ผู้ที่มี ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 35 หรือ มากกว่า 30 ร่วมกับโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันพอกตับ จะเหมาะกับการผ่าตัดลดน้ำหนักมากที่สุด โดยเฉพาะในกรณีที่เคยลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
หาก BMI ยังไม่ถึงเกณฑ์ อาจพิจารณาวิธีอื่น เช่น ปรับพฤติกรรมการกิน หรือใช้ยาควบคุมความอยากอาหารร่วมกับนักโภชนาการ
2. ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักอันตรายไหม?
การผ่าตัดมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป เช่น เลือดออก ติดเชื้อ หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แต่ที่รัตตินันท์คลินิกใช้เทคนิค Laparoscopic Surgery (ผ่าตัดผ่านกล้อง) ซึ่งแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มาก
ต้องดมยาสลบไหม?
ต้องดมยาสลบโดยทีมวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง ดูแลตลอดกระบวนการเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
3. น้ำหนักจะลดลงเท่าไหร่หลังผ่าตัด?
โดยเฉลี่ย น้ำหนักจะลดลงประมาณ 5–10 กิโลกรัมในเดือนแรก และลดได้มากขึ้นในช่วง 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทการผ่าตัดและพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
จำเป็นต้องควบคุมอาหารหลังผ่าตัดไหม?
จำเป็นมาก การควบคุมอาหารและการติดตามผลกับทีมโภชนาการของคลินิกจะช่วยให้ผลลัพธ์ยั่งยืน และลดโอกาสเกิดโยโย่เอฟเฟกต์
4. ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนัก?
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด
- ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เช่น ตรวจเลือด ตรวจหัวใจ เอกซเรย์ และอัลตราซาวด์ช่องท้อง
- ลดน้ำหนักอย่างน้อย 4 กิโลกรัมก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยยิ่งขึ้น
5. ฟื้นตัวนานไหมหลังผ่าตัดกระเพาะ?
- พักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 2 คืน
- สามารถกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ใน 1 สัปดาห์
- ทำงานปกติได้ใน 2–3 สัปดาห์ แล้วแต่สภาพร่างกาย
6. ผ่าตัดกระเพาะแล้วจะกลับมาอ้วนอีกไหม?
ถ้าปรับพฤติกรรมการกินและดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ โอกาสกลับมาอ้วนจะน้อยมาก แต่ถ้าย้อนกลับไปกินผิดวิธี หรือไม่ดูแลฮอร์โมน ก็อาจทำให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ได้
7. หลังผ่าตัดกระเพาะต้องกินอาหารแบบไหน?
- สัปดาห์ที่ 1: อาหารเหลว เช่น ซุป โจ๊ก
- สัปดาห์ที่ 2–3: อาหารบดละเอียด
- เดือนที่ 2 เป็นต้นไป: อาหารเนื้อปกติแบบเคี้ยวง่าย
จำเป็นต้องกินวิตามินเสริมหรือไม่?
ต้องรับประทานวิตามินรวม เช่น วิตามิน B, D, ธาตุเหล็ก และแคลเซียม เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารในระยะยาว
8. วิธีผ่าตัดกระเพาะแบบไหนเหมาะที่สุด?
- Sleeve Gastrectomy: ตัดกระเพาะบางส่วน เหมาะกับผู้ไม่มีโรคร่วม
- Gastric Bypass: เปลี่ยนทางเดินอาหาร เหมาะกับผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน
- Sleeve Plus / PJB: ผสมผสานระหว่าง Sleeve และ Bypass ลดได้มาก เหมาะกับผู้มีไขมันในตับหรือไขมันในเลือดสูง
ทุกวิธีใช้เทคนิคผ่าตัดผ่านกล้อง เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว ทีมแพทย์จะประเมินความเหมาะสมแบบรายบุคคล
9. ค่าผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนักที่รัตตินันท์คลินิกราคาเท่าไหร่?
- ราคาเริ่มต้นที่ 350,000 บาท (ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือก)
- รวมในแพ็กเกจ: ค่าหมอ ค่าดมยา ค่าห้อง ค่ายา การดูแลหลังผ่าตัด อาหาร และการติดตามผล
สามารถผ่อนชำระได้ ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
10. หลังผ่าตัดกระเพาะ มาติดตามผลกับรัตตินันท์คลินิกได้ไหม?
หลังจากผ่าตัดกระเพาะ สามารถมาติดตามผลและเข้ารับการดูแลต่อเนื่องที่รัตตินันท์คลินิกได้ โดยเรามีทีมแพทย์และนักโภชนาการคอยดูแลแบบครบวงจร
บริการ After Care ของเราให้การดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 12 เดือน
- ตรวจสุขภาพ
- ประเมินระดับวิตามิน แร่ธาตุ ฮอร์โมน
- ปรับแผนอาหารอย่างเหมาะสมรายเดือน
- ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
นพ.ปณต ยิ้มเจริญ เป็นศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญในการผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery – MIS) และผ่าตัดลดน้ำหนัก โดยให้การรักษาผู้ป่วยมาตั้งแต่ปี 1994 พร้อมทั้งได้เข้ารับการศึกษาต่อในหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดา