ดูดไขมันแบบไหนดี รวมเทคโนโลยีดูดไขมันที่ปลอดภัย

ดูดไขมัน Body Jet หรือการดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำ (Water-Jet Assisted Liposuction) จากประเทศเยอรมนี เป็นวิธีที่นำไขมันออกจากร่างกายได้อย่างนุ่มนวล มีความอ่อนโยน และไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ การดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำไม่ทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกมาตายไป จึงสามารถนำกลับมาใช้ฉีดเติมเต็มในบริเวณที่เจ้าของไขมันต้องการได้อีกด้วย เช่น เติมไขมันหน้า เติมไขมันหน้าอก และสะโพก เป็นต้น

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย Body Jet

• ไขมันที่ดูดออกแล้วยังคงมีชีวิตอยู่และสามารถนำกลับมาเติมในบริเวณที่ต้องการได้
• กระบวนการดูดไขมันอ่อนโยนและนุ่มนวล ไม่ทำให้เนื้อเยื่อหรือผิวหนังเสียหายหรือบอบช้ำ การฟื้นตัวก็จะรวดเร็วขึ้น
• ไม่ทำให้ผิวหนังเป็นคลื่นเพราะไม่มีการทำร้ายเนื้อเยื่อใกล้เคียง
• เทคโนโลยีมีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และ อย. ไทย ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความชำนาญในการตรวจสอบความปลอดภัยของเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
• มีแผลเล็ก สามารถกลับบ้านได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นนานนับวัน

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย Body Jet

• กระบวนการดูดไขมันจะใช้เวลานานกว่าปกติโดยเฉลี่ยอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงต่อเคส ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและสัดส่วนของคนไข้แต่ละบุคคล
• อาจไม่เห็นผลทันทีหลังการดูดไขมัน เนื่องจากสัดส่วนของร่างกายยังไม่เข้ารูป จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ – 1 เดือนเพื่อเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น

หากกำลังลังเลว่าดูดไขมันแบบไหนดี การดูดไขมันด้วย BodyTite Pro ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีให้กับคุณ เพราะเป็นนวัตกรรมการดูดไขมันที่ได้รับความนิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผ่านการรับรองจาก U.S. FDA และ อย. ไทย นวัตกรรมนี้จะใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ซึ่งสามารถทำให้ไขมันออกมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยยกกระชับผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

• เป็นกระบวนการดูดไขมันที่สามารถทำพร้อมกับการกระชับผิวได้ในคราวเดียว
• ผู้รับบริการดูดไขมันจะมีผิวหนังเรียบเนียนขึ้นหลังจากการดูดไขมัน โดยไม่เป็นคลื่น หรือรอยบุ๋ม
• เทคโนโลยีที่ใช้ในการดูดไขมันมีความปลอดภัยสูงและได้รับการยอมรับจาก US FDA และ THAI FDA
• แผลเล็ก เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย หลังการดูดไขมันสามารถกลับบ้านได้ทันที
• มีเซนเซอร์วัดพลังงานและความร้อนที่ปล่อยออกมา

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

• หากแพทย์ไม่ชำนาญเพียงพอ อาจเกิดผิวไหม้ขณะทำได้ เนื่องจากเป็นพลังงานความร้อน

การดูดไขมันด้วย Vaser Smooth อีกหนึ่งนวัตกรรมการดูดไขมันจากประเทศอเมริกา เป็นการดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound Assisted Liposuction) ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดไขมันออกมาได้ในปริมาณมาก เหมาะสำหรับการดูดไขมันบริเวณกว้าง หากใครที่มีไขมันส่วนเกินเยอะ เวเซอร์ สมูธ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย Vaser Smooth

• สามารถดูดไขมันออกได้ในปริมาณมากในครั้งเดียว
• ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งจากสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
• สามารถที่จะดูดไขมันในบริเวณที่เข้าถึงยากได้
• ไม่เจ็บปวด มีแผลเล็ก

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย Vaser Smooth

• จำเป็นต้องควบคุมโดยแพทย์
• ความร้อนได้มีการขจัดเซลล์ไขมันไปแล้ว จึงไม่สามารถนำไขมันไปเติมส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้

อีกหนึ่งตัวช่วยดูดไขมันขั้นสุดยอด ได้แก่ การดูดไขมันด้วย MicroAire PAL (Power Assisted Liposuction) เป็นเทคโนโลยีระบบสั่น ซึ่งไม่เข้าไปทำร้ายเซลล์ไขมัน นวัตกรรม PAL จะนิยมใช้ร่วมกับนวัตกรรมดูดไขมันอื่น ๆ มากกว่า โดยเฉพาะ BodyTite Pro ที่เมื่อใช้ร่วมกันแล้วการดูดไขมันจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในบริเวณที่เข้าถึงยากก็ออกได้ง่าย และสามารถดูดไขมันออกได้ในปริมาณมาก ๆ ต่อครั้ง

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย MicroAire PAL

• สามารถดูดได้ปริมาณมาก ๆ โดยที่ไม่ทำให้เนื้อเยื่อบวมและบอบช้ำจากการเสียดสีของแท่งดูดไขมัน
• เทคโนโลยีที่ใช้มีความปลอดภัยสูง ซึ่งได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และ อย. ไทย
• ช่วยให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับการดูดไขมันประเภทอื่น ๆ

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย MicroAire PAL

• ไม่เหมาะสำหรับการใช้เพียงเครื่องเดียว ควรใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ

Smart Lipo หรือ เลเซอร์ ดูดไขมัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ยังไม่กล้า เพราะใช้วิธีเลเซอร์สลายไขมันโดยไม่ต้องดูดออก เลยดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ผลลัพธ์การรักษากลับได้น้อยกว่านวัตกรรมประเภทอื่น ๆ จึงส่งผลให้ระดับความนิยมลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเลเซอร์ Smart Lipo

• ไม่น่ากลัว ไม่เจ็บตัวเท่าการดูดไขมัน

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วยเลเซอร์ Smart Lipo

• ผลลัพธ์ได้น้อยกว่าการดูดไขมันประเภทอื่น ๆ

สำหรับ ดูดไขมันแบบไหนดีข้อสุดท้าย ULTRA Z เป็นเทคโนโลยีการดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ ที่สามารถสลายไขมันและลดสัดส่วนได้อย่างตรงจุด ใช้เวลาไม่นานในกระบวนการดูดไขมัน สามารถดูดไขมันจากเกือบทุกส่วนในร่างกาย และเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีชั้นไขมันหนามาก เช่นคนขนาด S-M หรือคนที่ไม่เคยดูดไขมันมาก่อน การทำคือเครื่อง Ultra Z ใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ในการสร้างความร้อนที่สามารถทำร้ายเซลล์ไขมันและทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว จากนั้นแพทย์ดูดไขมันออกและกำจัดไป โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีที่เร็วดีมาก

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย ULTRA Z

• ดูดไขมันออกได้เยอะ รวดเร็ว ช่วยกระชับผิวได้เล็กน้อย

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย ULTRA Z

• ไม่ค่อยนิยมใช้ สามารถใช้ได้แค่ในคนที่มีไขมันไม่หนามาก

J-Plasma เป็นนวัตกรรมเพื่อการยกกระชับผิวและปรับสัดส่วน โดยรวมระหว่างพลาสมาเฮเลียมและพลังงานคลื่นวิทยุ สามารถสร้างความร้อนได้ที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดผิว (Fibroseptal Network) และเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมถึงเนื้อเยื่อในโพรงช่องว่างหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังกระชับขึ้นทันที จากนั้น ท่อพลังงานลดอุณหภูมิอัตโนมัติให้เหลือ 41 องศาเซลเซียสเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อหนังและเนื้อเยื่อรอบข้างเสียหาย

ข้อดีของการใช้ J-Plasma

• ไม่น่ากลัว ไม่เจ็บตัวเท่าการดูดไขมัน

ข้อเสียของการใช้ J-Plasma

• แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว รักษาได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ไม่ต้องผ่าตัด