การนอนกรนอาจไม่ใช่ปัญหาที่มีความรุนแรงในทางการแพทย์ แต่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้โดยตรงกับ โรคจากการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) ซึ่งเป็นภาวะที่มีการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ขณะนอนหลับ การนอนกรนทำให้คุณภาพการนอนไม่ดี เนื่องจากการนอนหลับไม่ต่อเนื่อง โดยอาจเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ รวมถึงสมาธิและความจำไม่ดี การเผาผลาญอาหารของร่างกายด้อยประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วนและเบาหวาน ดังนั้น ควรรักษาอาการนอนกรนก่อนที่จะปล่อยให้มันมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณเพิ่มขึ้นไปอีก
โรคที่เกิดจากการนอนกรน มีอะไรบ้าง
โรคที่เกิดจากการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะที่อาการหยุดหายใจ แต่ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้หลายประการ ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากขาดเลือด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคของหลอดเลือดสมอง และอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงซึ่งส่งผลต่อเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน
อาการนอนกรน
อาการนอนกรนมีผลกระทบที่สำคัญต่อคุณและผู้รอบข้างในหลายด้าน เช่น เสียงกรนที่ดังมากอาจทำให้รบกวนผู้อื่นและมีความไม่สะดวกในการนอน การกรนที่สลับกับการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ อาจทำให้คุณไม่รู้ขณะเกิดการหยุดหายใจ และเป็นสาเหตุให้คุณไม่ได้รับคุณภาพการนอนที่ดี การนอนกรนแบบนี้อาจมีผลอันตรายต่อสุขภาพในด้านหลาย ๆ ด้าน อาทิ
- การง่วงนอนตอนกลางวัน
- การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- มีอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียในช่วงเวลากลางวัน
- การหยุดหายใจ หายใจเฮือก และกลั้นหายใจขณะหลับ
- การนอนกรนเสียงดังที่สร้างความรบกวนในการนอน
- ปวดหัวตอนตื่นนอน
- การตอบสนองช้ากว่าปกติ
หากคุณพบว่าคุณมีอาการดังกล่าว ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและประเมินเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะหากปล่อยทิ้งโดยไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างเช่น ปัสสาวะกลางคืนบ่อยครั้ง รู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้า และเริ่มมีอาการอื่น ๆ เช่น วิงเวียน ปวดศีรษะ และง่วงมากผิดปกติในช่วงเวลากลางวัน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
เลเซอร์รักษานอนกรน Snore Laser ไม่เจ็บ ปลอดภัย รักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการใครบ้างที่เสี่ยงกับอาการนอนกรน
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการนอนกรนหรือเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) พบว่าสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศและทุกช่วงวัย แต่มีแนวโน้มที่จะพบมากในเพศชาย และคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุ นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ 60 ของผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก (โรคอ้วน) มีโอกาสเสี่ยงเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนอาจประสบกับการหยุดหายใจระหว่างการนอนมากถึง 15 ครั้งใน 1 ชั่วโมง นอกจากผู้ที่มีภาวะเสี่ยงสูงดังที่กล่าวมา ภาวะหยุดหายใจขณะหลับยังพบได้ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพดังนี้
- ผู้ที่มีความผิดปกติทางสรีรวิทยา เช่น ช่องจมูกตีบตัน การอุดกั้นของโพรงจมูก ต่อมทอนซิลโตขาดหาย สันจมูกเบี้ยว คด คอหนา รูปคางผิดปกติ และลิ้นโตกว่าปกติ ที่สามารถทำให้เกิดการหยุดหายใจขณะหลับ
- ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ มีปัญหาคัดจมูก หายใจไม่สะดวก ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมีแรงต้านในโพรงจมูกสูงกว่าคนทั่วไป ทำให้ขณะหลับจะมีอาการแน่นหน้าอก และหายใจติดขัด
- ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย
- ผู้ที่มีความเครียดหรือความวิตกกังวล และรู้สึกเหนื่อยล้ามาก
- ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน
- ผู้ที่รับประทานยากลุ่มที่ทำให้เกิดอาการง่วง เช่น ยาคลายเครียด ยานอนหลับ
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือสูบบุหรี่ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวสามารถทำให้กล้ามเนื้อช่องคอหย่อนตัวลงจนเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
- ผู้ที่มีพฤติกรรมนอนหงายเป็นประจำ ซึ่งท่านอนหงายเป็นท่าที่ทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นบางส่วนหรือทั้งหมด
- คนที่มีน้ำหนักเกิน ที่พบว่าทางเดินหายใจบนหน้ากว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ
โรคจากการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพในหลายด้าน ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ท่านจะได้รับการรักษาที่มีเป้าหมายแน่นอน เนื่องจากอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ในการรักษาปัญหาด้านการนอนหลับ ที่นี่จะทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาด้านการนอนหลับของท่าน ให้คำปรึกษาเพื่อรักษาปัญหานอนกรนและรักษาได้อย่างครอบคลุมโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีการวัดผลก่อนและหลังการรักษาเพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษาของท่านให้ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง