miraDry คือ ทางออกลดเหงื่อของคนดื้อโบ โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้โบท็อกซ์ทั้งการฉีดหน้าลดริ้วรอย ฉีดโบลดกราม และลดการทำงานของต่อมเหงื่อใต้รักแร้ไปพร้อม ๆ หรือในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากการเปลี่ยนยี่ห้อ หรือฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะดื้อโบได้ ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อให้ฉีดที่ตัวหรือที่หน้าก็ตาม ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะดื้อโบ และลดงบประมาณในการดูแลตัวเอง เราขอแนะนำ miraDry ตัวช่วยลดเหงื่อและกลิ่นใต้รักแร้ที่ให้ผลลัพธ์แบบยั่งยืน
โบท็อกซ์รักแร้ คืออะไร
การใช้โบท็อกซ์รักแร้เป็นกระบวนการทางการแพทย์ ซึ่งนำสารโบทูลินั่ม ท็อกซินชนิด A (Botulinum toxin type A) ในปริมาณ 50-100 ยูนิต ฉีดเข้าไปในบริเวณรักแร้ เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและลดกลิ่นใต้วงแขน กระบวนการนี้สามารถลดการผลิตเหงื่อใต้รักแร้ได้มากกว่า 80% หลังจากการฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ในเวลาประมาณ 3-7 วันหลังการฉีดเหงื่อจะลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งโบท็อกซ์รักแร้จะมีประสิทธิภาพนานประมาณ 3-4 เดือน อย่างไรก็ตาม บางครั้งการผลิตเหงื่ออาจเร็วกว่าปกติในบางคนที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อน
ภาวะการดื้อโบทอกซ์ คืออะไร
การดื้อโบท็อกซ์เกิดขึ้นเมื่อร่างกายพัฒนาภูมิคุ้มกันต่อสารโบทูลินั่ม ท็อกซินชนิด A (Botulinum toxin type A) ซึ่งถูกใช้ในการทำโบท็อกซ์ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะร่างกายมองว่าโบท็อกซ์เป็นสารแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย เป็นผลมาจากการฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือปริมาณที่เกินไป ซึ่งทำให้สารโบท็อกซ์คงอยู่ในร่างกาย
เริ่มต้นครั้งแรกที่ฉีดโบท็อกซ์ อาจจะเห็นผลดีเนื่องจากร่างกายยังไม่เคยพบสารแปลกปลอมนี้ แต่เมื่อร่างกายเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารนี้ การฉีดโบท็อกซ์ครั้งถัดไปอาจไม่มีผลลัพธ์หรือมีผลน้อยลง เป็นผลมาจากการร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันแอนติบอดี้ หรือภูมิคุ้มกันออกมา ซึ่งจะทำให้การฉีดโบท็อกซ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือเห็นผลน้อยลง
สัญญาณที่บ่งชี้ภาวะดื้อโบท็อกซ์ คือ ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ลดลง ซึ่งเริ่มต้นจากประมาณ 6 เดือน ลดลงเรื่อย ๆ ไปจนถึงจุดที่การฉีดโบท็อกซ์ไม่มีผลอีกต่อไป หรือสามารถทดสอบได้โดยการฉีดที่บริเวณหน้าผากหรือจุดที่มีริ้วรอยในฝั่งเดียว และรอดูผลลัพธ์หลังจาก 2 สัปดาห์ หากริ้วรอยไม่หายไป แสดงว่ามีภาวะดื้อโบท็อกซ์
ผลกระทบของการดื้อโบท็อกซ์ รวมถึง
- ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง
- อาจต้องใช้ยาในปริมาณมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เสียเวลาและทรัพยากร
- การรักษาโรคบางโรคที่จำเป็นต้องใช้โบท็อกซ์อาจไม่สามารถดำเนินได้อย่างปกติ
เพื่อป้องกันการดื้อโบท็อกซ์ ควรจะ
- เลือกใช้โบท็อกซ์ที่เป็นแท้หรือมีคุณภาพดี และมาตรฐาน
- ฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่เกินความจำเป็น
- ให้แพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ดูแลและให้คำแนะนำในการใช้โบท็อกซ์อย่างแม่นยำ
miraDry คืออะไร
miraDry (มิราดราย) เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ช่วยในการกำจัดเหงื่อและกลิ่นตัวในบริเวณใต้วงแขนอย่างถาวร โดยใช้พลังงานคลื่นในการทำลายต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่น การใช้เทคโนโลยีนี้สามารถยับยั้งการเกิดเหงื่อและกลิ่นเหม็นได้อย่างถาวรโดยไม่จำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้ง
miraDry ถูกพัฒนาโดยบริษัท miraDry, Inc. จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการรับรองจาก US FDA และมีงานวิจัยรองรับเพื่อพิสูจน์ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ รับรองความปลอดภัยสูง การรักษามีประสิทธิภาพ และสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีถึง 90% โดยมีการแนะนำจาก sweathelp.org และ International Hyperhidrosis Society อีกด้วย
สาเหตุ “กลิ่นตัวเหม็น” เกิดจากอะไร กลิ่นตัวแรงรักษาอย่างไรดี? MiraDry ที่ไหนดี รีวิว เคล็ดลับการลดกลิ่นตัว ลดเหงื่อแบบถาวร รีวิว ทำยังไงดีเมื่อมีกลิ่นตัวเหม็นเขียวmiraDry ทางออกลดเหงื่อของคนดื้อโบ
miraDry ทางออกลดเหงื่อของคนดื้อโบ จริงหรือ? ต้องอธิบายว่า หากคุณมีปัญหาทั้งหน้ามีริ้วรอย กรามใหญ่ และมีเหงื่อออกรักแร้เยอะ รวมถึงมีกลิ่นตัวรบกวน การฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาทั้งหมดอาจเสี่ยงเกิดภาวะดื้อโบได้ง่าย มากไปกว่านั้นยังเสียงบการรักษาไปแบบบานปลาย เพราะต้องทำทุก ๆ 4-6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่อย่างนาน แต่ทางออกสำหรับปัญหากลิ่นตัวและเหงื่อออกมากใต้รักแร้ คุณสามารถใช้บริการ miraDry แทนได้ ดีกว่าตรงที่ ให้ผลลัพธ์สูง ไม่เจ็บ ปลอดภัย ไร้อาการข้างเคียง และ จ่ายครั้งเดียวจบ ให้คุณเก็บโบไว้ฉีดหน้า ลดภาวะเสี่ยงดื้อโบได้เป็นอย่างดี
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง