ร้อนใน หรือ แผลในปาก อาการที่พบบ่อย เกิดจากอะไร? ต้องรักษาอย่างไร?

ร้อนใน แผลในช่องปาก เกิดจากอะไร

ร้อนใน (Aphthous ulcer) แผลร้อนในเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆ เรียกได้ว่าเกือบจะทุกคนที่เคยมีประสบการณ์ในการมีแผลร้อนใน ที่สร้างความเจ็บปวดและความรำคาญเป็นอย่างมาก แผลร้อนในที่พบได้บ่อยในช่องปาก มักเป็นแผลที่เป็นๆ หายๆ พบได้ในทุกช่วงอายุทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

สาเหตุที่ทำให้เกิดแผล ร้อนใน

  • บุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นแผลร้อนใน
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิงที่พบว่ามักจะเป็นแผลร้อนใน ในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
  • ความกังวล ความเครียด นอนไม่หลับ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การขาดสารอาหาร เช่น ขาดวิตามินบี 9 หรือกรดโฟลิก ขาดวิตามินบี 12 และภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
  • การแพ้อาหารบางชนิด
  • การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดก็ทำให้เกิดโรคนี้ได้
  • การได้รับบาดเจ็บภายในอวัยวะช่องปาก เช่น กัดโดนกระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือการแปรงฟันแล้วโดนขนแปรง หรือขนแปรงสีฟันทิ่มภายในช่องปาก เป็นต้น
  • การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
  • ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
  • อาจมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง มีแผลในทางเดินอาหาร

อ่านบทความน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง

กลับสู่สารบัญ

ลักษณะของแผลร้อนใน

ลักษณะของแผล ร้อนใน อาจจะมีลักษณะแตกต่างกันไปดังนี้

1. แผลร้อนในขนาดเล็ก (Minor aphthous ulcer)

จะเป็นรูปแบบที่พบได้บ่อย โดยประมาณ 80% ของผู้ป่วยทั้งหมด มีลักษณะเป็นแผลตื้นรูปกลมหรือรูปไข่ ขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร ส่วนใหญ่แผลมักจะมีขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร ปกคลุมด้วยเนื้อเยื่อสีขาวเหลือง และมีวงสีแดงล้อมรอบแผล แผลอาจเกิดเป็นแผลเดี่ยว หรือหลายแผล มักเกิดที่เยื่อบุริมฝีปากด้านใน กระพุ้งแก้ม ขอบของลิ้น เพดานอ่อน และพื้นปาก แผลจะหายภายใน 10-14 วัน และไม่พบแผลเป็น

ร้อนใน แผลในช่องปาก ขนาดเล็ก

2. แผลร้อนในขนาดใหญ่ (Major aphthous ulcer)

เป็นรูปแบบที่รุนแรงและพบได้น้อย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแผลประมาณ 1-3 เซนติเมตร เป็นแผลลึก มีเนื้อตายที่ก้นแผล ขอบของแผลยกนูน และรอบๆ แผลจะมีการบวมและอักเสบแดง มักพบที่บริเวณริมฝีปาก เพดานอ่อน และบริเวณทางเชื่อมระหว่างปากและคอ โดยแผลร้อนในอาจจะเป็นอยู่นานถึง 6 สัปดาห์ และมักจะเกิดแผลเป็นภายหลังการหายของแผล

ร้อนใน แผลในช่องปาก ขนาดกลาง

3. แผลร้อนในชนิดคล้ายแผลเฮอร์ปีส์ (Herpetiform ulcer)

เป็นรูปแบบที่พบได้น้อยที่สุด มีลักษณะเป็นกลุ่มแผลเล็กๆ รูปร่างกลมหรือรีขนาดเท่าหัวเข็มหมุดหลายแผล พบได้ตั้งแต่ 10-100 แผล ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร แผลอาจจะรวมกันเป็นแผลขนาดใหญ่ขอบไม่เรียบ ลักษณะแผลจะคล้ายแผลที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ แผลสามารถพบได้ทุกบริเวณในช่องปาก ผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บปวด ทำให้การรับประทานอาหารลำบากและกลืนลำบาก

ร้อนใน แผลในช่องปาก ขนาดใหญ่
กลับสู่สารบัญ

แผลร้อนใน รักษาอย่างไร ?

  1. การซักประวัติ ถามถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดแผล ตำแหน่งที่เป็น ระยะเวลาการเกิดแผล ความถี่ห่างของการเกิดแผล และความสัมพันธ์กับโรคทางระบบอื่นๆ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีโรคทางระบบอื่นๆ ร่วมด้วย ก็จะต้องส่งต่อไปให้แพทย์เฉพาะทางรักษา
  2. ตรวจแผลร้อนในอย่างละเอียดว่ามีลักษณะอย่างไร มีขอบฟันหรือขอบวัสดุที่คมที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือไม่
  3. ถ้าเป็นบ่อยๆ อาจจะต้องตรวจเลือดดูว่าผู้ป่วยมีภาวะซีดหรือโลหิตจางหรือไม่
  4. การรักษาแผลร้อนในขนาดเล็ก ที่ได้ผลดีและนิยมใช้มากที่สุดคือ การให้สเตียรอยด์ชนิดทาเฉพาะที่ เช่น ไตรแอมซิโนโลนอะเซโตไนด์ (Triamcinolone acetonide; 0.1% in oral paste) วิธีการใช้คือ ป้ายบริเวณแผล วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร และก่อนนอน ระยะเวลาในการใช้ยา 10-14 วัน
  5. แผลร้อนในขนาดใหญ่ จะใช้ยาชื่อฟลูโอซิโนโลนอะเซโตไนด์ (Fluocinolone acetonide; 0.1% in oral paste, oral gel หรือ 0.1% solution) วิธีการใช้
    – วิธีที่ 1 ใช้ป้ายบริเวณแผล วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร และก่อนนอน
    – วิธีที่ 2 ใช้หยดบนรอยโรค วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร และก่อนนอน
    ระยะเวลาในการใช้ยา 10-14 วัน อาการข้างเคียงเมื่อใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานาน อาจพบการติดเชื้อราแคนดิดา (candida) ได้ นอกจากนั้นอาจใช้ยาอมบ้วนปากร่วมด้วย เช่น คลอร์เฮกซิดีนกลูโคเนต (chlorhexidine gluconate) 0.2% อมบ้วนปากวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
  6. ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจจะใช้สเตียรอยด์ชนิดรับประทานร่วมด้วย
  7. ในรายที่ตรวจพบว่ามีโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หรือขาดวิตามิน การให้สารอาหารที่ขาดทดแทน ก็จะช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บ จำนวนแผล ลดระยะเวลาในการหาย รวมถึงความถี่ในการเกิดแผลใหม่ซ้ำ
  8. เมื่อเป็นแผลร้อนในควรงด หรือหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด หรือน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเพราะจะทำให้เจ็บปวดมากขึ้น
  9. ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม หรือหากสงสัยว่าแผลร้อนในนั้นเกิดจากการเสียดสีของฟันปลอมสำหรับผู้มีฟันปลอมควรพบทันตแพทย์
  10. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  11. หากแผลในปากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการบวม แดงมากควรพบแพทย์
  12. ออกกำลังกายตามวัย และสภาวะของร่างกาย
Ref.
  • https://chulalongkornhospital.go.th
  • คู่มือการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ตามบัญชียาหลักแห่งชาติ ยาที่ใช้ทางทันตกรรม Thai National Formulary 2016 Drugs used in Dentistry
  • http://www.dentistry.kku.ac.th/media2018/booklife/18.pdf

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า