จะเข้าหน้าร้อนแล้ว ปัญหาใหญ่กวนใจใครหลายคนเห็นจะหนีไม่พ้น กลิ่นตัว และเหงื่อ ซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกของเมืองไทย โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา เล่นเอาไม่มีใครอยากเดินทางไปไหน เพราะขยาดกับความร้อนแรงของแสงพระอาทิตย์ และความเหนี่ยวเหนอะหนะของเหงื่อที่ไหลประหนึ่งน้ำท่วม และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว
เนื่องจากบนร่างกายเรามีต่อมเหงื่อมากกว่า 40,000 ต่อม กระจายทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณ รักแร้ ศีรษะ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า ที่จะมีมากเป็นพิเศษ วันนี้ทางรัตตินันท์คลินิกจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นของผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ และปัญหากลิ่นตัวเบื้องต้น
10 วิธีแก้ปัญหากลิ่นตัว
1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน
เช่น กระเทียม เครื่องเทศ เนื่องจากจะทำให้มีกลิ่นออกมาจากเหงื่อได้ ตัวอย่างเช่น คนที่รับประทานเครื่องเทศมาก ๆ ก็จะมีกลิ่นเหงื่อที่เป็นกลิ่นเครื่องเทศออกมานั้นเอง ต้องลองปรับเปลี่ยนอาหารดู บางคนอาจมีกลิ่นมาจากน้ำมันปรุงอาหารได้
2. ทำความสะอาดบริเวณที่มีกลิ่น ด้วยไฮโดรเจน ไฮดรอกไซด์ (Hydrogen hydroxide)
ใช้แบบ 1% ประมาณ 1 ช้อนชาผสมน้ำ 1 ถ้วยชุบน้ำเช็ดบริเวณที่มีกลิ่นตัว เช่น ฝ่าเท้า ขาหนีบ หรือ ใต้วงแขน เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว
3. ทำให้เหงื่อแห้ง
โดยการใช้ แผ่นแปะซับเหงื่อบริเวณใต้วงแขน แผ่นแปะซับเหงื่อนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแผ่นที่ถูกออกมาแบบ สำหรับซับเหงื่อบริเวณรักแร้โดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งร้านที่รับพรีออเดอร์ของนำเข้าจากญี่ปุ่น หรือร้านไดโซะก็มีนะคะ
4. ใช้สารลดเหงื่อ (Anti-perspirant) หรือ สารลดกลิ่น (Deodorant)
เช่น สารลดเหงื่อ (Anti-perspirant) หรือสารลดกลิ่น (Deodorant) เรียกได้ว่าเป็นวิธีการที่หลายคนเลือกใช้กันเป็นจำนวนมาก แต่แนะนำให้ใช้ สารลดเหงื่อ ในเวลากลางคืนก่อนนอน ซึ่งจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด สารลดเหงื่อจะทำหน้าที่ได้ดีหากวงแขนค่อนข้างแห้ง เพราะหากใส่ทันทีหลังอาบน้ำหรือตอนเริ่มมีเหงื่อ อาจทำให้สารหลุดออกง่าย
สารลดเหงื่อหมายถึงสารเคมีที่ทำให้ต่อมเหงื่อลดการทำงานลง เหงื่อลดลง ส่วนสารลดกลิ่น ที่จริงไม่ได้ดับกลิ่นแต่จะมีน้ำหอมให้กลบกลิ่นมากกว่า และผู้ผลิตมักนิยมมาผสมกัน เวลาซื้อต้องดูดีๆ ว่าซื้อแบบไหนมา อลูมีเนียม Aluminum คือสารออกฤทธิ์หลักของการผลิตสารลดเหงื่อ โดยจะไปทำหน้าที่ทำให้รูเหงื่อมีขนาดเล็กลง โดยเฉพาะสารลดเหงื่อที่มี อลูมีนัม คลอไรด์ Aluminum Chloride ซึ่งดูจะได้ผลกว่าสารตัวอื่นๆ ถึงแม้จะมีรายงานอ้างว่าอาจก่อให้เกิดมะเร็ง
หากใช้ไปนานๆ แต่ก็ยังต้องรอการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ผลข้างเคียงอันหนึ่งของการใช้สารนี้เพื่อลดเหงื่อก็คือ มันสามารถทำปฏิกิริยากับเหงื่อ เกิดเป็นคราบสีเหลืองได้ ทำให้ติดเสื้อผ้าจนต้องทิ้งเสื้อไป ในคนบางกลุ่มที่ใช้แบบนี้แล้ว ยังไม่สามารถลดเหงื่อได้ อาจต้องขยับมาเป็น aluminum chloride hexahydrate (Drysol) ซึ่งสามารถสอบถามแพทย์ได้
5. เลือกใช้เครื่องแต่งกายที่ระบายอากาศ และความร้อนได้ดี
การใส่เสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี จะดีกว่า โดยเฉพาะผ้าใยสังเคราะห์บางชนิด
6. เปลี่ยนชุดทุกครั้งหลังการเล่นกีฬาที่มีเหงื่อออกเยอะ และซักด้วยน้ำส้มสายชู
การซักด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู จะทำให้กลิ่นหายไปได้ดีกว่า รวมทั้งคราบเหลืองที่เกิดขึ้นกับเสื้อ บริเวณรักแร้ จุ่มลงไปในน้ำส้มสายชูที่อุ่น ขยี้เบาๆ หรือแช่ไว้ จะทำให้คราบเหลืองดังกล่าวหายไปได้
7. ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินกำหนด
หรือลดน้ำหนักตัว ควบคุมอาหาร ไม่ให้มีน้ำหนักเกิน ยิ่งน้ำหนักเยอะ ก็ทำให้มีกลิ่นตัวมาก อาจจะเกิดจากการที่ร้อนง่ายเหนื่อยง่าย รวมทั้งบริเวณซอกต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากผิวหนังที่ย้อยไปปิด ทำให้อับชื้น ต้องดูแลดีๆ เพราะเกิดเชื้อราได้ง่ายมาก
8. หลีกเลี่ยงความเครียด
หรือหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด และตื่นเต้น เนื่องจากความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิด กลิ่นตัว และเหงื่อออกมาก ในกรณีที่เป็นเยอะแพทย์บางท่านอาจจำเป็นต้องใช้ยา เช่น glycopyrrolate (Robinul)ทานเพื่อลดอาการ จะสามารถทำให้ลดเหงื่อจากความตื่นเต้นนี้ได้ แต่ผลข้างเคียงคือทำให้ปากแห้งมาก
9. กำจัดขนบริเวณที่มีกลิ่น
เพื่อลดการสะสมตัวของแบคทีเรีย ทำให้เกิด กลิ่นตัว
10. ซัก และทำความสะอาดเสื้อผ้าอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดเครื่องแต่งกายให้สะอาดอยู่เสมอ และเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อให้ผ้ามีกลิ่นหอม ก็มีส่วนช่วยในการลดการสะสมของแบททีเรีย ปัญหาของกลิ่นตัวได้เช่นกัน
วิธีแก้เหงื่อออกมาก ด้วยวิธีอื่น ๆ ทีเดียวจบ
แต่ทั้งหมดนี้ก็ล้วนแต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุทั้งสิ้น และล้วนแต่ไม่ถาวร ซึ่งหมายความปัญหาเหล่านี้จะหายไปแค่ชั่วคราวนั้นเอง รวมถึงการฉีดสารโบทูลินัมทอกซิน (Botulinum toxin A) หรือการทำโบทูลินั่ม ท็อกซินที่บริเวณใต้วงแขนเองก็ไม่ใช่การรักษาปัญหา กลิ่นตัว ที่ถาวร เนื่องจากจะมีฤทธิ์อยู่แค่ 3-6 เดือน ทำให้ต้องฉีดซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
การฉีดก็จะฉีดเป็นจุดๆไป ราว 20-25 จุดต่อข้าง (ค่อนข้างเจ็บ) ซึ่งจะระงับการทำงานของต่อมเหงื่อได้ มีผลทำให้ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้ทันที รวมถึงการฉีดเพื่อลดเหงื่อบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้าในบางคนที่เหงื่อออกมามากกว่าปกติ
อีกวิธีคือ การผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อออก และถึงแม้ว่าการผ่าตัดขูดต่อมไขมัน และต่อมกลิ่น จะเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนสนใจ นอกจากมีกระบวนการทำที่เจ็บมากแล้ว กลับให้ผลลัพธ์ที่ไม่มั่นคง และมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้
อ่าน miraDry เพิ่มเติมด้วยเหตุนี้ จึงมีการคิดค้นวิธีแก้ปัญหาเหงื่อและกลิ่นตัวมากมาย ทำให้เกิดเป็น miraDry เทคโนโลยีในการกำจัดเหงื่อ และกลิ่นตัวแบบใหม่ล่าสุดโดยการใช้เลเซอร์เข้าไปทำลายต่อมเหงื่อ และต่อมกลิ่น รวมถึงต่อมขนบางส่วน ทำให้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ มีประโยชน์หลายอย่าง เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวรนั้นเอง
ทีมแพทย์รักษาผิวพรรณ ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์
แพทย์หญิง
พญ. นฤมล วิเชียร
แพทย์หญิง
พญ. จุฑามาศ ตันคุณากร
ตจวิทยา
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์ (คุณหมอแต๋ม)
แพทย์ผู้ชำนาญด้านผิวพรรณและเลเซอร์
เกียรตินิยมด้านเวชศาสตร์ความงามจาก American Academy of Aesthetic Medicine
ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี