การผ่าตัดกระเพาะ แบบบายพาส (R-Y Gastric Bypass – RYGB) เป็นการผ่าตัดรูปแบบมาตรฐานที่สุด และยังเป็นวิธีที่ได้ผลในการลดน้ำหนักมากที่สุด โดยใช้เทคนิคส่องกล้องผ่าตัดแบบแผลเล็กเหมือนวิธีอื่นๆ แต่จะเพิ่มการผ่าตัดลำไส้ส่วนที่ดูดซึมน้ำตาลออกด้วยบางส่วน ทำให้ลดน้ำหนักได้มากและนานกว่า และยังทำให้กระเพาะไม่เกิดแรงดันสูง ซึ่งเหมาะกับการผ่าตัดสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคกรดไหลย้อน เบาหวาน หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดแบบสลีฟได้ (Gastric Sleeve)
ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส ทำอย่างไร?
ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบบายพาส (Laparoscopic Gastric Bypass) ใช้วิธีการส่องกล้องเช่นเดียวกับแบบสลีฟ โดยจะทำการผ่าแผลขนาดเล็ก เพียง 5 มม. บริเวณหน้าท้อง ประมาณ 5 รูจากนั้นแพทย์จะทำการสอดใส่เครื่องมือเข้าไปเพื่อทำการผ่าตัด
แต่จะแตกต่างจากสลีฟ คือ ศัลยแพทย์จะทำการตัดกระเพาะอาหารส่วนต้นที่ต่อลงมาจากหลอดอาหาร ให้เหลือเป็นกระเปาะขนาดเท่าลูกปิงปอง หรือลูกกอล์ฟ ซึ่งมีความจุประมาณ 20-30 มิลลิลิตร หลังจากนั้นก็ตัดเอาลำไส้เล็กส่วนกลาง มาต่อเข้ากับกระเปาะกระเพาะอาหารที่ตัดไว้ และนำปลายลำไส้เล็กส่วนต้นมาต่อเข้ากับลำไส้เล็กส่วนกลาง
อาหารจะผ่านลงมาสู่กระเปาะกระเพาะอาหารซึ่งมีขนาดเล็ก จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น หลังจากนั้นอาหารจะเคลื่อนผ่านไปยังลำไส้เล็กที่นำมาต่อไว้ อาหารจะยังไม่สัมผัสกับน้ำย่อยที่สร้างมาจากกระเพาะอาหารส่วนที่เหลือ และที่สร้างมาจากตับและตับอ่อน จนกว่าจะผ่านมาถึงบริเวณที่ลำไส้เล็กมาต่อกัน ซึ่งช่วงที่อาหารยังไม่ถูกย่อยโดยน้ำย่อย ลำไส้ก็จะไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ นั่นคือกลไกลดการดูดซึมสารอาหาร
อ่านเพิ่มเติม :
ก่อน ผ่าตัดกระเพาะ ต้องรู้อะไรบ้าง ?ข้อดีของการ ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส
- ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบบายพาส เป็นวิธีมาตรฐาน สามารถลดน้ำหนักได้มากที่สุด
- สามารถรักษาโรคเบาหวานได้ ในรายที่พึ่งเป็นไม่นาน และยังเป็นไม่มากนัก
- ความรู้สึกหิวน้อยลง ถึงไม่มีเลย
- เป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหากรณีผ่าตัดแบบอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล
- ผ่าตัดได้ในคนไข้ทุกประเภท รวมทั้งหากเป็นโรคกรดไหลย้อน
- ลดการเกิดภาวะ Dumping Syndrome ซึ่งเป็นการที่อาหารไหลผ่านกระเพาะเข้าสู่ลำไส้เร็วเกินไป
- ใช้แก้ไขปัญหาหากผ่าตัดแบบสลีฟแล้วน้ำหนักไม่ลง นิยมทำบายพาสเลย ไม่ต้องทำสลีฟซ้ำอีก
อ่านเพิ่มเติม :
ผ่าตัดกระเพาะรักษาเบาหวาน ได้อย่างไร? Dumping Syndrome อาการหลังผ่าตัดกระเพาะคืออะไร ?รีวิวผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบบายพาส
ข้อเสียของการ ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส
- เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อน ตัดต่อหลายจุด ใช้เวลานานขึ้น ต้องทำการรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญและมีประสบการณ์สูงเท่านั้น
- อาจมีโรคแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด หากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ
- พบปัญหาในการดูดซึมสารอาหารได้ในบางราย (ซึ่งต้องแก้โดยการรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์)
- มีราคาสูงที่สุด
รีวิวผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Bypass) ลดน้ำหนัก -77 Kg.
ถาม-ตอบ เกี่ยวกับ การผ่าตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก โดย นพ.ปณต ยิ้มเจริญ
ศัลยศาสตร์ส่องกล้อง ศัลยศาสตร์ทางเดินอาหารและผ่าตัดลดน้ำหนัก
- ผ่าตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก ด้วยวิธีบายพาส (Gastric Bypass) ใช้เวลานานไหม? : ประมาณ 2.30-3.30 ชั่วโมง *ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- ผ่าตัดกระเพาะบายพาส มีแผลเป็นหน้าท้องกี่รู : แผลขนาดเล็ก 4-5 รู ขนาด 5 มม. เท่านั้น
- ผ่าตัดกระเพาะเจ็บไหม ? : หลังผ่าตัดกระเพาะจะมีอาการเจ็บประมาณ 1-3 วัน นอกจากนี้เรายังมีเทคนิคเฉพาะ เรียกว่า Pain Pump เพื่อลดอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัด
คนที่มีน้ำหนักตัวมาก สามารถดูดไขมันได้หรือไม่?
เป็นคำถามที่คนไข้ถามกันเยอะมากๆ ว่าโรคอ้วนหรือการมีน้ำหนักตัวเกิน สามารถดูดไขมัน แทนการผ่าตัดกระเพาะได้ไหม? เพื่อลดน้ำหนัก ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ดูดไขมันไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลง แต่เป็นแค่การลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เพื่อทำให้รูปร่างนั้นสวนงามมากขึ้น จะไม่เหมือนการผ่าตัดกระเพาะอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักและรักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากความอ้วนได้จริง เมื่อน้ำหนักลดลงแล้วก็สามารถเปลี่ยนไซส์จาก XL เป็น M หรือ S ได้ด้วย
ดูดไขมันในคนอ้วนนั้นอันตราย อย่างไร? คำแนะนำโดย คุณหมอหนึ่ง อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน
ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass)
ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
- ได้รับการรักษาโดยตรงจากศัลยแพทย์ด้านการส่องกล้องผ่าตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วน จากสหรัฐฯ ประสบการณ์กว่า 30 ปี
- พร้อมด้วยทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาลมืออาชีพ
- เครื่องมือผ่าตัดมาตรฐานระดับสากล
- ทำการรักษาในโรงพยาบาลเครือ BDMS
- มีเคสผ่าตัดกระเพาะกว่า 300 ครั้ง/ปี สำเร็จทุกเคส ไม่มีปัญหาหลังผ่าตัด
- เทคนิค Double Lock เพิ่มความปลอดภัย
- เทคนิคเฉพาะ Pain Pump ระงับปวด ให้ทันทีหลังผ่าตัด ทำให้ลดอาการเจ็บหลังการผ่าตัด
- Recheck หลังผ่าตัดด้วยการกลืนแป้ง เพื่อตรวจสอบกระเพาะว่าไม่มีการรั่ว
- การดูแลหลังการผ่าตัดกระเพาะ แบบ Private Group มีทีมแพทย์ นักโภชนาการ พยาบาล คอยให้คำปรึกษา ติดตามผลหลังการผ่าตัดทุกเดือน ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 ปี
- รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ได้รับการรับรองด้านการบริการและระบบความปลอดภัย จาก American Accreditation Commission International – AACI ของสหรัฐแเมริกา ด้าน Ambulatory Plastic Surgical Center ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชีย
อ่านเพิ่มเติม : ผ่าตัดกระเพาะมีกี่วิธี แต่ละวิธีต่างกันอย่างไร ?
- การผ่าตัดกระเพาะคืออะไร?
- ผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Gastric Sleeve)
- ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบบายพาส (Gastric Bypass)
- Overstitch เย็บกระเพาะด้วยการส่องกล้อง ไร้แผลหน้าท้อง
- ผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบแผลเดียว (Single Port Access)
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์หลากหลายสาขา ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัยสูงและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้รับรองมาตรฐานจาก AACI สหรัฐอเมริกา ด้านศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก 2 ปีซ้อน รวมถึงรางวัลจาก WhatClinic ด้านบริการลูกค้ายอดเยี่ยมระดับสากล เป็นปีที่4 จากลูกค้ากว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ให้ความไว้วางใจและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง