สำหรับการสร้างซิกแพคนั้น ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ชายเท่านั้นที่หันมาออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมัน แต่ผู้หญิงก็เริ่มให้ความสนใจในการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อมีรูปร่างที่ดูดีขึ้นเช่นกัน นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้ว อาหารที่เรารับประทานเข้าไปก็มีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อได้เช่นกัน กล้ามเนื้อมีความสำคัญต่อร่างกายในหลายๆด้าน ทั้งช่วยพยุงโครงสร้าง ช่วยเผาผลาญ ควบคุมน้ำหนัก และทำให้กระดูกแข็งแรง เมื่อเรามีอายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อจะค่อยๆ ลดลง
ดังนั้นการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อจึงมีความสำคัญมาก นอกจากโปรตีนแล้ว ร่างกายยังต้องการคาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ เพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อและป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูว่าอาหารสร้างกล้ามท้อง ผู้หญิงมีอาหารประเภทใดบ้าง จะพาไปดูดังนี้
ประเภทอาหารสร้างกล้ามท้อง
- อกไก่ เป็นเมนูที่มีความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่คนที่ออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อ อกไก่มีปริมาณโปรตีนมากถึง 31 กรัมต่อ 100 กรัม โปรตีนจากอกไก่เป็นโปรตีนชั้นดีที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย นอกจากการช่วยเสริมกล้ามเนื้อแล้วยังช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมกล้ามเนื้อด้วย
- แซลมอน แซลมอนเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและเสริมกล้ามเนื้อ แซลมอนมีปริมาณโปรตีนมากถึง 20 กรัมต่อ 100 กรัม นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 (DHA และ EPA) ที่ช่วยลดอักเสบของกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน
- ไข่ไก่ เป็นอาหารที่ดีสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย นอกจากโปรตีนสูงแล้วยังมีกรดอะมิโนที่สำคัญและลูซีนที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้อ เราควรบริโภคไข่ขาวและไข่แดงอย่างน้อยวันละ 1-2 ฟองเพื่อรักษาระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
- กรีกโยเกิร์ต กรีกโยเกิร์ตมีโปรตีนประมาณ 20-23 กรัมต่อถ้วย มีแบคทีเรียโปรไบโอติกที่ช่วยปรับระบบทางเดินอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน และลดอักเสบ มีแคลเซียมและวิตามินบี 12 สูง ควรเลือกรับประทานกรีกโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาลเพิ่มเติม
- ผักโขม ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่มีโปรตีน 3 กรัมต่อ 100 กรัม และมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค โฟเลต ธาตุเหล็ก และแคลเซียม ผักโขมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีน และลูทีน ที่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ สุขภาพทั่วไปของร่างกาย อาจรับประทานผักโขมเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสร้างกล้ามท้อง ผู้หญิงประจำวันเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพที่ดี
ผู้หญิงอยากมีซิกแพค ต้องทำอย่างไร?
ผู้หญิงก็สามารถสร้างกล้ามท้องได้หากมีความมุ่งมั่นและพยายามอย่างมากพอ ถ้าตั้งใจจะมีกล้ามท้องภายใน 1 อาทิตย์ก็เป็นไปได้ แม้ว่าผู้หญิงจะมีมวลกล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ชาย แต่หากเลือกท่าออกกำลังกายที่เหมาะสม คุณก็สามารถสร้างกล้ามท้องขึ้นได้เช่นกัน ในวันนี้เราไม่ได้มีแต่อาหารสร้างกล้ามท้อง ผู้หญิง เท่านั้น แต่ยังมีท่าออกกำลังกายสำหรับสร้างกล้ามท้องของผู้หญิงภายใน 1 อาทิตย์ด้วยการเทรนอย่างเร่งด่วน ที่จะทำให้มีกล้ามท้องได้แน่นอน
กล้ามท้องหรือซิกแพคผู้หญิง คืออะไร
Sexy Line หรือ แนวไลน์เส้นของกล้ามเนื้อหน้าท้อง เริ่มจากกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างกระดูกซี่โครงด้านล่าง 4-8 เส้น ส่วนใหญ่จะพบ 6 เส้น เรียงกันเป็นคู่ ๆ ข้างละ 3 เส้น การมีซิกแพค นอกจากทำให้ดูสวยแล้ว ยังช่วยให้กล้ามเนื้อแกนกลางแข็งแรง สวมใส่เสื้อผ้าได้สวยงาม การที่จะเพิ่มความมั่นใจด้วยการกินอาหารเพื่อสร้างกล้ามเนื้ออาจไม่เพียงพอ วงการแพทย์จึงได้คิดค้นเทคโนโลยีสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง เอวบาง พร้อมซิกแพค ด้วย Sculpt Mus ซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้นก็จะเห็นหน้าท้องเป็นลูกมีแนวเส้นไลน์เกิดขึ้น
ประเภทซิกแพคผู้หญิง
ซิกแพค คือ คำที่ใช้เรียกกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งลักษณะของซิกแพคในผู้หญิงแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม การฝึกกล้ามเนื้อ การควบคุมอาหาร ปกติแล้วกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องจะแบ่งออกเป็น 6 ลูก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีซิกแพคลักษณะนี้ ซิกแพคในผู้หญิงสามารถแบ่งเป็น 4 แบบดังนี้
- ร่อง 11 คือ หน้าท้องที่มีเส้นแนวตั้งที่เห็นเป็นไลน์ของกล้ามเนื้อหน้าท้อง มีลักษณะเหมือนเส้นตรง 2 เส้นที่ขึ้นข้างกันเหมือนเลข 11 ซิกแพคแบบนี้พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ยังเรียกอีกชื่อว่า “Sexy Line” เนื่องจากเป็นกล้ามท้องที่มีความเซ็กซี่ ได้รับความนิยมในหมู่ดารา เพราะมองดูแล้วจะเห็นว่าหุ่นดี สมส่วน เป็นธรรมชาติที่สุด เหมาะกับโครงสร้างและรูปร่างของผู้หญิงทั่วไป
- โฟร์แพค ลักษณะกล้ามเนื้อหน้าท้องในรูปแบบนี้ทำให้เราเห็นมัดกล้ามเนื้อเป็นก้อน ๆ ได้ มีจำนวน packs ตั้งแต่ 4 – 10 ลูก แต่จำนวนนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน โฟร์แพคมักเป็นลักษณะกล้ามท้องที่มองเห็นชัดเจน 4 ลูกพร้อมกัน พบได้ในคนที่ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างหนัก
- ซิกแพค (Six Packs) คือ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่มีจำนวน 6 ลูก ซึ่งพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ผู้หญิงจะมีความยากลำบากในการสร้างซิกแพค เนื่องจากสรีระที่มีไขมันสูง มวลกล้ามเนื้อน้อยกว่าและไม่ถูกใช้งานมากนัก แต่คนที่ฝึกกล้ามเนื้ออย่างหนัก กินอาหารสร้างกล้ามท้อง ผู้หญิง อย่างเข้มงวดอาจมีซิกแพค 6 ลูกเหมือนผู้ชายได้
- เอ๊ทแพค (Eight Packs) คือกล้ามเนื้อหน้าท้องที่มี 8 ลูก แบ่งเป็น 4 ลูกในแต่ละข้าง พบได้น้อยมากทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เนื่องจากกล้ามเนื้อคู่สุดท้ายมักมีโอกาสได้ใช้งานน้อย การมีเอ๊ทแพคจำเป็นต้องมีพันธุกรรมเฉพาะและการฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะ แทบไม่มีคนที่มีเอ๊ทแพคในปัจจุบัน
สร้างซิคแพคผู้หญิง แบบเร่งด่วน ด้วย Sculpt Mus
การทำ Sculpt Mus ช่วยเพิ่มซิกแพคแบบปลอดภัยและรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีการสลายไขมัน และเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามท้อง ด้วยการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ High-Intensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดเกร็ง ทำให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อใหม่ ซิกแพคดูชัดเจนขึ้น และเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกล้ามเนื้อหน้าท้องโดยเร่งด่วน
เมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้น ระบบเผาผลาญไขมันของร่างกายทำงานดีขึ้น ลดการสะสมไขมันหรือพุง ซิกแพคดูชัดเจนขึ้น การทำ Sculpt Mus เหมาะสำหรับผู้หญิงที่กล้ามขึ้นยาก และคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการกระชับหน้าท้องเพิ่มขึ้นด้วย วิธีนี้ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย มากกว่าการใช้เครื่องดูดไขมันหรือเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นในการทำแค่ครั้งเดียว
สรุป
สำหรับผู้หญิงที่ต้องการสร้างกล้ามท้องให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องทำควบคู่กันระหว่างการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารสร้างกล้ามท้อง ผู้หญิงที่เหมาะสม อาหารที่กินแล้วไม่อ้วน พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณต้องการสร้างกล้ามท้องอย่างเร่งด่วน คุณสามารถรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ที่ให้บริการด้านความงามได้ ที่นี่คุณจะได้รับคำปรึกษาและคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับการสร้างกล้ามท้องอย่างมีประสิทธิภาพ
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย