ผ่าตัดกระเพาะ พักฟื้นกี่วัน ? การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบสลีฟ สลีฟพลัส บายพาส และการเย็บกระเพาะ เป็นการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพสำหรับการลดน้ำหนักอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การเดินทางไม่ได้สิ้นสุดลงแค่ในห้องผ่าตัด การพักฟื้นเองก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและการปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด บทความนี้จะเป็นคู่มือสำหรับการพักฟื้นตัวเอง การปรับการรับประทานอาหาร และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่จำเป็นเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก คืออะไร?
การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก เป็นการผ่าตัดที่มุ่งเน้นการลดน้ำหนักจริงจัง โดยเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนกระเพาะอาหารเพื่อจำกัดการรับประทานอาหารและการดูดซึมสารอาหาร การผ่าตัดเหล่านี้มักจะแนะนำสำหรับบุคคลที่มีภาวะอ้วนซึ่งไม่ประสบความสำเร็จกับวิธีการลดน้ำหนักอื่น ๆ เช่น การควบคุมอาหารด้วยตนเอง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
การดูแลหลังการผ่าตัด
การพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
หลังผ่าตัดกระเพาะ คนไข้ส่วนใหญ่จะพักฟื้นที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1-5 วันหลังการผ่าตัด ในช่วงเวลานี้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะติดตามสัญญาณชีพจร อาการเจ็บปวด และตรวจสอบว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ระหว่างการพักฟื้น
- ผ่าตัดกระเพาะแบบ sleeve, bypass และ sleeve plus จะพักฟื้นในโรงพยาบาล 1-5 วัน
- ส่องกล้องเย็บกระเพาะอาหาร (OverStitch) และ ใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร พักฟื้น 1 คืน หรือรักษาตอนเช้าตอนเย็นกลับบ้านได้
ความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดและความไม่สบายตัวเป็นเรื่องปกติแต่สามารถจัดการได้ จะมีการให้ยาเพื่อลดความเจ็บปวด และคนไข้ควรแจ้งระดับความเจ็บปวดให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์ทราบเสมอ
การเคลื่อนไหว
คนไข้ควรเริ่มเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยปกติภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการผ่าตัด การเดินช่วยป้องกันลิ่มเลือดและช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
การพักฟื้น
สัปดาห์แรกต้องการการพักผ่อนอย่างมาก คนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะและเน้นการเคลื่อนไหวเบา ๆ เช่น การเดินระยะสั้น ๆ รอบบ้าน
การรับประทานอาหาร อยู่ในระยะของเหลว
อาหารตั้งต้นด้วยของเหลวใส เช่น น้ำ ซุป และเจลาตินที่ไม่มีน้ำตาล ระยะนี้มักจะกินเวลาไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้กระเพาะอาหารหายได้โดยไม่ต้องมีแรงกดดัน
สัปดาห์ที่สองของการฟื้นตัว
การเปลี่ยนไปสู่อาหารบด
คนไข้เริ่มเปลี่ยนไปทานอาหารบด เช่น ซุปบด อาหารปั่น ระยะนี้ช่วยให้กระเพาะอาหารปรับตัวต่อการย่อยอาหาร
การติดตามอาการ
คนไข้ควรระวังอาการผิดปกติ เช่น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง คลื่นไส้ หรือสัญญาณของการติดเชื้อ การติดตามผลกับศัลยแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญมาก
สัปดาห์ที่ 3-4 เข้าสู่ช่วงทานอาหารอ่อน
การแนะนำอาหารอ่อน
ประมาณสัปดาห์ที่สาม คนไข้สามารถเริ่มรับประทานอาหารอ่อน เช่น มันฝรั่งบด โยเกิร์ต และไข่คน ควรรับประทานอาหารอย่างช้า ๆ และเคี้ยวให้ละเอียด
ระดับกิจกรรม
สามารถเพิ่มกิจกรรมเบา ๆ ได้ แต่อย่าทำการยกของหนักและออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก
สัปดาห์ที่ 5-6 กลับสู่การรับประทานอาหารปกติ
อาหารปกติ
คนไข้สามารถเริ่มรับประทานอาหารปกติได้ สิ่งสำคัญคือต้องเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง มีน้ำตาลต่ำ และมีไขมันต่ำ
กิจกรรมทางกายภาพ
คนไข้ส่วนใหญ่สามารถกลับสู่กิจกรรมประจำวันและกลับไปทำงานได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานของตัวเอง รูปแบบการออกกำลังกายสามารถเริ่มได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ
การฟื้นตัวในระยะยาว ภายใน 3 เดือน
การหายเป็นปกติ
การหายเป็นปกติและการปรับตัวต่อขนาดกระเพาะอาหารใหม่ รวมถึงนิสัยการรับประทานอาหารจะใช้เวลาประมาณสามเดือน
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
ความสำเร็จในระยะยาวขึ้นอยู่กับการรักษาการรับประทานอาหารที่มีสุขภาพดี การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการเข้าพบผู้ให้บริการด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
เทคนิคการฟื้นตัวอย่างราบรื่น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์
การปฏิบัติตามแนวทางการผ่าตัดหลังการผ่าตัดของทีมแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการฟื้นตัว
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำตลอดทั้งวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ให้ร่างกายได้รับน้ำที่เพียงพอ และช่วยรักษาอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หน้ามืด หรือวูบได้
- รับประทานอาหารบ่อย ๆ และปริมาณน้อย ๆ
รับประทานอาหารบ่อย ๆ และปริมาณน้อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการกินในปริมาณที่มากเกิน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันสูง
อาหารเหล่านี้สามารถทำให้เกิดความไม่สบายและขัดขวางความคืบหน้าในการลดน้ำหนัก
- การสนับสนุนทางอารมณ์
เข้าร่วมกลุ่มพูดคุยกับผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดลดน้ำหนักเพื่อเป็นที่ปรึกษา
คำถามที่พบบ่อย
การพักรักษาตัวในโรงพยาบาลมักจะใช้เวลา 1-5 วัน ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวแต่ละบุคคลและภาวะแทรกซ้อนใด ๆ
คนไข้ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน หลังการผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นวิธีการส่องกล้องผ่าตัดกระเพาะอาหาร แผลเล็ก ฟื้นตัวได้ไว
อาหารในสัปดาห์แรกประกอบด้วยของเหลวใส เช่น น้ำ ซุป และเจลาตินที่ไม่มีน้ำตาล
การเคลื่อนไหวเบา ๆ และการเดินระยะสั้น ๆ เป็นสิ่งที่สนับสนุนในหลังการผ่าตัด แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากเป็นเวลาอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยได้แก่ การติดเชื้อ ลิ่มเลือด และปัญหาทางเดินอาหาร ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง คลื่นไส้ หรืออาการผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพทราบ
การลดน้ำหนักแตกต่างกันไป แต่คนไข้ส่วนใหญ่ลดน้ำหนักส่วนเกินได้ 60-70% ภายในปีแรกหลังการผ่าตัด
การฟื้นตัวเต็มรูปแบบ รวมถึงการปรับตัวต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารใหม่ อาจใช้เวลานานถึง 3 เดือน ระยะเวลานี้ร่างกายจะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
คนไข้สามารถเริ่มรับประทานของเหลวใสภายในไม่กี่วันแรกหลังการผ่าตัด การรับประทานอาหารจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นอาหารบดหลังจากประมาณหนึ่งสัปดาห์ ตามด้วยอาหารอ่อนประมาณสัปดาห์ที่สาม และสุดท้ายเป็นอาหารปกติในสัปดาห์ที่ห้าถึงหก
ทีมแพทย์ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
นพ. ปณต ยิ้มเจริญ
Chief bariatric surgeon
น.ท.นพ. เสรษฐสิริ พันธุ์ธนากุล
MIS Surgeon
ร.อ.นพ. ดุษฎี สุรกิจบวร
MIS Surgeon
นพ. กฤติน อู่สิริมณีชัย
Endocrinologist
พญ. ณัฐกานต์ หุ่นธานี
Anesthesiologist
พญ. สุชาดา ประพฤติธรรม
Anesthesiologist
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดกระเพาะ การทานอาหารเสริมหลังการผ่าตัดลดน้ำหนัก Dumping Syndromeบทสรุปของ ผ่าตัดกระเพาะ พักฟื้นกี่วัน คือ การฟื้นตัวจากการผ่าตัดลดน้ำหนักแบบ Gastric Bypass/Sleeve/Sleeve Plus อย่างเต็มรูปแบบคือ 90 วันขึ้นไป หรือสามเดือน โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ในขณะที่การเย็บกระเพาะอาหารและใส่บอลลูนในกระเพาะฟื้นตัวได้เร็วกว่า เพียงภายในไม่กี่สัปดาห์ ปรึกษาการรักษาผ่าตัดกระเพาะได้ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง