พุง เกิดจากอะไร หลายคนคงตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าพุงเกิดจากการกินเยอะจนอ้วน แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วท้องป่องอาจเกิดจากอย่างอื่นได้ นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว การที่พุงป่องนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากพันธุกรรม และสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูประเภทของพุงว่ามีแบบไหนบ้างตามไปดูพร้อม ๆ กันเลย
- พุงคุณแม่ (Mummy Tummy)
พุงลักษณะนี้มักเกิดกับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งคลอดลูก หรือที่เรียกว่า “มดลูกยังไม่เข้าอู่” โดยปกติจะใช้เวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์กว่าที่มดลูกจะหดตัวและกลับสู่ขนาดปกติ
วิธีแก้ไข: อย่าเพิ่งรีบออกกำลังกาย ร่างกายควรเข้าที่ใน 2-3 เดือน โดยเน้นการออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง กินไขมันดีจากถั่ว มะกอกและน้ำมันปลา งีบหลับเล็กน้อยในระหว่างวัน ยืดเส้นยืดสายก่อนนอน เพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน
- พุงเป็นชั้น (Spare Tyre Tummy)
พุงนุ่ม ๆ สะสมเป็นชั้น ๆ เกิดขึ้นได้เพราะชอบทานของหวานและขาดการออกกำลังกาย
วิธีแก้ไขควรลดแป้ง น้ำตาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ปลา เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พุงแบบนี้ลดง่ายที่สุด
- พุงป่อง (Bloated Tummy)
หน้าท้องประเภทนี้จะแบนในตอนเช้าและจะบวมขึ้นในตอนเย็น เกิดจากการรับประทานอาหารประเภทพิซซ่า ขนมปัง เค้ก นม เนย ชีส จนเกิดแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย เรียกว่าท้องอืด
วิธีแก้ไข : หันมารับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ผัก ปลา โดยรับประทานให้เป็นเวลา งดมื้อดึก ดื่มน้ำมาก ๆ เดินเล่นหลังอาหาร เพื่อช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
- พุงหมาน้อย หรือพุงป่องช่วงล่าง (The Little Pooch)
บางคนผอมแต่มีพุง อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะพุงแบบนี้เกิดจากการกินรับประทานอาหารเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทำให้เกิดไขมันสะสมโดยไม่รู้ตัว หรืออาจเกิดจากการออกกำลังกายผิดวิธี เช่น ซิทอัพ ออกกำลังกายในท่าเดิมเป็นประจำ ส่งผลให้กล้ามเนื้อดันไขมันออกมาจนพุงยื่น
วิธีแก้ไข: ลองเปลี่ยนจากการซิทอัพเป็นแพลงกิ้ง วิดพื้น เพื่อให้ส่วนอื่นของร่างกายได้บริหารร่างกายส่วนอื่นบ้าง การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักใบเขียว เมล็ดธัญพืชช่วยลดอาการบวมและท้องอืดได้เช่นกัน
- พุงจอมเครียด (Stress Tummy)
หากคุณรู้สึกว่า พุงดูแข็ง ๆ สันนิษฐานได้ว่าคุณอาจจะเครียดเกินไป จนทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร.
วิธีแก้ไข: รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่นอนดึก ลดคาเฟอีน ออกกำลังกายประเภทโยคะแทนคาร์ดิโอแบบหนัก
สาเหตุที่ทำให้พุงป่อง ไม่ได้เกิดจากไขมันอย่างเดียวจริงหรือ ?
พุงป่องเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ได้เกิดจากไขมันส่วนเกินอย่างเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด เพราะหน้าท้องของเราประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งผิวหนัง กล้ามเนื้อ ไขมันชั้นใน ไขมันชั้นนอก รวมไปถึงเรื่องของปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามในใจว่า “กระดูกสันหลังเกี่ยวอะไรด้วย” “ไขมันชั้นนอกและไขมันชั้นในคืออะไร” “อะไรคือความแตกต่าง?” และคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าอะไรเป็นสาเหตุของพุงที่ยื่นออกมา หรืออะไรทำให้พุงคนเราใหญ่ขึ้น
อะไรทำให้เกิดท้องป่อง หรือหน้าท้องใหญ่ ?
พุงป่องเพราะผิวหนัง
ผู้ที่เคยมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือพุงป่องจากการลดน้ำหนักมักจะเป็นคุณแม่หลังคลอด คนมีลูกหลายคน คนที่มีอายุมากขึ้น คนที่เคยดูดไขมันหน้าท้องในจำนวนมากมาก่อน และคนที่เคยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีพุงป่องเนื่องจากผิวหย่อนคล้อยสามารถแบ่งตามระดับความรุนแรงของปัญหาได้ 3 ระดับ ดังนี้
- พุงย้วยอย่างรุนแรง: ผิวที่ห้อยเป็นชั้นดูไม่สวยงามไม่ว่าจะมีไขมันส่วนเกินร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม ควรรักษาโดยการตัดผิวหนังหน้าท้องออก (Tummy Tuck)
- หน้าท้องย้วยระดับปานกลาง : สภาพผิวยังสามารถฟื้นฟูให้กลับมากระชับได้อีกครั้ง ควรรักษาด้วยการทำกระชับด้วยพลังงานความร้อนระดับสูง โดยใช้เครื่อง J Plasma จากอเมริกา (ซึ่งจำเป็นต้องมีการเคลียร์ไขมันหน้าท้องออกไปก่อน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม)
- หน้าท้องย้วยระดับเล็กน้อย : สำหรับคนที่ผิวเริ่มเสื่อมสภาพเล็กน้อยหรือมีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาผิวย้วยมากขึ้นไม่ช้าก็เร็ว แนะนำให้รักษาด้วยการนวดกระชับสัดส่วน เพื่อให้ความร้อนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ผิวจะได้รับการฟื้นฟูให้กลับมากระชับเต่งตึงขึ้นได้
พุงป่องเพราะกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อหน้าท้อง ถึงแม้ว่าจะดูแข็งแรงและหนาแน่นมาก แต่ก็สามารถเสื่อมสภาพได้ กรณีพุงป่องเพราะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกออกหรือมีอาการอ่อนแรงไม่กระชับเหมือนเดิม สิ่งนี้เรียกว่าภาวะกล้ามเนื้อแยกและอ่อนแรง (diastasis recti) ซึ่งภาวะนี้จะเกิดขึ้นได้กับเคสที่มีการยืดขยายหน้าท้องมาก เช่นคุณแม่หลังคลอดหรือคนที่อ้วนมาก ๆ
- กล้ามเนื้อขาดความกระชับ
- กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ไม่เฟิร์ม
- กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย = หน้าท้องหย่อนคล้อย
- อวัยวะภายในช่องท้องถูกผลักไปข้างหน้า ทำให้พุงป่องยื่นออกมา
ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อพุงป่องเนื่องจากกล้ามเนื้อแยกตัวและอ่อนแรง คือ เมื่อกล้ามเนื้อแยกตัว ก็จะส่งผลให้หน้าท้องขยายตามไปด้วย แม้แต่คนที่เคยอ้วนน้ำหนักก็ลดและผอมลง แต่ก็ยังสามารถตอบโจทย์ปัญหาหน้าท้องป่องเพราะปัญหากล้ามเนื้อแยกส่วนได้ ไม่ได้แก้ไขพร้อมกันกับปัญหาไขมันตัวเอง
พุงป่องเพราะไขมันในช่องท้อง
แพทย์บอกไขมันหน้าท้อง (visceral fat) นี่น่ากลัวมาก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนมากมาย เนื่องจากไขมันในช่องท้องอยู่ต่ำกว่าชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง จึงสามารถเข้าไปปกคลุมและแทรกซึมไปตามอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องท้อง ส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานผิดปกติ และเกิดโรคตามมาได้ เราสามารถวัดปริมาณไขมันในช่องท้องของเราได้คร่าว ๆ ดังนี้
- Pinch Test : ดึงไขมัน ถ้าดึงได้น้อย = มีไขมันในช่องท้องเยอะ
- คำนวณ Waist-to-Hip Ratio (อัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก)
- กลุ่มเสี่ยงคือผู้หญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 35 นิ้ว และผู้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 40 นิ้ว
- คำนวณมวลไขมันในร่างกายด้วยการใช้เครื่องวัดไขมัน Body Fat
พุงป่องเพราะกระดูกสันหลัง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าปัญหาพุงป่อง เกิดจากกระดูกสันหลังได้ด้วย! เราจะเรียกภาวะนี้ว่า กระดูกสันหลังแอ่น (lordosis) โดยภาวะนี้เกิดจากการที่กระดูกสันหลังของเราแอ่นไปข้างหน้า หรือ กล้ามเนื้อหลังอ่อนแรง กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นเรื่องปกติที่กระดูกหลังส่วนล่างของเราจะโค้งงอเล็กน้อย แต่ในบางคนอาจมีมากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลถึงสภาพหลังได้ เมื่อความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่างค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จะทำให้หลังส่วนล่างกดไปข้างหน้า เมื่อกระดูกสันหลังของเราคดโค้งมากจะทำให้อวัยวะภายในช่องท้องและพุงของเราถูกดันไปข้างหน้าด้วย ทำให้เกิดปัญหา หน้าท้องยื่น หรือพุงป่องในที่สุด
ลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับใคร ?
- คนอ้วน พุงป่องมีไขมันส่วนเกินหน้าท้องมากกว่าส่วนอื่น ๆ
- มีรอบเอวเกินขนาดหรือเกินมาตรฐาน
- ผู้ที่ไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง
- คนอ้วนที่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมเฉพาะส่วน เช่นคุณแม่หลังคลอด
ขนาดรอบเอวมาตรฐานของคนเอเชียปกติ
- ผู้ชายไม่ควรเกิน 36 นิ้ว หรือ 90 เซนติเมตร
- ผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้ว หรือ 80 เซนติเมตร
สำหรับคนไหนที่มีรอบเอวที่เกินมาตรฐานอาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคอ้วนลงพุงได้
ในวงการแพทย์ ไขมันส่วนเกินในช่องท้องถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ ดังนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความงามเท่านั้น หรือคนไข้ขาดความมั่นใจในรูปร่างเท่านั้น ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้พยายามลดพุงและหาวิธีลดไขมันที่หน้าท้องก่อนที่จะเกิดปัญหาสุขภาพ
ท้องป่องแบบไหนต้องทำการดูดไขมัน ?
หน้าท้องแบบไหนที่สามารถดูดไขมันหน้าท้องได้บ้าง : อธิบายก่อนว่า พุงป่อง คือ พุงที่เกิดจากไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) คือ ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเราสามารถหยิบจับชั้นไขมันหรือเห็นพุงเป็นชั้น ๆ ยื่นออกมานั่นเอง การดูดไขมันสามารถลดขนาดหน้าท้องได้เมื่อนำไขมันออก บางคนมีไขมันชนิดนี้มาก ดังนั้น การดูดไขมันจะทำให้หน้าท้องแบนราบ หลังดูดไขมันจะเห็นผลชัดเจน เป็นหุ่นที่ผอมลงได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
ในกรณีของผู้ที่มีหน้าท้องส่วนล่างหรือท้องน้อยที่ป่องร่วมกับผิวหนังหย่อนคล้อย เช่น คุณแม่หลังคลอดบุตร อายุมากขึ้น หรือผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การดูดไขมัน เพียงอย่างเดียวอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก อาจต้องทำการตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) ร่วมด้วย ในส่วนของผู้ที่มีพุงป่องส่วนล่างให้สังเกตอาการด้วย เพราะอาจเป็นก้อนเนื้อในมดลูกได้
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย