ปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก ถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวและไม่ค่อยให้ความสำคัญ อาจเป็นสัญญาณบอกโรคที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงนั้น การตรวจสอบอาการและประเมินสุขภาพด้วยตนเองก่อนที่จะตัดสินใจพบแพทย์ การรักษาสุขภาพกระเพาะปัสสาวะเป็นสิ่งสำคัญ โดยการเฝ้าระวังอาการที่เกิดขึ้นและไม่ละเลยเคล็ดลับสำคัญเช่น การดื่มน้ำเพียงพอ รวมถึงการมีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากมีอาการที่ไม่ปกติเกิดขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที
ชนิดของปัสสาวะไม่ออก/ฉี่ไม่ออก
การปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก เป็นอาการที่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามลักษณะและระยะเวลาของอาการได้ดังนี้
- ปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน เป็นอาการที่ปัสสาวะไม่ออกทันที มักเกิดร่วมกับอาการปวดปัสสาวะมากและปวดท้องน้อยมาก ๆ เสมอ อาจมีการคลำได้เจอก้อนเนื้อที่เป็นกระเพาะปัสสาวะที่ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้มีน้ำปัสสาวะคั่งอยู่ตรงกลางเหนือกระดูกหัวหน่าว เป็นอาการรุนแรงและเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที อาการนี้เกิดได้ทุกเพศทุกวัย
- ปัสสาวะไม่ออกเรื้อรัง เป็นอาการไม่รุนแรง มักเกิดอย่างต่อเนื่องและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เช่น ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณไม่มาก มีปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเสมอหลังการปัสสาวะ และมักไม่มีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย อาการนี้มักพบได้ในเพศชายสูงอายุ (ประมาณ 50-60 ปีขึ้นไป) ซึ่งพบบ่อยกว่าเพศหญิงประมาณ 10 เท่า
ปัสสาวะไม่ออก สาเหตุเกิดจากอะไร
การที่ปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก ปัญหาที่ทุกคนอาจพบเจอ แต่สาเหตุหลัก ๆ ของปัญหานี้มักมีอยู่ทั้งการที่กระเพาะปัสสาวะไม่สามารถบีบตัวได้อย่างเหมาะสมและการอุดกั้นของท่อปัสสาวะ การที่กระเพาะปัสสาวะไม่สามารถบีบตัวได้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในระบบประสาทที่มาเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งอาจมีทั้งการเกิดขึ้นที่สมอง ไขสันหลัง ปลายประสาทที่มาเลี้ยงกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ
หรือส่วนอื่น ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุได้แก่ การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เช่น การหักที่อาจทำให้ประสาทไขสันหลังเสียหน้าที่ หรือจากโรคเบาหวานที่สามารถทำให้ปลายประสาทเสียหน้าที่ นอกจากนี้ กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะก็อาจไม่สามารถบีบตัวได้เนื่องจากกระเพาะปัสสาวะถูกยืดจากน้ำปัสสาวะเต็มเกินความจุของมันเอง
ส่วนการอุดกั้นของท่อปัสสาวะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอุดกั้นทางออกของกระเพาะปัสสาวะ เช่น จากต่อมลูกหมากโต หรือจากการเกิดโรคในกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะที่ทำให้มันไม่สามารถบีบตัวได้อย่างเหมาะสม
การรักษาอาการฉี่ไม่ออก
ปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก เป็นอาการที่สามารถรักษาได้หลายวิธี โดยแพทย์จะพิจารณาตามสาเหตุของอาการโดยเฉพาะ และอาจใช้วิธีการรักษาหลาย ๆ วิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การระบายน้ำปัสสาวะ ซึ่งใช้สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้เลย แพทย์อาจต้องใช้เส้นท่อเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะเพื่อนำน้ำปัสสาวะที่ตกค้างออก แต่ในกรณีที่มีการอุดตันของท่อปัสสาวะ อาจจะต้องระบายออกทางช่องท้องช่วงล่างโดยตรง สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะออกลำบากช่วง ๆ อาจต้องได้รับการรักษาเป็นรายบุคคล โดยการใช้สายสวนในระยะยาวอาจจะต้องรับการดูแลเองเมื่ออยู่ที่บ้าน
- การใช้ยาเป็นวิธีการรักษาที่พบบ่อยในกรณีที่มีอาการปัสสาวะไม่ออกเนื่องจากโรคต่อมลูกหมากโต การใช้ยาสามารถช่วยให้เกิดการบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงจากการอุดตันได้ เช่น ยาดูทาสเทอไรด์ (Dutasteride) และ ยาฟินาสเทอไรด์ (Finasteride) ซึ่งช่วยในการลดการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมาก และยาต่าง ๆ ที่ช่วยลดอาการจากการอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การผ่าตัด มีหลายวิธีให้เลือก เช่น การผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเนื้อหรือเนื้อเยื่อมะเร็งออกจากกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ ผ่าตัดส่องกล้องเพื่อกรีดขยายท่อปัสสาวะส่วนที่ตีบ (Internal Urethrotomy) หรือผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนจากกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมนั้นควรพิจารณาโดยละเอียดและให้คำปรึกษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ก่อนการดำเนินการอะไร ๆ นอกเหนือจากการรับรายงานและการตรวจร่างกายอย่างเป็นระบบ
ภาวะแทรกซ้อนของอาการฉี่ไม่ออก
การปล่อยให้อาการปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก ไม่ได้รับการรักษาอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ ซึ่งอาจมีอาการดังนี้
- การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เมื่อปัสสาวะไม่ถูกขับออกจากร่างกายอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตภายในกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะได้
- การทำงานผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ การที่กระเพาะปัสสาวะต้องขยายอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากไม่สามารถขับน้ำปัสสาวะออกได้ตามปกติอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือการทำงานผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ
- การทำงานผิดปกติของไต การไหลย้อนกลับของน้ำปัสสาวะเข้าสู่ไตอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือรอยแผลได้
- ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้: เป็นภาวะแทรกซ้อนชั่วคราวจากการผ่าตัดผ่านทางท่อปัสสาวะซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบขับปัสสาวะในสภาวะปกติ การฟื้นตัวจะใช้ระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือเดือน
การป้องกันอาการฉี่ไม่ออก
การป้องกันปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เนื่องจากอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แม้จะยังไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้โดยการรักษาโรคต้นเหตุให้หายขาด เช่น สำหรับผู้ชายที่มีโรคต่อมลูกหมาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์โดยการรับประทานยาที่ได้รับการสั่งจ่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้หวัด ยาแก้แพ้ หรือยาที่มีฤทธิ์หดหลอดเลือดช่วยในการลดบวมของเนื้อเยื่อ เนื่องจากยาเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่ออาการปัสสาวะ
สำหรับผู้หญิงที่มีภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อนลงมาในช่องคลอดหรือไส้ตรงยื่นย้อยในระดับไม่รุนแรง ควรพยายามออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตบางส่วน เพื่อป้องกันอาการปัสสาวะไม่ออกจากปัญหาท้องผูก หรือบางคนอาหารเป็นพิษ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการป้องกันและรักษาอาการปัสสาวะไม่ออกอย่างเหมาะสม
บทสรุป
การปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก เป็นอาการที่ทุกคนอาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่เป็นอาการที่ร้ายแรง แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนให้ทราบถึงปัญหาทางสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือโรคอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบการปัสสาวะ หากมีอาการที่ไม่ปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรักษาต่อไปอย่างเหมาะสม
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย