ศัลยกรรม เสริมสะโพก เสริมก้น หรือบั้นท้าย ให้ดูใหญ่ขึ้น เป็นหัตถการที่นิยมมากในต่างประเทศในช่วงลายปีมานี้ โดยเฉพาะในกลุ่มสาวร่างสูงใหญ่จากฝั่งตะวันตก ที่เสริมทุกส่วนให้มีโค้งเว้าทั้งท่อนบน ล่าง และดูดไขมันบางส่วนออกเพื่อให้สรีระดูสมส่วนกัน ปัจจุบัน การเสริมก้นให้ใหญ่ขึ้นกำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากในไทย ไม่แพ้การเสริมหน้าอก
ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่งผลให้เสริมก้นดูใหญ่ขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถเลือกได้ทั้งทรงกลมและทรงหยดน้ำ มีส่วนเว้าโค้งที่เหมือนจริง นอกจากนี้ บางวิธีไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็ได้ (ขึ้นกับรูปร่างของคุณ) ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่เจ็บ และราคาไม่แพงมาก ทั้งยังใช้เวลาดำเนินการและรักษาตัวไม่นานอีกด้วย
ศัลยกรรม เสริมสะโพก เสริมก้น เหมาะกับใคร ?
ศัลยกรรม เสริมสะโพก เสริมก้น (Buttock Augmentation) เหมาะกับกลุ่มคน ดังนี้
- คนที่มีสะโพก หรือ ก้นเล็กตั้งแต่กำเนิด ลีบ แฟบ เหมือนผู้ชาย ต้องการใส่กางเกงรัดรูป หรือบิกินี่ให้ดูเข้ารูปมากขึ้น
- คนที่เคยเสริมหน้าอกมาแล้ว และอยากเสริมก้น-เสริมสะโพกเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รูปร่างที่สมส่วน ดูมีสัดส่วนเว้าโค้ง และดูเซ็กซี่มากขึ้น
- คนที่เคยลดน้ำหนักมาก ๆ มาก่อน ทำให้ผิวหนังห้อย ต้องการยกกระชับรูปร่าง รวมถึง เสริมก้น-สะโพกเพิ่มด้วย
- คนที่ต้องการแก้ปัญหาบั้นท้ายหย่อนยานตามวัย ต้องการเสริมสะโพก เสริมก้นให้ดูเต่งตึงขึ้น
- สตรีข้ามเพศ ซึ่งปกติจะมีสรีระที่ไม่มีสะโพก การเสริมสะโพกจึงเป็นตัวเลือกที่ดี
- กลุ่มผู้หญิงที่นิยมสะโพกใหญ่ สไตล์สาวตะวันตก
- คนที่ไม่ต้องการใส่กางเกงในเสริมก้น อยากใส่กางเกงรัดรูป โชว์สะโพกได้อย่างมั่นใจ
เทคนิคการเสริมสะโพก เสริมก้น ที่ได้รับความนิยม
ทุกวันนี้ การเสริมสะโพกพัฒนาไปไกลมาก ด้วยฝีมือแพทย์ที่มีประสบการณ์ เทคนิคที่ทันสมัย และเครื่องมือช่วยให้การผ่าตัดทำได้อย่างแม่นยำ ปัญหาที่เคยเป็นข่าว ส่วนใหญ่มาจากการเสริมก้นแบบ Brazilian Butt Lift (BBL) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมเมื่อ 10 ปีก่อน โดยใช้การฉีดไขมันเข้าไปในกล้ามเนื้อเพื่อให้ดูแน่นและโด่งขึ้น
แต่ต่อมาพบว่า การฉีดไขมันเข้าไปลึกเกินไป อาจทำให้ไขมันเข้าสู่กระแสเลือดจนเกิดอันตรายได้ ปัจจุบัน วิธีนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว และแพทย์เลือกใช้เทคนิคที่ปลอดภัยขึ้น ทำให้ได้ทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีความเสี่ยงแบบเดิม!
1. การเสริมสะโพกด้วยเนื้อเยื่อของตัวเอง
เหมาะกับคนไข้ที่มีการลดน้ำหนักมาก ๆ มีหนังด้านหลังที่ห้อยหรือแบนราบจากกล้ามเนื้อที่หายไป มีริ้วเห็นชัด ควรตัดหนังบริเวณเอวแล้วยกกระชับขึ้นมา แล้วนำเนื้อเยื่อที่ตัดมาเสริมที่ก้น
2. เสริมก้น ด้วยซิลิโคน
การเสริมซิลิโคนสะโพก เสริมก้น ให้เป็นธรรมชาติ ควรเสริมใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จะใช้วิธีนี้ โดยทำการผ่าตัดใส่ซิลิโคนบริเวณใต้กล้ามเนื้อ ในช่องกระดูกเชิงกราน ข้อดีคือทำให้ซิลิโคนอยู่กับที่ไปตลอด ที่สำคัญบั้นท้ายดูเป็นธรรมชาติ เพราะมีชั้นไขมันและผิวหนังคลุมอยู่จริง ๆ
หากเสริมก้นด้วยวิธีใส่ซิลิโคนใต้ผิวหนัง เหมือนบางคลินิกเลือกวิธีใส่ซิลิโคนแบบง่าย ๆ อาจจะเกิดปัญหาและผลเสียตามมาในเวลาไม่นานหลังการทำแน่นอน เช่น ซิลิโคนเลื่อน ซิลิโคนไหล หรือทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากซิลิโคนได้ เป็นต้น
การเสริมซิลิโคนสะโพก เสริมก้น เหมาะกับคนที่มีผิวดีประมาณหนึ่ง ไม่มีผิวหนังห้อย ไขมันส่วนเกินมาก ซึ่งปริมาตรที่เหมาะสมที่สามารถเพิ่มได้คือ 150cc – 250cc จะทำให้ดูดีขึ้น
3. เสริมก้น-เสริมสะโพกด้วยซิลิโคน ร่วมกับการดูดไขมัน หรือ ตัดหนังส่วนเกิน
บางทีการใส่ซิลิโคนเสริมก้นอย่างเดียวอาจไม่พอ เนื่องจากแก้ปัญหาได้แค่บางส่วน ซึ่งในบางเคสยังไม่สวยสมบูรณ์ แต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการด้วย การดูดไขมันจากเอว ย้ายจากเอวมาเติมที่แก้มก้นในชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งมีความปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้ใส่ไขมันเข้าไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ ผลลัพธ์ที่ได้คือ เอวคอดขึ้น สะโพกผายขึ้น ดูสมดุลมากขึ้น
การเสริมก้น-เสริมสะโพกด้วยซิลิโคน ร่วมกับการดูดไขมัน สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกรณี เช่น
- ในกรณีที่มีคนไข้มีไขมันส่วนเกินสะสมจำนวนมาก อาจจะต้องมีการดูดไขมันร่วมด้วยเพื่อให้การเสริมก้น-เสริมสะโพก นั้นออกมาสวยงาม กระชับยิ่งขึ้น
- กรณีที่คนไข้มีไขมันที่ก้นน้อยมาก เมื่อใส่ซิลิโคนใต้กล้ามแล้วก็ยังดูไม่เป็นธรรมชาติ จึงต้องมีการดูดไขมันมาเติมในชั้นผิวหนังเข้าไปเสริมร่วมด้วย
- กรณีที่มีการเสริมก้น-เสริมสะโพก ร่วมกับการดูดไขมัน และการตัดหนังบริเวณเอว เพื่อยกกระชับก้น
ซึ่งวิธีที่ใช้จะต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อดูปัญหาของคนไข้ก่อน ว่าต้องแก้ตรงจุดไหนบ้าง และต้องใช้วิธีใดเข้ามาช่วย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจกับคนไข้มากที่สุด
เสริมก้นหรือเสริมสะโพก ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ดีอย่างไร
เสริมก้นหรือเสริมสะโพก ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ มีจุดเด่น ดังนี้
- ดูแลโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้างเฉพาะทาง มีความชำนาญและประสบการณ์ จากประเทศฝรั่งเศส
- ใช้เทคนิคเสริมซิลิโคนใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเสี่ยงแก้
- ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบแผลในร่องก้น โชว์หุ่นได้อย่างมั่นใจ ไร้แผลเป็น
- อาจมีการดูดไขมัน (Liposuction) ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด ตามเทคนิค 360° Body Contouring
- เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล
- พร้อมให้บริการทั้งทีมแพทย์ และวิสัญญีแพทย์ลอดการรักษา ตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
- ได้การรับรอง Certified Operating Room รับรองมาตรฐานห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ จากกระทรวงสาธารณสุข
- คลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ COVID-19 ผ่านมาตรฐานจากกรมอนามัย และ THAI STOP COVID+
เทคนิคการใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ จะทำให้ซิลิโคนอยู่นิ่งมากขึ้น สวยกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ลดปัญหา ก้นย้อย ก้นห้อย หรือซิลิโคนไหลออกด้านข้าง ผ่าแบบแผลในร่องก้น ปกปิดรอยแผลได้ ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล
ศัลยแพทย์ผู้ดำเนินการรักษา (ศัลยศาสตร์)
ผลเสียจากการ เสริมก้น หรือ เสริมสะโพก ผิดวิธี!
ซิลิโคนไหลไปด้านข้าง ก้นดูผิดรูป
เมื่อใส่ซิลิโคนในชั้นตื้น ๆ หรือใต้ผิวหนังแทนที่จะเป็นใต้กล้ามเนื้อ แรงกดจากการนั่งและแรงโน้มถ่วงจะทำให้ ซิลิโคนเคลื่อนที่ออกด้านข้าง เห็นเป็นก้อนชัดเจน ก้นดูไม่สมส่วน ขาดความเป็นธรรมชาติ
เกิดความเจ็บปวดเวลานั่งและเคลื่อนไหว
ปกติแล้ว เวลานั่งลง เนื้อก้นและไขมันธรรมชาติจะช่วยรองรับน้ำหนัก ทำให้รู้สึกสบาย แต่ถ้าเสริมซิลิโคนผิดตำแหน่ง ซิลิโคนจะไม่ได้ช่วยซัพพอร์ตน้ำหนัก ส่งผลให้ Sit Bone หรือกระดูกที่ใช้นั่ง ต้องรับน้ำหนักโดยตรง จึงทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัวทุกครั้งที่นั่ง
ซิลิโคนย้อยและเสียทรงในระยะเวลาไม่นาน
เนื่องจากซิลิโคนไม่มีแรงพยุงจากกล้ามเนื้อ เมื่อเวลาผ่านไป ซิลิโคนจะไหลลงต่ำ ทำให้ก้นดูหย่อนคล้อย รูปร่างผิดธรรมชาติ และอาจต้องแก้ไขใหม่
การเสริมก้นผิดวิธีไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ทางออกที่ถูกต้องคือ เลือกซิลิโคนขนาดเหมาะสม และใส่ในชั้นใต้กล้ามเนื้อ เพื่อลดโอกาสไหลออกด้านข้าง และทำให้ก้นดูสวยงามเป็นธรรมชาติ
การเติมไขมันเสริมบริเวณ Sit Bone ช่วยรองรับน้ำหนักเวลานั่ง ลดความเจ็บปวด และเพิ่มสัมผัสที่เป็นธรรมชาติขึ้น
สำคัญที่สุด เลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาที่ต้องมาแก้ภายหลัง
รัตตินันท์ แก้ปัญหาการเสริมก้นผิดพลาดจากที่อื่นได้อย่างไร
ผู้ที่เคยเสริมก้นด้วยซิลิโคนจากที่อื่น แต่เกิดปัญหาจากการเสริมที่ผิดวิธี โดยเลือกซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไป และฝังซิลิโคนไว้ใต้ชั้นผิวหนังแทนที่จะอยู่ในชั้นใต้กล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดภาวะก้นห้อย ก้นย้อย และรูปร่างที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งปัญหานี้มักแสดงผลภายในไม่กี่เดือนหลังทำ
ที่ รัตตินันท์ เราแก้ไขปัญหาด้วยการ
- ลดขนาดซิลิโคน และเลือกซิลิโคนใหม่ที่มีขนาดเหมาะสมกับสรีระของคนไข้
- ใส่ซิลิโคนในชั้นใต้กล้ามเนื้อ เพื่อความกระชับและลดโอกาสเกิดปัญหาก้นห้อยในอนาคต
- ปรับรูปร่างด้วยไขมัน (Fat Grafting) โดยดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาเติมบริเวณ Sit Bone เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักเวลานั่ง ลดความเจ็บปวด และให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ
การแก้ไขนี้ช่วยให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติขึ้น ทั้งในด้านรูปลักษณ์และความสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน
วิธีเช็กความผิดปกติจากการเสริมก้น
กรณีคนที่เสริมก้นด้วยซิลิโคนมาแล้ว ให้ลองสังเกตตัวเองว่าเป็นการเสริมก้นด้วยซิลิโคนผิดวิธีหรือไม่ด้วยวิธีการนอนคว่ำ แล้วสังเกตว่าซิลิโคนไหลมาด้านข้างจนเห็นรูก้นชัดเจนหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วมนุษย์จะมีแก้มก้นทั้งสองข้างแนบชิดกันไม่เห็นรูก้น หรือมีอาการเจ็บปวดเวลานั่งหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ถือว่าผิดปกติ ต้องพบแพทย์ เพื่อรับการแก้ไข
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเสริมสะโพก-เสริมก้น
- งดรับประทานยากลุ่ม NSAID ทุกชนิด
- งดรับประทานอาหารเสริมทุกชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี เป็นต้น
- งดสูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- งดน้ำและอาหารก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชม.
- ควรมีญาติหรือเพื่อนมารับหลังการผ่าตัด เนื่องจากอาจจะมีอาการมึนงง เดินเซ (ในบางท่าน) หลังจากการได้รับยาดมสลบ ซึ่งเราจะไม่อนุญาตให้กลับบ้านเอง
วิธีดูแลตัวเองหลังการเสริมสะโพก-เสริมก้น
- หลังผ่าตัดใส่ชุดกระชับทันที 3 วันแรกเป็นเวลา 24 ชม ถอดได้ช่วงเวลาอาบน้ำ หลังจากนั้นวันละ 12 ชม เป็นเวลา 1-3 เดือน
- ก่อนกลับบ้านจะได้รับยาป้องกันอาการต่าง ๆ ควรรับประทานยาติดต่อให้หมด โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ จำเป็นที่ต้องทานให้หมด
- 1 วันหลังผ่าตัด มาทำแผลที่คลินิก โดยพยาบาลจะสอนวิธีการทำแผลที่ถูกต้อง เพื่อจะได้ทำได้เองที่บ้าน
- 3 วันแรก หลังการเสริมสะโพก แพทย์จะนัดเข้ามาฉีดยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อ
- หลังการเสริมสะโพกไปแล้ว 7-10 วัน แพทย์จะนัดเข้ามาทำการตัดไหม
- หลังจากผ่านการผ่าตัด สามารถนอนหรือนั่งได้ตามปกติ เนื่องจากเราเย็บถึง 3 ชั้น จึงสามารถลงน้ำหนักตอนนั่งหรือนอนได้ แต่ช่วงแรกให้ทิ้งน้ำหนักลงที่ก้นเล็กน้อย และค่อยๆ นั่งตามปกติได้ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- หมอนที่คลินิกให้ ควรนำเอาไปใช้ในทุก ๆ ที่ เพราะการลงน้ำหนักในช่วงแรก ต้องโน้มตัวทิ้งน้ำหนักมาต้นขาเป็นหลักก่อน
- การเขียวช้ำอาจจะเกิดขึ้นได้ และจะค่อย ๆ ดีขึ้น 2-3 อาทิตย์ แต่ถ้ามีอาการปวด บวม แดง ร่วมด้วยให้มาพบแพทย์ทันที แต่โดยปกติอาการปวดระบมจะค่อย ๆ หายไปได้เองในช่วง 1-3 เดือน
- งดออกกำลังก่อนในช่วง 1 เดือน และสามารถกำลังกายเบา ๆ ได้หลังทำอย่างน้อย 1 เดือน
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
อยากสะโพกสวย ก้นงอน ตามเทรนด์สายฝอ ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ออกมาดีด้วยนะคะ ควรปรึกษาแพทย์ ศึกษาเทคนิคการ เสริมสะโพก เสริมก้น และการเลือกขนาดซิลิโคนที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ ใครอยากมีก้นงาม ๆ แบบปลอดภัย สามารถปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งโดยตรงได้ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
คลินิกตามห้องแถวทั่วไปที่ใส่ซิลิโคนใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนหลายอย่างจากการฉีดซิลิโคนราคาถูก ใส่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดปัญหาเลื่อน ผิวหนังเป็นผื่นแดง ดูไม่เป็นธรรมชาติ ในภายหลัง
ช่วงประมาณ 10 ปีก่อน ไม่มีการนำเข้าซิลิโคนสำหรับเสริมก้นโดยเฉพาะ ทำให้บางคลินิกใช้ซิลิโคนเสริมนมฉีดเข้าก้นแทน จนกลายเป็นข่าวภาพลบในวงการศัลยกรรมเสริมความงาม
พูดถึงซิลิโคน ส่วนใหญ่กังวลถึงความทนทานมาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเกิดแตกขึ้นมาแล้ว ปัญหาใหญ่ อีกทั้งสะโพกเป็นส่วนที่ใช้งานเยอะกว่าหน้าอก โดยเฉพาะคนที่ต้องนั่งเกือบทั้งวัน
ซิลิโคนก้น ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นน้อยเพื่อเน้นความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกดทับมากกว่าซิลิโคนเสริมหน้าอก ดังนั้น ถ้าใช้ของแท้ จะไม่พบปัญหาซิลิโคนแตกจากการกดทับทั่วไป
ถึงปัจจุบันจะมีกางเกงเสริมสะโพกมาช่วยทำให้ก้นดูเด้ง สะโพกดูใหญ่ขึ้น ในราคาที่ถูกกว่า แต่มีข้อจำกัดในหลายกรณี อาจรู้สึกอึดอัดจนเหงื่อออกที่สะโพก ดูไม่เป็นธรรมชาติ การเสริมความงามด้วยศัลยกรรมสมัยใหม่ และฝีมือศัลยแพทย์ไทยที่มากประสบการณ์ ทำให้ร่างกายดูสมส่วนมากยิ่งขึ้นแบบระยะยาว ใส่ชุดไหนก็มั่นใจ
Alert : รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เสริมก้น โดยใส่ซิลิโคนด้วยเทคนิค การใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งการใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ จะทำให้ซิลิโคนอยู่นิ่งมากขึ้น สวยกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ลดปัญหา ก้นย้อย ก้นห้อย หรือซิลิโคนไหลออกด้านข้าง ผ่าแบบแผลในร่องก้น ปกปิดรอยแผลได้ ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้บริการเพื่อลูกค้าทุกท่าน ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เราพัฒนาคุณภาพการรักษาและการบริการอย่างต่อเนื่อง