ดูแลปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยอย่างตรงจุด ด้วยบริการ ดึงหน้า จากรัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ตกแต่ง นำโดย นพ. จตุพร ซื่อสัตย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ บริการของเราออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับให้ใบหน้าดูอ่อนวัย พร้อมสร้างลุคที่สดใสขึ้น ฟื้นตัวได้ระยะสั้นขึ้นตามแผนการรักษา คืนความมั่นใจให้คุณในทุกมุมมอง
ทำความรู้จักกับการดึงหน้า (Facelift)
การดึงหน้า (Facelift) หรือ ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า เป็นวิธีการผ่าตัดที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าอย่างได้ผล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้ดูอ่อนวัย ลดริ้วรอยลึก และยกกระชับผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย โดยกระบวนการนี้ไม่ได้ช่วยแค่ผิวชั้นตื้น แต่ยังเน้นแก้ไขในระดับชั้นลึก เช่น ชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิว (SMAS) เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้บริการศัลยกรรมดึงหน้าที่ครอบคลุมทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคิ้วตก ตาตก แก้มหย่อนคล้อย หรือกรอบหน้าที่ไม่ชัด เทคนิคที่เราใช้ เช่น Endoscopic Face Lift หรือการดึงหน้าผ่านกล้อง ช่วยลดรอยแผล ฟื้นตัวไว และได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
การดึงหน้าไม่ได้เพียงแค่ช่วยลดอายุของใบหน้า แต่ยังช่วยคืนความมั่นใจและเพิ่มเสน่ห์ในแบบที่คุณต้องการ หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อย การดึงหน้าอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
ประโยชน์ของการดึงหน้า
การดึงหน้า (Facelift) ไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยลึก แต่ยังมอบผลลัพธ์ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยประโยชน์หลักของการดึงหน้ามีดังนี้
- ยกกระชับผิวหน้า
แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยในทุกส่วน เช่น หน้าผาก แก้ม คาง และลำคอ ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ ดูสดใสและอ่อนวัย - ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
ช่วยปรับโครงหน้าที่มีริ้วรอยชัดเจนหรือร่องแก้มลึกให้ดูเรียบเนียนและสมดุลมากขึ้น - ฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
การดึงหน้าช่วยคืนความอ่อนวัย ทำให้ใบหน้าดูสดชื่น ลดความเหนื่อยล้า และเสริมเสน่ห์ให้ใบหน้ามากยิ่งขึ้น - ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ลงลึกถึงชั้น SMAS ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการผ่าตัด - ช่วยปรับสมดุลใบหน้า
การดึงหน้าไม่ได้เพียงยกกระชับผิว แต่ยังช่วยปรับโครงหน้าให้ดูสมส่วนและมีความสมดุลมากขึ้น - เสริมความมั่นใจในทุกมุมมอง
หลังการดึงหน้า หลายคนรู้สึกมั่นใจในการเข้าสังคมและการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะใบหน้าที่ดูสดใสช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้โดดเด่น
ปัญหาที่การดึงหน้าช่วยแก้ไขได้
การดึงหน้า (Facelift) เป็นหนึ่งในวิธีศัลยกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าและลำคอ โดยเฉพาะในจุดที่เห็นได้ชัดเมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาที่การดึงหน้าสามารถช่วยแก้ไขได้มีดังนี้
- ผิวหน้าหย่อนคล้อย
ปัญหาผิวหน้าที่ไม่กระชับ เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและชั้นไขมันใต้ผิว การดึงหน้าช่วยยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น คืนความสดใสให้ใบหน้า - ริ้วรอยลึกและร่องลึก
เช่น ร่องแก้ม รอยขมวดคิ้ว หรือริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและอ่อนล้า การดึงหน้าช่วยลดเลือนริ้วรอยเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน - กรอบหน้าไม่ชัดเจน
ปัญหากรอบหน้าที่ดูเบลอ ไม่คมชัด หรือแก้มหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ้วนหรือแก่เกินวัย การดึงหน้าช่วยปรับให้กรอบหน้ากลับมาคมชัดอีกครั้ง - ปัญหาคิ้วตกและตาตก
คิ้วและตาที่หย่อนลงมาทำให้ดูเศร้าหรือเหนื่อย การดึงหน้าโดยเน้นส่วนบนช่วยยกกระชับคิ้วและตาให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา - เหนียงและลำคอหย่อนคล้อย
ปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คาง (เหนียง) และลำคอที่มีรอยพับหรือริ้วรอยชัดเจน สามารถแก้ไขได้ด้วยการดึงหน้าร่วมกับการดึงลำคอ - ปัญหาโครงหน้าที่ไม่สมดุล
การดึงหน้าไม่ได้ช่วยแค่ยกกระชับ แต่ยังปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น - ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและขมับ
ช่วยยกกระชับบริเวณหน้าผาก ลดรอยย่นและรอยพับบริเวณขมับ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
เทคนิคดึงหน้าที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้บริการ ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) ด้วยเทคนิคที่หลากหลายและทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยของผู้ป่วย โดยเทคนิคที่ใช้ประกอบไปด้วย ไหม Suture, Endotine, Traditional Face Lift และ Endoscopic Face Lift ซึ่งแต่ละวิธีมีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว ดังนี้
-
การดึงหน้าด้วยไหม Suture (Suture Lift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ต้องการการยกกระชับเฉพาะส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
จุดเด่นของไหม Suture
- ยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการยกแก้มและกรอบหน้า
- ฟื้นตัวเร็ว แผลเล็ก เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- แผลเล็กและซ่อนง่าย รอยแผลซ่อนในบริเวณไรผม
- ผลลัพธ์ในระยะเวลา 1-3 ปี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงแบบชั่วคราว
เหมาะกับ
- ผู้ที่อายุ 30–40 ปี
- มีปัญหาความหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- ต้องการแก้ปัญหาบางจุด เช่น กรอบหน้า หรือแก้ม
-
การดึงหน้าด้วย Endotine (Endotine Lift)
เทคนิคที่ใช้วัสดุพิเศษสำหรับยกกระชับชั้นลึก (SMAS) ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยในระดับปานกลางถึงมาก
จุดเด่นของ Endotine
- ผลลัพธ์ยาวนาน อยู่ได้นาน 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล
- แก้ไขปัญหาในระดับลึก เหมาะสำหรับการดึงร่องแก้ม ร่องใต้ตา และแก้มส่วนกลาง
- วัสดุสลายตัวได้ ไม่ต้องผ่าตัดเอาออก
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูกระชับและอ่อนวัย
เหมาะกับ
- ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
- มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
- ต้องการผลลัพธ์ที่มั่นคงและยาวนาน
-
วิธี Traditional Face Lift
การผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน โดยเน้นแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุในทุกระดับ
จุดเด่นของ Traditional Face Lift
- แก้ปัญหาได้ครบทุกส่วน เน้นยกกระชับทั้งผิวและชั้น SMAS
- ผลลัพธ์ยาวนาน ใบหน้าคงความกระชับ 5-10 ปี
- ปรับโครงหน้าให้ชัดเจน กรอบหน้า คาง และแก้มกลับมาคมชัด
เหมาะกับ
- ผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป
- มีความหย่อนคล้อยระดับมาก
- ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงทน
-
เทคนิคการใช้กล้อง (Endoscopic Face Lift)
เทคนิคดึงหน้าผ่านกล้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กถึงปานกลาง โดยเน้นลดขนาดแผลและฟื้นตัวไว
จุดเด่นของ Endoscopic Face Lift
- แผลเล็ก ฟื้นตัวไว แผลขนาด 1-2 ซม. ซ่อนในไรผม
- ความแม่นยำสูง กล้องช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างใบหน้าอย่างชัดเจน
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ใบหน้ากระชับโดยไม่ดูเหมือนผ่านศัลยกรรม
เหมาะกับ
- ผู้ที่อายุ 30–45 ปี
- มีความหย่อนคล้อยเล็กถึงปานกลาง
- ต้องการการผ่าตัดที่เจ็บน้อยและฟื้นตัวเร็ว
เลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ
แพทย์ของเรา นำโดย นพ. จตุพร ซื่อสัตย์ ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง จะวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการผสานเทคนิค Suture, Endotine, Traditional Face Lift หรือ Endoscopic Face Lift เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัย และตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบใด รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ พร้อมช่วยให้คุณกลับมามั่นใจด้วยผลลัพธ์ที่สวยงามในแบบที่คุณต้องการ
ทำไมต้องผ่าตัดดึงหน้าที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
การเลือกสถานที่ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เรามุ่งมั่นที่จะมอบการรักษาที่มีคุณภาพสูงสุด พร้อมดูแลทุกขั้นตอนอย่างมืออาชีพ
- ออกแบบความสวยเฉพาะคุณ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์
- พร้อมด้วยทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ ตามมาตรฐานความปลอดภัย
- มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย
- สามารถผ่าตัดได้ทุกวิธี
- ใช้อุปกรณ์พิเศษ Endotine ให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน
- เทคนิคส่องกล้อง ซ่อนแผล (Scarless) หายไว ฟื้นตัวเร็ว
- มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ รับรองโดยกระทางสาธารณสุข (Operating Room)
- ปลอดเชื้อ COVID-19 ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย จากกรมอนามัย และ THAISTOPCOVID+
- ได้รับคุณภาพบริการมาตรฐานสากล AACI จากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้าน “Ambulatory Plastic Surgical Center” ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอก แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก
ดึงหน้ามีกี่ประเภท และควรเลือกแบบไหนดี?
การ ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) มีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยในแต่ละส่วนของใบหน้า โดยแพทย์จะพิจารณาจากอายุ สภาพผิว และความต้องการของผู้ป่วย เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด สำหรับประเภทของการดึงหน้าที่นิยมมีดังนี้
- Forehead (หน้าผาก) แก้ปัญหารอยย่นหรือรอยยักหน้าผาก คิ้วตก มีร่องขมวดคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูไม่สดชื่น ดูกังวล เศร้า ง่วง โดยยกกระชับส่วนของหน้าผากให้ตึง ยกคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
- Upper Face (ใบหน้าส่วนบน) แก้ปัญหาบริเวณขมับ-หางคิ้ว รอยตีนกา หางคิ้วตก ที่ทำให้ตาเศร้า หรือที่หลายคนเรียกว่า Foxy Eyes
- Middle Face (ใบหน้าส่วนกลาง) แก้ปัญหาบริเวณหางคิ้ว-มุมปาก มีไขมันแก้มส่วนกลางหย่อยคล้อยลงถึงมุมปาก มุมปากตก และมีร่องข้างจมูก ซึ่งความหย่อนคล้อยส่วนนี้จะเห็นชัดที่สุด และสอดคล้องกับใบหน้าส่วนล่างที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน
- Lower Face (ใบหน้าส่วนล่าง) แก้ปัญหาบริเวณมุมปาก-คาง คางตก มุมปากตกแก้มหย่อยคล้อย หรือ แก้มล่างตุ่ย (Fat Check) ทำให้คางดูไม่ชัด กรอบหน้าไม่ชัด
- Neck Lift (ลำคอ) ผิวที่คอหย่อน ไม่กระชับ มีริ้วรอย มีไขมันเหนียง (Turkey Neck)
1. ดึงหน้าเฉพาะส่วน (Partial Facelift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเพียงบางจุด เช่น หน้าผาก แก้มส่วนกลาง หรือกรอบหน้า โดยไม่จำเป็นต้องดึงทั้งใบหน้า
เทคนิคที่ใช้
- Forehead Lift ยกกระชับบริเวณหน้าผากและคิ้ว
- Midface Lift ยกกระชับแก้มส่วนกลางและร่องข้างจมูก
- Lower Face Lift ปรับกรอบหน้าและลำคอ
ข้อดี
- ฟื้นตัวเร็ว เพราะเป็นการผ่าตัดเฉพาะจุด
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุน้อย (30-40 ปี) หรือผู้ที่มีปัญหาบางส่วน
2. ดึงหน้าแบบเต็มใบหน้า (Full Facelift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณลำคอ โดยแพทย์จะผ่าตัดแก้ไขในทุกส่วนพร้อมกัน
เทคนิคที่ใช้
- เน้นการยกกระชับในระดับชั้น SMAS
- ผสานการดึงบริเวณแก้ม คาง และลำคอ
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมาก (40 ปีขึ้นไป)
3. ดึงหน้าด้วยเทคนิค Endoscopic (Endoscopic Face Lift)
การดึงหน้าผ่านกล้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและแผลเล็ก โดยใช้กล้องขนาดเล็กช่วยในการยกกระชับ
จุดเด่น
- แผลเล็กและฟื้นตัวไว
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงปานกลาง
-
ดึงหน้าด้วย Endotine (Endotine Lift)
เทคนิคนี้ใช้วัสดุพิเศษ Endotine เพื่อยกกระชับผิวในระดับลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มั่นคงและอยู่ได้นาน
จุดเด่น
- ยกกระชับในชั้นลึก เช่น SMAS
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 5-10 ปี
-
ดึงหน้าด้วยไหม (Suture Lift)
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ โดยใช้ไหมพิเศษในการดึงกระชับบริเวณใบหน้าที่มีปัญหา
จุดเด่น
- แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี
ควรเลือกแบบไหนดี?
การเลือกประเภทการดึงหน้าขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของผู้ป่วย
- ผู้ที่อายุน้อย (30-40 ปี) การดึงหน้าด้วยไหม หรือ Endoscopic Face Lift จะเหมาะที่สุด เนื่องจากปัญหายังไม่รุนแรง
- ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป การดึงหน้าแบบ Full Facelift หรือการใช้ Endotine เหมาะสำหรับปัญหาความหย่อนคล้อยที่ชัดเจน
ผู้ที่ต้องการแก้ไขเฉพาะจุด Partial Facelift เป็นทางเลือกที่ดี เช่น การยกหน้าผากหรือยกแก้ม
ทำไมต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธี?
การดึงหน้าแต่ละประเภทมีข้อดีที่แตกต่างกัน แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแพทย์จะช่วยวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า ปัญหาผิว และแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ทีมแพทย์ของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียดและเลือกเทคนิคที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด เพื่อให้คุณกลับมามั่นใจและดูอ่อนวัยได้อีกครั้ง
ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)
การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เป็นกระบวนการที่ต้องมีการวางแผนและดูแลอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการฟื้นฟูหลังผ่าตัด โดยขั้นตอนสำคัญประกอบด้วย
-
การปรึกษาและวางแผนการรักษา
- ประเมินใบหน้า แพทย์จะวิเคราะห์ปัญหา เช่น ความหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือรูปหน้าที่ต้องการปรับ
- เลือกเทคนิค แนะนำวิธีที่เหมาะสม เช่น Traditional Face Lift, Endoscopic Face Lift, การใช้ Endotine หรือไหม Suture
- เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพ ยาประจำตัว และการแพ้ยา
- หยุดใช้ยาบางชนิดที่อาจเสี่ยงต่อการผ่าตัด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด 2-4 สัปดาห์
-
การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด
- ตรวจร่างกาย ตรวจเลือดหรือประเมินสุขภาพทั่วไป
- วางยาสลบหรือยาชา ทีมวิสัญญีแพทย์จะดูแลการดมยาสลบหรือการใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อความปลอดภัย
ทำเครื่องหมายบนใบหน้า แพทย์จะกำหนดตำแหน่งที่จะทำการดึงและตัดผิวหนังส่วนเกิน
- ขั้นตอนการผ่าตัด
กระบวนการผ่าตัดดึงหน้าอาจใช้เวลาประมาณ 2-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือกและความซับซ้อนของปัญหา
ขั้นตอนหลัก
- เปิดแผล
- สำหรับ Traditional Face Lift เปิดแผลบริเวณไรผมจนถึงหลังใบหู
- สำหรับ Endoscopic Face Lift เปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณไรผม ขนาดประมาณ 1-2 ซม.
- ยกกระชับชั้น SMAS
- ดึงและจัดตำแหน่งเนื้อเยื่อชั้นลึกเพื่อความกระชับ
- ตัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อย
- ปิดแผล ใช้ไหมเย็บที่ซ่อนในไรผมและบริเวณที่มองเห็นได้ยาก
-
การดูแลหลังผ่าตัด
- พักฟื้นในพื้นที่ปลอดเชื้อ หลังผ่าตัดคุณจะถูกดูแลในห้องพักฟื้นที่สะอาดและปลอดภัย
- ติดตามอาการ แพทย์จะตรวจเช็กแผลและอาการโดยละเอียดก่อนกลับบ้าน
- คำแนะนำหลังผ่าตัด
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อป้องกันแรงกดบนใบหน้า
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะ
-
การฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ช่วงฟื้นตัว
-
- อาการบวมและช้ำจะลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
- สามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมเบา ๆ ได้ภายใน 2-4 สัปดาห์
ผลลัพธ์ ใบหน้าจะเริ่มเห็นความกระชับและดูอ่อนวัยชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 5-10 ปี
อ่านต่อ : ดึงหน้ากี่วันหายความสำคัญของการติดตามผลหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัด แพทย์จะนัดตรวจเพื่อติดตามอาการและแผลอย่างต่อเนื่อง เช่น การตัดไหม การตรวจสภาพผิว และแนะนำการดูแลเพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานที่สุด
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผนจนถึงการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ตามที่คาดหวัง
ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี?
การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เป็นวิธีที่ช่วยคืนความอ่อนวัยให้ใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์ของการดึงหน้าสามารถอยู่ได้นาน 5-10 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์
- เทคนิคที่ใช้ในการดึงหน้า
- Traditional Face Lift ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 7-10 ปี เพราะเป็นการยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS
- Endoscopic Face Lift อยู่ได้นาน 5-7 ปี เนื่องจากแผลเล็กและยกกระชับเฉพาะจุด
- Endotine Lift ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้ 5-10 ปี เพราะเน้นยกกระชับในระดับชั้นลึก
- Suture Lift (ไหม) ผลลัพธ์อยู่ประมาณ 1-3 ปี เนื่องจากไม่ได้ยกกระชับในชั้นลึก
- อายุและสภาพผิวของผู้รับการผ่าตัด
- ผู้ที่มีอายุน้อย (30-40 ปี) และมีสุขภาพผิวที่ดีจะได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากอาจต้องการการดูแลเพิ่มเติมหลังการผ่าตัด
- การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด
- การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด การทาครีมกันแดด และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะช่วยคงความกระชับไว้ได้นานขึ้น
- การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยชะลอความหย่อนคล้อย
- ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมส่วนตัว
- การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจลดอายุของผลลัพธ์
- ความเครียดและการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อยครั้ง เช่น การขมวดคิ้ว อาจทำให้เกิดริ้วรอยใหม่
ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง
- เกิดแผลผ่าตัดขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม.จำนวน 3-5 จุด บนหนังศีรษะ (ไม่จำเป็นต้องโกนผม) และใช้กล้องขนาดเล็กเท่าปากกา สอดเข้าไปเพื่อทำการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อ และรอยเหี่ยวย่นที่อยู่ใต้ผิวหนัง จึงไม่จำเป็นต้องตัดผิวหนังออกแต่อย่างใด
- ผ่าตัดผ่านจอ Monitor ทำให้สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และเส้นประสาทได้เป็นอย่างชัดเจน
- ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง จึงลดการเสียเลือด หรือการบาดเจ็บต่อเส้นประสาท ใช้ระยะในการพักฟื้นไม่นาน ไม่ทำให้หน้าผากกว้างเหมือนการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม
ผลลัพธ์หลังการดึงหน้า สามารถคาดหวังอะไรได้บ้าง?
- ใบหน้าจะดูอ่อนวัยขึ้นทันทีหลังฟื้นตัวเต็มที่
- ริ้วรอยลึกและความหย่อนคล้อยลดลงอย่างชัดเจน
- โครงหน้าชัดเจนและผิวหน้ากระชับขึ้น
เมื่อไหร่ควรพิจารณาการดึงหน้าเพิ่มเติม?
แม้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังและชั้น SMAS จะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ บางคนอาจเลือกทำการยกกระชับเพิ่มเติม เช่น การใช้ไหม หรือการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ เพื่อคงความอ่อนเยาว์
ดึงหน้าเหมาะกับใคร?
การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และปรับโครงหน้าให้กลับมาดูอ่อนวัยอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านความกระชับของผิวหรือใบหน้าที่เห็นได้ชัด ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ครีมหรือวิธีการยกกระชับแบบทั่วไป
กลุ่มคนที่เหมาะกับการดึงหน้า
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-50 ปีขึ้นไป
- อายุ 30-40 ปี มีปัญหาหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือเฉพาะจุด เช่น กรอบหน้าไม่ชัด แก้มหย่อน หรือร่องแก้มลึก การใช้เทคนิค Suture Lift หรือ Endoscopic Face Lift จะเหมาะสม
- อายุ 40-50 ปีขึ้นไป ผิวหน้าหย่อนคล้อยชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ร่องแก้ม คาง และลำคอ การดึงหน้าด้วย Traditional Face Lift หรือ Endotine จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
- ผิวขาดความกระชับเนื่องจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน
- มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องข้างจมูก หรือรอยย่นหน้าผาก
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเจน
- มีไขมันสะสมใต้คาง (เหนียง) หรือแก้มห้อย ทำให้โครงหน้าเบลอ
- มีความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ (Turkey Neck)
- ผู้ที่เคยยกกระชับด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
- เช่น การร้อยไหม การใช้เลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ ที่ให้ผลลัพธ์ระยะสั้นหรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาในชั้นผิวลึก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและชัดเจน
การดึงหน้าสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 5-10 ปี ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาวิธีแก้ไขอย่างถาวร
ผู้ที่อาจไม่เหมาะกับการดึงหน้า
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคที่มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัด
- ผู้ที่สูบบุหรี่หนัก ควรงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินความเป็นจริง การดึงหน้าช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนวัยขึ้น แต่ไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการชราธรรมชาติได้
รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า - Face Lift
รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า ดึงหน้าลดอายุ ส่วน Forehead (หน้าผาก) โดยการส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ ซ่อนแผลในศีรษะ แก้ปัญหาร่องขมวดคิ้ว ยกระดับคิ้ว หน้าผากตึงกระชับ
คำแนะนำโดยแพทย์
การผ่าตัดดึงหน้า
ส่วน Forehead (หน้าผาก)
แพทย์จะแนะนำผ่าตัดแบบส่องกล้อง ร่วมกับการใช้เอ็นโดไทน์ (Endotine) เพราะบริเวณหัวคิ้ว-ส่วนกลางของใบหน้าจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดอยู่มาก
การใช้กล้องสามารถช่วยให้มองเห็นและเลี่ยงการโดนเส้นประสาทและเส้นเลือดบริเวณนั้น ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจกิดขึ้นได้ อีกทั้งการใช้เอ็นโดไทน์จะช่วยให้ยกกระชับได้นานกว่า และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการดึงแบบธรรมดา
รีวิว ศัลยกรรมดึงหน้า ผ่าตัดดึงหน้าส่วน Middle+Lower face lift ร่วมกับการใช้ Endotine มีแก้มหย่อนคล้อย ร่องข้างจมูก มุมปากตก ลำคอส่วนบนหย่อนคล้อย และมีรอยแผลอยู่บริเวณไรผม หน้าหูไปจนถึงหลังหู แต่แทบมองไม่เห็นแผลเป็นบนใบหน้าเลย
FAQ คำถามที่พบบ่อย ศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift)
ศัลยกรรมดึงหน้า จะขึ้นอยู่กับเทคนิคหรือวิธีผ่าตัดที่เลือกใช้ หรือหากทำรายการอื่นร่วมด้วย เช่น ดูดไขมัน, เติมไขมันหน้า ฯลฯ เวลาการผ่าตัดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แต่ส่วนมากจะใช้เวลาในการผ่าตัดด้วยการดมยาไม่เกิน 6-8 ชั่วโมง
ผ่าตัดดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องใช้การดมยาสลบร่วมด้วย หลังการผ่าตัดอาจจะมีอาการบวม เขียว ฟกช้ำเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำการรักษาประมาณ 2 อาทิตย์ และจะค่อยๆ ดีขึ้นในระยะประมาณ 1 เดือน
ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี? นั้นขึ้นอยู่กับการรักษาว่า ผ่าตัดดึงหน้าด้วยเทคนิคใด หากทำการผ่าตัดด้วยวิธีใด เช่น การผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม+เอ็นโดไทน์ , การผ่าตัดดึงหน้าแบบส่องกล้อง+เอ็นโดไทน์ ผลลัพธ์จะทำให้ใบหน้าเต่งตึง ยกกระชับได้ตั้งแต่ภายในและภายนอก ลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย หน้าเด็กลง และอยู่ได้นาน 5-10 ปี หรืออาจจะ 20 ปี นั้นขึ้นอยู่กับการดูแล สภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย
- อาการบวมช้ำหลังผ่าตัด ประมาณ 2 อาทิตย์แรก และจะดีขึ้น หน้าสวยเข้ารูปหลัง 1 เดือนเป็นต้นไป
- อาการชาบริเวณที่ทำการผ่าตัด แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ข้อเสียของการดึงหน้า หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
- อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ได้
- ได้ผลลัพธ์ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะทำการรักษาผิดจุด หรือผิดวิธี
- อาจเกิด Widening Scar หรือแผลเป็นกว้าง แผลรั้งได้ เพราะ ผ่าตัดดึงหน้าตึงจนเกินไป โดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญมากพอ
- ผ่าตัดดึงหน้าผิดชั้น อาจทำให้ใบหน้าห้อย หน้าเบี้ยว หรือหน้าผิดรูปได้ เพราะแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ความชำนาญที่สูงพอ และไม่เข้าใจ Anotomy บริเวณใบหน้าดีพอ
- กรณีต้องใช้การดมยา ต้องทำโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิต
ข้อเสียของการผ่าตัดดึงหน้าในสถานที่ไม่ได้มาตรฐาน
- เสี่ยงเกิดแผลติดเชื้อ เพราะสถานที่ไม่สะอาด
- ไม่มีห้องผ่าตัดที่รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างถูกต้อง
Endotite เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมในการผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ซึ่งการใช้ Endotite จะช่วยเข้าไปแก้ปัญหาในส่วนของผิวหนังชั้นลึก และสามารถมองเห็นผิวหนังชั้น smas โดยตรง แก้ไขปัญหาได้ถูกจุด แก้ไขปัญหาผิวหนังได้ถูกชั้นกว่า ต่างกับการร้อยไหม ที่เราไม่สามารถเห็นได้ว่าร้อยไหมยังผิวชั้นไหน
แพทย์จะดูปัญหาบนใบหน้าของคนไข้มากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่อายุเป็นปัจจัยหนี่งที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยบนใบหน้า เช่น คิ้วเริ่มตก ใบหน้าหรือแก้มเริ่มย้อย มีริ้วรอย ที่เห็นได้ชัดกว่าในคนอายุน้อย
ในปัจจุบันก็มีคนอายุน้อย เช่น 30+ หันมามสนใจการดึงหน้ากันมากขึ้น เช่น การดึงหางตา หางคิ้ว แก้คิ้วตก ฯลฯ โดยใช้เทคนิคใหม่ๆ ที่แผลเป็นเล็ก แผลน้อย หรือซ่อนแผลได้
- คนที่ใบหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเยอะ ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า ให้กลับมาดูเต่งตึง และอ่อนกว่าวัย
- คนที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมส่วน แก้ไขใบหน้าที่ผิดรูปให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ก่อนตัดสินใจทำ ดึงหน้าที่ไหนดี? ต้องศึกษาข้อมูลให้มากๆ เพราะศัลยกรรมดึงหน้า เป็นการผ่าตัดใหญ่ จะต้องทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญมากพอ และต้องทำการดมยา ซึ่งจะต้องมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดกรรักษา รวมถึงสถานที่ต้องได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด ลดความเสี่ยงต่างๆ และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม อย่าดูเพียงแค่ ดึงหน้าราคาถูก โปรโมชั่น เพียงอย่างเดียว!
สรุป
การดึงหน้าที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นใจและอ่อนเยาว์ในระยะยาว พร้อมทีมแพทย์ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การผ่าตัด ไปจนถึงการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยในทุกมิติ
แพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
Biography