ในอากาศบ้านเราที่ร้อนอบอ้าว พลังงานจากดวงอาทิตย์ปล่อยรังสี UV ต่างๆ มากันไม่หยุดไม่หย่อนแบบนี้ แน่นอนว่าครีมกันแดดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่! หลายๆ คนคงจะทราบว่าครีมกันแดดนั้นประสิทธิภาพของมันไม่สามารถกันแดดให้เราได้ 100% และไม่อยู่ทน 24 ชั่วโมงแน่ๆ ในคนที่ต้องแต่งหน้าทุกวันการเติมกันแดดระหว่างวันอาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก วันนี้เรามีทริคง่ายๆ ในการเติมกันแดดให้หน้าไม่พังแถมป้องกันแสงแดดได้มีประสิทธิภาพอีกด้วย
ประเภทของกันแดดที่สามารถเติมระหว่างวัน
ทุกวันนี้หลักๆ แล้วนวัตกรรมในการผลิตกันแดดมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกันที่ใช้บ่อยคือ
1.ครีมกันแดด + ฟองน้ำหรือ พัฟ
วิธีนี้เป็นวิธีที่เติมกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ก็ทำร้ายเมคอัพที่สุดเช่นกัน แนะนำให้ใช้เป็นกันแดดชนิด chemical เนื้อเบาๆ จะสามารถทาซ้ำและย้ำได้ดีกว่าชนิด physical ที่ส่วนมากจะทิ้งคราบขาว ตอนทาควรแทบเบาๆ ให้ทั่วหน้า อย่าปาดลงไปทีเดียวไม่เช่นนั้นเมคอัพจะหลุด หรือจับตัวเป็นก้อน
2.กันแดดแบบสเปรย์
เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เพราะรวดเร็วและเติมระหว่างวันได้เรื่อยๆ เนื้อสัมผัสสามารถเข้าถึงผิวเราได้โดยง่าย ข้อเสียคือต้องกะปริมาณดีๆ ถ้าใช้น้อยเกินไปก็เสี่ยงที่จะกันแดดได้ไม่เต็มที่ วิธีทดสอบว่าต้องฉีดแค่ไหนถึงเป็นปริมาณ 2 ข้อนิ้ว คือให้ลองฉีดลงบนช้อนวัด ¼ ช้อนชาดูว่ากี่วินาทีถึงเต็ม นั้นคือปริมาณที่เราสามารถกะเอาได้
3.กันแดดแบบผง
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด สามารถปัดลงหน้าได้เลยสะดวก รวดเร็ว เติมระหว่างวันได้เรื่อยๆ แต่ข้อเสียคือ ถ้าใช้ไม่ถึงปริมาณที่กำหนดก็จะไม่สามารถกันแดดได้เพียงพอ แนะนำใช้ตอนที่มีกิจกรรมที่ไม่ต้องเจอแดดมาก หรือ เป็นวันพักผ่อนสบายๆ วิธีนี้ก็ช่วยได้ดี
4.กันแดดแท่ง
กันแดดแบบแท่งนั้น สะดวก พกพาง่าย ใช้ง่ายไม่เลอะเทอะ หลายๆ ยี่ห้อสามารถทาทับลงบนเมคอัพได้เลย เป็นอีกวิธีที่แนะนำในการกันแดดระหว่างวัน เพียงแต่ต้องดูเนื้อสัมผัสดีๆที่สามารถใช้ลงทับเมคอัพได้นอกจากจะช่วยกันแดดแล้วยังไม่อุดตันรูขุมขนอีกด้วย
สำหรับใครที่จะไม่เติมกันแดด แนะนำให้หากันแดดที่
- กันน้ำ
- ค่าการป้องกันสูง (Spf 50 ++++)
- เสถียร
- เนื้อสัมผัสเกาะผิวดี
- ทาให้ถึง 2 ข้อนิ้วตั้งแต่แรก
ผลเสียจากการไม่ทากันแดด หรือ ทาแล้วไม่ถึงในปริมาณที่ต้องการ
การไม่ทากันแดดย่อมส่งผลเสียต่อผิวหนังโดยตรงแน่นอน เพราะผิวเราจะได้รับ UV แบบเต็มๆ แต่ข้อเสียไม่ได้มีเพียงแค่ไม่กัน UV เท่านั้นยังส่งผลร้ายอื่นๆ ตามมาเช่น
- ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ผิวไหม้ เพราะเซลล์ผิวถูกทำลาย
- ฝ้า กระ ถามหา
- เสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนัง
- เพิ่มริ้วรอย หน้าแก่กว่าวัย
ซึ่งปัญหาต่างๆ ถ้าเกิดขึ้นแล้วต้องมาตามแก้ทีหลังจะยิ่งแก้ยากกว่าเดิม แต่สำหรับใครที่มีปัญหาผิวจากการทากันแดดไม่เพียงพอมีรอยเหี่ยวย่น การทำหัตถการในคลินิกถือเป็นการรักษาที่ตอบโจทย์ ตรงจุด และ คลอบคลุมที่สุด
อย่างเช่นการทำ Ulthera เพื่อยกกระชับผิวหน้าได้ลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นเทคนิคใหม่ของการยกกระชับใบหน้า ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด ในระดับผิวชั้นลึกที่สุด โดยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น และเจ็บน้อยลง
บทความที่เกี่ยวข้อง : Ulthera เทคโนโลยี ฟื้นฟู ยกกระชับผิวหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด
การทำ Thermage FLX ก็เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยสร้างให้ผิวแข็งแรงจากการกระตุ้นคอลลาเจนจากการเสื่อมสภาพของผิวหลังโดน UV ทำร้าย อีกทั้งยังช่วยยกกระชับทั้งกรอบหน้า ผู้ที่มีไขมันที่ใบหน้าหรือมีริ้วรอยความหย่อนคล้อยของผิว Thermage FLX ก็ยังสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถทำได้ทุกส่วนของใบหน้าแม้แต่ บริเวณที่เซนซิทีฟมากๆ อย่างรอบๆ ดวงตา ก็สามารถยกกระชับได้อีกด้วย (ไม่สามารถทำได้ใน Ulthera)
แต่สุดท้ายแล้วการทากันแดดก็ยังสำคัญอยู่ดีใครหวังว่าใครที่ต้องการเติมกันแดดระหว่างวันจะได้นำทริคเหล่านี้ไปใช้เพื่อผิวหน้าที่แข็งแรงกันนะคะ
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์ (คุณหมอแต๋ม)
แพทย์ผู้ชำนาญด้านผิวพรรณและเลเซอร์
เกียรตินิยมด้านเวชศาสตร์ความงามจาก American Academy of Aesthetic Medicine
ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี