ดูดไขมันเจ็บไหม คำถามยอดฮิตที่หลายคนมักกังวลเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อจะต้องเข้ารับบริการดูดไขมัน วันนี้เลยจะพามาทำความเข้าใจกันว่า การดูดไขมันที่แท้จริงแล้วมีขั้นตอนอย่างไร ดูดไขมันแล้วเจ็บเหมือนที่เขาพูดกันจริงหรือไม่ ปัจจัยที่ทำให้เรามีอาการเจ็บมีอะไรบ้าง และเมื่อมาดูดไขมันแล้วไม่อยากเจ็บต้องทำอย่างไร ตามมาดูกันเลย
ดูดไขมันเจ็บไหม ระหว่างดูดไขมันจะทนได้รึเปล่า
ดูดไขมัน (Liposuction) ทางเลือกที่ช่วยปรับรูปร่าง ลดสัดส่วน ให้สวยงามในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพเข้ามารองรับ ทำให้การดูดไขมันไม่น่ากลัว มีความปลอดภัยสูง และไม่เจ็บอย่างที่คิด โดยการดูดไขมันสามารถทำได้ทั้งแบบใช้ยาชาเฉพาะที่ (ยาชาเฉพาะจุด) และแบบใช้การดมยาสลบร่วมด้วย
สำหรับคำถามที่ว่าดูดไขมันเจ็บไหม หากบอกว่าไม่เจ็บเลยก็คงจะไม่จริง! เพราะกลไลของการดูดไขมันคือการนำอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่มีความร้อน เช่น BodyTite หรือเครื่องระบบสั่น PAL สอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อดูดไขมันออกมา ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บหรืออักเสบนั่นเอง แต่ความเจ็บของการดูดไขมันนั้นเป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ อาจจะมีอาการระบม หรือความรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ จี๊ด ๆ ตึง ๆ มากกว่า
รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง + ดูดไขมัน Sexy Line ด้วยยาชาเฉพาะที่
รีวิวดูดไขมันต้นขา ด้านนอก ด้วยยาชาเฉพาะที่
รีวิวดูดไขมันน่อง วิธีลดน่องโต ด้วยยาชาเฉพาะที่
ดูดไขมันส่วนไหนเจ็บที่สุด
หลายคนชอบถามกันว่า ดูดไขมันส่วนไหนเจ็บที่สุด หรือ ดูดไขมันต้นขา เจ็บไหม? ดูดไขมันหน้าท้อง เจ็บไหม? จริง ๆ แล้วการดูดไขมันไม่ว่าจะส่วนไหนก็เจ็บ แต่จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ผู้รับบริการแต่ละคนที่มีระดับความอดทนต่อความเจ็บไม่เท่ากัน ความหนาหรือความแข็งของชั้นไขมัน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ดูดไขมัน เทคนิคการให้ยา (ทั้งแบบฉีดยาชาเฉพาะจุด และการดมยาสลบ) การดูแลหลังดูดไขมัน และสำคัญที่สุดคือเทคนิค ความชำนาญ และประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษา
1. เครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมัน
จริง ๆ แล้วอุปกรณ์และเครื่องดูดไขมันนั้นก็มีส่วนสำคัญ ที่ช่วยทำให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และปลอดภัยกว่าการดูดไขมันในอดีต หากเลือกใช้ให้เหมาะสมและตรงกับปัญหาที่ต้องแก้ไข นอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามที่หวังไว้แล้ว หลังการดูดไขมันยังช่วยทำให้เจ็บน้อย เสียเลือดน้อย ฟกช้ำน้อย แผลเล็ก และไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกด้วย
เครื่องดูดไขมันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
- เครื่องดูดไขมันแบบไม่ใช้ความร้อน เช่น เครื่องระบบสั่น PAL (พาล) เครื่องพลังงานน้ำ (water jet) และการดูดไขมันแบบ Traditional ด้วยไซริงค์ธรรมดา
- เครื่องดูดไขมันประเภท Energy Devices เป็นเครื่องที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อดูดไขมัน กระชับผิว ละลายไขมัน เช่น เครื่องดูดไขมันด้วยเลเซอร์ (Laser Lipo) เครื่อง BodyTite ที่ใช้คลื่นวิทยุ RF ในการละลายไขมันและกระชับผิวไปพร้อม ๆ กัน เครื่อง Vaser ใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค และเครื่อง J Plasma ปล่อยแก๊สฮีเลียมเพื่อจุดระเบิดให้เกิดความร้อนใต้ผิว
แต่การใช้เครื่องดูดไขมันประเภท Energy Devices จะต้องระมัดระวังในการใช้ความร้อน ต้องควบคุมค่าพลังงานความร้อนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้พลังงานน้อยจนไม่ได้ผล หรือให้พลังงานมากเกินไปจนผิวไหม้-เกิดพังผืดใต้ผิว ซึ่งหากเกิดแล้วจะแก้ไขได้ยาก และมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
ดูดไขมันเจ็บไหม – เพื่อการลดปัญหาความเจ็บ แพทย์จะเลือกเครื่องมือดูดไขมันให้เหมาะสมในแต่ละบริเวณคือ
- กลุ่มที่ผิวหนังมีความกระชับและยืดหยุ่นในระดับที่ดี แพทย์จะเลือกเครื่องแบบที่ไม่ใช้ความร้อน เช่น PAL ในการดูดไขมันแทน ซึ่ง PAL มีประสิทธิภาพในการดูดไขมันออกได้ในปริมาณมาก ดูดไขมันในส่วนที่เข้าถึงยาก หรือส่วนที่ชั้นไขมันมีความแข็งและเหนียวได้ดี
- กลุ่มที่มีปัญหาผิวทั้งตึงและหย่อนร่วมกัน กลุ่มนี้จะเหมาะกับเครื่องดูดไขมันประเภท Energy Devices มากที่สุด เพราะต้องดูดไขมันออกพร้อมกระชับผิวให้เข้าที่ด้วย ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จะเลือกใช้เครื่อง BodyTite เพราะมีคุณสมบัติช่วยละลายไขมันที่มีความหนาแน่นหรือแข็งมาก ๆ ด้วยการใช้ความร้อนจากคลื่น RF ปล่อยค่าพลังงานออกมาอย่างเหมาะสม และหัวดูดอีกด้านของบอดี้ไทท์ยังสามารถช่วยกระชับผิวได้ในเวลาเดียวกัน
2. เทคนิคการให้ยาชา
ดูดไขมันเจ็บไหม หากเราไปถามกับคนที่บอกว่าเจ็บ ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการให้ยาชาที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้เกิดอาการเจ็บระหว่างดูดไขมันและหลังดูดไขมันได้
การดูดไขมันด้วยการฉีดยาชาเฉพาะจุด ปริมาณยาต้องมีความเข้มข้นมากพอ ฉีดลงลึกและถูกชั้นผิว รวมถึงต้องให้ยาในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัยด้วย
ดูดไขมันด้วยการฉีดยาชาเหมาะกับบริเวณที่มีไขมันสะสมไม่มาก หรือดูดไขมันเพียงส่วนเดียว/ครั้ง เช่น ดูดไขมันเหนียง (ดูดไขมันใต้คาง) ดูดไขมันแขน (ต้นแขน-หัวไหล่) ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันเอว (เอวด้านข้าง-เอวด้านหลัง) ดูดไขมันร่อง 11 (Sexy Line) และดูดไขมันเพื่อเติมใบหน้า (ฉีดไขมันหน้า – Fat Grafting) เป็นต้น
ในปัจจุบัน การดูดไขมันเหมาทั้งตัวสามารถทำได้ด้วยการใช้ยาชาเฉพาะจุดเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีการคำนวณและประเมินโดยแพทย์แล้วว่า สามารถทำได้โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อคนไข้ เช่น
- กรณีคนที่มีไขมันน้อย สามารถดูดไขมันทั้งตัวในครั้งเดียวได้
- กรณีคนที่มีไขมันปริมาณมาก แพทย์จะแบ่งเป็น 3 ส่วนต่อการดูดไขมัน 1 ครั้ง
รีวิวดูดไขมัน ด้วยเทคนิคฉีดยาชาเฉพาะที่ สวยอย่างปลอดภัยในเวลาเร่งด่วน
- เติมไขมันหน้าเด็ก ด้วยไขมันตัวเอง ลดอายุผิว ใบหน้าละมุน เทคนิคจากประเทศเกาหลี
3. เทคนิค ความชำนาญ และประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษา
ความชำนาญและประสบการณ์แพทย์ในการดูดไขมันนั้นเป็นส่วนสำคัญ เพราะการ “ดูดไขมันให้ไม่เจ็บ” ต้องอยู่ในระดับความลึกที่เหมาะสม เพราะหากดูดชั้นตื้นไปอาจทำให้ผิวบุ๋ม ดูดลึกไปอาจจะไปโดนกล้ามเนื้อทำให้เกิดอาการเจ็บได้นั่นเอง ซึ่งแพทย์ที่มีความชำนาญจะสามารถพิจารณาการรักษาได้ ดังนี้
- แพทย์สามารถเลือกใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ดูดไขมันที่เหมาะสมกับปัญหาคนไข้ได้
- มีเทคนิคการดูดไขมันให้ไม่เจ็บ ไม่โดนกล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาทที่สำคัญ
- มีเทคนิคการให้ยาชาที่เหมาะสม และฉีดลงลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการดูดไขมัน ทำให้เจ็บน้อย เลือดออกน้อย และฟกช้ำน้อยมาก
- สามารถดูดไขมันทั้งตัวด้วยการใช้เพียงยาชาเฉพาะจุดได้ โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อคนไข้
คุณหมอสุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (คุณหมอหนึ่ง) รับรางวัล The Legendary Trainer of Inmode ตอกย้ำความสำเร็จการในด้านการดูดไขมันระดับต้น ๆ ของเอเชีย-แปซิฟิก
ในบางเคสที่บอกว่า “ดูดไขมันเจ็บ” นั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- แพทย์ที่ดูดไขมันไม่มีความชำนาญมากพอ ขณะดูดไขมันอุปกรณ์อาจจะไปโดนกล้ามเนื้อ ทำให้เจ็บได้
- แพทย์ไม่มีประสบการณ์ทำให้การใส่ยาชาไม่ถูกชั้นผิว ยาชากระจายไม่ทั่วถึง และไม่ลึกมากพอ คนไข้จึงมีความรู้สึกเจ็บระหว่างดูดไขมันได้
- เทคนิคการผสมยาชาผิดสัดส่วน หรือใส่ปริมาณยาชาความเข้มข้นไม่เพียงพอ ยาชาออกฤทธิ์ได้ไม่นาน ก็อาจทำให้การดูดไขมันแล้วมีความรู้สึกเจ็บได้เช่นกัน
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
ดูดไขมันที่ไหนดี? ข้อควรรู้ก่อนเลือกคลินิกดูดไขมัน สวยอย่างปลอดภัยรีวิวดูดไขมันแขน ออกเป็นลิตร แต่ไม่เจ็บเลย!
ดูดไขมันในปัจจัยต่าง ๆ เจ็บไหม
ดูดไขมันด้วยยาชาเฉพาะจุด เจ็บไหม
ก่อนเริ่มขั้นตอนดูดไขมัน แพทย์จะทำการฉีดยาชาใต้ผิว ซึ่งเป็นการระงับความรู้สึกเฉพาะจุดโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Pure Tumescent ซึ่งขณะฉีดยาชาอาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และเมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ก็จะทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะดูดไขมัน หรืออาจะมีอาการเจ็บแปล๊บ ๆ จี๊ด ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การดูดไขมันโดยใช้ยาชาเฉพาะจุด ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า Pure Tumescent โดยเป็นการคำนวณยาชาให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม ยาชามีความเข้มข้นมากพอ ผสมกับการใส่ยาชนิดอื่นร่วมด้วย
ซึ่งมีข้อดีคือ ยาชาออกฤทธ์ได้เต็มที่ ออกฤทธิ์นาน ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเลยขณะทำและหลังทำไปอีกหลายชั่วโมง รวมถึงทำให้เลือดออกน้อยมากระหว่างและหลังดูดไขมัน ลดอาการฟกช้ำได้อีกด้วย
นอกจากจากนี้ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ยังมีเข็มให้ยาชาและเครื่องให้ยาชา ซึ่งเป็นอุปกรณ์สั่งทำพิเศษสำหรับการให้ยาชาโดยเฉพาะ ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง
- เข็มให้ยาชามีขนาดเล็กมากและมีความยาวกว่าเข็มแบบทั่วไป ทำให้แพทย์สามารถใส่ยาชาลงลึกใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขณะให้ยาชาก็จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- เครื่องให้ยาชา จะมีแรงดันที่ช่วยส่งยาชากระจายได้ยังทุกชั้นผิวได้อย่างทั่วถึง ในบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน
ดูดไขมันกี่วันหายเจ็บ
ดูดไขมันกี่วันหายเจ็บ มักเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย บ้างก็ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องทำงานต่อ บ้างก็ใกล้วันเดินทางไปทำธุระ ไปเที่ยว และเหตุผลอีกมากมาย ระยะเวลาในการฟื้นตัวหรือหายเจ็บจากการดูดไขมันนั้นสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
ดูดไขมันด้วยใช้ยาชาเฉพาะจุด เจ็บกี่วัน
- หลังทำเสร็จทันที ยาชาจะออกฤทธิ์นานต่อเนื่อง ทำให้บริเวณที่ดูดไขมันจะยังมีอาการชาและไม่เจ็บไปอีกประมาณ 3-5 ชั่วโมง หลังจากนั้นอาจมีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อย และมีอาการตึง ๆ บริเวณที่ดูดไขมัน
- 1-2 วันแรก อาจมีการระบายของยาชาและน้ำเกลือที่ใส่เข้าไปใต้ผิว บริเวณที่เปิดแผลดูดไขมัน
- อาการบวมหลังดูดไขมัน จะมีอาการบวมเป็นพิเศษในช่วง 3-7 วัน และจะค่อย ๆ ฟื้นตัว ผิวเริ่มกระชับเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- อาการฟกช้ำหลังทำ อาจเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังของแต่ละคน
อ่านบทความที่น่าสนใจต่อ เพิ่มเติม :
ดูดไขมันร่อง 11 (Sexy Line) ดูดไขมันหน้าท้อง ให้แบนเรียบ ผิวกระชับ!ดูดไขมันด้วยการดมยาสลบ เจ็บไหม
ดูดไขมันเจ็บไหม หากดูดไขมันด้วยการดมยาสลบนั้นยิ่งไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะคนไข้จะได้รับยาในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อทำให้หลับในระดับที่สบาย ๆ ในระหว่างดูดไขมัน และเมื่อตื่นหลังจากดูดไขมันตัวยาก็ยังคงออกฤทธิ์ ทำให้ไม่เจ็บนานต่อเนื่องอีกหลายชั่วโมง ซึ่งการดมยาสลบจะนิยมใช้กับการดูดไขมันหลายจุดพร้อมกัน หรือดูดเพียงจุดเดียวแต่จุดนั้นมีไขมันปริมาณมาก ซึ่งบางครั้งการใช้ยาชาเฉพาะจุดอาจไม่พอ
ดูดไขมันเหมาขาเจ็บไหม หากใช้การดมยาสลบ: หากคนไข้มีไขมันสะสมบริเวณขาเยอะมาก ๆ ทั้ง ต้นขาด้านนอก ด้านใน ด้านหน้า และด้านหลัง การดมยาสลบอาจจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะเป็นการระงับความเจ็บได้ดีและนานกว่ายาชาเฉพาะจุด
สิ่งสำคัญของการดูดไขมันด้วยการดมยาสลบ จะต้องมีวิสัญญีแพทย์ (หมอดมยา) ที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อคอยมอนิเตอร์สัญญาณชีพ (การหายใจ) และดูแลคนไข้ให้ปลอดภัยในระหว่างการผ่าตัด รวมถึงดูแลคนไข้หลังฟื้นจากการดมยาด้วย
ดูดไขมันแบบใช้ยาชาเฉพาะจุด กับดมยาสลบ ต่างกันอย่างไร ?ดูดไขมันทั้งตัว เจ็บไหม?
กรณีต้องการ ดูดไขมันทั้งตัว สามารถทำได้ ทั้งแบบยาชาเฉพาะจุด และดมยาสลบ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎความปลอดภัยของการดูดไขมัน 2 ข้อ คือ
- ปริมาณที่จำกัดของไขมันที่ดูดออกในแต่ละครั้ง การดูดไขมันออกมาใน 1 ครั้ง จะต้องมีไขมันออกมาไม่เกินปริมาณที่การแพทย์กำหนดคือ ประมาณ 4-5 ลิตร เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ ป้องกันการเสียของเหลวในร่างกายไปอย่างฉับพลัน หรือในบางเคสแพทย์วินิจฉัยและคำนวณปริมาณไขมันที่ดูดออกว่าสามารถทำการ ดูดไขมันทั้งตัว ได้ในครั้งเดียวโดยไม่เป็นอันตรายก็ทำได้เช่นกัน
- ยาที่ให้ต้องไม่เกิน toxic dose การให้ยาชาในปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของคนไข้ ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยจะต้องมีการคำนวณปริมาณยาให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของคนไข้ และต้องคำนวณโดยแพทย์ที่ทำการรักษาหรือวิสัญญีแพทย์เท่านั้น เพื่อป้องกันการให้ยาชาเกินขนาด จนทำให้เกิดยาชาเป็นพิษ (Toxic Dose – Over Dose)
อ่านเพิมเติม : ดูดไขมันอันตรายไหม ?
ดูดไขมันทั้งตัวด้วยยาชาเฉพาะจุด เจ็บไหม
ดูดไขมันเจ็บไหม หากต้องดูดทั้งตัวด้วยยาชาเฉพาะจุด มีคนไข้จำนวนมากเข้ามาปรึกษาที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เพราะต้องการดูดไขมันทั้งตัวหรือดูดไขมันหลายบริเวณ ด้วยยาชาเฉพาะจุดเท่านั้น ไม่อยากดมยาสลบ ซึ่งคุณหมอสุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (คุณหมอหนึ่ง) ได้แนะนำให้แบ่งการดูดไขมันออกเป็นส่วน ๆ ตามชุดกระชับแทน และการดูดแต่ละครั้งต้องทิ้งระยะห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ขึ้นไปจึงดูดส่วนต่อไปได้ เช่น
- ชุดกระชับแขน: ดูดไขมันต้นขา หัวไหล่ ปีกหลัง และนมน้อย พร้อมกันได้
- ชุดกระชับหน้าท้อง: ดูดไขมันหน้าท้อง เอว ดูดไขมันสร้างร่อง 11 หรือซิกแพคผู้ชาย
- ชุดกระชับต้นขา: ดูดไขมันเหมาขา สะโพก น่อง ข้อเท้า
ผลลัพธ์หลัง ดูดไขมันทั้งตัว หรือ ดูดไขมันหลายจุด ด้วยยาชาเฉพาะจุดคนไข้กลับพึงพอใจและบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉีดยาชาเฉพาะจุดไม่เจ็บเลย มีแค่อาการเจ็บจี๊ด ๆ หรือตึง ๆ บริเวณที่ดูดไขมันเท่านั้น ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการดมยา แต่ได้ผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัยเหมือนกัน
อ่านบทความที่น่าสนใจ เพิ่มเติม!
ชุดกระชับหลังดูดไขมัน แผ่นซึมซับหลังดูดไขมัน วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันดูดไขมันที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
- ดูแลการดูดไขมันโดย นพ. สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ (คุณหมอหนึ่ง) ชำนาญการและมีประสบการณ์มากว่า 24 ปี
- ห้องผ่าตัดใหญ่ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข (Certified Operating Room)
- สถานที่ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดเชื้อโควิด-19 จากกรมอนามัย THAISTOPCOVID+
- มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ครบ
- คลินิกที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานระดับสากล American Accreditation Commission International หรือ AACI จากประเทศสหรัฐอเมริกา แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก ด้าน Ambulatory Plastic Surgical Center ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอก แห่งแรกในเอเชีย
สรุปว่า ดูดไขมันเจ็บไหม ดูดไขมันแล้วไม่เจ็บ และให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องพิจารณาศึกษาข้อมูลหลาย ๆ ด้าน เพราะมีหลายปัจจัยมาก ๆ ทั้งความชำนาญของแพทย์ สถานที่ให้บริการ เครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ครบ ห้องผ่าตัดมาตรฐาน ทีมแพทย์และผู้ชำนาญการด้านต่าง ๆ รวมถึงการดูแลหลังการรักษา เป็นต้น
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
Biography