ดูดไขมันหน้า คืออะไร? ข้อควรรู้ก่อนการเข้ารับบริการและ Aftercare

ก่อนเริ่มการดูดไขมัน แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณแก้มเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายและลดความเจ็บปวดระหว่างทำ การฉีดยาชาเฉพาะที่ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดมยาสลบและทำให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างราบรื่น

การ ดูดไขมันหน้า จะใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการทำในบริเวณเล็ก ๆ อย่างแก้ม โดยเครื่องมือที่นิยมใช้ คือ AccuTite หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กและมีความแม่นยำสูง เครื่องมือนี้จะช่วยดูดไขมันออกอย่างนุ่มนวลและปลอดภัย โดยการดูดไขมันจะทำผ่านแผลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ติ่งหูหรือบริเวณที่มองไม่เห็น

หลังการดูดไขมันหน้า การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ผู้รับบริการควรสวมชุดกระชับใบหน้าตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยให้ใบหน้าเข้ารูปเร็วขึ้น และลดอาการบวม นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดการกระแทกบริเวณที่ทำ งดการออกกำลังกายหนัก และหมั่นทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือโรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันหน้า เนื่องจากขั้นตอนนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน หรือส่งผลต่อการฟื้นตัวหลังทำ นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือรับยาที่ส่งผลต่อการรักษาแผลก็ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

ผู้ที่มีผิวบางหรือผิวที่มีความยืดหยุ่นน้อยควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันหน้า เนื่องจากหลังการดูดไขมัน ผิวที่บางและยืดหยุ่นน้อยอาจเกิดปัญหาหย่อนคล้อย ไม่เข้ารูปตามที่ต้องการ นอกจากนี้ การดูดไขมันที่แก้มในผู้ที่มีผิวบางอาจเสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้

การตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่ไม่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงการดูดไขมันหน้า เนื่องจากการทำในช่วงตั้งครรภ์อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งแม่และทารกในครรภ์ แม้ว่าจะเป็นหัตถการที่ไม่อันตราย แต่การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการสะสมของไขมัน อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ การฉีดยาชาหรือยาใด ๆ ที่ใช้ในขั้นตอนนี้อาจมีผลกระทบต่อทารกได้ จึงควรเลี่ยงจนกว่าจะคลอดและร่างกายฟื้นตัวเต็มที่

การพิจารณาถึงข้อจำกัดและกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมันที่แก้มจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในขั้นตอนการรักษา ควรปรึกษาแพทย์และประเมินสุขภาพอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวคุณเอง

การฉีดเมโสแฟต คือ การฉีดสารที่ช่วยสลายไขมันเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณแก้มเพื่อทำให้ไขมันลดลง วิธีนี้เป็นที่นิยมเพราะไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาทำไม่นาน อย่างไรก็ตาม เมโสแฟต มักให้ผลลัพธ์ในระยะสั้นและจำเป็นต้องฉีดซ้ำหลายครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันสะสมมาก อาจไม่เห็นผลเท่ากับการดูดไขมันที่สามารถกำจัดไขมันออกไปได้ถาวรกว่า และไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ

การร้อยไหม เป็นการใช้เส้นไหมเพื่อยกกระชับผิวหน้าและปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้น โดยเส้นไหมจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่หากปัญหาหลักคือไขมันสะสมที่แก้ม การร้อยไหมอาจไม่ตอบโจทย์ เพราะไม่ได้กำจัดไขมันโดยตรงเหมือนกับการดูดไขมัน นอกจากนี้ การร้อยไหมอาจมีผลลัพธ์ชั่วคราวและต้องทำซ้ำทุก 1-2 ปี

การใช้เลเซอร์ เช่น เลเซอร์ยกกระชับหรือเลเซอร์สลายไขมัน เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและช่วยในการลดไขมันและยกกระชับผิวหน้าได้ในระดับหนึ่ง เลเซอร์ทำงานโดยใช้พลังงานแสงไปทำลายเซลล์ไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเล็กน้อยและต้องการผลลัพธ์ที่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม การใช้เลเซอร์ไม่สามารถกำจัดไขมันได้มากเท่ากับการดูดไขมันที่แก้ม และอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

ดูดไขมันหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มมากและต้องการกำจัดไขมันออกไปถาวร โดยไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ ในขณะที่การฉีดเมโสแฟต การร้อยไหม และการใช้เลเซอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและมีระยะเวลาการฟื้นตัวสั้นกว่า

แต่ผลลัพธ์อาจอยู่ไม่นานและไม่สามารถกำจัดไขมันได้เท่ากับการดูดไขมัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัญหาของแต่ละบุคคล รวมถึงปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด

ในระหว่างการ ดูดไขมันหน้า แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายและไม่รู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการ ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดได้อย่างมาก หลังจากการทำ ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ทำ แต่ความเจ็บนี้มักจะไม่รุนแรงและจะบรรเทาลงในไม่กี่วัน หากมีอาการเจ็บหรือไม่สบายมากเกินไป แพทย์จะให้คำแนะนำในการใช้ยาแก้ปวดตามความเหมาะสม