ผ่าตัดกระเพาะทำให้ผอมได้จริงหรือไม่ ? ภาวะอ้วนและอ้วนผิดปกติเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในไทย ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารจานด่วนและการออกกำลังกายน้อย ซึ่งมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง
การผ่าตัดกระเพาะ หรือ Bariatric Surgery คือการรักษาที่ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักในระยะยาวและลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคอ้วน การผ่าตัดไม่ได้เพียงเพื่อความสวยงาม แต่เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การผ่าตัดรักษาโรคอ้วน (Bariatric Surgery)
เป็นการลดน้ำหนักที่ช่วยให้ผู้ป่วยโรคอ้วนสามารถควบคุมอาหารและน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน โดยการลดขนาดกระเพาะอาหาร เช่น การผ่าตัดแบบ Sleeve Gastrectomy และการใช้เทคนิค OverStitch ซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัด
เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและควบคุมปริมาณอาหารที่ทานได้มากขึ้น โดยค่าเฉลี่ยการลดน้ำหนักจากการผ่าตัดคิดเป็น 60-70% ของน้ำหนักส่วนเกิน ซึ่งช่วยปรับดัชนีมวลกาย (BMI) ของผู้ป่วยให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ประเภทของการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคอ้วน
- Sleeve Gastrectomy การผ่าตัดแบบสลีฟ เป็นการลดขนาดกระเพาะโดยตัดส่วนของกระเพาะออกประมาณ 70-80% ทำให้กระเพาะมีรูปร่างคล้ายหลอด ลดการผลิตฮอร์โมนเกรลินซึ่งช่วยลดความอยากอาหาร
- Gastric Bypass เป็นการผ่าตัดที่แบ่งกระเพาะออกเป็นสองส่วนแล้วต่อกับลำไส้เล็ก ซึ่งช่วยลดการดูดซึมแคลอรีและสารอาหาร ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
- OverStitch เทคนิคเย็บกระเพาะจากภายในโดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้การส่องกล้องเพื่อเย็บให้กระเพาะเล็กลง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ยังไม่เหมาะสมกับการผ่าตัด
เป้าหมายหลักของการผ่าตัด
เป้าหมายของการผ่าตัดคือเพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะให้ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่า 25 kg/m² ช่วยให้ผู้ป่วยลดภาวะแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
การคาดหวังผลลัพธ์
โดยเฉลี่ย การผ่าตัดช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินได้ประมาณ 40-75% ภายใน 1-2 ปีหลังการผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัดและความมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและออกกำลังกาย ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักรวมได้ประมาณ 15-35% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด (%TWL) หรือ 40-75% ของน้ำหนักส่วนเกิน (%EWL)
การรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อควบคุมน้ำหนักเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจากโรคอ้วนขั้นรุนแรงหรือผู้ที่มีโรคร่วมที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน การผ่าตัดช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมประจำวันได้คล่องแคล่วมากขึ้น
ผ่าตัดกระเพาะ ลดความอ้วน เหมาะกับใครบ้าง ?
การผ่าตัดกระเพาะเพื่อการลดน้ำหนัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนขั้นรุนแรง โดยใช้ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นเกณฑ์ โดยเฉพาะผู้ที่มีค่า BMI ตั้งแต่ 37.5 kg/m² ขึ้นไป หรือ 32.5 kg/m² พร้อมโรคร่วม เช่น เบาหวานหรือความดันโลหิตสูง
เงื่อนไขที่ควรพิจารณา
- อายุ ระหว่าง 16-65 ปี
- ความพร้อมรับความเสี่ยง ผู้ป่วยควรเข้าใจผลที่อาจเกิดขึ้นและรับความเสี่ยงได้
- ความพยายามในการลดน้ำหนักก่อนหน้า ใช้วิธีลดน้ำหนักอื่นมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ
- การปฏิบัติตัวและการติดตามหลังผ่าตัด ควรมีความเข้าใจและยอมรับกระบวนการดูแลตัวเองระยะยาว
ความร่วมมือจากครอบครัวและคนรอบข้างก็มีความสำคัญในการสนับสนุนสุขภาพจิตและการปรับตัวของผู้ป่วย
ทำไมต้องผ่าตัดกระเพาะ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
รีวิวผ่าตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วน
บอกเล่าความประทับใจของลูกค้า บินมาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์