ดูดไขมันเหนียง (Liposuction Chin) คือ ทางออกช่วยปรับกรอบหน้าให้คมชัด พร้อมยกกระชับ ด้วยเทคนิคของ รัตตินันท์ คลินิก ช่วยกำจัดไขบนใบหน้า ทั้งเหนียง กรอบหน้า แก้มและคาง ที่มักเกิดจากพันธุกรรม น้ำหนักตัว หรือความหย่อนคล้อยของผิวหนังเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่มีมิติและขาดความคมชัด
ไขมันใต้คาง ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ เพราะทำให้ใบหน้าดูใหญ่และไม่กระชับ การแก้ไขปัญหานี้ช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจ ซึ่งการดูดไขมันเหนียงจะช่วยขจัดไขมันส่วนเกินบริเวณคาง แก้ม กรอบหน้าและลำคอ ทำให้ใบหน้าดูคมชัด มีมิติ และยกกระชับมากขึ้น เทคนิคที่ทันสมัยช่วยให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและปลอดภัย
ดูดไขมันแต่ละส่วน แตกต่างกันอย่างไร?
การ ดูดไขมันบริเวณใบหน้า เช่น กรอบหน้า แก้ม เหนียง และคาง มีความคล้ายคลึงกันตรงที่เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวและคมชัดยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแต่ละบริเวณมีรายละเอียดและจุดประสงค์เฉพาะในการดูดไขมัน ดังนี้
ดูดไขมันกรอบหน้า
การดูดไขมันกรอบหน้า เป็นการกำจัดไขมันบริเวณแนวกรามและแก้มส่วนล่าง เพื่อให้กรอบหน้าชัดเจนและมีมิติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเนื่องจากไขมันสะสมมากเกินไป วิธีนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นและมีกรอบหน้าที่คมชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ดูดไขมันหน้า
การดูดไขมันหน้า คือ การกำจัดไขมันที่สะสมทั่วบริเวณใบหน้า เช่น บริเวณแก้ม หน้าผาก และบริเวณรอบ ๆ กรอบหน้า วิธีนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลงและเรียวขึ้น โดยแพทย์จะประเมินและเลือกดูดไขมันเฉพาะจุดที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและไม่ทำให้หน้าดูแบนหรือขาดมิติ
ดูดไขมันแก้ม
การดูดไขมันแก้ม จะเป็นการเน้นกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มที่ทำให้ใบหน้าดูกลมและอวบเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มใหญ่หรือมีไขมันสะสมมากจนทำให้หน้าดูกว้าง การดูดไขมันแก้มจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและมีโครงหน้าชัดเจนมากขึ้น
ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง หรือใต้คางมุ่งเน้นไปที่การกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณใต้คางและลำคอส่วนบน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคางสองชั้นหรือเหนียงที่มองเห็นได้ชัดเจน วิธีนี้ช่วยลดคางสองชั้นและทำให้ใบหน้าดูเรียวยาว
ดูดไขมันคาง
การดูดไขมันคาง เป็นการกำจัดไขมันบริเวณใต้คางและบริเวณที่ต่อกับลำคอส่วนบน การดูดไขมันคางจะช่วยลดคางหนาและไขมันส่วนเกินที่ทำให้คางดูใหญ่เกินไป นอกจากนี้ยังช่วยให้คางดูเรียวและสมดุลกับใบหน้ามากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีสัดส่วนและเรียบเนียน
แม้ว่าการดูดไขมันแต่ละบริเวณจะมีจุดประสงค์ในการปรับรูปหน้าที่คล้ายคลึงกัน แต่แพทย์จะทำการประเมินและเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม
โดยที่ รัตตินันท์ คลินิก เรามีเทคนิคและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการดูดไขมันในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเป็นทางเลือกในการปรับบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น
ประโยชน์ของการ ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันหน้า ดูดไขมันแก้ม
การ ดูดไขมันหน้า มีประโยชน์หลัก ๆ คือ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและเล็กลงทันทีหลังทำ ช่วยแก้ปัญหาแก้มใหญ่ หน้ากลม หรือมีไขมันส่วนเกินที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ การดูดไขมันที่แก้มจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับรูปหน้าให้สมส่วนและดูสวยงามมากขึ้น
นอกจากนี้ ดูดไขมันเหนียง การดูดไขมันหน้า ดูดไขมันแก้ม ยังช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับโครงหน้า ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้นและมีมิติมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงลดความกังวลเรื่องการพักฟื้นและความเสี่ยงจากการผ่าตัด
วิธีการดูดไขมันเหนียงที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและได้มาตรฐาน
เทคนิคการดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียงที่ รัตตินันท์ คลินิก มีการใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัยและทันสมัย เพื่อดูดไขมันและยกกระชับผิวในขั้นตอนเดียว ในกรณีที่คุณต้องการยกกระชับผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ สามารถใช้บริการ ฮีเลียมพลาสมา เพื่อช่วยยกกระชับผิวเพิ่มเติม ด้วยพลังงานพลาสมาเย็น ทำให้ผิวตึงกระชับทันทีโดยไม่ทำให้ผิวไหม้
นอกจากนี้ ทีมแพทย์ยังประเมินและแก้ไขให้ด้วยเทคนิค Facial Design ที่ออกแบบใบหน้าให้แบบเคสต่อเคส
ความแตกต่างของเทคนิคแต่ละแบบ
- ใช้คลื่นวิทยุ RF ช่วยดูดไขมันและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว
- เทคนิคการดูดไขมันด้วยพลังงานสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันปริมาณมาก โดยปราศจากความร้อน
- พลังงานคลื่นวิทยุ RF และพลังงานสั่นสะเทือนเพื่อการดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ สลายไขมันในชั้นลึก เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันมากด้วยความร้อน
- ช่วยยกกระชับผิวทันทีหลังการดูดไขมัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย
- ใช้พลังงานน้ำแรงดันสูงช่วยแยกไขมันออกอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับการดูดไขมันบริเวณที่บอบบาง
- ใช้เลเซอร์ช่วยสลายไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันบริเวณเล็ก ๆ
ดูดไขมันเหนียง เหมาะกับใคร?
- คนที่มีเหนียงชัดและต้องการให้ใบหน้ากระชับขึ้น
- คนที่มีไขมันสะสมใต้คาง และออกกำลังกายแล้วไม่ลด
- คนที่อยากให้ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
- คนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน
ดูดไขมันเหนียง ไม่เหมาะกับใคร?
- คนที่ต้องการลดน้ำหนักทั้งตัว (การดูดไขมันช่วยลดเฉพาะจุด)
- คนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก
- คนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ
ข้อควรรู้! ก่อนดูดไขมันเหนียง
- การดูดไขมันเหนียงช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวและกรอบหน้าชัดขึ้น
- ควรเลือกเทคนิคที่เหมาะกับสภาพผิวและไขมันของตัวเอง
- ควรเตรียมตัวให้พร้อม งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และยาบางชนิดก่อนเข้ารับบริการ
- ต้อง ใส่ผ้ารัดใต้คาง และดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังทำ
- เลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง ที่ รัตตินันท์
1. การประเมินเบื้องต้นกับทีมแพทย์ ฟรี!
- การพูดคุยกับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและความต้องการเฉพาะบุคคล
- การตรวจสอบสภาพผิวและปริมาณไขมันใต้คาง
- การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิคที่เหมาะสม
2. การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันเหนียง
- งดการใช้ยาบางชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการผ่าตัด
- การรับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองก่อนวันผ่าตัด
- การตรวจร่างกายทั่วไปและเตรียมเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพ
3. ขั้นตอนการดูดไขมันในวันผ่าตัด
- ทำความสะอาดบริเวณคางและลำคอ
- การให้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ (ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้)
- การดูดไขมันด้วยเทคนิคที่เลือก เช่น PAL, NeckTite เป็นต้น
- ใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความซับซ้อน
4. การติดตามผลและดูแลหลังการดูดไขมัน
- การใส่ผ้ารัดหน้าหลังการผ่าตัดเพื่อช่วยกระชับผิว
- การนัดหมายเพื่อตรวจติดตามผลกับแพทย์
- การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน เช่น การหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักในช่วงแรก
ค่าใช้จ่ายในการดูดไขมันเหนียง
ค่าใช้จ่ายในการ ดูดไขมันเหนียง เริ่มต้นที่ 39,000 บาท สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและโปรโมชั่นล่าสุด สามารถตรวจสอบได้ที่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การดูแลตัวเองหลัง ดูดไขมันเหนียง
ดูดไขมันเหนียง กี่วันถึงหายบวม?
หลังจาก ดูดไขมันเหนียง อาการบวมจะลดลงอย่างชัดเจนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก โดยในบางกรณีอาจใช้เวลานานถึง 4-6 สัปดาห์สำหรับการหายบวมเต็มที่
ดูดไขมันเหนียง รัดหน้ากี่วัน?
การใส่ผ้ารัดหน้า แนะนำให้ทำต่อเนื่องในช่วง 3-7 วันแรก หลังจากนั้นสามารถลดระยะเวลาการใส่ลงเพียงวันละ 12 ชั่วโมง 1-3 เดือนหรือตามคำแนะนำของแพทย์
ทำไมต้องใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมันเหนียง?
การใส่ชุดกระชับหลังการดูดไขมันเหนียงจะช่วยกระชับผิว ป้องกันการหย่อนคล้อย ลดบวม และลดการคั่งของของเหลวในบริเวณที่รักษา ช่วยให้ผลลัพธ์เรียบเนียนและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังลดโอกาสเกิดแผลเป็นและเสริมความสบายระหว่างการฟื้นตัว
ดูดไขมันเหนียง นอนตะแคงได้ไหม?
ดูดไขมันเหนียงไม่ควรนอนตะแคง เนื่องจากควรนอนหงายในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ดูดไขมัน
การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายหลังการดูดไขมัน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีนที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูงเพื่อลดการบวม
- เริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังจาก 2-3 สัปดาห์ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมากจนกว่าจะครบ 4-6 สัปดาห์
ทำไมถึงเลือก ดูดไขมันเหนียง ที่ รัตตินันท์
ทำไมถึงควรเลือก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
รัตตินันท์ มุ่งเน้นการให้ บริการดูดไขมันที่ยึดมั่นในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ด้วยประสบการณ์ตั้งแต่ปี 1999 เราพร้อมดูแลคุณด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านและเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโดยเป็นที่ยอมรับจาก อย. และ US FDA
- ออกแบบใบหน้าด้วยเทคนิค Facial Design แบบเคสต่อเคส
- เราใช้เทคนิคที่ช่วยให้ผลลัพธ์การดูดไขมันและยกกระชับผิวได้ในขั้นตอนเดียว
- ห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 14644-1 และการควบคุมความปลอดภัยระดับสูงผ่านมาตรฐาน AACI
รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- ผู้ใช้บริการกว่า 52 ประเทศไว้วางใจในคุณภาพและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
- รีวิวเชิงบวกที่ยืนยันถึงความปลอดภัย ความสวยงาม และการดูแลที่ใส่ใจทุกรายละเอียด
การดูแลครบทุกขั้นตอน
- เทคโนโลยี Fat Equalization ช่วยกระจายไขมันอย่างสม่ำเสมอ ลดปัญหาผิวเป็นคลื่นหรือไม่เรียบหลังการดูดไขมัน
- การดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นจนถึงช่วงฟื้นตัว โดยแพทย์และทีมพยาบาลที่พร้อมให้คำปรึกษา
การลดเหนียงแบบอื่น ๆ นอกเหนือจากการดูดไขมัน
- การใช้เลเซอร์หรือคลื่นวิทยุ เลเซอร์และนวดด้วยคลื่นวิทยุ เช่น เทคโนโลยี RF (Radio Frequency) เป็นทางเลือกที่ช่วยยกกระชับผิวและลดไขมันในบริเวณเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผลอย่างชัดเจน
- การทำ HIFU หรือ Thermage HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Thermage เป็นเทคนิคที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงและคลื่นวิทยุในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว โดยไม่มีการพักฟื้น
- การฉีดเมโสแฟต การฉีดสารสลายไขมันในบริเวณเหนียงเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเล็กน้อย ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นผลในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
ข้อเปรียบเทียบระหว่างการดูดไขมันเหนียงกับวิธีอื่น
- การดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมมากและต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันที
- HIFU/Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและลดไขมันบางส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด
- เมโสแฟต เหมาะสำหรับไขมันปริมาณเล็กน้อยและต้องการวิธีที่ไม่ซับซ้อน
@rattinanofficial บึ้มบั้มเหนียงเยอะจาดดดด😭 #ดูดไขมัน #เหนียงที่รัก #เหนียงออก #เหนียงเยอะ #รีวิวดูดไขมัน #jplasma ♬ เสียงต้นฉบับ – [ 𝚂𝙰𝙳 – 𝚂𝚃𝙾𝚁𝚈 ] – [ 𝚂𝙰𝙳 – 𝚂𝚃𝙾𝚁𝚈 ]2.7M
สรุป ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันหน้าที่ รัตตินันท์ คืออะไร? ดีไหม? ราคาเท่าไหร่?
ดูดไขมันเหนียง หรือ ดูดไขมันหน้า ที่ รัตตินันท์ คือ การสลายไขมันบริเวณกรอบหน้า ช่วยแก้ปัญหาคางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด ทำให้หน้ามีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งการดูดไขมันเหนียงจะเป็นหัตถการที่แตกต่างจากการทำ HIFU หรือ Thermage เพราะการดูดไขมันเหนียงช่วยลดไขมันใต้คางอย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าหากผู้เข้ารับบริการมีการดูแลตัวเองที่ดีควบคู่แล้ว จะยิ่งทำให้การดูดไขมันเหนียงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ราคาเริ่มต้น 39,000 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง สามารถช่วยให้กรอบหน้าคมชัดขึ้นได้จริง เนื่องจากช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางและลำคอ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ใบหน้าดูไม่ชัดเจน การใช้เทคนิคที่ทันสมัยยังช่วยยกกระชับผิวให้เรียบเนียนหลังการรักษาอีกด้วย
โดยทั่วไป การดูดไขมันเหนียงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หากอายุน้อยกว่าหรือมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพร่างกายและผิวหนังจะช่วยให้ทราบว่าคุณเหมาะสมกับการรักษาหรือไม่
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือปัญหาการแข็งตัวของเลือด ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันเหนียง นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรก็ไม่ควรทำการรักษา
ผลลัพธ์ของการดูดไขมันเหนียง สามารถอยู่ได้นานหลายปี หากมีการดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนักอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไขมันอาจกลับมาสะสมได้ในบางส่วน
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง