ไมเกรนคือโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก อาการปวดศีรษะรุนแรงที่มากับอาการร่วมต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แสงวาบตา และเสียงดังรบกวนหู ทำให้ผู้ป่วยไมเกรนทนทุกข์ทรมานจากอาการเหล่านี้เป็นระยะเวลานานนับชั่วโมงหรือหลายวัน นอกจากนี้ไมเกรนยังส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพในการทำงานและกิจวัตรประจำวันอีกด้วย
โชคดีที่ปัจจุบันมีวิธีแก้ปวดหัวไมเกรน การจัดการอาการไมเกรนที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหรือวิธีการไม่ใช้ยา เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นของไมเกรน เราสามารถหลีกเลี่ยงและจัดการกับอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้ที่จะรับมือกับไมเกรนจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิต ลดความทุกข์ทรมาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน
ปวดหัวไมเกรนคืออะไร ?
ปวดหัวไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะประเภทหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างหนัก ลักษณะการปวดจะเป็นแบบกระแทกหรือตุบๆเป็นจังหวะ โดยมักจะเกิดขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ แต่ก็อาจปรากฏที่ทั้งสองด้านได้เช่นกัน อาการปวดในระยะแรกจะค่อนข้างเบาบาง แต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจประสบกับอาการอื่น ๆร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ไม่มีแรง และมีความไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้ย่อมส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันลำบากยิ่งขึ้น
ไมเกรน เกิดจากอะไร?
ไมเกรน (Migraine) เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นก้านสมอง ทำให้หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบตัวและคลายตัวมากกว่าปกติ จึงประสบอาการปวดศีรษะแบบตุ๊บ ๆ คลื่นไส้อาเจียน รวมถึงรู้สึกแพ้แสงจากการถูกกระตุ้นของก้านสมอง
อาการปวดหัวไมเกรน เป็นอย่างไร ?
ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะแบบหนึ่งที่รุนแรงและทรมาน โดยจะมีลักษณะเด่น ดังนี้
อาการปวดหัวจะเป็นแบบตุ๊บ ๆ บริเวณขมับ และอาจร้าวปวดไปยังกระบอกตาหรือท้ายทอย โดยมักจะปวดเพียงข้างเดียว หากแต่บางรายอาจพบว่าปวดหัวทั้งสองข้าง ประกอบด้วยอาการอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้อาเจียน แพ้แสงและแพ้เสียง อาการปวดหัวอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว โดยอาจมีความสัมพันธ์กับรอบเดือน
นอกจากนี้ บางครั้งผู้ป่วยจะประสบกับอาการมองเห็นผิดปกติ ที่เรียกว่า “อาการออร่า” ก่อนเกิดอาการปวดหัว โดยจะเห็นเป็นแสงไฟสีขาวมีขอบหยักหยิก ซึ่งเป็นอาการเตือนนำหน้าก่อนที่จะเริ่มปวดหัว
สาเหตุของการปวดหัวไมเกรน
สาเหตุของอาการปวดศีรษะไมเกรนยังไม่ชัดเจนในปัจจุบัน แต่มีปัจจัยหลายประการที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการดังกล่าว ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในผู้หญิง
- ความเครียดและความกดดัน
- สิ่งแวดล้อม เช่น แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นแรง หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว
- การใช้ยาบางชนิด
- การนอนไม่เพียงพอนอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป
- การออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก
- การสูบบุหรี่
- ภาวะถอนคาเฟอีน
- การอดอาหารหรือรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
แก้อาการไมเกรนโดยไม่ต้องพึ่งยา
เรื่องไมเกรนเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้ป่วยทนทุกข์ทรมานมาก วิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้อาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบ นอกเหนือจากการใช้ยารักษาแล้ว นี่คือวิธีแก้ปวดหัวไมเกรน แบบธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
- การกดจุดแก้ปวดหัวไมเกรน การกดจุดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนเป็นวิธีการทางการแพทย์แผนจีนที่มีหลักฐานจากการวิจัยสนับสนุน ตามรายงานผลการศึกษาในปี 2012 ดังนี้
- สำหรับอาการปวดหัวไมเกรนแบบไม่มีออร่า (ไม่เห็นแสงวูบวาบก่อนปวด) การกดจุดตำแหน่ง PC6 หรือบริเวณเหนือส้นมือประมาณ 3 นิ้ว สามารถช่วยบรรเทาอาการได้
- กรณีปวดศีรษะที่เกิดจากกล้ามเนื้อคอตึงแน่น ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดจุดตำแหน่ง LI-4 ซึ่งอยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของอีกข้างหนึ่ง โดยกดประมาณ 5 นาทีต่อจุดจะช่วยผ่อนคลายอาการได้
วิธีเหล่านี้สามารถทำได้ง่ายด้วยตนเอง และไม่มีผลข้างเคียง เหมาะสำหรับการบรรเทาอาการปวดศีรษะระดับเบื้องต้นก่อนพิจารณาวิธีอื่นต่อไป
- สูดดมน้ำมันหอมระเหยแก้ปวดหัวไมเกรน
น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์เป็นทางเลือกธรรมชาติในการบรรเทาความเครียดและอาการปวดศีรษะไมเกรน การศึกษาจากวารสารแพทย์ European Neurology พบว่า การสูดดมกลิ่นลาเวนเดอร์สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะไมเกรนในผู้ป่วยบางรายได้ วิธีนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีธรรมชาติ
- ทานขิง (ผง) แก้ปวดหัวไมเกรน
งานวิจัยในปี 2014 ได้ศึกษาประสิทธิภาพของขิงผงในการรักษาอาการปวดหัวไมเกรนเปรียบเทียบกับยารักษาไมเกรนชนิด sumatriptan โดยทำการทดลองกับผู้ป่วยไมเกรนกว่า 100 คน ผลปรากฏว่าขิงผงมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้เทียบเท่ากับยา sumatriptan นอกจากนี้ยังพบว่าการรับประทานขิงผงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ยกเว้นในกรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติแพ้ขิงผงมาก่อน
ดังนั้น การรับประทานขิงผงจึงเป็นทางเลือกธรรมชาติที่น่าสนใจสำหรับการบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง
- เล่นโยคะแก้ปวดหัวไมเกรน
การเล่นโยคะช่วยผ่อนคลายความเครียดและความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งจากการศึกษาในปี 2014 แบ่งผู้ป่วยไมเกรนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้รับการรักษาไมเกรนด้วยวิธีทั่วไป ส่วนกลุ่มที่สองได้รับการรักษาด้วยวิธีทั่วไปร่วมกับการเล่นโยคะ ผลปรากฏว่ากลุ่มที่เล่นโยคะสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ดีกว่ากลุ่มที่รักษาด้วยวิธีทั่วไปเพียงอย่างเดียว
การเล่นโยคะช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้ การผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ การเล่นโยคะจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดหัวไมเกรน
- เสริมด้วย “แมกนีเซียม” แก้ปวดหัวไมเกรน
ภาวะขาดแมกนีเซียมมีความเชื่อมโยงกับการเกิดอาการปวดหัวไมเกรนประเภทมีออร่า ซึ่งเป็นอาการแสงวูบวาบที่เตือนก่อนจะปวดศีรษะ ผลงานวิจัยบางชิ้นระบุว่าการเสริมแมกนีเซียมช่วยลดความถี่ของการเกิดไมเกรนได้ในบางราย อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มรับประทานแมกนีเซียมเสริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะหากคุณมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ร่วมด้วย
คนเป็นไมเกรน ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมใด
สำหรับหัวข้อนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีแก้ปวดหัวไมเกรน รวมถึงแนวทางการป้องกันและลดความรุนแรงของอาการไมเกรน ซึ่งประกอบด้วยหลัก 3 ข้อง่าย ๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น
เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราควรระบุปัจจัยหรือสถานการณ์ที่อาจกระตุ้นให้อาการปวดรุนแรงขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น ปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่ การนอนไม่เพียงพอ, ความเครียดและความกังวลใจ, อากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด, แสงสว่างจ้า, สำหรับผู้หญิง ฮอร์โมนเพศและระยะการมีประจำเดือน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
วิธีปฏิบัติเพื่อสุขภาพที่ดี คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในร่างกายให้ทำงานได้อย่างปกติ และยังช่วยหลั่งสารแห่งความสุข หรือเอ็นดอร์ฟิน อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายที่มากเกินไปหรือหักโหมจนเกินไปโดยไม่มีการพักผ่อนนั้น อาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้น ควรตั้งต้นด้วยกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การเดินเร็วหรือปั่นจักรยานใกล้บ้าน และสังเกตอาการของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากบางคนอาจมีความเสี่ยงในการเกิดปวดหัวไมเกรนหากออกกำลังกายหนักหรือต่อเนื่องเกินไป
- ควรหยุดพัก 10 – 20 นาที
เมื่อเริ่มรู้สึกปวดหัวไมเกรน ควรหยุดพักผ่อนประมาณ 10 – 20 นาที โดยพักในห้องที่มีแสงน้อย อากาศเย็นสบาย ไม่อับชื้น และมีบรรยากาศที่เงียบสงบ
แนวทางใช้ยารักษาปวดหัวไมเกรน
โรคไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะรุนแรง บางคนอาจจะเป็นเพราะปวดฟันหรือเหงือกบวมก็ได้ โดยมีวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนที่สามารถรักษาด้วยการใช้ยาได้ผลดี แนวทางการรับประทานยามีดังนี้
- กรณีอาการปวดหัวไม่รุนแรง แนะนำให้รับประทานพาราเซตามอลก่อน เนื่องจากเป็นยาบรรเทาปวดทั่วไปที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดศีรษะจากไมเกรนไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ควรแน่ใจก่อนว่ามีอาการเนื่องจากโรคไมเกรนจริง ไม่ใช่สาเหตุอื่น เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- กรณีอาการปวดหัวรุนแรง สามารถเลือกใช้ยากลุ่ม NSAIDs เช่น นาพรอกเซน หรืออิบูโพรเฟน ซึ่งออกฤทธิ์เร็วและมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดหัวจากไมเกรน ควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหาร เพื่อลดความระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร หรืออาจเลือกใช้ NSAIDs ชนิดอื่นที่ระคายเคืองกระเพาะน้อยกว่า เช่น เอทอริคอกซิบ หรือเซเลคอกซิบ แต่ไม่ควรรับประทานยาเหล่านี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
สรุป
ด้วยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับไมเกรน พร้อมทั้งการปฏิบัติตามวิธีแก้ปวดหัวไมเกรน การจัดการอย่างเหมาะสม จะช่วยให้สามารถควบคุมอาการปวดหัวไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรู้จักสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นของไมเกรน จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าต่าง ๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การใช้ยาแก้ปวดที่เหมาะสม พร้อมทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้อาการปวดหัวคลายลง
ถ้าหากอาการยังคงรุนแรง การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น การฉีดยาคลายกล้ามเนื้อ หรือการทำ the rivation therapy ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ การมีชีวิตประจำวันที่สมดุล พร้อมทั้งการออกกำลังกาย การผ่อนคลายความเครียด และการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรนได้อย่างยั่งยืน
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยด้านสุขภาพที่มีการรักษาในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย