ดึงหน้า (Facelift) ปรับรูปหน้าให้อ่อนวัย ยกกระชับ ลดรอยลึก

ดึงหน้า

ดูแลปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยอย่างตรงจุด ด้วยบริการ ดึงหน้า จากรัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ตกแต่ง นำโดย นพ. จตุพร ซื่อสัตย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ บริการของเราออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับให้ใบหน้าดูอ่อนวัย พร้อมสร้างลุคที่สดใสขึ้น ฟื้นตัวได้ระยะสั้นขึ้นตามแผนการรักษา คืนความมั่นใจให้คุณในทุกมุมมอง

ทำความรู้จักกับการดึงหน้า (Facelift)

การดึงหน้า (Facelift) หรือ ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า เป็นวิธีการผ่าตัดที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าอย่างได้ผล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้ดูอ่อนวัย ลดริ้วรอยลึก และยกกระชับผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย โดยกระบวนการนี้ไม่ได้ช่วยแค่ผิวชั้นตื้น แต่ยังเน้นแก้ไขในระดับชั้นลึก เช่น ชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิว (SMAS) เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน

ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้บริการศัลยกรรมดึงหน้าที่ครอบคลุมทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคิ้วตก ตาตก แก้มหย่อนคล้อย หรือกรอบหน้าที่ไม่ชัด เทคนิคที่เราใช้ เช่น Endoscopic Face Lift หรือการดึงหน้าผ่านกล้อง ช่วยลดรอยแผล ฟื้นตัวไว และได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ทำไมต้อง ศัลยกรรมดึงหน้า ผ่าตัดดึงหน้า

การดึงหน้าไม่ได้เพียงแค่ช่วยลดอายุของใบหน้า แต่ยังช่วยคืนความมั่นใจและเพิ่มเสน่ห์ในแบบที่คุณต้องการ หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อย การดึงหน้าอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

ประโยชน์ของการดึงหน้า

การดึงหน้า (Facelift) ไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยลึก แต่ยังมอบผลลัพธ์ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยประโยชน์หลักของการดึงหน้ามีดังนี้

  1. ยกกระชับผิวหน้า
    แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยในทุกส่วน เช่น หน้าผาก แก้ม คาง และลำคอ ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ ดูสดใสและอ่อนวัย
  2. ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
    ช่วยปรับโครงหน้าที่มีริ้วรอยชัดเจนหรือร่องแก้มลึกให้ดูเรียบเนียนและสมดุลมากขึ้น
  3. ฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
    การดึงหน้าช่วยคืนความอ่อนวัย ทำให้ใบหน้าดูสดชื่น ลดความเหนื่อยล้า และเสริมเสน่ห์ให้ใบหน้ามากยิ่งขึ้น
  4. ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
    ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ลงลึกถึงชั้น SMAS ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการผ่าตัด
  5. ช่วยปรับสมดุลใบหน้า
    การดึงหน้าไม่ได้เพียงยกกระชับผิว แต่ยังช่วยปรับโครงหน้าให้ดูสมส่วนและมีความสมดุลมากขึ้น
  6. เสริมความมั่นใจในทุกมุมมอง
    หลังการดึงหน้า หลายคนรู้สึกมั่นใจในการเข้าสังคมและการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะใบหน้าที่ดูสดใสช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้โดดเด่น

ปัญหาที่การดึงหน้าช่วยแก้ไขได้

การดึงหน้า (Facelift) เป็นหนึ่งในวิธีศัลยกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าและลำคอ โดยเฉพาะในจุดที่เห็นได้ชัดเมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาที่การดึงหน้าสามารถช่วยแก้ไขได้มีดังนี้

  1. ผิวหน้าหย่อนคล้อย
    ปัญหาผิวหน้าที่ไม่กระชับ เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและชั้นไขมันใต้ผิว การดึงหน้าช่วยยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น คืนความสดใสให้ใบหน้า
  2. ริ้วรอยลึกและร่องลึก
    เช่น ร่องแก้ม รอยขมวดคิ้ว หรือริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและอ่อนล้า การดึงหน้าช่วยลดเลือนริ้วรอยเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน
  3. กรอบหน้าไม่ชัดเจน
    ปัญหากรอบหน้าที่ดูเบลอ ไม่คมชัด หรือแก้มหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ้วนหรือแก่เกินวัย การดึงหน้าช่วยปรับให้กรอบหน้ากลับมาคมชัดอีกครั้ง
  4. ปัญหาคิ้วตกและตาตก
    คิ้วและตาที่หย่อนลงมาทำให้ดูเศร้าหรือเหนื่อย การดึงหน้าโดยเน้นส่วนบนช่วยยกกระชับคิ้วและตาให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา
  5. เหนียงและลำคอหย่อนคล้อย
    ปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คาง (เหนียง) และลำคอที่มีรอยพับหรือริ้วรอยชัดเจน สามารถแก้ไขได้ด้วยการดึงหน้าร่วมกับการดึงลำคอ
  6. ปัญหาโครงหน้าที่ไม่สมดุล
    การดึงหน้าไม่ได้ช่วยแค่ยกกระชับ แต่ยังปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น
  7. ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและขมับ
    ช่วยยกกระชับบริเวณหน้าผาก ลดรอยย่นและรอยพับบริเวณขมับ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น

เทคนิคดึงหน้าที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์


ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้บริการ ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) ด้วยเทคนิคที่หลากหลายและทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยของผู้ป่วย โดยเทคนิคที่ใช้ประกอบไปด้วย ไหม Suture, Endotine, Traditional Face Lift และ Endoscopic Face Lift ซึ่งแต่ละวิธีมีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว ดังนี้

ศัลยกรรมดึงหน้า ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
  1. การดึงหน้าด้วยไหม Suture (Suture Lift)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ต้องการการยกกระชับเฉพาะส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

จุดเด่นของไหม Suture

  • ยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการยกแก้มและกรอบหน้า
  • ฟื้นตัวเร็ว แผลเล็ก เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • แผลเล็กและซ่อนง่าย รอยแผลซ่อนในบริเวณไรผม
  • ผลลัพธ์ในระยะเวลา 1-3 ปี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงแบบชั่วคราว

เหมาะกับ

  • ผู้ที่อายุ 30–40 ปี
  • มีปัญหาความหย่อนคล้อยเล็กน้อย
  • ต้องการแก้ปัญหาบางจุด เช่น กรอบหน้า หรือแก้ม
  1. การดึงหน้าด้วย Endotine (Endotine Lift)

เทคนิคที่ใช้วัสดุพิเศษสำหรับยกกระชับชั้นลึก (SMAS) ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยในระดับปานกลางถึงมาก

จุดเด่นของ Endotine

  • ผลลัพธ์ยาวนาน อยู่ได้นาน 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล
  • แก้ไขปัญหาในระดับลึก เหมาะสำหรับการดึงร่องแก้ม ร่องใต้ตา และแก้มส่วนกลาง
  • วัสดุสลายตัวได้ ไม่ต้องผ่าตัดเอาออก
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูกระชับและอ่อนวัย

เหมาะกับ

  • ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
  • มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
  • ต้องการผลลัพธ์ที่มั่นคงและยาวนาน
  1. วิธี Traditional Face Lift

การผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน โดยเน้นแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุในทุกระดับ

จุดเด่นของ Traditional Face Lift

  • แก้ปัญหาได้ครบทุกส่วน เน้นยกกระชับทั้งผิวและชั้น SMAS
  • ผลลัพธ์ยาวนาน ใบหน้าคงความกระชับ 5-10 ปี
  • ปรับโครงหน้าให้ชัดเจน กรอบหน้า คาง และแก้มกลับมาคมชัด

เหมาะกับ

  • ผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป
  • มีความหย่อนคล้อยระดับมาก
  • ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงทน
  1. เทคนิคการใช้กล้อง (Endoscopic Face Lift)

เทคนิคดึงหน้าผ่านกล้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กถึงปานกลาง โดยเน้นลดขนาดแผลและฟื้นตัวไว

จุดเด่นของ Endoscopic Face Lift

  • แผลเล็ก ฟื้นตัวไว แผลขนาด 1-2 ซม. ซ่อนในไรผม
  • ความแม่นยำสูง กล้องช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างใบหน้าอย่างชัดเจน
  • ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ใบหน้ากระชับโดยไม่ดูเหมือนผ่านศัลยกรรม

เหมาะกับ

  • ผู้ที่อายุ 30–45 ปี
  • มีความหย่อนคล้อยเล็กถึงปานกลาง
  • ต้องการการผ่าตัดที่เจ็บน้อยและฟื้นตัวเร็ว

เลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ

แพทย์ของเรา นำโดย นพ. จตุพร ซื่อสัตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง จะวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการผสานเทคนิค Suture, Endotine, Traditional Face Lift หรือ Endoscopic Face Lift เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัย และตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบใด รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ พร้อมช่วยให้คุณกลับมามั่นใจด้วยผลลัพธ์ที่สวยงามในแบบที่คุณต้องการ

ทำไมต้องผ่าตัดดึงหน้าที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์

การเลือกสถานที่ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เรามุ่งมั่นที่จะมอบการรักษาที่มีคุณภาพสูงสุด พร้อมดูแลทุกขั้นตอนอย่างมืออาชีพ

  1. ออกแบบความสวยเฉพาะคุณ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์
  2. พร้อมด้วยทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ ตามมาตรฐานความปลอดภัย
  3. มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย
  4. สามารถผ่าตัดได้ทุกวิธี
  5. ใช้อุปกรณ์พิเศษ Endotine ให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน
  6. เทคนิคส่องกล้อง ซ่อนแผล (Scarless) หายไว ฟื้นตัวเร็ว
  7. มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ รับรองโดยกระทางสาธารณสุข (Operating Room)
  8. ปลอดเชื้อ COVID-19 ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย จากกรมอนามัย และ THAISTOPCOVID+
  9. ได้รับคุณภาพบริการมาตรฐานสากล AACI จากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้าน “Ambulatory Plastic Surgical Center” ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอก แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก
ศัลยกรรมดึงหน้า เอ็นโดไทน์
ศัลยกรรมดึงหน้า เอ็นโดไทน์
ศัลยกรรมดึงหน้า เอ็นโดไทน์ ส่วนไหนได้บ้าง

ดึงหน้ามีกี่ประเภท และควรเลือกแบบไหนดี?

การ ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) มีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยในแต่ละส่วนของใบหน้า โดยแพทย์จะพิจารณาจากอายุ สภาพผิว และความต้องการของผู้ป่วย เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด สำหรับประเภทของการดึงหน้าที่นิยมมีดังนี้

  • Forehead (หน้าผาก) แก้ปัญหารอยย่นหรือรอยยักหน้าผาก คิ้วตก มีร่องขมวดคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูไม่สดชื่น ดูกังวล เศร้า ง่วง โดยยกกระชับส่วนของหน้าผากให้ตึง ยกคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
  • Upper Face (ใบหน้าส่วนบน) แก้ปัญหาบริเวณขมับ-หางคิ้ว รอยตีนกา หางคิ้วตก ที่ทำให้ตาเศร้า หรือที่หลายคนเรียกว่า Foxy Eyes
  • Middle Face (ใบหน้าส่วนกลาง) แก้ปัญหาบริเวณหางคิ้ว-มุมปาก มีไขมันแก้มส่วนกลางหย่อยคล้อยลงถึงมุมปาก มุมปากตก และมีร่องข้างจมูก ซึ่งความหย่อนคล้อยส่วนนี้จะเห็นชัดที่สุด และสอดคล้องกับใบหน้าส่วนล่างที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน
  • Lower Face (ใบหน้าส่วนล่าง) แก้ปัญหาบริเวณมุมปาก-คาง คางตก มุมปากตกแก้มหย่อยคล้อย หรือ แก้มล่างตุ่ย (Fat Check) ทำให้คางดูไม่ชัด กรอบหน้าไม่ชัด
  • Neck Lift (ลำคอ) ผิวที่คอหย่อน ไม่กระชับ มีริ้วรอย มีไขมันเหนียง (Turkey Neck)
ดึงหน้า ศัลยกรรมดึงหน้า เทคนิคผ่าตัดส่องกล้อง

1. ดึงหน้าเฉพาะส่วน (Partial Facelift)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเพียงบางจุด เช่น หน้าผาก แก้มส่วนกลาง หรือกรอบหน้า โดยไม่จำเป็นต้องดึงทั้งใบหน้า

เทคนิคที่ใช้

  • Forehead Lift ยกกระชับบริเวณหน้าผากและคิ้ว
  • Midface Lift ยกกระชับแก้มส่วนกลางและร่องข้างจมูก
  • Lower Face Lift ปรับกรอบหน้าและลำคอ

ข้อดี

  • ฟื้นตัวเร็ว เพราะเป็นการผ่าตัดเฉพาะจุด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุน้อย (30-40 ปี) หรือผู้ที่มีปัญหาบางส่วน

2. ดึงหน้าแบบเต็มใบหน้า (Full Facelift)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณลำคอ โดยแพทย์จะผ่าตัดแก้ไขในทุกส่วนพร้อมกัน

เทคนิคที่ใช้

  • เน้นการยกกระชับในระดับชั้น SMAS
  • ผสานการดึงบริเวณแก้ม คาง และลำคอ

ข้อดี

  • เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมาก (40 ปีขึ้นไป)

3. ดึงหน้าด้วยเทคนิค Endoscopic (Endoscopic Face Lift)

การดึงหน้าผ่านกล้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและแผลเล็ก โดยใช้กล้องขนาดเล็กช่วยในการยกกระชับ

จุดเด่น

  • แผลเล็กและฟื้นตัวไว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงปานกลาง
  1. ดึงหน้าด้วย Endotine (Endotine Lift)

เทคนิคนี้ใช้วัสดุพิเศษ Endotine เพื่อยกกระชับผิวในระดับลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มั่นคงและอยู่ได้นาน

จุดเด่น

  • ยกกระชับในชั้นลึก เช่น SMAS
  • ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 5-10 ปี
  1. ดึงหน้าด้วยไหม (Suture Lift)

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ โดยใช้ไหมพิเศษในการดึงกระชับบริเวณใบหน้าที่มีปัญหา

จุดเด่น

  • แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี
ศัลยกรรมดึงหน้า เอ็นโดไทน์ ดีอย่างไร

ควรเลือกแบบไหนดี?

การเลือกประเภทการดึงหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของผู้ป่วย

  • ผู้ที่อายุน้อย (30-40 ปี) การดึงหน้าด้วยไหม หรือ Endoscopic Face Lift จะเหมาะที่สุด เนื่องจากปัญหายังไม่รุนแรง
  • ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป การดึงหน้าแบบ Full Facelift หรือการใช้ Endotine เหมาะสำหรับปัญหาความหย่อนคล้อยที่ชัดเจน

ผู้ที่ต้องการแก้ไขเฉพาะจุด Partial Facelift เป็นทางเลือกที่ดี เช่น การยกหน้าผากหรือยกแก้ม

ทำไมต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธี?

การดึงหน้าแต่ละประเภทมีข้อดีที่แตกต่างกัน แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแพทย์จะช่วยวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า ปัญหาผิว และแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ทีมแพทย์ของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียดและเลือกเทคนิคที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด เพื่อให้คุณกลับมามั่นใจและดูอ่อนวัยได้อีกครั้ง

ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)

การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เป็นกระบวนการที่ต้องมีการวางแผนและดูแลอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการฟื้นฟูหลังผ่าตัด โดยขั้นตอนสำคัญประกอบด้วย

  1. การปรึกษาและวางแผนการรักษา

  • ประเมินใบหน้า แพทย์จะวิเคราะห์ปัญหา เช่น ความหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือรูปหน้าที่ต้องการปรับ
  • เลือกเทคนิค แนะนำวิธีที่เหมาะสม เช่น Traditional Face Lift, Endoscopic Face Lift, การใช้ Endotine หรือไหม Suture
  • เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
    • แจ้งประวัติสุขภาพ ยาประจำตัว และการแพ้ยา
    • หยุดใช้ยาบางชนิดที่อาจเสี่ยงต่อการผ่าตัด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด 2-4 สัปดาห์
  1. การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด

  • ตรวจร่างกาย ตรวจเลือดหรือประเมินสุขภาพทั่วไป
  • วางยาสลบหรือยาชา ทีมวิสัญญีแพทย์จะดูแลการดมยาสลบหรือการใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อความปลอดภัย

ทำเครื่องหมายบนใบหน้า แพทย์จะกำหนดตำแหน่งที่จะทำการดึงและตัดผิวหนังส่วนเกิน

  1. ขั้นตอนการผ่าตัด

กระบวนการผ่าตัดดึงหน้าอาจใช้เวลาประมาณ 2-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือกและความซับซ้อนของปัญหา

ขั้นตอนหลัก

  • เปิดแผล
    • สำหรับ Traditional Face Lift เปิดแผลบริเวณไรผมจนถึงหลังใบหู
    • สำหรับ Endoscopic Face Lift เปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณไรผม ขนาดประมาณ 1-2 ซม.
  • ยกกระชับชั้น SMAS
    • ดึงและจัดตำแหน่งเนื้อเยื่อชั้นลึกเพื่อความกระชับ
    • ตัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อย
  • ปิดแผล ใช้ไหมเย็บที่ซ่อนในไรผมและบริเวณที่มองเห็นได้ยาก
  1. การดูแลหลังผ่าตัด

  • พักฟื้นในพื้นที่ปลอดเชื้อ หลังผ่าตัดคุณจะถูกดูแลในห้องพักฟื้นที่สะอาดและปลอดภัย
  • ติดตามอาการ แพทย์จะตรวจเช็กแผลและอาการโดยละเอียดก่อนกลับบ้าน
  • คำแนะนำหลังผ่าตัด
    • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
    • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อป้องกันแรงกดบนใบหน้า
    • ทานยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะ
  1. การฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่คาดหวัง

ช่วงฟื้นตัว

    • อาการบวมและช้ำจะลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
    • สามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมเบา ๆ ได้ภายใน 2-4 สัปดาห์

ผลลัพธ์ ใบหน้าจะเริ่มเห็นความกระชับและดูอ่อนวัยชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 5-10 ปี

อ่านต่อ : ดึงหน้ากี่วันหาย

ความสำคัญของการติดตามผลหลังผ่าตัด

หลังการผ่าตัด แพทย์จะนัดตรวจเพื่อติดตามอาการและแผลอย่างต่อเนื่อง เช่น การตัดไหม การตรวจสภาพผิว และแนะนำการดูแลเพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานที่สุด

ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผนจนถึงการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ตามที่คาดหวัง

ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี?

การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เป็นวิธีที่ช่วยคืนความอ่อนวัยให้ใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์ของการดึงหน้าสามารถอยู่ได้นาน 5-10 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์

  1. เทคนิคที่ใช้ในการดึงหน้า
    • Traditional Face Lift ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 7-10 ปี เพราะเป็นการยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS
    • Endoscopic Face Lift อยู่ได้นาน 5-7 ปี เนื่องจากแผลเล็กและยกกระชับเฉพาะจุด
    • Endotine Lift ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้ 5-10 ปี เพราะเน้นยกกระชับในระดับชั้นลึก
    • Suture Lift (ไหม) ผลลัพธ์อยู่ประมาณ 1-3 ปี เนื่องจากไม่ได้ยกกระชับในชั้นลึก
  2. อายุและสภาพผิวของผู้รับการผ่าตัด
    • ผู้ที่มีอายุน้อย (30-40 ปี) และมีสุขภาพผิวที่ดีจะได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
    • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากอาจต้องการการดูแลเพิ่มเติมหลังการผ่าตัด
  3. การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด
    • การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด การทาครีมกันแดด และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะช่วยคงความกระชับไว้ได้นานขึ้น
    • การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยชะลอความหย่อนคล้อย
  4. ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมส่วนตัว
    • การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจลดอายุของผลลัพธ์
    • ความเครียดและการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อยครั้ง เช่น การขมวดคิ้ว อาจทำให้เกิดริ้วรอยใหม่

ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง

  1. เกิดแผลผ่าตัดขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม.จำนวน 3-5 จุด บนหนังศีรษะ (ไม่จำเป็นต้องโกนผม) และใช้กล้องขนาดเล็กเท่าปากกา สอดเข้าไปเพื่อทำการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อ และรอยเหี่ยวย่นที่อยู่ใต้ผิวหนัง จึงไม่จำเป็นต้องตัดผิวหนังออกแต่อย่างใด
  2. ผ่าตัดผ่านจอ Monitor ทำให้สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และเส้นประสาทได้เป็นอย่างชัดเจน
  3. ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง จึงลดการเสียเลือด หรือการบาดเจ็บต่อเส้นประสาท ใช้ระยะในการพักฟื้นไม่นาน ไม่ทำให้หน้าผากกว้างเหมือนการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม

ผลลัพธ์หลังการดึงหน้า สามารถคาดหวังอะไรได้บ้าง?

  1. ใบหน้าจะดูอ่อนวัยขึ้นทันทีหลังฟื้นตัวเต็มที่
  2. ริ้วรอยลึกและความหย่อนคล้อยลดลงอย่างชัดเจน
  3. โครงหน้าชัดเจนและผิวหน้ากระชับขึ้น

เมื่อไหร่ควรพิจารณาการดึงหน้าเพิ่มเติม?

แม้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังและชั้น SMAS จะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ บางคนอาจเลือกทำการยกกระชับเพิ่มเติม เช่น การใช้ไหม หรือการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ เพื่อคงความอ่อนเยาว์

ดึงหน้าเหมาะกับใคร?

การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และปรับโครงหน้าให้กลับมาดูอ่อนวัยอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านความกระชับของผิวหรือใบหน้าที่เห็นได้ชัด ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ครีมหรือวิธีการยกกระชับแบบทั่วไป

กลุ่มคนที่เหมาะกับการดึงหน้า

  1. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-50 ปีขึ้นไป
    • อายุ 30-40 ปี มีปัญหาหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือเฉพาะจุด เช่น กรอบหน้าไม่ชัด แก้มหย่อน หรือร่องแก้มลึก การใช้เทคนิค Suture Lift หรือ Endoscopic Face Lift จะเหมาะสม
    • อายุ 40-50 ปีขึ้นไป ผิวหน้าหย่อนคล้อยชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ร่องแก้ม คาง และลำคอ การดึงหน้าด้วย Traditional Face Lift หรือ Endotine จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
  2. ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
    • ผิวขาดความกระชับเนื่องจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน
    • มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องข้างจมูก หรือรอยย่นหน้าผาก
  3. ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเจน
    • มีไขมันสะสมใต้คาง (เหนียง) หรือแก้มห้อย ทำให้โครงหน้าเบลอ
    • มีความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ (Turkey Neck)
  4. ผู้ที่เคยยกกระชับด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
    • เช่น การร้อยไหม การใช้เลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ ที่ให้ผลลัพธ์ระยะสั้นหรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาในชั้นผิวลึก
  5. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและชัดเจน
    การดึงหน้าสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 5-10 ปี ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาวิธีแก้ไขอย่างถาวร

ผู้ที่อาจไม่เหมาะกับการดึงหน้า

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคที่มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัด
  • ผู้ที่สูบบุหรี่หนัก ควรงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
  • ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินความเป็นจริง การดึงหน้าช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนวัยขึ้น แต่ไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการชราธรรมชาติได้

รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า - Face Lift

รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า ดึงหน้าลดอายุ ส่วน Forehead (หน้าผาก) โดยการส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ ซ่อนแผลในศีรษะ แก้ปัญหาร่องขมวดคิ้ว ยกระดับคิ้ว หน้าผากตึงกระชับ

รีวิวผ่าตัดดึงหน้า ศัลยกรรมดึงหน้า ด้วยเอ็นโดไทน์

คำแนะนำโดยแพทย์ 

การผ่าตัดดึงหน้า
ส่วน Forehead (หน้าผาก)

แพทย์จะแนะนำผ่าตัดแบบส่องกล้อง ร่วมกับการใช้เอ็นโดไทน์ (Endotine) เพราะบริเวณหัวคิ้ว-ส่วนกลางของใบหน้าจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดอยู่มาก

การใช้กล้องสามารถช่วยให้มองเห็นและเลี่ยงการโดนเส้นประสาทและเส้นเลือดบริเวณนั้น ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจกิดขึ้นได้ อีกทั้งการใช้เอ็นโดไทน์จะช่วยให้ยกกระชับได้นานกว่า และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการดึงแบบธรรมดา

รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า ผ่าตัดดึงหน้าส่วน Middle+Lower face lift ร่วมกับการใช้ Endotine  มีแก้มหย่อนคล้อย ร่องข้างจมูก มุมปากตก ลำคอส่วนบนหย่อนคล้อย และมีรอยแผลอยู่บริเวณไรผม หน้าหูไปจนถึงหลังหู แต่แทบมองไม่เห็นแผลเป็นบนใบหน้าเลย

รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า แก้ปํญหาใบหน้าส่วนกลางและใบหน้าส่วนล่าง
รีวิวผ่าตัดดึงหน้า ศัลยกรรมดึงหน้า ด้วยเอ็นโดไทน์

FAQ คำถามที่พบบ่อย ศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift)

ศัลยกรรมดึงหน้า จะขึ้นอยู่กับเทคนิคหรือวิธีผ่าตัดที่เลือกใช้ หรือหากทำรายการอื่นร่วมด้วย เช่น ดูดไขมัน, เติมไขมันหน้า ฯลฯ เวลาการผ่าตัดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แต่ส่วนมากจะใช้เวลาในการผ่าตัดด้วยการดมยาไม่เกิน 6-8 ชั่วโมง

ผ่าตัดดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องใช้การดมยาสลบร่วมด้วย หลังการผ่าตัดอาจจะมีอาการบวม เขียว ฟกช้ำเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำการรักษาประมาณ 2 อาทิตย์ และจะค่อยๆ ดีขึ้นในระยะประมาณ 1 เดือน

ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี? นั้นขึ้นอยู่กับการรักษาว่า ผ่าตัดดึงหน้าด้วยเทคนิคใด หากทำการผ่าตัดด้วยวิธีใด เช่น การผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม+เอ็นโดไทน์ , การผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ ผลลัพธ์จะทำให้ใบหน้าเต่งตึง ยกกระชับได้ตั้งแต่ภายในและภายนอก ลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย หน้าเด็กลง และอยู่ได้นาน 5-10 ปี หรืออาจจะ 20 ปี นั้นขึ้นอยู่กับการดูแล สภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

  • อาการบวมช้ำหลังผ่าตัด ประมาณ 2 อาทิตย์แรก และจะดีขึ้น หน้าสวยเข้ารูปหลัง 1 เดือนเป็นต้นไป
  • อาการชาบริเวณที่ทำการผ่าตัด แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ

ข้อเสียของการดึงหน้า หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์

  • อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ได้
  • ได้ผลลัพธ์ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะทำการรักษาผิดจุด หรือผิดวิธี
  • อาจเกิด Widening Scar หรือแผลเป็นกว้าง แผลรั้งได้ เพราะ ผ่าตัดดึงหน้าตึงจนเกินไป โดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญมากพอ
  • ผ่าตัดดึงหน้าผิดชั้น อาจทำให้ใบหน้าห้อย หน้าเบี้ยว หรือหน้าผิดรูปได้ เพราะแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ความชำนาญที่สูงพอ และไม่เข้าใจ Anotomy บริเวณใบหน้าดีพอ
  • กรณีต้องใช้การดมยา ต้องทำโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิต

ข้อเสียของการผ่าตัดดึงหน้าในสถานที่ไม่ได้มาตรฐาน

  • เสี่ยงเกิดแผลติดเชื้อ เพราะสถานที่ไม่สะอาด
  • ไม่มีห้องผ่าตัดที่รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างถูกต้อง

Endotite เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมในการผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ซึ่งการใช้ Endotite จะช่วยเข้าไปแก้ปัญหาในส่วนของผิวหนังชั้นลึก และสามารถมองเห็นผิวหนังชั้น smas โดยตรง แก้ไขปัญหาได้ถูกจุด แก้ไขปัญหาผิวหนังได้ถูกชั้นกว่า ต่างกับการร้อยไหม ที่เราไม่สามารถเห็นได้ว่าร้อยไหมยังผิวชั้นไหน

แพทย์จะดูปัญหาบนใบหน้าของคนไข้มากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่อายุเป็นปัจจัยหนี่งที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยบนใบหน้า เช่น คิ้วเริ่มตก ใบหน้าหรือแก้มเริ่มย้อย มีริ้วรอย ที่เห็นได้ชัดกว่าในคนอายุน้อย

ในปัจจุบันก็มีคนอายุน้อย เช่น 30+ หันมามสนใจการดึงหน้ากันมากขึ้น เช่น การดึงหางตา หางคิ้ว แก้คิ้วตก ฯลฯ โดยใช้เทคนิคใหม่ๆ ที่แผลเป็นเล็ก แผลน้อย หรือซ่อนแผลได้

  • คนที่ใบหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเยอะ ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า ให้กลับมาดูเต่งตึง และอ่อนกว่าวัย
  • คนที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมส่วน แก้ไขใบหน้าที่ผิดรูปให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

ก่อนตัดสินใจทำ ดึงหน้าที่ไหนดี? ต้องศึกษาข้อมูลให้มากๆ เพราะศัลยกรรมดึงหน้า เป็นการผ่าตัดใหญ่ จะต้องทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญมากพอ และต้องทำการดมยา ซึ่งจะต้องมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดกรรักษา รวมถึงสถานที่ต้องได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด ลดความเสี่ยงต่างๆ และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม อย่าดูเพียงแค่ ดึงหน้าราคาถูก โปรโมชั่น เพียงอย่างเดียว!

สรุป

การดึงหน้าที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นใจและอ่อนเยาว์ในระยะยาว พร้อมทีมแพทย์ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การผ่าตัด ไปจนถึงการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยในทุกมิติ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า