โบท็อกรักแร้ ลดเหงื่อใต้วงแขน ลดกลิ่นตัว เปรียบเทียบวิธีลดเหงื่อรักแร้ 2025

ร่างกายผลิตเหงื่อเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนจากกระบวนการเผาผลาญพลังงาน แต่บางคนอาจมีภาวะ เหงื่อรักแร้ออกเยอะ กว่าปกติ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย เช่น

• ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานมากเกินไป
• กรรมพันธุ์
• ฮอร์โมนแปรปรวน
• สภาวะอากาศ หรือความเครียด

ปัจจุบันมีหลายวิธีในการช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัว ได้แก่

• ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ เช่น โรลออน, สเปรย์, ผงระงับเหงื่อ
• ฉีดโบท็อกลดเหงื่อ
• เลเซอร์ลดต่อมเหงื่อ
• ผ่าตัดต่อมเหงื่อ

การฉีด Botox ลดเหงื่อ คือการฉีดสาร Botulinum toxin A เพื่อยับยั้งสัญญาณประสาทที่ควบคุมต่อมเหงื่อในรักแร้ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ซึ่งช่วยลดทั้งความเปียกชื้นและกลิ่นตัว

• ลดเหงื่อรักแร้ได้สูงสุด 80%
• อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• ใช้โบท็อกซ์ได้ทุกยี่ห้อที่แพทย์แนะนำ เช่น Dysport จากอังกฤษ หรือแบรนด์อื่นที่มีคุณภาพ
• ปริมาณที่ใช้โดยเฉลี่ย: 50-100 ยูนิตต่อข้าง

• คนที่มี เหงื่อรักแร้ออกเยอะ มากกว่าปกติ
• คนที่มี กลิ่นตัวแรงจากเหงื่อ
• คนที่แพ้สารในโรลออนหรือผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ
• คนที่ไม่ต้องการ ผ่าตัดต่อมเหงื่อ
• คนที่ต้องการแก้ปัญหาเหงื่อใต้วงแขนชั่วคราวแบบไม่เจ็บตัวมาก

การฉีดโบลดเหงื่อใต้วงแขน ราคาโดยรวมจะอยู่ที่ 9,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งแต่ละสถานที่ให้บริการจะให้ราคาแตกต่างกันออกไป โดยมีปัจจัยดังนี้

• ยี่ห้อของโบท็อกซ์ โดยมีทั้งยี่ห้อจากเกาหลี อเมริกา เยอรมัน และอังกฤษ สามารถใช้ได้ทุกยี่ห้อ ขึ้นอยู่กับว่าคลินิกนั้น ๆ มีให้บริการยี่ห้อที่คุณต้องการหรือไม่
• จำนวนยูนิต แต่ละคนจะใช้จำนวนยูนิตไม่เท่ากัน
• สถานที่ฉีด/แพทย์ที่รักษา แต่ละสถานที่ให้บริการจะมีมาตรฐานและคุณภาพไม่เท่ากัน รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษา

• ผลลัพธ์ของ Botox ลดเหงื่อ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• เมื่อหมดฤทธิ์ เหงื่อจะค่อย ๆ กลับมา จึงต้องฉีดซ้ำ
• ฉีดโบต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจมีโอกาส ดื้อยา เพราะร่างกายสร้างสารแอนติบอดี้

จากผลการศึกษาทางการแพทย์ พบว่าการฉีดโบท็อกซ์บริเวณรักแร้สามารถช่วยลดเหงื่อได้ในช่วง 35-80% อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการลดกลิ่นตัวอาจไม่เด่นชัดเท่าการลดปริมาณเหงื่อ เนื่องจากกลิ่นตัวเกิดจากปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น การสะสมของแบคทีเรียและการทำงานของต่อมเหงื่อชนิดพิเศษ

แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ชั่วคราว แต่หากทำติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ ภาวะดื้อโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin Resistance) เนื่องจากร่างกายสามารถสร้างสารแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้านสารโบทูลินัมท็อกซิน ส่งผลให้การฉีดในอนาคตอาจไม่ได้ผลเต็มที่ ไม่เพียงแต่ในบริเวณรักแร้ แต่ยังรวมถึงการฉีดเพื่อลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้าด้วย

ดังนั้น การเลือกใช้โบท็อกซ์สำหรับลดเหงื่อ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และอาจพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น miraDry หรือเลเซอร์ลดเหงื่อ หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น

หากคุณต้องการวิธีลดเหงื่อรักแร้ที่ถาวรกว่าโบท็อกซ์ miraDry เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยกำจัดต่อมเหงื่อถาวรโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ