Emface นวัตกรรมยกกระชับหน้าใหม่ล่าสุดของปี 2024 เป็นเครื่องยกกระชับผิวและฟื้นฟูผิวตั้งแต่กล้ามเนื้อมาจนถึงผิวชั้นบน ช่วยลดริ้วรอยได้จบครบในขั้นตอนเดียว มีการวิจัยและรับรองประสิทธิภาพมาแล้วทั้งจากสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกว่าดีกว่าเก่า คุ้มค่ากว่าเก่า หน้ายกกว่าเก่า และเจ็บน้อยกว่าเก่า เรียกได้ว่าเทคโนโลยีเก่า ๆ ที่คิดจะทำในปีนี้ต้องพับโครงการเก็บไปก่อนเลย เพราะเอ็มเฟซ กำลังจะได้ครองราชินีแห่งนวัตกรรมยกกระชับหน้าในอีกไม่ช้านั่นเอง
Emface นวัตกรรมยกกระชับหน้า ผิวยืดหยุ่นกว่า 2 เท่า ผิวแข็งแรงเข้าไปถึงกล้ามเนื้อแบบไม่ต้องเจ็บตัว
Emface คืออะไร ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจยกหน้า
Emface คือนวัตกรรมการยกกระชับหน้าที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูชั้นผิวให้แข็งแรง ยกเหนียงและลดริ้วรอยได้ในเครื่องเดียวโดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องฉีดสารแปลกปลอม รวมทั้งไม่ต้องพักฟื้นหรือทนปวดระบม เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์จากบริษัท BTL ที่ผสมผสานเทคโนโลยี HIFES และ Synchronized RF ไปด้วยกัน โดยจะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อช่วยในการยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับอิลาสติน
เทคโนโลยีนี้ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาทั้งแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) และแห่งประเทศไทย (เลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์: 65-2-2-2-0007734) รวมถึงมีวิจัยรองรับกว่า 9 งานวิจัยจาก research center 15 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา
“ริ้วรอยลด เพิ่มกระชับ ไม่ต้องรับเข็ม”
Emface ทำงานอย่างไร
การทำงานของ Emface หลังจากการแปะหัวแอพพลิเคเตอร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นลงบนหน้าไปแล้ว เครื่องจะปล่อยพลังงาน 2 ชนิดเข้าสู่เส้นประสาทเพื่อไปบังคับกล้ามเนื้อ โดยเทคโนโลยีแรก คือ Synchronized RF และ HIFES
Synchronized RF เป็นพลังงานคลื่นวิทยุที่จะส่งไปยังชั้นผิวตั้งแต่ชั้นหนังแท้ไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ โดยมี AI คอยควบคุมพลังงานความร้อนแต่ละชั้นผิวให้ไม่เกิน 42 องศา เพื่อป้องกันผิวไหม้ ผลที่ได้คือจะช่วยสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน ริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าลดลงถึง 37% (จากพื้นฐานเดิมของใบหน้า)
HIFES เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยในเรื่องของการกดเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยใช้การรันสต็ปเป็น 125 cycles ช่วยเพิ่มคุณภาพของกล้ามเนื้อขึ้น 30% (จากพื้นฐานเดิมของใบหน้า) โดยสามารถลงไปกระตุ้นชั้นผิวได้ลึกถึง 20 มิลลิเมตรโดยมี AI คอยวัดระดับความลึกของบริเวณต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับที่พอดี
เมื่อทั้ง 2 เทคโนโลยี Synchronized RF + HIFES มาทำงานร่วมกันจะส่งผลให้เรามีโครงสร้างกล้ามเนื้อดีขึ้น ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพผิวแบบองค์รวม ทั้งยังเป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่นำ 2 เทคโนโลยีนี้มาทำงานร่วมกันในขั้นตอนเดียว
EMFACE ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร
ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เราใช้ EMFACE ด้วยเทคนิค Dual Lifting ซึ่งเป็นการผสานพลังงานจาก 2 นวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับและฟื้นฟูเส้นใยกล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้น โทนด์กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น และเกิดการยกที่ชัดเจนของใบหน้า
เทคนิค Dual Lifting คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับแบบคูณสอง ด้วย 2 นวัตกรรม คือ
- EMFACE ที่ส่งพลังงานจากนอกเข้าในถึงชั้นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ลึกสุด โดยลึกกว่า SMAS จะใช้พลังงาน HIFES (High Intensity Focused Electromagnetic) และ SyncRF(Synchronized RF) ที่ยังไม่มีเครื่องอื่นทำได้
- Smile Lifting ใช้พลังงาน Erbium: YAG ยิงเลเซอร์จากภายในกระพุ้งแก้ม เป็นการส่งพลังงานประกบกัน ช่วยส่งเสริมให้การยกกระชับบริเวณร่องแก้มและมุมปากดียิ่งขึ้น
ขั้นตอนระหว่างทำ Emface มีอะไรบ้าง
ขั้นตอนในการรับบริการ Emface หลังจากที่ทำความสะอาดใบหน้าและเช็ดให้แห้งเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการติดแอพพลิเคเตอร์ลงบนหน้าทั้ง 3 ตำแหน่ง ได้แก่ หน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง เพื่อให้พลังงานได้ปล่อยลงสู่ผิว โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 20 นาที ซึ่งระหว่างการรับบริการคุณจะรู้สึกสบายผิว อุ่นแต่ไม่ร้อน ไม่เบิร์น ไม่เจ็บ แต่จะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อตึงตัวขึ้นตามจังหวะการปล่อยพลังงานของ HIFES เสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลย
การรับบริการ Emface® แพทย์ต้องเป็นคนติดแอพพลิเคเตอร์ให้เราเท่านั้น เพราะจำเป็นต้องวางตำแหน่งให้ถูกต้องสอดคล้องกับกล้ามเนื้อที่ต้องการ
Emface ช่วยเรื่องอะไร ทำไมถึงได้เป็นราชินีแห่งการยกกระชับผิว
Emface จะเข้าไปช่วยยกหน้าให้กระชับ (ลึกกว่าชั้น SMAS) โดยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการยิ้ม การขยับหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากให้ทำงานอย่างเต็มที่ และให้ผิวแข็งแรงด้วยการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนถึง 26% พร้อมกับอิลาสตินเพิ่มขึ้น 2 เท่า ปรับผิวหน้าเฟิร์มกระชับ เรียบเนียน และลดริ้วรอยบนใบหน้าเพื่อให้ดูอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะมีส่วนช่วยเพิ่มเติมคือ ชั้นตาเบิกกว้างขึ้นหรือยกขึ้นประมาณ 3.25 มิลลิเมตร เกิดวอลลุ่มของใบหน้าคล้ายกับการฉีดคางหรือแก้มส้มด้วยฟิลเลอร์ ลิฟโครงหน้าให้เรียวขึ้นเนื่องจากการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อที่มีหน้าที่ในการยก ยึด ขยับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกผิวทั่วหน้าบริเวณหน้าผาก แก้มทั้ง 2 ข้าง Jawline และคิ้ว โดยครอบคลุมทุกชั้นผิวตั้งแต่ ชั้นหนังกำพร้า ผิวหนังแท้ ชั้นไขมัน Subcutaneous ชั้น SMAS และชั้นกล้ามเนื้อ รวมถึงเส้นใยที่ยึดโยงระหว่างชั้นผิว (Connective Tissue) เราอาจแบ่งคุณสมบัติออกเป็นข้อ ๆ ได้ ดังนี้
- กล้ามเนื้อยกหน้ามีวอลลุ่มเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 30%
- คอลลาเจนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 26%
- ความหนาแน่นกล้ามเนื้อหน้าเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 19%
- ใบหน้ายกขึ้นโดยเฉลี่ย 23%
- ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นโดยเฉลี่ย 25%
- ริ้วรอยลดลงโดยเฉลี่ย 37%
- เส้นใยอิลาสตินเพิ่มขึ้น 2 เท่า
ใครที่เหมาะกับนวัตกรรม Emface
ผู้ที่เหมาะสำหรับการทำ Emface ราชินีแห่งการยกกระชับที่ลึกกว่าชั้น SMAS โดยไร้เข็ม ไร้ความเจ็บปวดคือกลุ่มคนดังนี้
- คนที่ต้องการยกกระชับหน้า ยกเหนียง (สามารถยกตาให้เบิกกว้างได้ด้วย) มีผิวหย่อนคล้อยเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย โดยการฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อใต้ผิวให้มีความแข็งแรง
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยโดยการกระตุ้นการเรียงตัวของคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน
- ผู้ที่กลัวเข็ม กลัวสารแปลกปลอมอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกาย เช่น โบทูลินัม ท็อกซิน เอ หรือ ไฮยารูลอนิค เอซิด
- ผู้ที่ไม่อยากเจ็บตัวและพักฟื้นจากการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
- ผู้ที่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาหลาย ๆ หัตถการพร้อมกันหลายตัว
ใครที่ไม่เหมาะกับนวัตกรรม Emface
ผู้ที่ไม่เหมาะสำหรับการทำ Emface คือกลุ่มคนที่มีโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร รวมถึงคนที่มีปัญหาผิวอักเสบ กำลังมีการบาดแผลบริเวณที่จะทำ หรืออยู่ในเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้
- คนที่ฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ ฝังเครื่องกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาท ฝังเหล็กบริเวณใบหน้า
- ผู้ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการรักษามะเร็ง เนื้องอก
- ผู้ที่มีไข้
- ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ที่มีโรคลมชัก
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
Emface เจ็บไหม และมีผลข้างเคียงหลังทำอย่างไร
การทำ Emface ไม่เจ็บ มีความปลอดภัยสูงและไม่มีผลค้างเคียงใด ๆ เพราะเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่จะมีการใช้พลังงานความร้อนเข้ามาช่วยในกระบวนการยกกระชับซึ่งมี AI คอยตรวจจับคุมระดับความร้อนให้คงที่ ไร้กังวลเรื่องหน้ามีรอยไหม้ เบิร์น รวมถึงไม่ต้องใช้เข็ม ยาชา และพักฟื้น จึงตอบโจทย์ความต้องการของคนที่กลัวเข็มและกลัวความเจ็บ และไม่ชอบฉีดสารต่าง ๆ เข้าชั้นผิวได้ดี
ระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์ของ Emface
Emface ควรทำทั้งหมด 4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างในการทำอยู่ที่สัปดาห์ละ 1 ครั้งติดต่อกัน ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มรู้สึกได้ตั้งแต่หลังการทำครั้งที่ 2 แต่จะชัดเจนขึ้นเมื่อผ่านไปแล้วหลังการทำครั้งที่ 4 ไป 3 เดือน และอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี
ทำไมต้องรับบริการ Emface ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
หากคุณเข้ารับบริการ Emface ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ สิ่งที่คุณจะได้อย่างแน่นอนคือ
- การดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวพรรณและเลเซอร์โดยตรง
- ทีมงานบริการด้วยความรู้ และประสบการณ์ด้านความงาม เพื่อให้ลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
- สร้างความเชื่อมั่นได้ เนื่องจากเราเปิดให้บริการมานานกว่า 24 ปี
- เป็นหนึ่งใน 10 คลินิกแรก ๆ แห่งประเทศไทยที่ให้บริการ Emface®
- รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ได้รับรางวัลในด้านบริการถึง 4 ปี จาก WhatClinic
- แจ้งค่าใช้จ่ายทุกขั้นตอนก่อนเริ่มต้นให้บริการ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าค่าใช้จ่ายคุณจะไม่เกินงบประมาณ
- ได้รับใบรับรองสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัยและป้องกันโควิด-19 จากกรมอนามัย
- ได้รับการไว้วางใจจากอินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ มากมาย
ทีมแพทย์ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
Emface ราชินีแห่งการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นบริการใหม่ต้อนรับปี 2024 ปลอดภัย ไร้ความเจ็บปวด ใช้เวลาในการดูแลเพียงแค่สัปดาห์ละ 20 นาที ในระยะเวลา 1 เดือนต่อปีเท่านั้น หากมีความสนใจคุณสามารถสอบถามราคาได้ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ศูนย์รวมแพทย์ผู้มีประสบการณ์และชำนาญการด้านผิวพรรณและเลเซอร์
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง