ประคบร้อนหลังดูดไขมัน ช่วยลดบวมได้จริงไหม

หลังจากดูดไขมันเสร็จ จะมีอาการบวมทันที (เกิดตั้งแต่กระบวนการผ่าตัด) ซึ่งลักษณะและระยะเวลาในการบวม มีดังนี้

หลังทำการดูดไขมันในช่วง 1-3 วันแรก ด้วยเทคนิค TripleTite จะสามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสรีระได้ทันที และในช่วงหลังการดูดไขมัน 3-7 วัน น้ำจะเริ่มทยอยซึมออกจากร่างกายและจะเกิดการอักเสบขึ้น ทำให้มีอาการบวมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง บริเวณที่ดูดไขมันอาจมีรอยช้ำหรือปื้นสีแดงม่วงเกิดขึ้นได้

หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ บริเวณที่ดูดไขมันจะเริ่มเปลี่ยนสีจากรอยช้ำสีม่วงแดงไปสู่สีเขียวและเหลืองจาง ๆ อาการช้ำจะค่อย ๆ หายไปเอง ส่วนสัปดาห์ที่ 3-4 หลังการดูดไขมัน อาการบวมหลังการดูดไขมันจะลดลงเรื่อย ๆ และสัดส่วนของร่างกายจะเริ่มปรับตัวให้เข้าที่มากขึ้น แม้ผิวหนังและกล้ามเนื้อยังไม่แนบชิดกันอย่างเต็มที่ สัดส่วนก็จะยังไม่เริ่มเปลี่ยนแปลงมากนัก คุณอาจไม่เห็นผลชัดเจนด้วยตาเปล่าในช่วงนี้ แต่คนไข้บางคนอาจรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากการวัดรอบสัดส่วน การเลือกใส่เสื้อผ้าไซซ์เล็กลง และการใส่ชุดกระชับได้ง่ายขึ้น

ในช่วงสัปดาห์ที่ 4-8 หลังการดูดไขมัน ผิวหนังจะเริ่มเข้ารูป สัดส่วนของร่างกายเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าคุณได้ดูดไขมันเอวเอส เอวก็จะคอด เข้ารูปได้ทรงสวย ทั้งนี้ผลขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของคุณและขนาดรอบสัดส่วนก่อนการดูดไขมัน

การประคบร้อนเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเมื่อมีอาการบวมหรืออักเสบ ช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้มากขึ้นหลังการผ่าตัด ซึ่งช่วยลดอาการบวมและปรับเวลาการฟื้นฟูของร่างกาย ดังนั้น การประคบร้อนจึงมีประโยชน์หลายด้าน ดังนี้

• เพิ่มการไหลเวียนเลือด: การประคบอุ่นช่วยให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่ประคบร้อน นี่สามารถช่วยลดอาการบวมและอักเสบใต้ผิวหนังได้
• บรรเทาความปวด: ความร้อนจากการประคบอุ่นช่วยปรับตัวกล้ามเนื้อและช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ทำให้คุณรู้สึกสบายมากขึ้น
• ช่วยในกระบวนการฟื้นฟู: Warm Compression Therapy ช่วยในการส่งออกสารอาหารและออกซิเจนไปยังบริเวณที่บวมหรืออักเสบ เพื่อช่วยในกระบวนการฟื้นฟูและการหายของแผล
• ลดอาการอักเสบ: การประคบอุ่นช่วยลดอาการอักเสบในบริเวณที่มีปัญหา ทำให้ร่างกายของคุณมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

การประคบเย็นช่วยลดการไหลเวียนเลือดและทำให้เลือดหยุดไหล เหมาะสำหรับการควบคุมการเสียเลือดหรือบรรเทาอาการบวมในช่วงแรกหลังการศัลยกรรม ส่วนการประคบร้อนลดบวม ช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพิ่มการส่งออกสารอาหารและออกซิเจนไปยังบริเวณที่ต้องการ ช่วยในกระบวนการฟื้นฟูและการลดอาการปวดและอักเสบใต้ผิวหนัง การเลือกใช้วิธีไหนจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์และคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ วิธีนี้มีความสำคัญในกระบวนการการฟื้นฟูหลังการทำศัลยกรรม

จริง ๆ วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน ไม่ควรประคบร้อน รวมถึงประคบเย็นก็ด้วย เพราะจะส่งผลทำให้ผิวเบิร์นเป็นรอยแผลได้ จากอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ดังนั้นการประคบผิวหลังดูดไขมันจึงไม่จำเป็น

วิธีการลดอาการบวมและส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นหลังการดูดไขมัน มีดังนี้

การใช้ยาลดบวม: หากคุณมีอาการบวมง่าย คุณสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาลดบวมก่อนการดูดไขมัน และรักษาที่บ้านหลังการดูดไขมันเพื่อช่วยลดอาการบวม รวมถึงยาจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นการปัสสาวะ เช่น ใบบัวบก น้ำฟักทอง หรือน้ำมะพร้าว แพทย์จะแนะนำวิธีใช้และปริมาณที่เหมาะสมของยาให้

ลดการบริโภคอาหารเค็ม: การลดการบริโภคโซเดียมมีความสำคัญในการควบคุมความบวมหลังการดูดไขมัน เพราะโซเดียมมีความสัมพันธ์กับการเก็บน้ำในร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น น้ำจิ้ม-ซอสปรุงรส อาหารทะเล อาหารหมักดอง อาหารแห้ง และอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมสูง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีการเก็บน้ำเกินไปในร่างกาย

การรีดน้ำออกจากร่างกาย: การรีดน้ำออกจากร่างกายหลังการดูดไขมันทันทีสามารถช่วยลดอาการบวมและอักเสบ การบีบนวดตัวหลังดูดไขมันเพื่อช่วยรีดน้ำออกจากชั้นผิวและกล้ามเนื้อเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การใส่ชุดกระชับสัดส่วนหลังการดูดไขมันจะช่วยให้ผิวหนังเกาะสนิทกับส่วนล่างของร่างกายได้ดีขึ้น

งดกิจกรรมหนัก: หลังการดูดไขมันในระยะ 2 สัปดาห์แรกควรงดกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากหรือยกของหนัก เพื่อป้องกันการบวมมากขึ้นและช่วยให้ผิวหนังแนบสนิทกับส่วนล่างของร่างกายอย่างเหมาะสม

การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันเป็นสิ่งสำคัญ เราขอแนะนำขั้นตอนดังนี้

1. การสวมชุดกระชับหลังดูดไขมัน: การสวมชุดกระชับเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการลดอาการช้ำหลังการดูดไขมัน ชุดกระชับช่วยให้ผิวหนังแนบสนิทกับกล้ามเนื้อและช่วยลดอาการช้ำได้โดยตรง การสวมชุดกระชับช่วยกดทับบริเวณที่มีการดูดไขมันและลดการไหลของเลือด ทำให้อาการช้ำเขียวลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การนวดกระชับ RF (Radio Frequency): การนวดกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี Radio Frequency (RF) เป็นวิธีที่ช่วยสลายไขมันและยกกระชับผิวหนัง ความร้อนจาก RF ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้นและมีพื้นผิวเรียบเนียนมากขึ้น การนวด RF ช่วยให้ผิวหนังดูสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
3. การฉายแสง LED: การใช้แสง LED ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังและช่วยลดการอักเสบของผิว นอกจากนี้ยังช่วยลดแผลดูดไขมันให้หายไวขึ้น การฉายแสง LED เป็นวิธีการเพิ่มเติมที่ช่วยให้ผิวหนังกระชับและดูสุขภาพมากยิ่งขึ้น

การดูแลแผลดูดไขมันหลังการดูดไขมันเป็นขั้นตอนสำคัญ เราขอแนะนำขั้นตอนดังนี้

• ป้องกันแผลไม่ติดเชื้อ: ห้ามให้แผลผ่าตัดติดเชื้อ หลีกเลี่ยงให้แผลเปียก หรือชื้น และห้ามให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลเกิดความชื้นและเชื้อโรคเข้าทำลาย แนะนำให้เช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายแทนการอาบน้ำ ในระยะ 5-7 วันหลังการดูดไขมัน หากต้องการอาบน้ำจริง ๆ สามารถใช้พลาสเตอร์กันน้ำปิดแผลไว้ในระหว่างการอาบน้ำ แต่ควรไม่ปิดนานเกินไปเพื่อไม่ขัดขวางการระบายน้ำเกลือและยาชา
• การดูแลแผลหลังตัดไขมัน: หลังการตัดไขมันแผลอาจมีลักษณะเป็นแผลสีดำหรือแดง หรือแผลนูน (เกิดได้น้อย) หากคุณมีแผลดำหรือแผลแดง สามารถใช้ Picosecond Laser ช่วยกำจัดเม็ดสีได้ สำหรับแผลนูนหรือคีลอยด์ มีบริการฉีดลดคีลอยด์เพื่อลดขนาดคีลอยด์บริการเช่นกัน หากแผลอยู่ในตำแหน่งที่ถูกแดด ควรทากันแดดเพื่อป้องกันการเข้มขึ้นของแผล

การดูแลแผลดูดไขมันอย่างรอบคอบจะช่วยให้แผลหายไวขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาการรอยดำ รอยแดง หรือแผลนูน