จัดฟัน หรือดัดฟัน ( Orthodontic ) ถือเป็นการรักษาที่อยู่ในประเภทของทันตกรรมเพื่อความสวยงาม หรือ Cosmetic dentistry เพราะฟันที่เรียงตัวสามารถแก้ไขปัญหาฟันยื่น ฟันเหยิน ฟันเก ฟันห่าง ฟันสับไม่พอดีกัน อีกทั้งยังช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน และขากรรไกร เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มที่ดูดี สวยงาม พร้อมกับสุขภาพช่องปาก และการบดเคี้ยวอาหารที่ดีขึ้น
สาเหตุ หรือปัญหาที่ต้อง จัดฟัน
นิยามของฟันสวยก็คือ การมีฟันที่เรียงตัวสวย มีสีขาว และรูปร่างฟันที่เข้ากับใบหน้า แต่ปัญหาหลักที่ทุกคนมักจะประสบตั้งแต่เด็กเลยก็คือ การเรียงตัวของฟันที่ไม่สวย และวิธีการแก้ไขที่ได้ผลมากที่สุดก็คือ การจัดฟันแต่จะมีฟันลักษณะไหนบ้างที่ ทันตแพทย์ จะบอกว่าคุณกำลังเข้าข่ายควรจัดฟันด่วน!
- ฟันบนยื่นจนสังเกตได้ชัดว่า ฟันด้านบนยื่นออกมาข้างหน้ามากจนเกินไป ลักษณะเหมือนแก้วหน้าม้า
- ฟังล่างยื่น ลักษณะเช่นเดียวกับฟันบนยื่น แต่จะเป็นฟันล่างที่ยื่นออกมาข้างหน้าแทบทั้งแถว นั่นอาจส่งผลให้คางยื่นด้วย
- ฟันกัดคร่อม ฟันบนไม่สามารถสบได้พอดีกับฟันล่าง มีลักษณะสบแบบไขว้ สลับกันไปมาไม่สมดุลทำให้คบเคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มปากเต็มคำ
- ฟันสบเปิด ลักษณะฟันแบบนี้คือเมื่อสบฟันแล้วจะมีช่องว่างตรงกลางระหว่างฟันบน และฟันล่างมากเกินไป ทำให้ดูไม่สวยงาม ควรต้องจัดระเบียบฟันใหม่เพื่อลดช่องว่างเหล่านี้
- ฟันกัดเบี้ยว หากสังเกตดีๆ จุดศูนย์กลางของฟันบนจะไม่ตรงกับฟันล่าง ส่งผลให้บดเคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มที่มากพอ
- ฟันห่าง มีช่องว่างระหว่างฟันที่เกิดจากฟันหลุดหรือฟันที่ขึ้นไม่เต็ม หากปล่อยให้เป็นรูโหว่หรือฟันหลออยู่จะทำให้ฟันซี่ข้าง ๆ โน้มเอียงเข้าไปหาช่องว่างนั้นมากขึ้น ทำให้ฟันอาจดูเบี้ยวขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
- ฟันซ้อน หรือ ฟันเก ฟันที่ขึ้นมามากเกินไปจนเกทับกัน อีกหนึ่งลักษณะที่ทำให้ฟันมีปัญหา เบียดเสียดเพื่อแย่งพื้นที่กัน ซึ่งฟันเกสมควรที่จะถอนซี่ส่วนเกินออกและจัดฟันใหม่ให้เข้าที่
การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ
หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับการจัดฟันแบบติดเหล็กกันอยู่แล้ว จริงๆ แล้วการจัดฟันไม่ได้มีแค่แบบเดียว การจัดฟันที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน โดยจะแยกเป็น 2 ประเภทหลักๆ นั่นก็คือ การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ และ การจัดฟันแบบถอดได้
1. จัดฟันแบบโลหะติดแน่น หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า การใส่เหล็กดัดฟัน
การใส่เหล็กดัดฟัน ในเรื่องของราคานั้นถือว่าถูกที่สุดุ้าเทียบกับการจัดฟันทั้ง 4 แบบ ซึ่งราคาจัดฟันอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 4,000 บาท/เดือน สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างครอบคลุม แต่ปัญหาระหว่างจัดฟันจะไม่ค่อยสะดวกสบายสักเท่าไหร่ อีกทั้งการทำความสะอาดก็ค่อนข้างยากเย็น เพราะมีทั้งเหล็ก ทั้งยาง เกี่ยวกันยุ่งเหยิง ต้องพบกับทันตแพทย์เพื่อปรับเหล็กทุกๆ 4-6 ชั่วโมง อาจต้องใช้ระยะเวลาเกือบถึง 3 ปี การใส่เหล็กดัดฟัน เหมาะสำหรับเด็ก วัยรุ่น เพราะมีสีสันที่หลากหลายเสริมความน่ารักได้ไม่เบา
2. จัดฟันแบบดามอน (Damon system)
การ จัดฟันแบบดามอน (Damon) สามารถช่วยลดระยะเวลาในการจัดฟัน เร็วขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว ด้วยเทคโนโลยี Self-Ligating ของตัวเหล็กดัดฟัน ทำให้ไม่ต้องใช้ยางรัดมีประสิทธิภาพสูง การจัดฟันแบบดามอน (Damon) จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลามาพบทันตแพทย์บ่อยๆ และเนื่องจากเป็นการเคลื่อนฟันโดยการใช้แรงเบา เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบติดเหล็ก จะช่วยให้เกิดความสบายกว่ามาก การจัดฟันแบบดามอนนี้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัยและมีให้เลือก 2 สี นั้นก็คือ สีโลหะ, สีแบบใส ราคาจัดฟันอยู่ที่ 50,000 บาทขึ้นไป
3. จัดฟันแบบเฮดเกียร์ (Headgear)
จัดฟันแบบเฮดเดียร์ เป็นเครื่องมือพิเศษที่ช่วยในการจัดฟัน โดยมีขั้นตอนการจัดฟัน คือการดันฟันไปข้างหลัง หรือใช้เสริมฟันเหล็ก การใส่ Headgear ควรใส่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้หรืออย่างน้อย 12-14 ชั่วโมง รวมทั้งเวลานอน โดยทั่วไปไม่ควรใส่ Headgear เมื่ออยู่นอกบ้านเพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งการถอดใส่ Headgear ควรทำอย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันในปากหลุด หลวม หรือตะขอทิ่มแทงปาก ใบหน้า และตา จัดฟันแบบเฮดเดียร์ ชนิดที่ดึงด้วยหนังยาง ให้เปลี่ยนยางทุก ๆ 3-4 วัน ฟันที่ Headgear เกี่ยวอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยหลังใส่ Headear เป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นปกติที่แสดงว่าฟันเริ่มเคลื่อนที่แล้ว กรณี Headgear หลุดหลวมให้หยุดใช้และติดต่อทันตแพทย์ทันที
กลับสู่สารบัญการจัดฟันแบบถอดได้
1 การจัดฟันแบบใส (Invisalign – Clear aligner)
การจัดฟันแบบใส มี 2 แบบคือ แบบ Invisalign และแบบ Clear aligner ซึ่งการจัดฟันแบบใส Invisalign นั้นวัสดุจะคล้ายพลาสติกใส โดยจะเป็นวัสดุชนิดพิเศษส่งตรงจาก LAB อเมริกา ออกแบบมาเพื่อเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม การพิมพ์ฟันนั้นจะเป็นการสแกนในรูปแบบ 3D แทนการพิมพ์ฟันแบบเดิม เพื่อความสะดวกสบายของคนไข้ และยังสามารถเห็นผลลัพธ์คร่าวๆ ได้ตั้งแต่สแกนฟันเสร็จ มีประสิทธิภาพในการจัดฟันขั้นสูง สามารถครอบคลุมปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบเหมือนกับการจัดฟันแบบ การใส่เหล็กดัดฟัน
ข้อดีของ การจัดฟันแบบใส ก็คือ แทนจะไม่เห็นเครื่องมือจัดฟันถ้าไม่ได้สังเกตดีๆ คนไข้สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ เมื่อต้องรับประทานอาหาร แปรงฟันหรือขัดฟัน แต่จะต้องไม่ถอดในเวลานาน ในระหว่างจัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวกันดี การจัดฟันประเภทนี้ผู้จัดจะต้องมีวินัยมากพอสมควร เพราะทันตแพทย์จะให้เครื่องมือจัดฟันกับคนไข้ไว้ประมาณหนึ่ง โดยคนไข้จะต้องเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันอันใหม่เป็นประจำทุก 1-2 เดือน และทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าฟันจะเข้าที่ ถ้าคนไข้ไม่ใส่เครื่องมือฟันก็จะไม่เคลื่อนที่ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งการ จัดฟันแบบใส ราคาจัดฟันอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟันแต่ละคน
นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใส Clear aligner หน้าตาจะคล้ายคลึงกับการจัดฟันแบบใส Invisalign เพราะหากเมื่อเทียบกันด้วยตาเปล่า หรือถ้าไม่เคยจัดฟันมาก่อน มองแล้วอาจจะแยกไม่ออก แต่ความแตกต่างก็คือการจัดฟันประเภท Clear aligner จะสามารถแก้ไขปัญหาของฟันได้เพียงเล็กน้อย หรือคนที่จัดฟันแล้วไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์นั่นเอง การจัดฟัน Clear aligner ต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อปรับและรับเครื่องมือใหม่ทุกเดือน ราคาจัดฟันอยู่ที่ประมาณ 9,000 บาท/เซ็ต ใช้เวลาจัดฟัน 3 เดือนขึ้นไป และต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือฟันจึงจะเข้าที่ตามแผนที่ได้วางไว้ เช่นกัน
2 จัดฟันแบบ Fastbraces
นับเป็นนวัตกรรมการจัดฟันที่รวดเร็วทันใจ และได้รับความนิยมอย่างมากจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งขั้นตอนการจัดฟัน จะมีเทคนิคเคลื่อนรากฟันและตัวฟันได้เร็วด้วยอุปกรณ์ Memory Nickle Titanium Wire รวมทั้งการออกแบบของ Bracket รูปสามเหลี่ยมที่ทำให้รวดทำงานด้วยแรงที่เบาและคงที่ ข้อดีของการจัดฟันแบบ Fasbraces นั้นเจ็บน้อยกว่า และไม่ต้องถอนฟัน ทำให้มีฟันที่เรียงสวยภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน- 1 ปี
3 การจัดฟันแบบด้านใน
มีขั้นตอนการจัดฟัน โดยการติดอุปกรณ์ไว้ด้านหลังของฟัน หรือไม่สามารถมองเห็นอุปกรณ์ผ่านจากด้านนอกฟัน เป็นลักษณะอุปกรณ์พิเศษที่ซ้อนอยู่ด้านใน และเป็นอุปกรณ์ชนิดพิเศษเฉพาะบุคคล จะช่วยลดแรงเสียดทานได้ดี เวลาที่ยิ้มหรือหัวเราะก็จะดูไม่ออก ซึ่งการจัดฟันด้านในนั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันโดยไม่ให้ใครเห็นอุปกรณ์ ข้อดีของการจัดฟันด้านในก็จะมีด้วยกัน 3 ข้อ
ข้อที่ 1. เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นอุปกรณ์ในการจัดฟัน เวลาที่แสดงสีอารมณ์ไม่ว่าจะยิ้มหรือหัวเราะก็จะมองไม่เห็นอุปกรณ์
ข้อที่ 2. ช่วยในการเรียงการจัดของฟันได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ฟันเรียงตัวได้สวยงามขึ้น
ข้อที่3. ไม่มีผลกระทบต่อการออกเสียงหรือการพูดคุย ซึ่งเป็นข้อดีอีกข้อที่แตกต่างจากการจัดฟันแบบอื่นๆ
ส่วนราคาสำหรับการจัดฟันด้านใน จะมีราคาค่อนข้างสูง นอกจากจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบที่มองไม่เห็นเครื่องมือแล้ว ยังได้ผลที่ดีอีกด้วย ราคาจัดฟัน จะอยู่ที่เริ่มต้น 150,000-180,000 บาท
กลับสู่สารบัญสิ่งที่ควรรู้ก่อน จัดฟัน
- การจัดฟันมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
- การจัดฟันส่งผลให้เกิดอาการเจ็บ ปวด ในบางคน ในช่วงแรกของการจัดฟันอาจมีแผลที่บริเวณกระพุ้มแก้ม จนทำให้รู้สึกเจ็บ ปวดฟันได้ ซึ่งบางคนก็อาจจะปวดมาก ปวดน้อยหรือไม่ปวดเลยขึ้นอยู่กับความอดทนของเนื้อเยื่อ
- ติดเครื่องมือจัดฟันแล้วจะทำให้ดูแล ทำความสะอาดได้ยากขึ้น เนื่องจากมีซอกเล็ก ซอกน้อยเลยทำให้โอกาสเสี่ยงเกิด กลิ่นปากและฟันผุได้ง่าย
- อาจทำให้อดทานอาหารบางอย่างที่ชื่นชอบ และต้องปรับพฤติกรรมการกินบางอย่างด้วย
- ระยะเวลาจัดฟันกว่าจะเสร็จค่อนข้างนาน จัดฟันแบบเหล็กใช้เวลาเฉลี่ย 2-3 ปี จึงควรวางแผนให้ดีเสียก่อนจะได้ไม่ยุ่งยาก
- หลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้วต้องใส่รีเทนเนอร์ทุกกรณี เพื่อให้ยังคงสภาพฟันที่เรียงสวยอยู่ตลอด
ข้อดี-ข้อเสียของการ จัดฟัน แต่ละแบบ
ข้อดีที่ 1. ก่อนจัดฟันทันตแพทย์จะตรวจฟัน หากมีหินปูน-ฟันผุ ทันตแพทย์จะให้ทำการขูดหินปูน และอุดฟันให้เรียบร้อยก่อน
ข้อดีที่ 2. การจัดฟันจะช่วยปรับพฤติกรรมการกิน โดยการเลือกกินอาหารชิ้นเล็ก ค่อยๆ เคี้ยว ไม่เคี้ยวอาหารเหนียว อาหารแข็ง เพราะอาจทำให้เครื่องมือในการจัดฟันหลุดได้
ข้อดีที่ 3. ช่วยแก้ไขการเรียงตัวของฟัน และโครงสร้างใบหน้าที่บกพร่องบางอย่างได้ เช่น ฟันยื่น ฟันเก หน้าสั้น
ข้อดีที่ 4. การจัดฟันช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้
จัดฟันราคาเท่าไหร่ ?
หากถามว่า จัดฟันราคาเท่าไหร่ นั้นจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของการจัดฟัน และเงื่อนไขของสถานพยาบาลแต่ละสถานที่ นอกจากนี้ราคาจัดฟัน ยังไม่นับรวมกับ การถอนและรักษาฟัน ก่อนเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการจัดฟันอีกด้วย ราคาจัดฟนก็ย่อมแตกต่างกันไปตามแต่ละคน
กลับสู่สารบัญวิธีการดูแลฟันหลังการ จัดฟัน
หลักๆ การจัดฟันเป็นสิ่งที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกๆ 4-6 สัปดาห์เป็นเวลาอย่างน้อย 2-4 ปี และเรื่องของการทำความสะอาด คนไข้จะต้องทำความสะอาดให้ได้ดี ไม่อย่างนั้นอาจเกิดฟันผุและปัญหาโรคเหงือกตามมาได้และสุดท้ายเรื่องการใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ที่คนไข้ที่จัดฟันไปแล้ว จะต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟันต่อไปเรื่อยๆ มิอย่างนั้นฟันก็จะเคลื่อนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
หลังการ จัดฟัน : ขี้ผึ้งติดเหล็กดัดฟัน สำคัญอย่างไร?
กรณีการใช้ขี้ผึ้งติดเหล็กดัดฟันเกิดจากการที่เหล็กมาเสียดสีกับผิวปากจนทำให้เกิดอาการเจ็บ แสบ บวม ของบริเวณผิวปาก ซึ่งการใช้ขี้ผึ้งก็คือแบ่งออกมาใช้แล้วปั้นเป็นกลม ๆ และแปะที่บริเวณเหล็กจัดฟันเฉพาะจุดเพื่อลดการเสียดสีของแผลที่อาจส่งผลให้แผลหายช้า
ข้อควรระวังหลังการ จัดฟัน
ไม่ควรใช้ฟันกัดของแข็ง โดยเฉพาะโลหะ ฝาขวด , ห้ามใช้ลิ้นดุนฟัน เพราะอาจทำให้ฟันไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าที่ได้ดีเท่าที่ควร
เครื่องมือการดูแลหลังจัดฟัน
สำหรับคนที่ จัดฟัน และต้องดูแลรักษาความสะอาดฟัน ซึ่งจะมีด้วยกัน 5 อย่างด้วยกัน
- ไหมขัดฟัน
- แปรงสำหรับคนจัดฟัน
- แปรงฟอกฟัน
- น้ำยาบ้วนปาก
- Wax ขี้ผึ้ง
รีเทนเนอร์ (Retainer) คืออะไร และมีกี่แบบ?
รีเทนเนอร์ (Retainer) เป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาหรือคงสภาพฟันของเราเอาไว้หลัง จากการจัดฟันรูปแบบต่างๆ ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์จะเป็นอย่างไร? ก็เสี่ยงต่อการเกิดฟันล้ม ซึ่งหากเฟันล้มแล้ว อาจจะต้องกลับมาจัดฟันใหม่อีกรอบ ทำให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายไปกับกาจัดฟันรอบสองแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ฟันล้ม เราต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือตามคำแนะนำของทันตแพทย์จึงจะดีที่สุด
- แล้วต้องใส่ รีเทนเนอร์ (Retainer) นานแค่ไหน? ซึ่งคำตอบก็ขึ้นกับโครงสร้างฟันของแต่ละคน ในช่วงแรกหลังการจัดฟันอาจจะใส่ รีเทนเนอร์ทั้งวันไปสักระยะ หลังจากนั้นอาจจะใส่เฉพาะเวลานอนก็ได้
- รีเทนเนอร์มีกี่แบบ? มี 4 แบบ คือ รีเทนเนอร์แบบลวด รีเทนเนอร์แบบใส รีเทนเนอร์แบบติดแน่น และ รีเทนเนอร์แบคเก็ต (แบบติดเหล็ก)
โอริง (Oring) กับ เชน (Power Chain) คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร?
- โอริง (Oring) มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ลวดหลุดออกจาก Bracket มีลักษณะเป็นวงกลม ซึ่งโอริงจะมีความยืดหยุ่นสูง
- เชน (Power Chain) คือเครื่องมือทางทันตกรรมจัดฟัน ที่ทันตแทพย์จัดฟันจะใช้ปิดช่องว่างระหว่างฟันมีหน้าที่ทำให้ฟันเคลื่อนที่หรือการใช้แรงเพื่อให้ฟันชิดกัน
การเลือก สียางจัดฟัน มีกี่แบบ มีประโยชน์อย่างไร?
สียางจัดฟัน ไม่มีกฏตายตัวว่าใครจะต้องใส่สีอะไร ซึ่งเราสามารถเลือกสียางจัดฟันจากสีเสื้อผ้าที่ชอบใส่ เลือกจากสีที่ชื่นชอบ หรืออื่นๆ ข้อแนะนำคือ สียางจัดฟันที่มีสีค่อนไปทางเข้มจะช่วยให้ฟันดูขาวขึ้น การเลือกจากโทนสีเสื้อผ้าที่ใส่ และสีที่ชื่นชอบก็จะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น
การจัดฟัน นอกจากจะเป็นการช่วยปรับโครงสร้างฟัน แก้ปัญหาฟันที่ผิดรูป ให้กลับเข้าที่เป็นปกติ เช่น ทำให้ฟันเกกลับมาเรียงตัวสวยงาม ฟันห่างกลับมาชิดกัน ฯลฯ อีกทั้งในบางคนยังมีผลพลอยได้จากการจัดฟันอีกด้วย คือ ปรับโครงหน้าให้เรียว ดูสวยงามขึ้นจากเดิม หรือมีโครงหน้าที่เปลี่ยนไปหลังจัดฟันอย่างชัดเจน
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์