กระ (Freckles) หรือ จุดด่างดำ คือจุดเม็ดสีจาง ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้มที่มักปรากฏแบน ๆ บนผิว จะสังเกตได้ว่าผู้ที่มีกระมักมีจุดเล็ก ๆ บนใบหน้าหรือบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย กระส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก มีแนวโน้มที่จะพัฒนาในบริเวณต่าง ๆ รวมถึงใบหน้า ลำคอ และแขน และจะเด่นชัดในบุคคลที่มีสีผิวโทนขาวหรือผู้ที่มีภูมิหลังทางชาติพันธุ์ผสม กระมักพบในผู้ที่มีเชื้อชาติทางตะวันตกมากกว่าผู้ที่มาจากภาคตะวันออก ซึ่งสามารถปรากฏได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ และอาจมีขนาดและรูปร่างเปลี่ยนแปลงโดยขยายและคล้ำขึ้นถ้าสังเกต
กระมีกี่ประเภท
กระแดด
กระแดด คือ รอยสีน้ำตาลที่ปรากฏอย่างเจาะจงหรือบางบริเวณบนผิวหนัง มักมีลักษณะเป็นจุดหรือบางราย ลักษณะรอยแห้งเห็นชัดเจน ขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร มักพบบ่อยในบริเวณใบหน้า ลำตัว และภายใต้แสงแดด รอยกระแดดมักพบในกลุ่มคนที่มีผิวหนังขาวและมีการแอบแดดมาก ๆ หรือกลุ่มคนสูงอายุ
วิธีการรักษารอยกระแดดคือ การทำทรีตเมนต์ร่วมกับการทำเลเซอร์
กระตื้น
กระตื้น คือ รอยสีน้ำตาลเล็กๆ ที่มักเห็นชัดเมื่อได้รับแสงแดด ลักษณะของรอยกระตื้นคือจุดหรือลายเล็ก ๆ สีน้ำตาล มักเป็นจุดเล็กที่ไม่แตกต่างมากจากสิว แต่มักมีขนาดเล็กกว่า คนที่มีผิวหนังขาวและผิวบางมักพบกระตื้นบ่อยเนื่องจากผิวหนังบางไม่มีการปกป้องจากรังสีแสงแดดได้เท่าผิวหนังหนา และกระตื้นมักพบบ่อยที่โหนกแก้มและจมูกของคนที่มีผิวหนังขาวและบาง
วิธีการรักษารอยกระตื้นคือ การทำทรีตเมนต์ร่วมกับการทำเลเซอร์
กระลึก
กระลึก (Melasma) เป็นรอยสีน้ำตาลที่มีลักษณะคล้ายกับจุดหรือแผ่นสีน้ำตาลที่ปรากฏบนผิวหนัง ลักษณะของกระลึกคือมีสีเข้มกว่ารอยกระตื้นและรอยกระแดด และมักมีลายเล็ก ๆ รวมกันเป็นพื้นที่ใหญ่กว่ากระตื้น กระลึกมักปรากฏในรูปแบบแผ่นหรือปื้นสีน้ำตาล บางครั้งอาจปรากฏในรูปแบบแผ่นหรือเส้นที่รวมกันเป็นพื้นที่ใหญ่กว่า มักพบกระลึกในบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ขาวจมูก และหน้าผาก
คนที่มีความเสี่ยงต่อการพบกระลึกมีคุณสมบัติเฉพาะตามนี้:
- ผิวหนังขาว: คนที่มีผิวหนังขาวมักมีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่มีผิวหนังเข้มในการพบกระลึก
- ผู้หญิง: กระลึกมักพบบ่อยกว่าในผู้หญิง เป็นพิเศษในช่วงตั้งครรภ์และการรับประทานยาคุมกำเนิด
- การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนสามารถทำให้กระลึกปรากฏ พร้อมกับการตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือความเครียด
วิธีการรักษารอยกระลึกคือ การทำเลเซอร์
กระเนื้อ
กระเนื้อ (Nevus) มักมีลักษณะเป็นก้อนเล็กที่ขึ้นนูนขึ้นมาบนผิวหนัง ลักษณะอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของกระเนื้อ โดยทั่วไปแล้วมีลักษณะคล้ายรอยปืนเล็ก ๆ หรือจุดสีเข้มบนผิวหนัง ขนาดของกระเนื้อมักไม่ใหญ่มาก และอาจเป็นสีน้ำตาลหรือดำ แต่มีความหลากหลายในลักษณะ ขนาด และสีของกระเนื้อตามแต่ละบุคคล
คนที่มีความเสี่ยงต่อการพบกับกระเนื้อมักเป็นคนที่มีประวัติครอบครัวที่มีกระเนื้อ และส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายแต่บางกรณีอาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งผิวหนัง
วิธีการรักษารอยกระเนื้อคือ การทำเลเซอร์
กระเนื้อ (Nevus) มักมีลักษณะเป็นก้อนเล็กที่ขึ้นนูนขึ้นมาบนผิวหนัง ลักษณะอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของกระเนื้อ โดยทั่วไปแล้วมีลักษณะคล้ายรอยปืนเล็ก ๆ หรือจุดสีเข้มบนผิวหนัง ขนาดของกระเนื้อมักไม่ใหญ่มาก และอาจเป็นสีน้ำตาลหรือดำ แต่มีความหลากหลายในลักษณะ ขนาด และสีของกระเนื้อตามแต่ละบุคคล
คนที่มีความเสี่ยงต่อการพบกับกระเนื้อมักเป็นคนที่มีประวัติครอบครัวที่มีกระเนื้อ และส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายแต่บางกรณีอาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งผิวหนัง
วิธีการรักษารอยกระเนื้อคือ การทำเลเซอร์
ทำไมถึงเป็นกระ
สาเหตุของการเกิดกระ
สาเหตุของการเกิดกระ มี 3 สาเหตุหลัก สำคัญ ๆ ดังนี้
- เชื้อชาติ-กรรมพันธุ์ คนที่มีผิวขาว จะพบกระแดดมากกว่าคนที่ผิวคล้ำ พบว่ากระถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ในครอบครัว
- การเผชิญแสงแดด/รังสีหรือความร้อน เช่นเดียวกับการเกิดฝ้า
- ลักษณะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากการได้รับเพิ่ม หรือ ร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนไม่สมดุลแล้วผิดปกติไป เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดประจำ
จากสาเหตุดังกล่าวจะพบว่า มีทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้ คือ การระมัดระวังโดนแดด หรือการรับฮอร์โมน และมีปัจจัยที่เลี่ยงไม่ได้ เช่น เชื้อชาติ กรรมพันธุ์ หรือฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตเอง ฉะนั้นการรักษากระ ต้องกระทำทั้งสองทาง คือ การป้องกัน และ การรักษาโดยการทำลายกระที่เกิดมาแล้วควบคู่กัน
กระ กับ ฝ้า ต่างกันอย่างไร
คนส่วนใหญ่ชอบพูดถึง กระ กับ ฝ้า คู่กัน แต่ทั้งสองปัญหานี้ มีลักษณะและความยากในการรักษาด้วยเลเซอร์ที่แตกต่างกัน กระบวนการของการเกิดกระ คือ มีการกระจุกตัวของเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) หลายเซลล์ บริเวณเดียวกันเป็นหย่อม ๆ กระจัดกระจาย ต่างจากฝ้า ที่เป็นปื้นหรือวงกว้างที่เห็นชัดเจน แพทย์ผิวหนังพบว่า เซลล์สร้างเม็ดสีเหล่านั้น ผลิตเม็ดสีไม่ได้มากกว่าเซลล์อื่น ๆ แต่เพราะจากการกระจุกตัวของเซลล์หลาย ๆ เซลล์ ทำให้บริเวณนั้นมีจุดสีน้ำตาลเข้มมากกว่าบริเวณข้างเคียงที่มีจำนวนเซลล์สร้างเม็ดสีน้อยกว่า
การรักษากระ จึงง่ายกว่าการรักษาฝ้า เนื่องจากการทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีที่มากเกินไป จะทำให้ผิวที่มีกระ กลับมากระจ่างใสได้ ส่วนฝ้าค่อนข้างมีความเสี่ยงในการรักษามากกว่า ถ้ารักษาผิดวิธีอาจทำให้เป็นฝ้า มากขึ้นได้
ป้องกันกระแบบง่าย ๆ ในเบื้องต้น
คุณสาว ๆ และหนุ่ม ๆ คงต้องเพิ่มความใส่ใจ พิถีพิถัน กับการดูแลผิวส่วนต่าง ๆ ก่อนออกไปเผชิญหน้ากับแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดกระ เริ่มจากการเลือกพิจารณาครีมกันแดดก่อนออกกลางแจ้ง เพราะการดูแลตัวเองที่ดีและป้องกันกระคือเริ่มต้นจากการป้องกันไม่ให้ผิวถูกรังสีจากแสงแดด หรือหากมีความจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการป้องกัน
เช่น พยายามทำให้โดนแดดน้อยที่สุดโดยการกางร่ม หรือ สวมหมวก และพยายามหลบเข้าที่ร่ม ประกอบกับการเลือกใช้ครีมกันแดด ควรเลือกให้เหมาะกับความแรงของแดด และเวลาที่จะต้องอยู่กลางแจ้ง ให้คำนึงถึงค่า SPF (Sun Protection Factor) เพื่อ ป้องกันรังสี UVA UVB ป้องกันผิวไม่ให้เกิดการแดงหรือผิวไหม้ มีความหมองคล้ำ และปัญหาจากกระที่จะตามมา
ถัดมาหากพบว่าใบหน้าเริ่มเป็นกระ หรือสังเกตว่าตัวเองมีกระขึ้นผิดปกติ อาจจะต้องขอคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทาง หากมีความจำเป็นต้องรับประทานยา ยากลุ่มที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น กลุ่มยาประเภทยาคุมกำเนิดต่าง ๆ ยิ่งถ้าเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
สุดท้ายที่มองข้ามไปไม่ได้ คือ การช่วยสร้างเกราะป้องกันกระ โดยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก และการทำทรีตเมนต์เพื่อบำรุงผิวผลัดเซลล์ผิวใหม่บ้าง โดยเลือกจากสถานที่มีความชำนาญเรื่องผิวที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อการแพ้ให้น้อยที่สุด เพราะเมื่อผิวแข็งแรงจะสามารถเป็นเกราะป้องกันกระ จากการเร่งหรือกระตุ้นจากแสงแดด มลภาวะ สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
กระบุกกระจายตัวควรทำอย่างไร
กระเกิดจากการกระจุกตัวของเซลล์สร้างเม็ดสีที่มากเกินไป การทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีบริเวณที่เกิดกระ จึงเป็นการรักษาที่ตรงประเด็น แพทย์บางท่านก็เลือกใช้กรดบางชนิด หรือใช้ความเย็นติดลบ (Cryotherapy) ในการจี้ทำลายกระ แต่สำหรับแพทย์ส่วนใหญ่ ทราบดีว่าเทคโนโลยีที่เหมาะสม สำหรับการทำลายกระ คือ การยิงเลเซอร์ที่ออกฤทธิ์เจาะจงกับกระทั้งสีดำและสีน้ำตาล
ในอดีตบางครั้งการยิงเลเซอร์ อาจจะทำให้เกิดภาวะรอยดำหลังเลเซอร์ (Post Inflammatory Hyperpigmentation ย่อว่า PIH) ทำให้การรักษากระ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับคนไข้บางราย โดยแพทย์จะพิจารณาผู้เข้ารับการรักษากระอย่างละเอียด ก่อนเริ่มทำการรักษาโดยวิธีต่าง ๆ ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีของการแพทย์สมัยใหม่ จึงมีการการผลิตเลเซอร์รุ่นใหม่ชื่อว่า Enlighten PICO SECOND LASER เกิดขึ้น
เลเซอร์ตัวนี้ผสานเทคโนโลยี Picosecond กับ Nanosecond (Pico และ Nano) เป็นหน่วยแสดงถึงความเร็ว ในการปล่อยพลังงานเลเซอร์ Second ในที่นี้ แปลว่าวินาที Picosecond Laser จึงเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาผู้ที่เป็นกระ โดยจะปล่อยพลังงานเลเซอร์ในเวลาที่สั้นกว่า Nanosecond (หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Q switched laser) มาก Picolaser คือ การทำลายเม็ดสีขนาดเล็กที่ Nanolaser ไม่สามารถขจัดได้
รอยดำที่เกิดตามหลังการทำเลเซอร์รักษา กระ จึงน้อยกว่า ขณะเดียวกันรอยดำขนาดใหญ่ยังจำเป็นต้องใช้ Nanolaser กำจัดในเบื้องต้น ทำให้ Enlighten Laser สามารถการทำลายเม็ดสีขนาดใหญ่และเล็ก ได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง