ปัจจุบันในทางการแพทย์ มีนวัตกรรมการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดอยู่หลายแบบด้วยกัน ซึ่งเราจะมาเปรียบเทียบ Emface vs Ulthera vs Thermage vs Morpheus8 ซึ่งเป็น 4 นวัตกรรมที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ใหม่ล่าสุดและยกกระชับได้จริง รวมถึงยังเป็นหัตถการยอดฮิตของกลุ่มคนที่มีปัญหาผิวอีกด้วย ทั้งในเรื่องของความหย่อนคล้อย มีริ้วรอยบนใบหน้า และผิวดูแก่ก่อนวัย เป็นต้น
ทำความเข้าใจ Emface, Ulthera, Thermage และ Morpheus8
ก่อนหน้านี้มีนวัตกรรมที่เป็นตัวท็อปในการยกกระชับหน้าคืออัลเทอร่าและเทอร์มาจ ซึ่งก็ได้รับความนิยมทั้งคู่ แต่สำหรับในปี 2024 นี้ มีเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ผิวคุณยกกระชับได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวคือ Emface ซึ่งยกได้ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ รวมทั้งยังมี Morpheus8 หรือ Morpheus NEO ที่ช่วยเรื่องแก้ผิวยับ ปรับผิวเรียบเนียนและเสริมให้ดูเด็กลงได้ดี อย่างไรก็ตาม เรามาทำความรู้จักกับนวัตกรรมแต่ละชนิดกันค่ะ
ทำความรู้จักกับ Ulthera
Ulthera (อัลเทอร่า) คือการยกกระชับหน้าที่ใช้พลังงานคลื่นเสียง Microfocused Ultrasound with Visualization (MFU-V) มาเป็นเทคโนโลยีเพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิว ซึ่งลึกลงไปถึงที่ชั้นผิว SMAS ระยะ 4.5 มม. โดยกระตุ้นให้เกิดรอยหดตัวลงขนาด 1 มม. เพื่อยกกระชับหน้าได้ในบริเวณที่ต้องการแบบไม่เจ็บปวดเหมือนการผ่าตัด
ข้อดีของอัลเทอร่าคือจะมีระบบหน้าจอแสดงชั้นผิวแบบ Real-Time ทำให้การยิงพลังงานสร้างคอลลาเจนใต้ผิวมีความแม่นยำและได้ผลการรักษาที่แน่นอน ผลลัพธ์จะทำให้ผิวเรียบเนียน ยกกระชับได้ดี ในปัจจุบัน สำหรับการดูแลผิวพรรณและการยกกระชับ อัลเทอร่านับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง
Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้
- มีอายุ 25 ปีขึ้นไป หรือดูแก่กว่าวัย
- ต้องการปรับรูปหน้าให้กระชับ กรอบหน้าชัด อยากปรับแก้ม เหนียงและผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับให้ยกขึ้น
- มีริ้วรอยรอบดวงตา หนังตาตก คิ้วตก รวมถึงมีริ้วรอยบริเวณลำคอ และเนินอก
- มีใบหน้าทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน และต้องการปรับรูปหน้าให้สมมาตรกัน
ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย Ulthera
ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย Ulthera คือผิวหน้าจะกระชับ ช่วยปรับสภาพผิว มีโครงหน้าที่สมส่วนเสมอกัน กรอบหน้ามีมิติ ริ้วรอยลดลง รูขุมขนกระชับขึ้น และผิวมีความยืดหยุ่น
ซึ่งหลังทำจะเห็นผลได้แทบทันทีประมาณ 20% ของผลลัพธ์จริง แล้วจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นในช่วงเดือนที่ 2-3 หลังจากการรักษา นอกจากนี้ผลลัพธ์ที่ได้จาก Ulthera ยังมีความยาวนานมากถึง 1-2 ปี ทำให้ผู้ที่รับการรักษาได้สัมผัสความสวยงามและความกระชับในระยะยาว
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้บริการอัลเทอร่ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Ulthera SPT ที่ให้ผลลัพธ์ดีขึ้น และเจ็บน้อยลง นอกจากนี้ ยังได้รับ Certificate จาก MERZ Aesthetics บริษัทผู้จัดจำหน่าย Ulthera อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในฐานะที่ใช้ Ulthera Treatment เทคนิค S.P.T เป็นที่แรก ๆ ของประเทศ และเราได้ให้การรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น
ทำความรู้จักกับ Thermage
Thermage (เทอร์มาจ) คือการยกกระชับผิวโดยใช้คลื่นวิทยุ (RF : Radio Frequency) เข้ามาเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้กระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยคลื่นวิทยุจะมีความถี่สูง สามารถลงไปลึกได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นที่ประกอบไปด้วยไขมันและคอลลาเจน หลังทำผิวจะเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดไขมันใต้ชั้นผิวได้ดี
การทำงานของเทอร์มาจคือพลังงานจะเข้าไปช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นให้กับเส้นใยคอลลาเจน ลดการหย่อนคล้อยของเส้นใยคอลลาเจน และเพิ่มความขึ้นตัวของเกลียวที่ขึงไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกกระชับผิวหน้า นอกจากนี้ ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงและการแสดงอารมณ์ได้อีกด้วย
Thermage เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีรอยร่องแก้มลึก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน โดยสามารถใช้งานได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
- ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ
ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย Thermage
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Thermage จะเห็นผลแทบทันที แต่ผลลัพธ์ที่เห็นเป็นเพียงประมาณ 20% เท่านั้น และผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นจะเห็นได้ในช่วงเดือนที่ 2-3 หลังการทำทรีตเมนต์ ซึ่งผิวหน้าจะดูยกขึ้นและเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ร่วมกับการสลายไขมันชั้นใต้ผิว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราให้บริการรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Thermage FLX ที่ให้ผลลัพธ์ดีขึ้น เจ็บน้อยลง และมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ เราได้ให้บริการด้วยความชำนาญของแพทย์ในการประเมินรูปหน้าและออกแบบการยิงตาม Vector ที่ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับได้ดี ทั้งยังเป็นทีมแพทย์ผู้ชำนาญการมากประสบการณ์ที่ผ่านการอบรมการทำ Thermage FLX อีกด้วย
ทำความรู้จักกับ Emface
Emface เป็นนวัตกรรมการยกกระชับที่ผสมผสานเทคโนโลยี HIFES และ Synchronized RF ไปด้วยกันส่งพลังงานผ่านแผ่นแอพพลิเคเตอร์ที่แปะลงที่หน้า โดยจะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อช่วยในการยกกระชับไปพร้อมกับการเผาผลาญไขมัน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับอิลาสตินโดยไม่ทำให้เจ็บแม้แต่น้อย
นับว่าเป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่นำ 2 เทคโนโลยีนี้มาทำงานร่วมกันในขั้นตอนเดียวและฟื้นฟูผิวได้ลึกกว่าที่เคย โดยเข้าไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการยิ้ม การขยับหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากให้ทำงานอย่างเต็มที่
Emface เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้า ยกเหนียง ยกตา และมีผิวหย่อนคล้อยเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย
- ผู้ที่กลัวเข็ม กลัวโบทูลินัม ท็อกซิน เอ หรือ ไฮยารูลอนิค เอซิด
- ผู้ที่ไม่อยากเจ็บตัวและพักฟื้น
- ผู้ที่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาหลาย ๆ หัตถการพร้อมกันหลายตัว
ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย Emface
ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มรู้สึกได้ตั้งแต่หลังการทำครั้งที่ 2 แต่จะชัดเจนขึ้นเมื่อผ่านไปแล้วหลังการทำครั้งที่ 4 ไป 3 เดือน และอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี (ทุกคนควรทำ 4 ครั้ง)
เอกลักษณ์เฉพาะที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราได้ใช้นวัตกรรมร่วมกันระหว่าง Emface และ SmileLift Laser โดยมีการปรับค่าพลังงานที่เหมาะสม ยิงส่งได้ถึงภายในกระพุ้งแก้มและผิวชั้นนอก เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มฟื้นฟูได้ดี เทคนิคนี้ จะส่งให้ผลลัพธ์จาก EMFACE มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาตรงร่องแก้มลึกให้กลับมาฟูได้เร็วกว่าเดิม
ทำความรู้จักกับ Morpheus8 หรือ Morpheus NEO
Morpheus8 หรือ Morpheus NEO คือนวัตกรรมที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Fractional Microneedle RF มาช่วยลดรอยยับและยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่เป็นการส่งพลังงานผ่านหัวเข็มขนาดเล็ก 24 เข็มลงไปกระตุ้นชั้นผิว ซึ่งสามารถปรับระดับได้ตั้งแต่ 1-4 มิลลิเมตร โดยขึ้นอยู่สภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวยับ ไม่เรียบ มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และมีรอยแผลเป็นต่าง ๆ
จุดเด่นของมอร์เฟียสคือความแม่นยำและเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพหลังทำได้ทันที เพราะหลังจากการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าของผู้ใช้บริการอย่างละเอียดแล้ว จะปรับค่าพลังงานการใช้งานของเครื่องให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล
Morpheus8 เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ที่มีไขมันบริเวณแก้มและเหนียง
- ผู้ที่ต้องการรักษาแผลเป็น และผิวที่ไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ผู้ที่มีคิ้วย่น คิ้วตก
- ผู้ที่มีร่องแก้มชัด ร่องน้ำหมากชัด
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย
- ผู้ที่มีรอยยับย่นบนผิว
ผลลัพธ์ของการดูแลผิวด้วย Morpheus8
ผลหลังจากทำ Morpheus8 คือผิวจะยกกระชับขึ้นได้โดยเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังทำไปแล้วครบ 3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
ทำ Morpheus8 ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราใส่ใจในทุกการรักษา ทั้งการบริการ ความชำนาญการ และความปลอดภัย ทำหัตถการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ทั้งทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ เพราะจะสามารถประเมินการรักษาและทำหัตถการได้อย่างแม่นยำ รวมถึงเปลี่ยน handpiece ให้ใหม่ทุกครั้ง ไม่ใช้ซ้ำ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
Emface vs Ulthera vs Thermage vs Morpheus8 ต่างกันอย่างไร
Ulthera ใช้พลังงาน Ultrasound จะยิงไปชั้น SMAS สิ่งที่จะเกิดคือ จะเจ็บมาก ยกไม่ถึงกล้ามเนื้อ แต่ยกกระชับได้นาน
EMFACE จะทำให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่นั้นมีการหดตัวยกขึ้นได้และการเปลี่ยนแปลงของโทนด์กล้ามเนื้อใบหน้าที่ชัดเจน (เหมือนยกขึ้นทั้งก้อนไม่ได้ยกแค่เปลือกนอก)
Thermage ใช้พลังงาน RF (Radio-Frequency) ในความลึกระดับชั้นไขมัน จะไม่ไปถึงชั้นมัดกล้ามเนื้อ
Morpheus8 เสริมผิวชั้นบนให้เรียบเนียน แต่ไม่ถึงผิวชั้นลึก
** หากต้องการใช้เทคโนโลยียกกระชับ อาทิ EMFACE, Ulthera และ Thermage พร้อมกันก็ทำได้ เพราะประสิทธิภาพที่ส่งพลังงานไปยังชั้นผิวของใบหน้าจะต่างกัน
สรุป Ulthera vs Thermage vs Emface vs Morpheus8 ต่างกันตรงที่หลักการทำงาน พลังงานหรือเทคโนโลยีที่ใช้ จำนวนครั้งที่ทำแล้วเห็นผล ระดับความลึกที่เข้าช่วย และราคาที่ให้บริการ แต่อย่างไรก็ยังมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของผลลัพธ์ ซึ่งคุณสามารถปรึกษาปัญหาผิวหน้ากับทีมแพทย์ได้ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ปลอดภัย บริการด้วยความเต็มใจ ไม่มีจ่ายเพิ่มทีหลัง
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง