นอกวงการศัลยกรรม เวลามีคนพูดถึง “ดูดไขมัน” จะถูกมองว่าเป็นทางลัดในการลดน้ำหนักอยู่เสมอ เพราะปริมาณไขมันในร่างกาย สัมพันธ์กับน้ำหนักที่ลดลงโดยตรง ทำให้สาวๆ หลายคนสนใจเรื่องนี้เพราะเข้าใจว่าเป็น วิธีลดหุ่นอย่างรวดเร็ว ยิ่งลดแบบทั้งตัวก็น่าจะทำให้ผอมได้เร็ว
แพทย์จะเน้นย้ำเสมอว่า “ศัลยกรรมดูดไขมัน เน้นเรื่องความสวยงามเป็นสำคัญ” เป็นการลดไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย เพื่อปรับลดไขมันสะสมบางส่วนในร่างกายให้ดูเข้ารูปมากขึ้น สร้างความมั่นใจในการเผยสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักที่ถูกวิธี เพราะน้ำหนักสามารถกลับมาเพิ่มได้ทุกเวลา
เหตุผลที่หลายคนตัดสินใจ ดูดไขมัน
เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนส่วนใหญ่ ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา จากการเรียน ทำงาน ธุรกิจส่วนตัว ทำให้ไม่มีเวลาดูแลรูปร่าง แต่อาจมีเหตุให้ต้องลดน้ำหนักในเวลาสั้นๆ ซึ่งการดูดไขมันก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ให้ผลลัพธ์เร็วและเห็นผลชัดเจน
- ให้ใส่ชุดสวยๆ ได้ทันก่อนออกงานสำคัญ
- อยากลดสัดส่วนตัวเอง เปลี่ยนลุคและภาพลักษณ์ดูดีขึ้น
- ใส่ชุดว่ายน้ำ ไปเที่ยวทะเล
- มีงานต้องออกสื่อ ถ่ายแบบ ขึ้นเวทีแสดง
- สมัครงาน ที่ต้องใช้รูปร่างเป็นเกณฑ์ตัดสิน
- ใส่ชุดเจ้าสาวก่อนงานแต่ง
ดูดไขมัน มีข้อดีอย่างไร?
วิธีลดน้ำหนักแบบรวดเร็วที่มีหลายวิธี แต่ทางลัดที่ไม่มีความเสี่ยงมาก คงไม่พ้นดูดไขมัน ด้วยหลายสาเหตุสนับสนุน
- ไขมันส่วนเกินออกจากร่างทันที ในปริมาณหลายลิตร
- ฟื้นตัวเร็ว ไม่ค่อยมีอาการบวมหรือผลข้างเคียงภายหลัง
- ไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงจากยา
- ไม่ต้องเสี่ยงกับโยโย่
- ปลอดภัยเพราะมีแพทย์ดูแล มีการติดตามผลหลังทำ
เมื่อดูข้อดีโดยรวม ทำให้ ดูดไขมัน กลายเป็นวิธีลดน้ำหนักแบบอ้อมๆ ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ดูดไขมันทั้งตัวอันตรายไหม ไม่ดีกับสุขภาพจริงหรอ
ถ้าคิดจะ ดูดไขมันทั้งตัว สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ ปริมาณไขมันที่ดูดออกนั้นมีขีดจำกัด หากดูดออกมากเกินไป อาจจะเกิดอันตรายได้!
ศัลยกรรมดูดไขมัน จะมีการเสียเลือดบางส่วนไปบ้าง ผลจากการสูญเสียของเหลวบางส่วนในร่างกายในเวลาอันสั้น ทำให้มีผลข้างเคียงต่อระบบการทำงานของร่างกาย ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะระวังในจุดนี้เป็นพิเศษ และนัดทำหลายครั้งเพื่อลดความเสี่ยงลง
ดูดไขมันแค่ไหนถึงปลอดภัย ? ตามไกด์ไลน์ที่ใช้มาหลายปี ปริมาณไขมันที่ดูดออก จะอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 3.5 – 5 ลิตร ต่อวัน โดยไม่ขึ้นกับดัชนีมวลกายของคนไข้ ในบางรัฐของอเมริกาเคยมีกฎหมายที่จำกัดไม่ให้ดูดไขมันเกิน 4 ลิตรต่อวัน เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา แม้ว่าเครื่องมือในปัจจุบันจะทันสมัยขึ้น และไม่ค่อยมีเคสที่เป็นอันตรายถึงชีวิตกับคนไข้ดูดไขมัน แต่การเสียของเหลวในร่างกายทีละมาก ๆ ยังคงเป็นเรื่องระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
จึงเป็นเหตุผลที่ว่า คนอ้วนมาก ๆ ไม่เหมาะที่จะดูดไขมัน การลดน้ำหนักที่ดี ให้ได้ผลยั่งยืน ควรให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเป็นสำคัญ กรณีเสี่ยงที่จะมีโรคประจำตัวและอยู่ในเกณฑ์โรคอ้วน (BMI เกิน 30) อาจพิจารณา ผ่าตัดกระเพาะ แทน ซึ่งเป็นวิธีปรับพฤติกรรมการรับประทานที่ให้ผลลัพธ์แบบถาวรยิ่งกว่า
ข้อเสียของ ดูดไขมันทั้งตัว
การดูดทั้งตัว ถ้าแพทย์ขาดประสบการณ์ ไม่เข้าใจสภาพร่างกายของผู้เข้ารับการรักษาที่ดีพอ อาจทำให้คนไข้พบปัญหาหลายเรื่อง
- การดูดไขมันวันเดียว จะต้องยาชาผสมน้ำเกลือใช้ปริมาณมาก หากคนไข้ได้รับยาในปริมาณที่มากเกินร่างกายรับได้ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ เช่น น้ำหนัก 60 กิโลกรัม ต้องใช้น้ำเกลือราวๆ 20% ของน้ำหนักตัว ซึ่งมีความเสี่ยงน้ำท่วมปอด เพราะฉะนั้นก่อนคิด ดูดไขมันที่ไหนดี จะต้องดูประวัติ-ผลงานของแพทย์ รวมถึงประวัติคลินิกให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัย
- ความเจ็บปวดหลังทำเสร็จ และอาการบวม หลังทำที่มากกว่าปกติ
- ผลลัพธ์อาจไม่สวยแบบที่ต้องการ
- อาจมีริ้วรอยคลื่น ก้อนแข็งๆ แบบ หรือที่เรียกว่า ก้อนซีโรม่า ตามจุดต่างๆ
- เสียของเหลวปริมาณมากเกินไป จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
รีวิว เคสแก้ดูดไขมันทั้งตัว จากคลินิกอื่น ทำให้หลังบุ๋ม แขนบุ๋ม ผิวไม่เรียบ ผิวเป็นคลื่น และเกิดพังผืด ที่เกิดจากการใช้ความร้อนที่มากเกินไป ต้องแก้ด้วยการเติมไขมันใหม่
ดูดไขมันทั้งตัว ราคาเท่าไหร่ ?
บางคนต้องการ ลดไขมันส่วนเกินทุกส่วนพร้อมกัน จึงต้องการราคาพิเศษในราคาเหมาจ่ายที่น่าจะถูกกว่าทีละจุด แต่บ่อยครั้งหาราคาไม่พบ หรือ เจอราคาที่ถูกกว่าปกติมาก แต่ไปถึงคลินิกเจอชาร์จเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว
เหตุผลที่กำหนดราคาแบบเหมาจ่ายทั้งตัวยาก เพราะร่างกายแต่ละคนมีสรีระที่แตกต่างกันออกไป บางคนอวบเพราะกล้ามเนื้อเยอะในส่วนแขนหรือขาไม่สามารถดูดออกไปได้ บางคนดูดบางจุดไปผลลัพธ์ก็ไม่สวย อีกทั้งดูดไขมันทั้งตัวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ แพทย์อาจต้องนัดให้เข้ามาพบหลายครั้ง ติดตามผลหลังศัลยกรรมอย่างใกล้ชิด จึงกำหนดราคาเหมารวมๆ จึงเป็นเรื่องยาก
สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินแบบทุกจุดในร่างกาย ควรเข้ามาพบแพทย์ผู้ชำนาญการ มีประสบการณ์ดูดไขมันหลายเคส เพื่อประเมินส่วนที่เหมาะสมในการลดน้ำหนัก ถึงจะทราบราคาตั้งตัวที่ชัดเจน
5 บริเวณที่นิยมดูดไขมัน
การออกกำลังกายเฉพาะส่วนเป็นที่รู้กันในกลุ่มผู้ออกกำลังกายว่าไม่ได้ผล จะลดไขมันส่วนเกินต้องลดทุกส่วนพร้อมกัน ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แล้วยังต้องใช้เวลา ความพยายาม แล้วยังอาจได้กล้ามเนื้อมาแทนที่ไขมัน ทำให้การดูดไขมันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุดกว่า
ลดส่วนเกินไม่จำเป็นต้องเหมาตั้งตัวเสมอ เลือกในจุดโดดเด่นของร่างกายเพื่อให้เข้ารูป จุดที่ได้รับความนิยมในการดูดไขมันช่วงปี 2024 มีดังนี้
- ดูดไขมันหน้าท้อง : เป็นส่วนที่กังวลมากสุด จากไขมันสะสมที่ทำให้พุงใหญ่ขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องอ้วน แค่อวบขึ้นสัก 2-3 นิ้ว จนใส่กระโปรงหรือกางเกงไม่ได้ ก็สร้างความกังวลได้มาก และมักลามไปถึงสะโพกกับต้นขาที่ใหญ่ขึ้นด้วย ทำให้บางทีต้อง ดูดไขมันเหมา บริเวณพุงและช่วงล่าง เพื่อให้กลับมาเข้ารูปเหมือนเดิม อีกเหตุผล คือ ทำร่วมกับ ดูดไขมันซิกแพค หรือ ดูดไขมัน ร่อง 11 เพื่อเห็นโครงของกล้ามเนื้อที่เด่นชัดยิ่งขึ้น
- ดูดไขมันต้นขา : ขาใหญ่ น่องโต เป็นคำพูดที่เจ็บแปล๊บไม่แพ้เรื่องเอวคับเช่นกัน หมดความมั่นใจในการใส่ขาสั้น หรือ ชุดว่ายน้ำไปมาก เป็นอีกจุดที่ได้หลายคนอยากให้เข้ารูป
- ดูดไขมันต้นแขน : แขนใหญ่ ต้นแขนใหญ่ ดูอวบเกินไป เวลาใส่เกาะอก เปิดไหล่ ทำให้เห็นความใหญ่ของแขนชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- ดูดไขมันเอว: บางคนลดน้ำหนักจนเริ่มผอมแล้ว ก็ยังไม่มีเอว เพราะไขมันไปสะสมตรงเอวเยอะกว่าส่วนอื่น การดูดไขมันจะช่วยทำให้มีเอวเอส เอวคอดได้แน่นอน
- ดูดไขมันสะโพก : ส่วนที่ไขมันสะสมง่าย ทำให้ดูสะดุดตา
ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันมีความปลอดภัยสูง ขึ้นกับว่าจะมีการล้ำเส้นข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่วางไว้มากแค่ไหน ถ้าต้องการดูดไขมันทั้งตัว อาจแบ่งเป็นแบบ ดูดเหมาจุด หรือ เหมาส่วน แล้วนัดคุณหมอทำหลายครั้งก็ได้เช่นกัน
ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกเสมอ มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมความงามและปรับรูปร่างกว่า 23 ปี บริหารโดย นพ. สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ แพทย์ที่มีประสบการณ์ดูดไขมันกว่า 12,400 เคส มีความชำนาญด้านเทคนิคการดูดไขมันแบบต่างๆ
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
Biography