่วนบุคคล (หากดูดไขมันจากเครื่องที่ไม่ใช้พลังงานความร้อน)
ทั้ง 5 หัตถการลด สลาย กำจัดไขมัน มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน บางหัตถการก็เหมาะกับหน้า แต่บางหัตถการกลับเหมาะแค่กับร่างกาย ในขณะเดียวกันก็ยังมีหัตถการที่สามารถทำได้ทั้งสองส่วน ทั้งนี้ การพิจารณาว่าจะใช้บริการใด ๆ ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อประเมินและวิเคราะห์ปัญหา ซึ่งจะได้รับการรักษาและแก้ไขอย่างตรงจุด
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง