กินดึกอ้วนไหม มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรมาหาคำตอบกัน

เราเคยได้ยินคำแนะนำว่า “ไม่ควรทานอาหารหลัง 2 ทุ่ม เพราะจะทำให้อ้วน” แต่ความจริงแล้วการปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรามักมีความอยากอาหารในช่วงเวลาดึก และบางครั้งเมื่อเราไม่สนใจเวลาการทานอาหารเป็นอย่างมาก น้ำหนักของเราก็เพิ่มขึ้นได้ แต่ความอ้วนไม่ได้มาจากเวลาที่คุณทานอาหารเท่านั้น มันเกิดจากปริมาณและคุณภาพของอาหารที่คุณรับประทานรวมทั้งการออกกำลังกายด้วย วันนี้เราจะเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ กินดึกอ้วนไหม พร้อมวิธีการลดน้ำหนักทางการแพทย์ที่ช่วยให้เห็นผลทันทีหลังทำแต่จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย

การรับประทานอาหารในช่วงเวลาดึกอาจมีผลต่อน้ำหนักของเราได้จริง โดยเฉพาะถ้ามีการกินอาหารดึกเป็นประจำและเลือกทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงอยู่ในเมนูหลัก นั่นเพราะระบบย่อยอาหารในร่างกายมนุษย์มีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงก่อนเข้านอน ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรับประทานอาหารในช่วงเย็นคือก่อนเวลา 19.00 น. การรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่สูงกว่านี้อาจทำให้ระบบย่อยอาหารในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายยากที่จะย่อยอาหารและนอนหลับยากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันเกินกำหนดและมีผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

การรับประทานอาหารในช่วงเวลาดึกค่อนข้างมีผลกระทบทางร่างกายและสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเรามีนิสัยทานอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง ไขมันสูง และน้ำตาลสูงในช่วงนี้อยู่เป็นประจำ ผลของนิสัยนี้อาจส่งผลต่อรูปร่างและสุขภาพของเราในหลายด้านที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง ข้อสังเกตที่สำคัญคือน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุผลที่เกิดเช่นนี้คือหลังจากการรับประทานมื้อดึก ร่างกายมักจะไม่มีเวลาเผาผลาญพลังงานที่ได้รับให้เพียงพอ ดังนั้นเราจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำหนักเกินมากขึ้น

ปัญหาที่เกิดขึ้นนอกเรื่องน้ำหนักตัวยังมีอีกมากมาย โดยเฉพาะการสะสมไขมันในพื้นที่บางจุดของร่างกาย เช่น พุงและเหนียง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย หากเราไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรา อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงอย่างกรดไหลย้อน อ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคคอเลสเตอรอลสูงได้

ปัญหาผิวหน้าที่เสื่อมโทรมและดูอ่อนกว่าวัยมักเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญ มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถมีผลกระทบต่อสภาพผิวหน้าเมื่อเราทานอาหารในช่วงดึก หนึ่งในนั้นคือการส่งผลต่อกระบวนการเสื่อมสภาพของผิวที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วขึ้น สาเหตุหนึ่งคือกระบวนการย่อยอาหารที่ยังคงเกิดขึ้นในกระเพาะอาหารในช่วงเวลาที่เราควรให้ร่างกายพักผ่อนและฟื้นฟูตัวเอง 

ฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทในการส่งเสริมการนอนหลับและช่วยต้านอนุมูลอิสระ การทานอาหารในช่วงดึกทำให้ระดับฮอร์โมนเมลาโทนินลดลงเนื่องจากกระบวนการย่อยอาหารยังคงเกิดขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และผิวหน้าเสื่อมโทรมได้เร็วขึ้น อาจเกิดปัญหาริ้วรอย ร่องแก้มที่มืดคล้ำ และความยืดหยุ่นของผิวลดลงได้

พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมหรือกินไม่เป็นเวลาอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของร่างกายเมื่อเริ่มกลายเป็นนิสัยและทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคและสุขภาพที่ดีขึ้นได้ หนึ่งในพฤติกรรมที่พบบ่อยในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักหรือสุขภาพคือการไม่รับประทานอาหารเช้าหรือรับประทานในปริมาณที่ไม่เพียงพอในช่วงเช้า นี่อาจทำให้ร่างกายรู้สึกหิวมากขึ้นในช่วงเย็นและทำให้คนหลายคนเลือกที่จะรับประทานมื้อใหญ่ในช่วงเย็น โดยบางครั้งอาหารในช่วงนี้มีปริมาณไขมันสูงและมีการทำอาหารในระหว่างเวลานาน ซึ่งอาจทำให้มื้อเย็นกลายเป็นมื้อดึก และการรับประทานอาหารในช่วงดึกและอาหารที่ยากในการย่อยอาจส่งผลให้ไม่รู้สึกหิวในช่วงเช้าได้

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานมื้อเช้าที่มีประสิทธิภาพและการควบคุมปริมาณพลังงานในช่วงวันที่เหมาะสม อาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมได้ เราควรสร้างนิสัยการรับประทานอาหารที่สมดุลและเหมาะสมเวลา เพื่อส่งผลกระทบที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราในระยะยาว

ช่วงก่อนมีรอบประจำเดือนของผู้หญิงเป็นช่วงที่ร่างกายมีการปรับเปลี่ยนฮอร์โมนภายในระบบของร่างกายอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการ PMS (Premenstrual Syndrome) ที่เกิดขึ้นก่อนรอบประจำเดือนประมาณ 1 สัปดาห์ อาการ PMS นี้ส่งผลให้ผู้หญิงมีความกระหายใจในเรื่องอาหารมากขึ้น และมักจะกินอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ การตั้งครรภ์ก็สามารถเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกหิวตลอดเวลา นั่นเพราะระบบฮอร์โมนในร่างกายมีการปรับเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิงในช่วงนี้ ดังนั้นคำพูดที่ว่าหิวเพราะเป็นเมนส์จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงเลย

ใครมีนิสัยชอบนอนดึกบ้าง การนอนดึกมีผลกระทบอย่างมากต่อการกระตุ้นความหิวของเรา การที่ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนเพียงพอจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนความหิวออกมามากขึ้น ซึ่งร่างกายมีเจตนาที่จะกระตุ้นการรับประทานอาหารและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดจากอาหารที่บริโภค นอนน้อยขึ้นจะทำให้ความหิวเกิดบ่อยขึ้นและมีความหิวในช่วงดึกมากขึ้น

ความเครียดไม่เพียงแค่มีผลต่อสุขภาพเราเท่านั้น แต่ยังสามารถกระตุ้นความอยากกินให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารหวานที่มักจะเป็นความอยากกินที่แรงขึ้นในช่วงความเครียด นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะมันเกี่ยวข้องกับการทำงานของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีส่วนรับผิดชอบในการควบคุมความอยากกินในร่างกายของเราเมื่อเราต้องเผชิญกับความเครียด ร่างกายของเราจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณมากขึ้น และนี่คือที่สำคัญที่เรารู้สึกอยากกินอาหารหวานมากขึ้นในช่วงเวลานี้ นั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับคนแต่ละคน

นอกจากนี้ ยังมีการสังเกตเห็นว่าผู้หญิงอาจมีอาการนี้มากกว่าผู้ชายในบางกรณี ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยทางชีวภาพและสังคมรวมกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง การจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสมยังคงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพที่ดีให้กับร่างกายและควบคุมความอยากกินอย่างมีสติ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเครียดนี้มีผลกระทบต่อการบริโภคอาหารเกินไป

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายหนักในช่วงเย็น ความหิวในช่วงดึกอาจเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากการบริโภคพลังงานมากขึ้นในระหว่างการออกกำลังกาย นั่นเป็นเหตุผลที่อึดอัดในช่วงเวลาดึกของวันอาจเกิดขึ้น ร่างกายใช้พลังงานมากในการออกกำลังกาย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งสามารถทำให้รู้สึกหิวได้ในช่วงดึกของวันได้มากขึ้น

การออกกำลังกายในช่วงเย็นมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ลดความเครียด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่ในเวลาเย็นนี้เราควรคำนึงถึงการบริหารร่างกายและอาหารให้สมดุล โดยการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการเพียงพอ และเลือกอาหารที่ให้พลังงานในปริมาณเพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้ร่างกายรู้สึกหิวในช่วงดึกของวัน 

สำหรับคนที่จำเป็นต้องทานอาหารในช่วงดึก เช่นคนที่ทำงานดึกหรือมีรูปแบบชีวิตที่ไม่เหมือนคนปกติ แพทย์แนะนำให้คิดใหม่เกี่ยวกับประเภทอาหารที่คุณบริโภคในเวลาดึก เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ลองเปลี่ยนจากอาหารหนัก ๆ มาสู่อาหารที่ง่ายต่อการย่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อป้องกันการสะสมไขมันไม่ต้องการ

• ผลไม้: การบริโภคผลไม้ช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสสะสมไขมันเกินไปในร่างกายของคุณในอนาคต
• ไข่ต้ม: คุณสามารถทานไข่ต้ม 1-2 ฟองเพื่อควบคุมความหิวในช่วงดึกได้ เนื่องจากไข่มีโปรตีนสูงและช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้องได้นาน
• นมจืด: การดื่มนมในช่วงดึกช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและสามารถนอนหลับได้สบายมากขึ้น
• โยเกิร์ต: โยเกิร์ตเป็นทางเลือกที่ดีในการรับประทานในช่วงดึก เนื่องจากมันง่ายต่อการย่อยและช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดที่ได้มาตรฐาน
• ถั่วและธัญพืช: การรับประทานถั่วและธัญพืชช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและมีพลังงานในช่วงดึก และช่วยให้การนอนหลับง่ายขึ้น

แม้ว่าคุณสามารถทานอาหารในช่วงดึกได้หลายแบบ แต่แนะนำให้คุณพยายามรับประทานตามเวลาของมื้อเย็นปกติที่สุด เนื่องจากมีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย

สำหรับใครที่มีปัญหากินดึกกระเพาะใหญ่ ไขมันเยอะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ออกกำลังกายกฏไม่ลดสักที่ วันนี้เรามีวิธีแนะนำการลดไขมันเยอะแบบวิธีทางการแพทย์ที่ได้ผลจรอง นั่นก็คือการดูไขมันและการผ่าตัดกระเพาะทั้งสองแบบสามารถเห็นผลได้จริง แต่ก่อนทำเราจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชายก่อนว่าเราเหมาะกับรูปแบบไหน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราไปดูกันดีกว่าว่าการดูดไขมันหรือการผ่าตัดกระเพาะแบบไหนดี

สำหรับคนที่มีปัญหาน้ำหนักขึ้นหลังจากการทานดึกและต้องการปรับปรุงรูปร่างให้มีรูปร่างที่เล็กลง ผอมเพียว สวยงามเรามีวิธีการดูดไขมันและการผ่าตัดกระเพาะมาแนะนำเพื่อช่วยในการตัดสินใจในการเปลี่ยนรูปร่างให้เล็กลง โดยวิธีการดูดไขมัน หรือ ผ่าตัดกระเพาะมีวิธีการทางการแพทย์ดังนี้

กระบวนการดูดไขมันหรือ Liposuction เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่มีไว้เพื่อช่วยขจัดไขมันเกินในบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว หรือเหนียง แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า การดูดไขมัน ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก แต่เป็นการปรับรูปร่างและสัดส่วนของร่างกาย ให้สมส่วน ดูดี และขจัดไขมันส่วนเกิดที่ลดยากออก ช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดูดี ในแบบที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรใส่ใจในการเลือกคลินิกและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานสูง มีห้องผ่าตัดที่สะอาดและปลอดเชื้อ และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยเฝ้าระวังอาการของคุณอย่างต่อเนื่อง

การดูดไขมันมีหลายวิธีที่ช่วยลดปัญหาไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการนี้สามารถทำได้ในจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่ลดยาก ซึ่งใช้วิธีลดแบบธรรมชาติแล้วไม่ได้ผลเท่าที่ควร เช่น การดูดไขมันที่หน้าท้อง ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันที่ต้นแขน ดูดไขมันที่เอวเอส และ การดูดไขมันที่ต้นขา เป็นต้น การดูดไขมันช่วยกำจัดส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังและลดสัดส่วนได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

วิธีการดูดไขมันมีหลายแบบซึ่งก่อนการดูดไขมัน ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้วิเคราะห์รูปร่างของเรา ว่าสามารถใช้เครื่องดูดไขมันแบบไหน ที่เหมาะกับแต่ละรายบุคคล ซึ่งบางรายอาจใช้เครื่องดูดไขมันที่ใช้ยาชาหรือเครื่องดูดไขมันที่ใช้ยาสลบ แต่ในทุกกรณี แพทย์จะเป็นผู้แนะนำวิธีการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละเคส เพื่อให้ผู้รับบริการได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลดไขมันส่วนเกินและปรับรูปร่างตามความต้องการของตนเอง

การดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดไขมันที่เหมาะกับทุกคน แต่มีบางกรณีที่มันอาจเป็นทางเลือกที่ดี เรามาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะสำหรับการดูดไขมันบ้าง

คนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน

หากคุณมีไขมันส่วนเกินที่ไม่สามารถลดลงได้ด้วยวิธีการอื่น การดูดไขมันอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ มีความหมายว่าถ้าคุณมีไขมันส่วนเกินที่อยู่ในพื้นที่ที่ยากต่อการลดลง เช่น บริเวณท้อง สะโพก หรือแขน การดูดไขมันอาจช่วยลดไขมันในพื้นที่เหล่านี้ได้มากขึ้น

คนที่มีปัญหาสัดส่วนไม่เท่ากัน

บางครั้งคนอาจมีปัญหาสัดส่วนร่างกายที่ไม่สมดุลกัน เช่น มีส่วนล่างที่อ้วนมากกว่าส่วนบน หรือมีส่วนบนที่อ้วนมากกว่าส่วนล่าง การดูดไขมันสามารถช่วยปรับสัดส่วนร่างกายให้สมดุลมากขึ้น โดยการลดไขมันในส่วนที่มากเกินไปและเพิ่มปริมาณไขมันในส่วนที่ต้องการ

คนที่ออกกำลังกายแล้วไขมันไม่ลด

บางครั้งเราอาจพบว่าการออกกำลังกายเป็นประจำและการควบคุมอาหารอย่างถูกต้องไม่สามารถลดไขมันได้ตามที่ต้องการ ในกรณีเช่นนี้ การดูดไขมันอาจเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมันสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินที่ยากต่อการกำจัดได้

คนที่อยากให้สัดส่วนลดลงทันที

หากคุณต้องการให้สัดส่วนร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว การดูดไขมันอาจเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมันสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าวิธีการอื่น ๆ

คนที่ไม่สะดวกออกกำลังกาย

หากคุณไม่สะดวกหรือไม่สามารถออกกำลังกายได้ เช่น เนื่องจากปัญหาสุขภาพหรือเวลาที่ไม่เพียงพอ การดูดไขมันอาจเป็นทางเลือกที่ดี 

คนที่อยากเพิ่มความเป๊ะให้รูปร่าง

หากคุณต้องการเพิ่มความเป๊ะและรูปร่างที่ดีขึ้น การดูดไขมันอาจช่วยให้คุณได้รับรูปร่างที่ต้องการ โดยการลดไขมันส่วนเกินและเพิ่มปริมาณไขมันในส่วนที่ต้องการ

การผ่าตัดกระเพาะ (Bariatric Surgery) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการลดขนาดของกระเพาะอาหารหรือการลดความสามารถในการดูดซึมอาหารของกระเพาะ วัตถุประสงค์หลักของกระบวนการผ่าตัดนี้คือการรักษาโรคอ้วน โดยกระบวนการผ่าตัดนี้มุ่งเน้นการลดขนาดของส่วนของกระเพาะอาหารที่มีผลในการผลิตฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดความอยากอาหาร เมื่อกระเพาะอาหารลดขนาดลง ส่วนที่มีฮอร์โมนนี้จะถูกตัดออก ซึ่งมีผลให้ความอยากอาหารลดลงอย่างมีประสิทธิภาพอย่างชัดเจน

ในกระบวนการผ่าตัดกระเพาะ (Bariatric Surgery) มีหลายวิธีที่ใช้ในการลดขนาดของกระเพาะอาหาร เช่น การผ่าตัดชนิด Sleeve Gastrectomy ที่เป็นการตัดส่วนของกระเพาะอาหารให้เหลือเพียงกระเพาะแบบกระดูกต้นไม้ หรือการผ่าตัดชนิด Gastric Bypass ที่เป็นกระบวนการนำกระเพาะอาหารไปเชื่อมต่อกับส่วนล่างของลำไส้เล็ก ทำให้อาหารไม่มีโอกาสถูกดูดซึมในปริมาณมากในกระเพาะอาหาร

การผ่าตัดกระเพาะมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและควบคุมโรคอ้วนอย่างยั่งยืน แต่หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจากกระบวนการนี้ ควรร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางอาหารและการออกกำลังกายเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีและยาวนาน

การพิจารณาการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์และปลอดภัยที่สุดสำหรับสุขภาพของคุณ ดังนั้นเรามาดูกันว่าใครเหมาะสมที่จะพิจารณาการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักบ้าง

• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี
• ผู้ที่มีภาวะอ้วน (BMI มากกว่า 32.5)
• ผู้ที่ลดความอ้วนด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
• ผู้ที่ไม่มีข้อห้ามในการผ่าตัด หรือโรคทางจิตเวช

ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักมีทั้งหมด 6 วิธีที่สามารถนำมาใช้ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

การใส่บอลลูนในกระเพาะ

วิธีนี้ใช้ในการลดความจุของกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น แต่อาจมีผลข้างเคียงเช่นการเจ็บปวดหรือการเกิดแผลในกระเพาะ

การผ่าตัดกระเพาะบางส่วนแบบสลีฟ (Gastric Sleeve)

วิธีนี้เป็นกระบวนการลดขนาดของกระเพาะอาหารโดยการตัดส่วนของกระเพาะออก ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง

การผ่าตัดกระเพาะร่วมกับตัดต่อลำไส้แบบบายพาส (Gastric Bypass)

วิธีนี้เป็นการผ่าตัดกระเพาะอาหารและตัดต่อลำไส้เพื่อลดการดูดซึมสารอาหาร ทำให้รับประทานอาหารน้อยลงและลดน้ำหนักได้มากขึ้น

การใช้เทคนิค Overstitch เย็บกระเพาะอาหารผ่านทางปาก

วิธีนี้ใช้เทคนิคการเย็บกระเพาะอาหารผ่านทางปากโดยใช้ส่องกล้อง ทำให้ไม่ต้องทำแผลบริเวณหน้าท้อง และลดความเจ็บปวด

การผ่าตัดกระเพาะอาหารแผลหน้าท้องรูเดียว (Single Port)

วิธีนี้ใช้เทคนิคการผ่าตัดกระเพาะอาหารผ่านรูเดียวบริเวณหน้าท้อง ทำให้มีแผลน้อยลงและเวลาฟื้นตัวเร็วขึ้น

การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบ Sleeve Plus

เป็นเทคนิคใหม่ในการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก โดยใช้วิธีการลดขนาดของกระเพาะอาหารและการตัดต่อลำไส้

กินดึกอ้วนไหม ขอตอบเลยว่าอ้วนแน่นอนหากไม่มีการควบคุมและปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม ที่แน่ ๆ การกินในช่วงดึกนั้นจะมีผลต่อระบบเผาผลาญในร่างกายที่ไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราควรสังเกตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราให้เหมาะสม การรับประทานอาหารในเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาสุขภาพและลดความเสี่ยงในการอ้วนอย่างมีประสิทธิภาพ การทานอาหารให้ตรงเวลาช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับผู้ที่พบว่ายากที่จะปรับพฤติกรรมการกินของตนเอง และเริ่มเจอปัญหาอ้วน มีทางเลือกในการลดน้ำหนักโดยใช้วิธีทางการแพทย์ เช่นการดูดไขมันหรือการผ่าตัดกระเพาะ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการในการลดน้ำหนักอย่างไรก็ตาม การดูดไขมันหรือผ่าตัดกระเพาะไม่เหมาะกับทุกคน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดำเนินการ เพื่อประเมินความเหมาะสมของวิธีการและปรับแผนการลดน้ำหนักให้เหมาะกับสุขภาพและความต้องการของแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด