E-Matrix เลเซอร์รักษาหลุมสิว
E-Matrix เลเซอร์สำหรับผิวหน้า หลุมสิว ริ้วรอย เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยกระชับผิวหน้า เม็ดสีบนใบหน้าสม่ำเสมอเรียบเนียน รักษาหลุมสิวอย่างได้ผล ผลจากการปล่อยสิวจนถึงขั้นอักเสบ ยากต่อการรักษา ทำให้เกิด หลุมสิว เป็นพื้นที่ลึกเข้าไปถึงชั้นในของผิวหนัง ส่งผลเนื้อบางส่วนหายไปจนเกิดเป็นหลุมขึ้นมาบนใบหน้า การฟื้นฟูให้หน้ากลับเป็นเหมือนเดิมจะเริ่มไม่ง่ายแบบตอนเริ่มเป็นสิว ขึ้นกับระดับความรุนแรงและลักษณะของหลุมสิว อาจต้องใช้การรักษาด้วยเลเซอร์เข้าช่วย
ระดับความแรงของหลุมสิว 3 ระดับ
- Icepick Scars (รุนแรงสุด) หลุมสิวลึกไปถึงรูขุมขน แต่ไม่ถึงพังผืดใต้ผิวหนัง ปากสิวแคบกว่าแบบอื่น ทายารักษาทั่วไปไม่ได้ผล รักษายาก ใช้เวลานานในการฟื้นฟูให้ดีขึ้น วิธีรักษาส่วนใหญ่ทำให้ตื้นขึ้น อาจไม่หายขาด
- Box scars (ปานกลาง) หลุมบ่อ ปากสิวกว้างกว่าแบบอื่น ไม่ลึกเท่าแบบแรก (Icepick Scars) ใช้ยาร่วมกับรักษาด้วยวิธีอื่นพอรักษาได้
- Rolling Scars (ทั่วไป) แบบที่พบบ่อย หลุมตื้น รักษาง่ายกว่าแบบอื่น โดยทั่วไปใช้ยารักษาพอได้
นอกจากนี้ยังมีอีกแบบที่เห็นบ่อย คือ รอยแผลเป็นนูน (Hypertrophic scar หรือ Keloid Scars) ซึ่งจะมีลักษณะนูนขึ้นมาจากระดับผิวหนัง
ภาพประกอบจาก Derma Roller Shop
3 วิธีที่นิยมใช้ ในการรักษาหลุมสิว
- ทายารักษา สกินแคร์ต่างๆ สารสกัดจากธรรมชาติ บำรุงผิว เหมาะกับหลุมสิวที่ไม่ลึกมากแบบ Rolling Scars
- รับประทานยาสารสกัด ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาแบบอื่นๆ ให้เห็นผลดีขึ้น
- ศัลยกรรมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ เหมาะกับการรักษาแบบ Icepick Scars และ Box Scars ซึ่งส่วนใหญ่ทายาไม่ได้ผล รอยแผลดูแคบลง หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ
ขั้นตอนการรักษาหลุมสิว แบ่งแยกย่อยเป็น 10 – 20 วิธี โดยทั่วไปควรเริ่มจากการทายารักษาสิว ถ้าไม่ได้ผลหรือระดับหลุมสิวอยู่ในขั้นปานกลางถึงรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังโดยเฉพาะทาง หนึ่งในวิธีรักษาหลุมสิวที่ได้รับการยอมรับว่ามีผลดีต่อผิวหน้า คือ รักษาด้วยเครื่อง E-Matrix ทั้งปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน และดีต่อผิวหน้า ราคาไม่แพงมาก
การทำงานเครื่อง E-Matrix เป็นอย่างไร ?
กลไกของเครื่อง E-Matrix จะส่งกระแสพลังงาน RF (Radiofrequency) ลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนลงไปใต้ผิวที่ความลึกแตกต่างกันในแต่ละโปรแกรม ความร้อนจากกระแส RF จะลงไปที่ผิวชั้นบน (epidermis) และชั้นล่าง (dermis) โดยจะทำให้เกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก (Ablation and Resurfacing) ในขณะที่ความร้อนบางส่วนจะลงไปบริเวณผิวชั้นล่าง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้เม็ดสีจางลง ผิวตึง กระชับรูขุมขน รักษาหลุมสิว กระชับผิวหน้าให้เรียบเนียน
ข้อดีของคลื่น RF เมื่อเทียบกับ Fractional Laser อื่นๆ คือ พลังงาน RF ไม่มีผลต่อสีผิว ไม่เกิดรอยไหม้แบบเลเซอร์ คนที่มีสีผิวคล้ำจะทำ Fractional CO2 ได้ไม่ดี เพราะถึงหลุมสิวจะตื้นขึ้น แต่กลายเป็นหน้าดำ ต่างจาก RF eMatrix ที่ไม่มีผลต่อสีผิว หน้าใส ลบริ้วรอย ปลอดภัยแม้จะบริเวณรอบดวงตา โดยไม่ส่งผลต่อขนตา หรือ เปลือกตา กระชับผิวใต้ดวงตาให้ดูกลมโตขึ้น ดีต่อผิวหนังใบหน้า
สรุปกลไกการทำงาน E-Matrix
- ส่งกระแสพลังงาน RF (Radiofrequency) ลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนลงไปใต้ผิวที่ความลึกแตกต่างกัน
- ความร้อนจากกระแส RF จะลงไปที่ผิวชั้นบน (epidermis) และชั้นล่าง (dermis) โดยจะทำให้เกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก (Ablation and Resurfacing)
- ความร้อนบางส่วนจะลงไปบริเวณผิวชั้นล่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่
ผลลัพธ์
- ทำให้เม็ดสีจางลง ผิวตึง กระชับรูขุมขน รักษาหลุมสิว กระชับผิวหน้าให้เรียบเนียน
ข้อดีของคลื่น RF เมื่อเทียบกับ Fractional Laser
- พลังงาน RF ไม่มีผลต่อสีผิว จึงไม่เกิดรอยไหม้แบบเลเซอร์
- คนที่มีสีผิวคล้ำจะทำ Fractional CO2 ได้ไม่ดี เพราะถึงแม้หลุมสิวจะตื้นขึ้น แต่จะกลายเป็นหน้าดำขึ้น คล้ำขึ้น ต่างจาก RF eMatrix ที่ไม่มีผลต่อสีผิว
- ช่วยทำให้หน้าใส ลบริ้วรอย ปลอดภัยแม้จะบริเวณรอบดวงตา โดยไม่ส่งผลต่อขนตา หรือ เปลือกตา กระชับผิวใต้ดวงตาให้ดูกลมโตขึ้น ดีต่อผิวหนังใบหน้า
ราคาเลเซอร์ E-Matrix
ราคา ematrix ขึ้นอยู่กับจำนวน shot ที่ยิง เมื่อเราแกะหัวใหม่ออกมาจากกล่องแล้วต่อเข้าเครื่อง เครื่องจะเริ่มนับถอยหลังทันที (ในกรณีที่เป็นเครื่อง e-matrix ของจริงนะคะ) โดยทั่วไปหากจะทำทั้งหน้า จะต้องใช้ราวๆ 200 กว่า shots ซึ่งจะเป็น ราคาematrix ประมาณ สองหมื่นกว่าบาทต่อทั้งหน้า แต่หากมีหลุมสิวเพียงบางส่วน ก็จะลดจำนวน shot ที่ยิงลงได้ และ ราคาe-matrix ก็จะลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว
อย่าลืมนะคะ หากจะไปยิ่ง e-matrix ที่ไหน ต้องคุยและสื่อสารให้ถูกว่าเป็นจำนวนกี่ shot บางครั้งการสื่อสารว่าเหมาทั้งหน้า อาจจะไม่ถูกต้องเสียทั้งหมดเพราะการเหมาทั้งหน้า แต่ใช้เพียง 100 ช๊อต ถือว่าน้อยเกินไปและอาจจะไม่ได้ผล
การปฏิบัติตัวหลังทำ ต้องทำเลเซอร์ E-Matrix อย่างไรบ้าง ?
- ประคบเย็นหลังทำทันที
- 24 ชม.แรกหลังทำ ควรทาด้วยวาสลีนหรือยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นตลอดเวลา
- หลังจาก 24 ชม.แรก สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน หลีกเลี่ยงการใช้สครับ วิตามินเอชนิดทา กรดผลไม้
- หลังจาก 24 ชม.แรก สามารถแต่งหน้าได้บางๆ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการรักษา
- ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF>30
รีวิวลูกค้า
คำถามที่พบบ่อย
ผลการรักษาจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากทำในแต่ละครั้ง โดยส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา โดยทั่วไปแนะนำทำ 3-5 ครั้ง
ห่างกัน 4-6 สัปดาห์ เมื่อครบคอร์สแล้วสามารถมาทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน
ประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะเริ่มสังเกตว่ารูขุมขนกระชับ เรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูจางลง และจะสามารถเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นเมื่อทำครบคอร์ส
ผลการรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลผิว และปัญหาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปผลจะคงอยู่เรื่อยๆ แนะนำอาจกระตุ้นซ้ำทุก 6-12 เดือน
E-Matrix เป็นเครื่องมือที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่ามีความปลอดภัย และได้ผลจริง หลังการรักษาอาจเกิดอาการบวม แดง เจ็บเล็กน้อย อาจมีตุ่มน้ำหรือสะเก็ดหลังทำ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิดปกติ (เกิดขึ้นได้น้อย)
ศัลยแพทย์ผู้ดำเนินการรักษา
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์ (Dr. Rattinan Treeratana)รายละเอียดการรักษา
เวลาในการรักษา
1-2 ชั่วโมง
ทายาชาก่อนการรักษา
ไม่ผ่าตัด
เริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา
ไม่มีผลต่อสีผิว ไม่เกิดรอยไหม้แบบเลเซอร์
Alert : ผลการรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลผิว และปัญหาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปผลจะคงอยู่เรื่อยๆ แนะนำอาจกระตุ้นซ้ำทุก 6-12 เดือน
บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 23 ปี
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์ (คุณหมอแต๋ม)
แพทย์ผู้ชำนาญด้านผิวพรรณและเลเซอร์
เกียรตินิยมด้านเวชศาสตร์ความงามจาก American Academy of Aesthetic Medicine
ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี