สิวเรื้อรัง รักษายังไงดี?

acne1

ปัญหาสิวเป็นปัญหาโลกแตกของใครหลายๆ คน เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาด้านอื่นๆ บนผิวหนัง อย่างที่ทราบกันดีว่าสิวเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมัน (sebaceous) เพราะฉะนั้นมักพบในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก และพบสิวได้หลายระยะทั้งสิวอุดตัน หรือ สิวอักเสบเป็นต้น การรักษานั้นในแบบที่ได้ผลต้องรักษาสิวเดิมควบคู่กับการตัดวงจรสิวที่จะเกิดใหม่โดย รักษาตามความรุนแรงของสิว

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิว

มีหลายอย่างที่ดูคล้ายสิวแต่ไม่ใช่สิวอย่างเช่น สิวผดซึ่งคือผื่นเม็ดเล็ก ๆ สีแดงมักเห่อขึ้นมาช่วงอากาศร้อน ซึ่งจะทำการรักษาคนละแบบกับการรักษาสิว และต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นว่าการรักษาสามารถทำให้สิวเห่อได้เนื่องจากผลิตภัณฑ์รักษาสิวส่วนมากจะเร่งการผลัดผิวทำให้การอุดตันใต้ผิวผุดออกมาเร็วขึ้น และช่วงเวลาของการเกิดสิวไม่ได้เกิดขึ้นภายใน 1-2 วัน มักใช้เวลาก่อตัวเป็นสัปดาห์เป็นต้น

กลไกลการเกิดสิวมีได้ 2 ปัจจัย

1.ปัจจัยภายใน

คือระดับฮอร์โมนในร่างกาย กรรมพันธุ์ หรือการอักเสบเป็นต้น ทำให้เกิดภาวะต่างๆ ตามมา เช่น

การแบ่งและผลัดผิวหนังผิดปกติ (Hyperkeratosis)

เกิดจากเซลล์ของผิวหนังถูกสร้างมากเกินทำให้ผิวหนังเกาะแน่นไม่ยอมหลุดออกไปจนเกิดการอุดตันของรูขุมขน วิธีแก้คือต้องทำการผลัดเซลล์ผิวเหมือนเป็นการล้างท่อให้ระบายออกนั่นเอง

ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกิน (Seborrhea)

เกิดจากการอุดตันเล็กๆ ที่มองไม่เห็น เช่น ขับน้ำมันออกไม่ทันหรือน้ำมันคุณภาพแย่ลง หนืดเหนียว ติดอยู่ในท่อรูขุมขน วิธีแก้ ต้องลดการผลิตน้ำมันอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุมมันเป็นตัวช่วย

2.ปัจจัยภายนอก

เกิดจากปัยจัยอื่นๆ เช่น ยา แสงแดด อาหาร การใช้เครื่องสำอางที่อุดตัน หรือการล้างหน้าแบบผิดวิธี 

ประเมินระดับความรุนแรงของสิว

การรักษาสิวที่ดีจะต้องรักษาตามอาการความรุนแรงของสิว โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้กลไกของการก่อสิวโดยประเมินความรุนแรงจะดูจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ ประเมินจากสิวที่มีและประเภทของสิวแต่ละแบบ

acne2

สิวแต่ละประเภท

1.สิวอุดตัน 

  • สิวหัวขาว หรือ หัวปิด ตุ่มนูนจะเล็กเป็นสีขาวหรือสีเนื้อ ใช้ระยะเวลานานกว่าสิวจะหลุด ทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมเยอะและจะกลายเป็นสิวอักเสบในอนาคต 
  • สิวหัวดำ หรือ หัวเปิด ตุ่มนูนตรงจุดจะมีรอยดำลักษณะแข็งๆ เกิดจากการสะสมตัวของ เซลล์คอร์นีโอไซต์ (Corneocyte) และซีบัม (Sebum) ในช่องรูขุมขน ที่ทำให้เกิดการขยายตัวจนช่องรูขุมขนเปิดออก เผยให้เห็นจุดสีเข้มที่อุดตันรูขุมขนอยู่ภายใน
acne

2.สิวอักเสบ

  • หัวแดง มีลักษณะแดงเมื่อสัมผัสจะเจ็บ หรือเป็นหนองมักพัฒนาจากการอุดตันและการติดเชื้อ
  • ตุ่มแดงเล็ก (papule) เป็นสิวอักเสบที่อาจจะเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรียผสมกับการอุดตันของรูขุมขน 
  • ตุ่มหนอง (pustule) มีลักษณะเป็นตุ่มแดงๆบริเวณฐาน และมีจุดสีขาวเหลืองอยู่บริเวณหัวหรือด้านบนของสิว ซึ่งจุดสีขาวเหลือง คือ หนองที่เกิดภายใต้ผิวหนัง
  • หัวช้าง (nodules) เกิดจากการอักเสบรุนแรงที่ผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่อยู่ลึกลงไป มีลักษณะไตใหญ่แข็ง อักเสบแดงมาก ไม่มีหัวทำให้สามารถรักษาได้ยากกว่าสิวประเภทอื่นๆ 
  • ซีสต์ (cysts) มีลักษณะก้อนนูนใหญ่ นิ่มๆ เป็นถุงน้ำใต้ผิวมีหนองเลือด
acne6

แนวทางการรักษาสิวเรื้อรัง

แนวทางการรักษาแบ่งเป็น 3 ประเภท 

1.ทายา เป็นตัวเลือกแรกในการรักษา เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวไม่อักเสบหรือมีสิวอักเสบเพียงเล็กน้อย นิยมใช้ยาในรูปแบบทา โดยยาทาที่พบบ่อย ได้แก่ 

  • ยาทาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น benzoyl peroxide, adapalene, retinoic acid ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบครีมหรือเจลใช้ทาบางๆ ทั่วหน้า จะทำให้มีสิวเห่อมากขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรกที่เริ่มใช้ยา อาจมีผลข้างเคียงคือมีอาการ แสบ ผิวลอก อาการเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการลดความเข้มข้นหรือลดระยะเวลาที่ทา แนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทาผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย

2.กินยา เป็นตัวเลือกของคนที่เป็นสิวระดับปานกลาง หรือ รุนแรง มักมียากินร่วม เช่น

  • ยาปฏิชีวนะ มักต้องกินเป็นระยะเวลานานถึงจะมีประสิทธิภาพในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียยาปฏิชีวนะเหล่านี้ มีผลอาจทำให้ผิวไวต่อแสง จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย 
  • ยารับประทานอื่นๆ มักจะใช้ในผู้ที่มีสิวอักเสบรุนแรงเป็นจำนวนมาก ผลข้างเคียงที่พบได้คือ ปากแห้ง ผมร่วง ผิวแห้ง ผิวไวต่อแสงแดดแนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทาผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย

ก่อนซื้อยาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนเสมอยาบางตัวมีผลข้างเคียงรุนแรงทั้งยาทาและยากิน ต้องประเมินและปรับยาเรื่อยๆ ตามความเหมาะสม และยาบางชนิดยังห้ามใช้ในบุคคลบางประเภทเช่น หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรควรเลี่ยง

3.การรักษากับคุณหมอ เป็นตัวเลือกที่ตรงจุด ครอบคลุม ลดโอกาสเกิดแผลได้ เลเซอร์ตัวดังเป็นที่นิยมในการรักษาสิวก็จะมีทั้ง 

– กดฉีดสิว 

– เลเซอร์ 

– ทรีทเมนต์ 

– ฉายแสง

ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและดุลยพินิจของแพทย์ บางกรณีอาจจะต้องรักษาร่วมกันทั้ง 3 แบบ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 

การดูแลผิวหลังรักษาสิว

เมื่อเป็นสิวแล้วเราควรดูแลผิวที่บอบบางให้กลับมาแข็งแรง สามารถได้หลายวิธีทั้งทา มอยเจอร์ไรเซอร์ ทำความสะอาดผิวให้สะอาด หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรด หรือทำเลเซอร์เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงจุดและรวดเร็วขึ้น 

สำหรับเลเซอร์นั้นมีหลายประเภทที่สามารถเลือกทำได้ระหว่างเป็นสิวหรือหลังเป็นสิวเช่น การทำ E-Matrix ช่วยรักษาหลุมสิวและช่วยกระชับรูขุมขนหรือ Pico Laser 

โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลสิว หลุมสิวทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า เลเซอร์ตัวนี้จะเข้าไปตัดพังผืดใต้ชั้นผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นตั้งแต่ทำครั้งแรก

ref https://shorturl.asia/ujt64

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า