ดูดไขมันแบบไหนดี รวมเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันที่เหมาะกับคุณ

ดูดไขมันแบบไหนดี รวมเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันที่เหมาะกับคุณ

เคยสงสัยไหมว่า “ดูดไขมันแบบไหนดี” เพราะในปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันมากมายให้เลือก หลัก ๆ มีให้เห็นโดยทั่วไปคือ 6 ประเภท โดยแต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งด้านความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ได้ หรือการฟื้นตัวหลังทำ ซึ่งการเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละคนจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

บทความนี้เราได้รวมเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และความเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ครบจบในที่เดียวสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนดูดไขมันอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริง

ดูดไขมันด้วย MicroAire PAL

MicroAire PAL ดูดไขมันพลังงานสั่นสะเทือน

PAL หรือ Power-Assisted Liposuction เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน ช่วยให้แพทย์ออกแรงน้อยลง ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ และสามารถดูดไขมันได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยระบบ PAL ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ MicroAire PAL® System ซึ่งใช้หัวดูดไขมันแบบสั่นในแนวตรง (reciprocating) ด้วยความเร็วสูง เพื่อแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อก่อนทำการดูดออก

คุณสมบัติของ PAL

  • ระบบกลไก ใช้มอเตอร์ควบคุมหัวดูดให้เคลื่อนที่สั่นกลับไปมาได้สูงสุดถึง 4,000 ครั้งต่อนาที
  • หัวดูดหลายรูปแบบ รองรับหัวดูดหลายชนิด เช่น Mercedes Tri-Port, Multi-Hole เพื่อให้เหมาะกับสรีระและเป้าหมายการดูดไขมัน
  • การเคลื่อนไหวแบบ Reciprocating ควบคุมทิศทางได้แม่นยำกว่าการหมุนแบบรอบวง
  • การใช้งาน ใช้สำหรับดูดไขมันปริมาณมาก ปั้นรูปร่าง เก็บไขมัน เปิดทางก่อนใช้เทคโนโลยีอื่น

PAL เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการดูดไขมันปริมาณปานกลางถึงมาก เช่น หน้าท้อง ต้นขา หลัง แขน
  • ผู้ที่ต้องการเก็บไขมันไปเติม เช่น BBL หรือเติมไขมันหน้า (ร่วมกับระบบกรองไขมันเช่น LipoFilter®)
  • เหมาะกับบริเวณที่ไขมันแน่น เช่น หน้าอกผู้ชาย (gynecomastia), หลังส่วนบน, เคสดูดไขมันซ้ำ
  • ไม่เหมาะกับเคสที่ต้องการกระชับผิว (ควรใช้ร่วมกับ BodyTite หรือ J-Plasma)
หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน MicroAire PAL

ข้อดีของ PAL

  • ดูดไขมันได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยแรงสั่นช่วยแยกไขมัน
  • ลดความเหนื่อยล้าของแพทย์ โดยเฉพาะในเคสดูดไขมันปริมาณมาก
  • ปั้นรูปร่างได้แม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อใช้หัวดูดแบบ Tri-Port หรือ HD
  • ใช้ได้หลากหลายบริเวณ และผสมผสานกับเทคโนโลยีอื่นได้ง่าย
  • เหมาะกับการเก็บไขมัน ด้วยหัวดูดที่นุ่มนวล (เช่น Multi-Hole)
  • ลดการบอบช้ำเมื่อเทียบกับการดูดไขมันแบบดั้งเดิม

ข้อเสียและข้อควรระวัง

  • ไม่ช่วยกระชับผิว จำเป็นต้องใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น
  • ต้องเรียนรู้การควบคุมแรงสั่นเพื่อใช้งานอย่างเหมาะสม
  • เครื่องมีเสียงดังและแรงสั่นขณะใช้งาน
  • ต้องเลือกหัวดูดให้เหมาะสม หากใช้หัวที่แรงเกินในจุดบาง อาจเกิดผิวเป็นคลื่นได้
  • ควรมีการฝึกอบรมสำหรับแพทย์ โดยเฉพาะในเคสที่ละเอียดหรือซับซ้อน เช่น คอ ขาด้านใน

PAL ใช้ร่วมกับอะไรได้บ้าง

  • BodyTite / FaceTite ดูดไขมันด้วย PAL แล้วใช้ RF กระชับผิว
  • J-Plasma (Renuvion) เสริมการยกกระชับในเคสผิวหย่อนระดับปานกลางถึงมาก
  • VASER ใช้ก่อน PAL เพื่อช่วยสลายไขมันโดยเฉพาะในบริเวณไขมันแข็ง
PAL Combination

PAL (Power-Assisted Liposuction) คือเทคโนโลยีดูดไขมันที่ช่วยให้การทำงานของแพทย์ง่ายขึ้น มีความแม่นยำสูง เหมาะกับการดูดไขมันทั่วร่างกาย รวมถึงการเก็บไขมันไปเติม จุดเด่นคือใช้งานง่าย ปลอดภัย และสามารถรวมกับเทคโนโลยีอื่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครบทั้งการลดไขมันและกระชับผิว

ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

BodyTite Pro คือเทคโนโลยีดูดไขมันพร้อมยกกระชับผิวแบบใหม่ล่าสุด โดยใช้หลักการ Radiofrequency-Assisted Lipolysis (RFAL) หรือการใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง ช่วยละลายไขมันพร้อมกระตุ้นผิวให้ตึงกระชับในขั้นตอนเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนพร้อมยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ฟื้นตัวไว และแผลเล็ก

หลักการทำงานของ BodyTite Pro

  • ใช้หัวเครื่องมือสองชั้น (dual probes) ปล่อยพลังงานคลื่น RF จากหัวด้านในใต้ผิวและหัวด้านนอกบนผิว เพื่อควบคุมอุณหภูมิแบบเรียลไทม์
  • พลังงาน RF ช่วยละลายไขมัน ทำให้ดูดออกได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว
  • ผิวหนังมีการหดตัวกระชับขึ้นทันที และจะดีขึ้นต่อเนื่องภายใน 3–6 เดือน

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา คอ หน้าอกผู้ชาย (gynecomastia)
  • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และไม่ต้องการผ่าตัดยกกระชับ
  • ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์น้ำหนักปกติแต่มีสัดส่วนที่ไม่กระชับ
หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน BodyTite Pro

ข้อดีของ BodyTite Pro

  • กระชับผิวและดูดไขมันได้พร้อมกันในเครื่องเดียว
  • แผลเล็ก เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย พักฟื้นสั้น
  • ผิวเรียบขึ้น ไม่เป็นคลื่นหรือหย่อนหลังดูดไขมัน
  • มีระบบควบคุมอุณหภูมิ ลดความเสี่ยงผิวไหม้
  • ผลลัพธ์ใกล้เคียงการผ่าตัดยกกระชับบางเคส แต่ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

ข้อเสียและข้อควรระวัง

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรง (ควรผ่าตัดยกกระชับ)
  • ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงในการควบคุมพลังงาน RF
  • อาจมีอาการบวม ฟกช้ำ ชาเล็กน้อยหลังทำ

การใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น

  • PAL ใช้ร่วมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมันออก
  • Morpheus8 ใช้เสริมการยกกระชับผิวในจุดที่ซับซ้อนหรือใบหน้า
BodyTite Pro Combination

BodyTite Pro เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูดไขมันและยกกระชับผิวในขั้นตอนเดียวโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อน ไม่ต้องการพักฟื้นนาน และต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างปลอดภัย

ดูดไขมันด้วย Vaser Smooth

VASER ย่อมาจาก Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) รุ่นที่ 3 ซึ่งช่วยแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อโดยรอบอย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้ดูดไขมันได้ง่ายขึ้น ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้าง เหมาะสำหรับการปรับรูปร่างและสลายไขมันอย่างแม่นยำ

คุณสมบัติของ VASER

  • ใช้พลังงาน Ultrasound ส่งคลื่นเสียงกระแทกเพื่อสลายไขมันก่อนทำการดูด
  • เลือกทำลายเฉพาะเซลล์ไขมัน โดยไม่กระทบต่อหลอดเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อรอบข้าง
  • ช่วยกระชับผิว จากพลังงานความร้อนที่กระตุ้นการหดตัวของผิวและการสร้างคอลลาเจน
  • ให้ผลลัพธ์แบบ High-Definition ดูดไขมันได้ทั้งชั้นตื้นและลึก ทำให้สามารถปั้นรูปร่างได้อย่างชัดเจน

VASER เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่าง พร้อมกระชับผิวในคราวเดียว

  • ผู้ที่วางแผนทำ 360° Liposuction หรือ High-Definition Liposuction

  • ผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง

  • ผู้ที่ทำร่วมกับการผ่าตัดอื่น เช่น ตัดหนังหน้าท้อง

หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2

ไม่เหมาะกับ

  • ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก (ควรใช้การผ่าตัดแทน)
  • ผู้ป่วยที่มีปัญหาเลือดออกง่าย, ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือมีโลหะฝังในร่างกาย (ควรได้รับการประเมินพิเศษ)
  • ผู้ที่มี BMI สูงมากและเน้นลดปริมาณไขมันจำนวนมากแบบไม่เน้นปั้นรูปร่าง

ข้อดีของ VASER

  • ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้างเมื่อเทียบกับการดูดไขมันแบบดั้งเดิม
  • ผิวมีโอกาสกระชับมากขึ้นจากพลังงานความร้อน
  • เหมาะสำหรับเคสดูดไขมันซ้ำ หรือ Revision Liposuction
  • งานวิจัยพบว่า 86% ของผู้รับบริการ แนะนำให้ผู้อื่นทำ
  • ใช้ได้กับหลายตำแหน่ง เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา คาง รอบเอว และหน้าอกผู้ชาย (gynecomastia)

ข้อควรระวัง / ข้อเสีย

  • ขึ้นอยู่กับทักษะของแพทย์ หากใช้อย่างไม่เหมาะสม อาจเกิดแผลไหม้หรือดูดไขมันมากเกินไปได้
  • ราคาสูงกว่าเครื่องดูดไขมันทั่วไป
  • ต้องอาศัยการฝึกฝนสำหรับแพทย์ที่ไม่เคยใช้เทคโนโลยี Ultrasound มาก่อน

เทคโนโลยีที่สามารถใช้ร่วมกับ VASER

  • J-Plasma (Renuvion) เสริมการยกกระชับ โดยเฉพาะบริเวณต้นแขนหรือ gynecomastia
  • PAL (Power-Assisted Lipo) ใช้ดูดไขมันหลังจากที่ VASER สลายแล้ว
Vaser Combination
อ่าน ดูดไขมันด้วย BodyTite Pro กับ Vaser Smooth อะไรดีกว่ากัน

J-Plasma (Renuvion) เทคโนโลยีกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด

J-Plasma หรือชื่อทางการค้า Renuvion เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ใช้พลังงานพลาสมาเย็นร่วมกับคลื่นวิทยุ (RF) เพื่อกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการฟื้นฟูรูปร่างให้กระชับอย่างเป็นธรรมชาติ

คุณสมบัติของ J-Plasma

  • ใช้ก๊าซฮีเลียมร่วมกับพลังงานคลื่น RF สร้างพลาสมาที่มีความแม่นยำสูง
  • ปล่อยพลังงานใต้ชั้นผิวผ่านหัวเครื่องมือเฉพาะทาง ทำให้เนื้อเยื่อหดตัวทันที
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องหลังทำ ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้นเรื่อย ๆ มากถึง 82%

บริเวณที่นิยมใช้

  • คอและใต้คาง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา แผ่นหลัง

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และไม่อยากผ่าตัดยกกระชับ
  • ผู้ที่เคยดูดไขมันแล้ว แต่ผิวยังไม่กระชับ ต้องการผลลัพธ์ที่เรียบแน่นขึ้น
หลักการทำงานของเครื่อง J Plasma

ข้อดีของ J-Plasma

  • แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว แทบไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • เห็นผลทันทีบางส่วน และจะดีขึ้นต่อเนื่องภายใน 3–6 เดือนจากการสร้างคอลลาเจน
  • ใช้ร่วมกับการดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปลอดภัยกว่าบางระบบ RF เพราะใช้พลังงานต่ำกว่าและควบคุมได้ดีกว่า

ข้อเสียและข้อควรระวัง

  • อาจมีอาการบวม ฟกช้ำ หรือแดงบริเวณที่ทำในช่วงแรก
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก (ควรพิจารณาการผ่าตัดยกกระชับแทน)
  • ห้ามใช้ในผู้ที่มีโรคบางชนิด เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง แผลหายยาก การติดเชื้อ หรือสตรีมีครรภ์/ให้นมบุตร

ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นได้ดี

  • VASER เหมาะสำหรับไขมันแน่น เช่น หน้าอกผู้ชายหรือแผ่นหลัง ดูดไขมันด้วย VASER แล้วกระชับผิวด้วย J-Plasma
  • PAL ใช้ดูดไขมันออกเบา ๆ แล้วตามด้วย J-Plasma เพื่อให้ผิวเรียบและกระชับ
J Plasma Combination

J-Plasma (Renuvion) เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลเร็ว ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการความเรียบ แน่น และลดการหย่อนคล้อย การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของแต่ละบุคคลได้ดีที่สุด

ดูดไขมันด้วย Body Jet (Water-Assisted Liposuction)

Body-Jet ดูดไขมันด้วยแรงดันน้ำ

Body-Jet หรือ Water-Assisted Liposuction (WAL) เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันแบบอ่อนโยน โดยใช้แรงดันของน้ำเกลือเป็นพัดลมกระจายช่วยแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อรอบข้างอย่างนุ่มนวล ช่วยลดการบาดเจ็บของผิวหนัง หลอดเลือด และเส้นประสาท เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูดไขมันแบบเจ็บน้อย ฟื้นตัวไว และสามารถนำไขมันไปใช้เติมต่อได้

คุณสมบัติของ Body-Jet

  • กลไกการทำงาน ใช้น้ำเกลือแรงดันสูงรูปพัดฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง พร้อมกับดูดเซลล์ไขมันออกในเวลาเดียวกัน
  • ความแม่นยำสูง สามารถเลือกดูดเฉพาะบริเวณที่มีไขมันสะสมได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้รูปร่างดูเนียนและเป็นธรรมชาติ
  • คุณภาพของไขมัน เซลล์ไขมันที่ได้จาก Body-Jet ยังคงความสมบูรณ์สูง เหมาะกับการนำไปเติมไขมัน (Fat Grafting)

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ลดไม่ได้ด้วยการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย
  • ผู้ที่มีผิวยืดหยุ่นดี ผิวสามารถกระชับกลับได้หลังดูดไขมัน
  • ผู้ที่น้ำหนักตัวใกล้เคียงเกณฑ์มาตรฐาน ต้องการปรับรูปร่างมากกว่าลดน้ำหนัก
หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน Body-Jet

ข้อดีของ Body-Jet

  • ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ แรงดันน้ำที่อ่อนโยนช่วยลดอาการบวม ช้ำ และความเจ็บปวดหลังทำ
  • ฟื้นตัวไว กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วภายในไม่กี่วัน
  • รูปร่างเรียบเนียน เนื่องจากดูดไขมันเฉพาะจุดได้แม่นยำ จึงได้สัดส่วนที่เป็นธรรมชาติ
  • เก็บไขมันไปใช้ต่อได้ เหมาะกับเคสเติมไขมัน เช่น เติมหน้าอก เติมใบหน้า หรือ BBL

ข้อเสียและข้อควรระวัง

  • ไม่เหมาะกับเคสที่ต้องการดูดไขมันปริมาณมาก ประสิทธิภาพในการดูดอาจน้อยกว่าเทคโนโลยีอื่นในเคสขนาดใหญ่
  • ผลข้างเคียง อาจเกิดอาการบวม ช้ำ ชา หรือการติดเชื้อได้ในบางราย (พบได้น้อย)
  • ราคาสูงกว่าแบบดั้งเดิม อุปกรณ์มีความซับซ้อนและต้องใช้เทคนิคเฉพาะทาง

ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นได้ดี

  • Fat Grafting คุณภาพของไขมันที่ได้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำไปเติม เช่น BBL หรือใบหน้า
  • Skin Tightening แม้ Body-Jet จะเน้นที่การดูดไขมัน แต่สามารถใช้ร่วมกับเทคโนโลยีกระชับผิวอื่นได้ เช่น J-Plasma หรือ Morpheus8 เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
Body Jet Combination

Body-Jet เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันแบบอ่อนโยน ฟื้นตัวไว และต้องการเก็บไขมันไปเติมในบริเวณอื่น เหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างใกล้เคียงเป้าหมาย และต้องการเพียงการปรับสัดส่วนเฉพาะจุด การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของแต่ละบุคคลได้ดีที่สุด

SmartLipo เทคโนโลยีเลเซอร์ช่วยดูดไขมันพร้อมกระชับผิว

SmartLipo เลเซอร์ดูดไขมันแบบพลังงานต่ำ

SmartLipo หรือ เลเซอร์ดูดไขมันแบบพลังงานต่ำ (Laser-Assisted Lipolysis) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาเพื่อลดไขมันพร้อมกระตุ้นการหดตัวของผิวหนังไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนเฉพาะจุด โดยไม่ต้องการการพักฟื้นที่ยาวนาน โดยเฉพาะกรณีที่ต้องการผิวกระชับร่วมกับการดูดไขมันบริเวณเล็ก เช่น บริเวณลำคอ ใต้คาง หรือต้นแขน

กลไกการทำงานของ SmartLipo

SmartLipo ใช้พลังงานเลเซอร์ความยาวคลื่นเฉพาะ (1064, 1320 และ 1440 nm) ผ่านหัวดูดไขมันขนาดเล็กซึ่งมีเส้นใยเลเซอร์อยู่ภายใน ดังนี้

  • ละลายไขมัน พลังงานเลเซอร์จะทำให้ไขมันอ่อนตัวลง ง่ายต่อการดูดออก

  • กระตุ้นคอลลาเจน พลังงานความร้อนใต้ผิวช่วยให้ผิวหดกระชับหลังทำ

  • ลดเลือดออกและบวมช้ำ ด้วยเทคโนโลยี SmartSense™ และ ThermaGuide™ ช่วยควบคุมความร้อนอย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากผิวไหม้

เหมาะสำหรับใคร

  • ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณเล็ก เช่น ใต้คาง ต้นแขน หน้าท้องขนาดเล็ก

  • ผู้ที่มีผิวหนังยืดหยุ่นดี ต้องการผลลัพธ์ที่กระชับโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

  • ผู้ที่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็วหลังทำ

หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน SmartLipo

ข้อดีของ SmartLipo

  • แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว เจ็บน้อย บวมน้อย และสามารถกลับไปทำงานได้ใน 1–2 วัน

  • ช่วยกระชับผิว ผลจากการกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวเรียบตึง ไม่เป็นคลื่น

  • เหมาะกับบริเวณผิวบาง เช่น คอ ต้นแขน หรือผู้ที่มีไขมันสะสมไม่มาก

ข้อจำกัดที่ควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะกับการดูดไขมันปริมาณมาก หรือผู้ที่ต้องการเติมไขมัน (fat grafting) เนื่องจากเลเซอร์ทำลายเซลล์ไขมันบางส่วน

  • อาจมีผลข้างเคียง เช่น รู้สึกแสบ ช้ำ หรือผิวเปลี่ยนสีในบางราย

  • ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของผิวแต่ละบุคคล

  • ไม่นิยมในประเทศไทย

สามารถใช้ร่วมกับเครื่องอื่นได้หรือไม่?

SmartLipo สามารถใช้ร่วมกับ การดูดไขมันแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มการกระชับผิว หรือ วางแผนร่วมกับเครื่องไม่ใช้ความร้อน เช่น Body-Jet ได้ในบางกรณี แต่ ไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกับ BodyTite หรือ J-Plasma ในบริเวณเดียวกัน เนื่องจากอาจเกิดพลังงานซ้ำซ้อนเกินจำเป็น

ดูดไขมันด้วย ULTRA-Z เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูง

ULTRA-Z ดูดไขมันด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

ULTRA-Z เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic) เพื่อสลายไขมันก่อนทำการดูดออก เหมาะสำหรับการปรับรูปร่างทั้งใบหน้าและลำตัว โดยลดการบอบช้ำของหลอดเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อรอบข้าง ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและฟื้นตัวไว

คุณสมบัติของ ULTRA-Z

  • Ultrasonic Technology ปล่อยพลังงานคลื่นเสียงแบบสั่นสะเทือนเข้าไปในชั้นไขมัน คลื่นเสียงจะทำให้ของเหลวที่ฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน (tumescent fluid) เกิดฟองอากาศเล็ก ๆ (microbubbles) ซึ่งจะช่วยให้ไขมันแยกตัวออกจากเนื้อเยื่อรอบข้างได้ง่ายขึ้น ลดการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดหรือเส้นประสาทข้างเคียง
  • หัวดูดหลายขนาด มีขนาดตั้งแต่ 1.2mm – 3.7mm เหมาะกับการดูดไขมันได้หลากหลายจุด รวมถึงบริเวณซับซ้อน เช่น ใบหน้า หรือไขมันที่แข็งแน่น

เหมาะสำหรับใคร

  • ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หลัง หน้าอกผู้ชาย (gynecomastia)
  • ผู้ที่มีผิวตึง ยืดหยุ่นดี สามารถกระชับเข้ารูปร่างใหม่ได้
  • ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของแผล
หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมัน Ultra-Z

ข้อดีของ SmartLipo

  • ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้เสี่ยง seroma น้อยลง ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
  • เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว มีเลือดออกน้อย บวมช้ำน้อย กลับไปใช้ชีวิตได้เร็วขึ้น
  • กระตุ้นผิวกระชับ พลังงานความร้อนจากคลื่นเสียงอาจช่วยให้ผิวหดตัวดีขึ้นในบางราย

ข้อจำกัดที่ควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะกับเคสดูดไขมันปริมาณมาก เหมาะกับเคสไขมันขนาดเล็กถึงปานกลางเท่านั้น
  • ผลข้างเคียง อาจมีบวม ช้ำ ชาชั่วคราว ติดเชื้อ (พบได้น้อย)
  • ต้องใช้โดยแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน

สามารถใช้ร่วมกับเครื่องอื่นได้หรือไม่?

PAL สามารถใช้ร่วมกับ PAL เพื่อดูดไขมันในชั้นลึกได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้ว่า ULTRA-Z จะสามารถใช้เดี่ยวได้

เปรียบเทียบคุณสมบัติเครื่องดูดไขมันแต่ละประเภท

คุณสมบัติหลัก

PAL

VASER

BodyTite

J-Plasma

SmartLipo

Body-Jet

ULTRA-Z

เทคโนโลยี

กลไกสั่นกลับไปมา

คลื่นเสียงอัลตราซาวด์

คลื่น RF แบบสองขั้ว

พลาสมาเย็น (ฮีเลียม + RF)

เลเซอร์ (1064–1320 nm)

น้ำเกลือแรงดันสูง (WAL)

คลื่นเสียงความถี่สูง

กลไกการทำงาน

หัวดูดเคลื่อนไหวเร็วเพื่อแยกไขมัน

คลื่นเสียงแตกไขมันด้วย Microbubble

RF ปล่อยพลังงานละลายไขมัน+หดผิว

พลาสมาเย็นทำให้เนื้อเยื่อหดตัวทันที

เลเซอร์ละลายไขมัน + กระตุ้นคอลลาเจน

พ่นน้ำเกลือเพื่อแยกไขมันอย่างอ่อนโยน

คลื่นเสียงแตกไขมันแบบละเอียด

การทำงานหลัก

ดูดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ

สลายไขมัน + ปั้นรูปร่าง

ละลายไขมัน + กระชับผิว

กระชับผิว

ละลายไขมัน + กระชับเบา ๆ

ดูดไขมันเบา ๆ

สลายไขมันอย่างนุ่มนวล

กระชับผิว

ไม่มี

เล็กน้อย

สูงสุดถึง 47%

ชัดเจนใต้ผิวถึง 82%

ปานกลาง

แทบไม่มี

เล็กน้อย

เก็บไขมันไปเติม

ดีเยี่ยม

ปานกลาง

ไม่เหมาะ

ไม่เหมาะ

ไม่เหมาะ

ดีเยี่ยม

ดี

ความแม่นยำในการปั้นรูปร่าง

ดี (มีหัวดูดเฉพาะ)

ดีมาก (Hi-Def)

ดี + กระชับ

ดี ปั้นได้แม่นยำ

ปานกลาง

ดี

ดี

ผิวแน่น/ไขมันแข็ง

ดี (มีหัวดูดเฉพาะ)

เหมาะมาก

ดี

ไม่เด่น

ไม่เด่น

ไม่เด่น

ดี

รอยแผล

น้อย

น้อย

น้อย

น้อย

น้อย

แทบไม่มี

น้อย

ความเจ็บ/พักฟื้น

ปานกลาง (2–5 วัน)

ปานกลาง (3–7 วัน)

ปานกลาง (3–7 วัน)

เบา (3–7 วัน)

เบา (2–5 วัน)

เบามาก (1–3 วัน)

เบา (2–5 วัน)

ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น

VASER, BodyTite, J-Plasma

PAL, J-Plasma

PAL, J-Plasma, Morpheus8

PAL, VASER

Lipo แบบเดิม

Fat Transfer, RF

PAL, Lipo แบบเดิม

เหมาะกับเคส

ดูดไขมันทั่วไป + เติมไขมัน

ปั้นรูปร่าง Hi-Def, ไขมันแน่น

ดูดไขมัน + กระชับผิว

ยกกระชับหลังดูดไขมัน

เคสเล็ก ๆ ผิวตึงดี

เติมไขมัน + ต้องการฟื้นตัวเร็ว

ดูดไขมันละเอียด

ได้รับการรับรองจาก FDA

ข้อดีและข้อจำกัดของเทคโนโลยีเครื่องดูดไขมันแต่ละประเภท

Liposuction Technologies

ข้อดี

ข้อจำกัด

PAL (Power-Assisted Liposuction)

- ดูดไขมันได้เร็วและมีประสิทธิภาพ

- กระทบต่อเนื้อเยื่อน้อย

- ลดความเหนื่อยของแพทย์

- ไขมันมีคุณภาพสูงสำหรับนำไปเติม

- มีหัวดูดหลายแบบให้เลือกตามความต้องการ

- ไม่สามารถกระชับผิวได้

- ต้องเลือกหัวดูดให้เหมาะกับบริเวณที่ทำ

- ต้องฝึกฝนเพื่อใช้เทคนิคการปั้นรูปร่างละเอียด

VASER SMOOTH (Ultrasound-Assisted Liposuction)

- เหมาะกับไขมันแน่นหรือ fibrous fat เช่น gynecomastia, หลัง

- ปั้นกล้าม Hi-Def ได้แม่นยำ

- ช่วยกระชับผิวเล็กน้อย

- ใช้ร่วมกับ PAL หรือ J-Plasma ได้

- ใช้เวลามากกว่าปกติ เนื่องจากมีขั้นตอนสลายไขมันก่อนดูด

- ราคาสูงกว่าเทคโนโลยีทั่วไป

- ไขมันที่ได้อาจไม่เหมาะกับการเติม

- ต้องใช้บริการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์

BodyTite Pro (RF-Assisted Liposuction)

- ดูดไขมันพร้อมกระชับผิวในเครื่องเดียว

- ยกกระชับผิวสูงสุดถึง 35–47%

- เหมาะกับเคสที่ผิวหย่อนระดับน้อยถึงปานกลาง

- ได้รับการรับรองจาก FDA

- ไม่สามารถเก็บไขมันไปเติมได้ (เพราะความร้อนทำลายเซลล์ไขมัน)

- เสี่ยงผิวไหม้หากใช้ไม่เหมาะสม

- ใช้เวลานานขึ้นเพราะต้องควบคุมอุณหภูมิระหว่างทำ

- ต้องใช้บริการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์

J-Plasma / Renuvion (Plasma + RF)

- ยกกระชับผิวได้ดีมาก โดยใช้แผลเล็ก

- กระจายความร้อนน้อยกว่าระบบ RF หรือเลเซอร์

- ใช้ได้ดีหลังดูดไขมัน หรือในบริเวณผิวบาง

- กระชับผิวทั้งทันทีและต่อเนื่อง

- ไม่สามารถดูดไขมันได้ ต้องใช้ร่วมกับเครื่องอื่น

- ต้องระวังการกระชับมากเกินไปในผิวบาง

- เสี่ยง subcutaneous emphysema หากใช้ผิดวิธี

- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนมาก ต้องผ่าตัดยกกระชับแทน

SmartLipo (Laser-Assisted Lipolysis)

- ละลายไขมันและกระชับผิวด้วยเลเซอร์

- แผลเล็ก พักฟื้นไว

- ช่วยหดผิวระดับปานกลาง

- เหมาะกับการปรับรูปหน้าและลำคอ

- ดูดไขมันปริมาณมากไม่ได้

- ไม่เหมาะกับไขมันแน่น หรือพื้นที่กว้าง

- เสี่ยงผิวไหม้หากเลเซอร์นานเกินไป

- ไขมันที่ได้ไม่เหมาะสำหรับนำไปเติม

Body-Jet / WAL (Water-Assisted Liposuction)

- อ่อนโยนต่อเส้นประสาทและหลอดเลือด

- เก็บไขมันได้คุณภาพดีมาก เหมาะกับการเติม

- บวมช้ำน้อย ฟื้นตัวเร็ว

- ดูดไขมันปริมาณมากหรือบริเวณไขมันแข็งอาจได้ไม่หมด

- ต้องมีเทคนิคการใช้ที่ชำนาญ

- ไม่ค่อยใช้ในเคส Hi-Def หรือปั้นรูปร่างเฉพาะจุด

ULTRA-Z (Ultrasonic Liposuction)

- สลายไขมันได้ดี โดยเฉพาะในบริเวณ fibrous fat

- เหมาะกับบริเวณละเอียด เช่น ใบหน้า หรือเคสแก้ไข

- ช่วยกระชับผิวเล็กน้อย

- บวมช้ำน้อย เลือดออกน้อย

- เหมาะกับเคสขนาดเล็ก–กลาง ไม่ใช่เคสดูดไขมันเยอะ

- ต้องมีประสบการณ์ในการใช้เครื่อง

- ยังไม่แพร่หลายเท่า VASER ข้อมูลการศึกษาเคสน้อยกว่า

การเลือกเทคโนโลยีตามเป้าหมายการรักษา

เป้าหมายการรักษา

เทคโนโลยีที่แนะนำ

ฟื้นตัวไว ปั้นกล้ามชัด (ซิกแพค, V-line)

VASER + PAL

ฟื้นตัวไว กระชับผิวหลังดูดไขมัน

J-Plasma หรือ BodyTite

ฟื้นตัวไว เติมไขมัน (BBL, ใบหน้า, หน้าอก)

PAL หรือ Body-Jet

ฟื้นตัวไว ไขมันแน่น / Gynecomastia

VASER หรือ BodyTite

ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย

Body-Jet

ฟื้นตัวไว + ปรับรูปร่างทั่วตัว + ยกกระชับ

PAL + BodyTite หรือ PAL + J-Plasma

ฟื้นตัวไว + บริเวณละเอียดอ่อน
(ใบหน้า, คอ, ต้นแขน)

J-Plasma หรือ BodyTite

ฟื้นตัวไว + เคสแก้ไข
หรือมีพังผืดใต้ผิว

PAL หรือ VASER

คำแนะนำการจับคู่เทคโนโลยี

การจับคู่เทคโนโลยี

เหตุผลที่ใช้ร่วมกัน

PAL + VASER

สลายไขมันด้วยคลื่นเสียง และดูดออกได้รวดเร็ว เหมาะกับเคสไขมันแน่นหรือปริมาณมาก

PAL + BodyTite

ดูดไขมันพร้อมกระชับผิวในขั้นตอนเดียว ลดการหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน

PAL + J-Plasma

ดูดไขมัน + กระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสม

VASER + J-Plasma

เหมาะสำหรับ Hi-Def + ยกกระชับผิวเฉพาะจุด

CTA Lipo 2

หากถามว่า ดูดไขมันแบบไหนดี ยังไม่มีนวัตกรรมไหนที่ดีที่สุด เพราะแต่ละเทคโนโลยีก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ และเลือกสถานที่บริการดูดไขมันที่ปลอดภัย เพื่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์ในการรักษาเป็นไปได้ด้วยดีอย่างที่คาดการณ์เอาไว้

  • PAL เป็นเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นที่สุด ใช้เดี่ยวหรือคู่ได้ดี
  • VASER + PAL เหมาะกับการปั้น Hi-Def และไขมันแน่น
  • PAL + BodyTite เหมาะกับเคสผิวหย่อน เช่น หลังคลอด ต้นแขน
  • PAL หรือ VASER + J-Plasma ให้ผลกระชับผิวเรียบเนียน
  • Body-Jet ดีที่สุดสำหรับคนที่เน้นเติมไขมัน
  • SmartLipo เหมาะกับใบหน้า ไม่หลากหลายเท่าเครื่องอื่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า