ดูดไขมันที่แก้มดีไหม? ข้อควรรู้ก่อนปรึกษาแพทย์มีอะไรบ้าง

ดูดไขมันหน้า แก้ม bodyTite + microAire PAL

ในยุคที่คนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และความมั่นใจในตนเอง คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ดูดไขมันแก้มดีไหม? สำหรับผู้ที่มีแก้มใหญ่หรือหน้ากลม การดูดไขมันที่แก้มเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและเล็กลงได้อย่างเห็นผลชัดเจน

นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกที่สะดวกและไม่อันตรายเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีทักษะ จึงทำให้หลายคนสนใจและพิจารณาวิธีนี้ในการเพิ่มความมั่นใจในตนเองมากขึ้น

สารบัญ

ทำไมหลายคนถึงสนใจการดูดไขมันที่แก้ม?

การดูดไขมันที่แก้มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด หลายคนมองว่าการมีใบหน้าที่เรียวสวยทำให้ดูดีขึ้นและเพิ่มความมั่นใจ การดูดไขมันที่แก้มเป็นทางเลือกที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นผลลัพธ์ทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลานาน 

การปรับรูปหน้าด้วยวิธีนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มใหญ่หรือหน้ากลม ที่มักรู้สึกว่ารูปหน้าของตนเองดูอวบอ้วนหรือไม่สมส่วน

นอกจากนี้ การดูดไขมันที่แก้มยังเป็นวิธีที่ไม่อันตรายเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีทักษะในด้านนี้ ทำให้หลายคนรู้สึกสบายใจในการเลือกวิธีนี้เพื่อปรับปรุงรูปหน้าของตนเอง

ประโยชน์ของการดูดไขมันที่แก้ม

การดูดไขมันที่แก้มมีประโยชน์หลัก ๆ คือผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและเล็กลงทันทีหลังทำ ช่วยแก้ปัญหาแก้มใหญ่ หน้ากลม หรือมีไขมันส่วนเกินที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ การดูดไขมันที่แก้มจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับรูปหน้าให้สมส่วนและดูสวยงามมากขึ้น

นอกจากนี้ การดูดไขมันที่แก้มยังช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับโครงหน้า ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้นและมีมิติมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงลดความกังวลเรื่องการพักฟื้นและความเสี่ยงจากการผ่าตัด

ทั้งนี้การดูดไขมันที่แก้มสามารถทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีทักษะในด้านนี้

ข้อเสียและความเสี่ยงของการดูดไขมันที่แก้ม

แม้ว่าการดูดไขมันที่แก้มจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ หนึ่งในความเสี่ยงที่สำคัญคือการกระทบกับเส้นประสาทบริเวณใบหน้า เนื่องจากแก้มเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก

การดูดไขมันที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอาการชาหรืออาการอ่อนแรงในบางส่วนของใบหน้า ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือนในการฟื้นตัว

นอกจากนี้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ยังรวมถึงการบวม ช้ำ หรืออาการอักเสบหลังการทำ ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปในระยะเวลาหนึ่ง แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่าปกติ

อีกทั้ง ผลลัพธ์จากการดูดไขมันที่แก้มอาจไม่ถาวรหากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือมีการสะสมไขมันใหม่ในบริเวณอื่นของใบหน้า

ดังนั้น การรักษาน้ำหนักและการดูแลสุขภาพหลังทำจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนาน

การพิจารณาถึงข้อเสียและความเสี่ยงเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยควรทำการปรึกษากับแพทย์ที่มีทักษะ เพื่อประเมินความเหมาะสมและเลือกวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง

กระบวนการดูดไขมันที่แก้มทำอย่างไร?

การดูดไขมันที่แก้มเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความละเอียดและความระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งมีกระบวนการดังนี้

1. ขั้นตอนการประเมิน

ก่อนการทำดูดไขมันที่แก้ม แพทย์จะทำการประเมินใบหน้าของผู้เข้ารับบริการอย่างละเอียด โดยตรวจสอบโครงสร้างใบหน้า ปริมาณไขมันที่สะสม และสภาพผิวในบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน การประเมินนี้ยังรวมถึงการตรวจสอบประวัติสุขภาพและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ปัญหาเส้นประสาทหรือภาวะสุขภาพที่อาจส่งผลต่อการรักษา ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

2. การเตรียมตัวก่อนทำ

หลังจากประเมินแล้ว บุคลากรจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนทำดูดไขมันที่แก้ม เช่น หลีกเลี่ยงการทานยาที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน หรือยาสมุนไพรบางชนิด นอกจากนี้ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับการรักษา การทำตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความสำเร็จของการดูดไขมัน

3. ขั้นตอนการทำ

ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ในวันเข้ารับบริการ แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดบริเวณที่จะดูดไขมัน จากนั้นจะฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อให้ผู้รับบริการไม่รู้สึกเจ็บ โดยไม่ต้องดมยาสลบ การดูดไขมันจะใช้เครื่องมือขนาดเล็กที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการดูดไขมันบริเวณแก้ม เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างแม่นยำและลดความเสี่ยงต่อเส้นประสาท ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละบุคคล

กระบวนการดูดไขมันที่แก้มจึงเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ทักษะและความระมัดระวังในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

“ดูดไขมันเหนียง” ลดคางสองชั้น ให้กรอบหน้าเรียว พร้อมยกกระชับ

การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันที่แก้ม

คำแนะนำจากแพทย์
ก่อนการดูดไขมันที่แก้ม การปรึกษาแพทย์ที่มีทักษะเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อให้การทำเป็นไปอย่างราบรื่น โดยแพทย์จะตรวจสอบสภาพร่างกาย ประวัติการใช้ยา และอธิบายขั้นตอนการทำเพื่อให้ผู้รับบริการเข้าใจและเตรียมตัวได้ถูกต้อง

การเตรียมใจ
การเตรียมใจเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ ควรเข้าใจถึงกระบวนการ ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการดูดไขมันที่แก้ม การมีทัศนคติที่เปิดกว้างและการเตรียมใจให้พร้อมจะช่วยลดความกังวล และทำให้รู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้น

สิ่งที่ต้องทำ

  • งดการใช้ยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี หรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดยาก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกง่าย
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้แผลหายช้าลง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีก่อนและหลังการทำ
  • เตรียมชุดกระชับ ควรเตรียมชุดกระชับใบหน้าตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ใบหน้ากลับเข้ารูปเร็วขึ้น โดยสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ในคลินิกของเราได้
แก้มป่อง แก้มเยอะ ทำไงดี
ดูดไขมันหน้าสำหรับคนอ้วน

ขั้นตอนการดูดไขมันที่แก้ม

การฉีดยาชา
ก่อนเริ่มการดูดไขมัน แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณแก้มเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายและลดความเจ็บปวดระหว่างทำ การฉีดยาชาเฉพาะที่ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดมยาสลบและทำให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างราบรื่น

การใช้เครื่องมือ
การดูดไขมันที่แก้มจะใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการทำในบริเวณเล็ก ๆ อย่างแก้ม โดยเครื่องมือที่นิยมใช้คือ AccuTite หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กและมีความแม่นยำสูง เครื่องมือนี้จะช่วยดูดไขมันออกอย่างนุ่มนวลและปลอดภัย โดยการดูดไขมันจะทำผ่านแผลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ติ่งหูหรือบริเวณที่มองไม่เห็น

การดูแลหลังทำ
หลังการดูดไขมันที่แก้ม การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ผู้รับบริการควรสวมชุดกระชับใบหน้าตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยให้ใบหน้าเข้ารูปเร็วขึ้น และลดอาการบวม นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดการกระแทกบริเวณที่ทำ งดการออกกำลังกายหนัก และหมั่นทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการดูดไขมันที่แก้ม

ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
หลังการดูดไขมันที่แก้ม ผู้รับบริการจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าที่ดูเรียวเล็กลงอย่างชัดเจนทันที อย่างไรก็ตาม อาจมีอาการบวมเล็กน้อยซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงในไม่กี่วันแรก ทำให้รูปหน้าดูชัดเจนยิ่งขึ้น

การพักฟื้น
การพักฟื้นหลังการดูดไขมันที่แก้มมักใช้เวลาไม่นาน ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ภายใน 1-2 วันหลังทำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและการทำกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำในช่วงแรก เพื่อให้ใบหน้าฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

การดูแลตัวเอง
หลังทำควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การทานยาแก้ปวดหรือลดบวม การสวมชุดกระชับหน้า และการนอนยกศีรษะสูงเพื่อช่วยลดอาการบวม นอกจากนี้ควรดูแลแผลให้สะอาดและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลด้วยมือเปล่า รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์การดูดไขมันที่แก้มคงอยู่ยาวนานและได้รูปหน้าที่สวยงามตามต้องการ

ใช้เวลากี่วันถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน?

ระยะเวลาการฟื้นตัว
หลังการดูดไขมันที่แก้ม ระยะเวลาการฟื้นตัวของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการดูแลตัวเอง โดยทั่วไป อาการบวมและช้ำมักจะลดลงภายใน 3-7 วันแรก ในช่วงนี้ใบหน้าอาจดูบวมเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติหลังการดูดไขมัน ผู้รับบริการส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ภายใน 1-2 วันหลังทำ

แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักหรือการออกกำลังกายที่อาจกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำจนกว่าจะหายดี

การเห็นผลลัพธ์จริง
ผลลัพธ์ของการดูดไขมันที่แก้มจะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นหลังจากที่อาการบวมลดลง ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ใบหน้าจะดูเรียวเล็กและโครงหน้าจะชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะปรากฏเมื่อครบประมาณ 3-6 เดือน เนื่องจากกระบวนการฟื้นฟูและการปรับตัวของผิวหลังการดูดไขมันยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ในช่วงเวลานี้

การดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การสวมชุดกระชับใบหน้าอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ใบหน้าเข้ารูปเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการบวมซ้ำ การปฏิบัติตามคำแนะนำนี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงอยู่นานตามที่ต้องการ

ข้อควรรู้และสิ่งที่ต้องระวังก่อนการตัดสินใจ

การปรึกษาแพทย์
ก่อนตัดสินใจทำการดูดไขมันที่แก้ม สิ่งสำคัญคือการปรึกษากับแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์ในด้านนี้ เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและตรงกับความต้องการของคุณ แพทย์จะช่วยประเมินโครงสร้างใบหน้า สภาพผิว และปริมาณไขมันที่ต้องการกำจัด รวมถึงตรวจสอบประวัติสุขภาพเพื่อระบุว่าเหมาะสมกับวิธีการนี้หรือไม่

การปรึกษาแพทย์ยังช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนการทำ ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวัง ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ข้อจำกัดของวิธีการ
การดูดไขมันที่แก้มไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก หรือมีไขมันที่อยู่ลึกในชั้นกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวบางหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทอาจไม่เหมาะสมกับวิธีนี้ การดูดไขมันที่แก้มเน้นการกำจัดไขมันชั้นตื้นเท่านั้น และไม่สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ทั้งหมด

ดังนั้น หากมีปัญหาอื่นร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้อหย่อนคล้อยหรือกระดูกใบหน้าที่ไม่สมส่วน แพทย์อาจแนะนำวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การยกกระชับใบหน้า การร้อยไหม หรือการฉีดโบท็อกซ์

ปัจจัยเสี่ยง
แม้ว่าการดูดไขมันที่แก้มจะเป็นวิธีที่ไม่อันตรายเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีทักษะ แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ควรทราบ เช่น การบวม ช้ำ หรืออักเสบที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำ รวมถึงความเสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว

นอกจากนี้ ผลลัพธ์ของการดูดไขมันที่แก้มอาจไม่ถาวรหากมีการเพิ่มน้ำหนักหรือสะสมไขมันใหม่ การดูแลสุขภาพและรักษาน้ำหนักหลังทำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่นานยิ่งขึ้น


การทำความเข้าใจถึงข้อควรรู้และสิ่งที่ต้องระวังก่อนการตัดสินใจจะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยกับตัวเองได้มากที่สุด ควรพิจารณาทุกปัจจัยอย่างถี่ถ้วนและทำตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 1
CTA Lipo 2
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

ดูดไขมันที่แก้มเหมาะกับใคร?


การดูดไขมันที่แก้มเป็นวิธีที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวและเล็กลง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับวิธีนี้ นี่คือกลุ่มคนที่เหมาะสมกับการดูดไขมันที่แก้ม โดยระบุช่วงอายุที่ควรพิจารณา

กลุ่มคนที่เหมาะสม
การดูดไขมันที่แก้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมที่แก้มมาก ทำให้โครงหน้าไม่ชัดเจน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวหนาและยืดหยุ่นดี ซึ่งสามารถเข้ารูปได้ง่ายหลังทำ วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถลดไขมันบริเวณแก้มได้ด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร

วัยรุ่น (อายุ 18-25 ปี)
วัยรุ่นในช่วงอายุ 18-25 ปี ที่มีแก้มใหญ่ตั้งแต่วัยเด็ก และการลดไขมันด้วยวิธีธรรมชาติไม่เห็นผล อาจพิจารณาการดูดไขมันที่แก้มได้ อย่างไรก็ตาม ควรมีการปรึกษาแพทย์และผู้ปกครองอย่างละเอียด เนื่องจากวัยนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าและฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ในระยะยาว

ผู้ใหญ่ (อายุ 26-45 ปี)
ผู้ใหญ่ในช่วงอายุ 26-45 ปี เป็นกลุ่มที่นิยมทำการดูดไขมันที่แก้มมากที่สุด เนื่องจากในวัยนี้โครงหน้ามักจะเริ่มเห็นชัดเจน และมีปัญหาไขมันสะสมที่แก้มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเกิน การดูดไขมันที่แก้มสามารถช่วยปรับโครงหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น ลดความอวบอ้วนของใบหน้าได้อย่างเห็นผลชัดเจน

ผู้สูงอายุ (อายุ 46 ปีขึ้นไป)
สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 46 ปี การดูดไขมันที่แก้มควรทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากผิวหนังมักเริ่มหย่อนคล้อย การดูดไขมันอาจช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะทำให้ผิวยิ่งหย่อนคล้อยกว่าเดิม แพทย์อาจแนะนำวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การยกกระชับใบหน้า หรือการร้อยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับสภาพผิวของผู้สูงอายุ

โดยสรุป การดูดไขมันที่แก้มเหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งต้องการลดไขมันบริเวณแก้มเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงกับความต้องการที่สุด

ทีมแพทย์ดูดไขมัน ที่ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์

นพ. สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์

นพ. สุทธิพงษ์
ตรีรัตน์

นายแพทย์

นพ. ทวีชัย ทวีเจริญกุล

นพ. ทวีชัย
ทวีเจริญกุล

แพทย์โสต ศอ นาสิก

น.ต. นพ. จตุพร ซื่อสัตย์

น.ต.นพ. จตุพร
ซื่อสัตย์

ศัลยแพทย์ตกแต่ง

นพ. อนิวรรต นิลกาญจน์

นพ. อนิวรรต
นิลกาญจน์

นายแพทย์

นพ. วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง

นพ. วุฒิวัธ
อนุพรรณสว่าง

ศัลยแพทย์

ใครไม่ควรทำการดูดไขมันที่แก้ม?

แม้ว่าการดูดไขมันที่แก้มจะเป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีโครงหน้าชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการทำวิธีนี้ นี่คือกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันที่แก้ม

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือโรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันที่แก้ม เนื่องจากขั้นตอนนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน หรือส่งผลต่อการฟื้นตัวหลังทำ นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือรับยาที่ส่งผลต่อการรักษาแผลก็ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

ผู้ที่มีผิวบาง
ผู้ที่มีผิวบางหรือผิวที่มีความยืดหยุ่นน้อยควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันที่แก้ม เนื่องจากหลังการดูดไขมัน ผิวที่บางและยืดหยุ่นน้อยอาจเกิดปัญหาหย่อนคล้อย ไม่เข้ารูปตามที่ต้องการ นอกจากนี้ การดูดไขมันที่แก้มในผู้ที่มีผิวบางอาจเสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้

ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่ไม่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงการดูดไขมันที่แก้ม เนื่องจากการทำในช่วงตั้งครรภ์อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งแม่และทารกในครรภ์ แม้ว่าจะเป็นหัตถการที่ไม่อันตราย แต่การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการสะสมของไขมัน อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ การฉีดยาชาหรือยาใด ๆ ที่ใช้ในขั้นตอนนี้อาจมีผลกระทบต่อทารกได้ จึงควรเลี่ยงจนกว่าจะคลอดและร่างกายฟื้นตัวเต็มที่

การพิจารณาถึงข้อจำกัดและกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมันที่แก้มจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในขั้นตอนการรักษา ควรปรึกษาแพทย์และประเมินสุขภาพอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวคุณเอง

ดูดไขมันที่แก้มกับการทำวิธีอื่นต่างกันอย่างไร?

เมื่อพูดถึงการปรับรูปหน้าให้เรียวและลดไขมันบริเวณแก้ม นอกจากการดูดไขมันที่แก้มแล้วยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น การฉีดเมโสแฟต การร้อยไหม และการใช้เลเซอร์ ซึ่งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันในด้านของกระบวนการ ผลลัพธ์ และระยะเวลาการฟื้นตัว ดังนี้

  1. เปรียบเทียบกับเมโสแฟต
    การฉีดเมโสแฟต คือการฉีดสารที่ช่วยสลายไขมันเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณแก้มเพื่อทำให้ไขมันลดลง วิธีนี้เป็นที่นิยมเพราะไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาทำไม่นาน อย่างไรก็ตาม เมโสแฟตมักให้ผลลัพธ์ในระยะสั้นและจำเป็นต้องฉีดซ้ำหลายครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันสะสมมาก อาจไม่เห็นผลเท่ากับการดูดไขมันที่สามารถกำจัดไขมันออกไปได้ถาวรกว่า และไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ
  2. เปรียบเทียบกับการร้อยไหม
    การร้อยไหม เป็นการใช้เส้นไหมเพื่อยกกระชับผิวหน้าและปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้น โดยเส้นไหมจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่หากปัญหาหลักคือไขมันสะสมที่แก้ม การร้อยไหมอาจไม่ตอบโจทย์ เพราะไม่ได้กำจัดไขมันโดยตรงเหมือนกับการดูดไขมัน นอกจากนี้ การร้อยไหมอาจมีผลลัพธ์ชั่วคราวและต้องทำซ้ำทุก 1-2 ปี
  3. เปรียบเทียบกับเลเซอร์
    การใช้เลเซอร์ เช่น เลเซอร์ยกกระชับหรือเลเซอร์สลายไขมัน เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและช่วยในการลดไขมันและยกกระชับผิวหน้าได้ในระดับหนึ่ง เลเซอร์ทำงานโดยใช้พลังงานแสงไปทำลายเซลล์ไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเล็กน้อยและต้องการผลลัพธ์ที่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม การใช้เลเซอร์ไม่สามารถกำจัดไขมันได้มากเท่ากับการดูดไขมันที่แก้ม และอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

การดูดไขมันที่แก้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มมากและต้องการกำจัดไขมันออกไปถาวร โดยไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ ในขณะที่การฉีดเมโสแฟต การร้อยไหม และการใช้เลเซอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและมีระยะเวลาการฟื้นตัวสั้นกว่า

แต่ผลลัพธ์อาจอยู่ไม่นานและไม่สามารถกำจัดไขมันได้เท่ากับการดูดไขมัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัญหาของแต่ละบุคคล รวมถึงปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด

ดูดไขมันที่แก้มเจ็บไหม?

ระดับความเจ็บปวด
ในระหว่างการดูดไขมันที่แก้ม แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายและไม่รู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการ ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดได้อย่างมาก หลังจากการทำ ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ทำ แต่ความเจ็บนี้มักจะไม่รุนแรงและจะบรรเทาลงในไม่กี่วัน หากมีอาการเจ็บหรือไม่สบายมากเกินไป แพทย์จะให้คำแนะนำในการใช้ยาแก้ปวดตามความเหมาะสม

วิธีการลดอาการบวม
หลังจากการดูดไขมันที่แก้ม อาจมีอาการบวมเกิดขึ้นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก การประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังทำจะช่วยลดอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การนอนยกศีรษะสูงและหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า รวมถึงการสวมชุดกระชับใบหน้าตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ใบหน้าเข้ารูปเร็วขึ้นและลดบวมได้ การดูแลตัวเองตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

การดูดไขมันที่แก้มอาจทำให้เกิดอาการบวม ช้ำ หรืออักเสบในบริเวณที่ทำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่มักหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ ในบางกรณีอาจรู้สึกชาหรือมีอาการเจ็บเล็กน้อยบริเวณแผล นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา หรือกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงชั่วคราว แต่อาการเหล่านี้มักจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลหลังทำจะช่วยลดผลข้างเคียงได้อย่างมาก

ในขั้นตอนการดูดไขมันที่แก้มจะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด ทำให้ระหว่างทำผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกสบาย หลังทำอาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหรือตึงในบริเวณที่ทำ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการทานยาแก้ปวดที่แพทย์แนะนำ โดยทั่วไปอาการเจ็บจะหายไปภายในไม่กี่วันหลังทำ

ระยะเวลาการพักฟื้นหลังดูดไขมันที่แก้มมักไม่ยาวนาน โดยปกติผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ภายใน 1-2 วันแรกหลังทำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อให้ใบหน้าฟื้นตัวได้เต็มที่

ค่าใช้จ่ายในการดูดไขมันที่แก้มจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคลินิกที่เลือกใช้และทักษะของแพทย์ โดยราคามักเริ่มต้นที่ประมาณ 29,000 บาท ขึ้นอยู่กับเทคนิคและเครื่องมือที่ใช้ รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำ การสอบถามราคาที่แน่นอนและรายละเอียดเพิ่มเติมจากคลินิกที่สนใจจะช่วยให้ทราบค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและตรงกับงบประมาณ

การดูดไขมันที่แก้มสามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวรในกรณีที่มีการรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ เนื่องจากเป็นการกำจัดเซลล์ไขมันออกจากบริเวณแก้มโดยตรง อย่างไรก็ตาม หากมีการเพิ่มน้ำหนักหรือมีไขมันสะสมใหม่ ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการรักษาน้ำหนักและการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากการดูดไขมันที่แก้มแล้ว ยังมีวิธีอื่นที่ช่วยลดขนาดแก้มได้ เช่น การฉีดเมโสแฟต การร้อยไหม และการใช้เลเซอร์สลายไขมัน ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ดีที่สุด

การทราบคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อ่านมีข้อมูลที่เพียงพอและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในการเลือกวิธีการลดไขมันที่แก้มที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

การดูแลหลังการดูดไขมันที่แก้มทำอย่างไร?

การดูแลผิว
หลังการดูดไขมันที่แก้ม การดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผิวเรียบเนียนและเข้ารูปได้ดี ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณแผลด้วยมือเปล่า หรือล้างหน้าแรง ๆ ในช่วงแรก การทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การใช้ผ้าชุบน้ำเกลืออุ่น ๆ เช็ดเบา ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแล
ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่แพทย์แนะนำ ซึ่งเหมาะกับสภาพผิวหลังทำหัตถการ เช่น ครีมลดรอยช้ำหรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง หรือเครื่องสำอางที่อาจทำให้ระคายเคืองในช่วงแรกหลังการทำ

การพบแพทย์
ควรพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษาและตรวจสอบความเรียบร้อยของการฟื้นตัว แพทย์จะทำการประเมินผลลัพธ์และให้คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลใบหน้าหลังการดูดไขมัน การพบแพทย์ตามกำหนดนัดหมายเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที รวมถึงเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามที่คาดหวัง

Before / After ดูดไขมันหน้า

ดูดไขมันเหนียง
ดูดไขมันเหนียง คาง ด้วยเครื่อง BodyTite

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 1
CTA Lipo 2
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

ดูดไขมันที่แก้มดีไหม ? การดูดไขมันที่แก้มเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มมากและต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร ข้อดีของการดูดไขมันที่แก้มคือสามารถกำจัดไขมันออกไปได้ทันที ทำให้เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อย ๆ เมื่อเทียบกับวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคืออาจมีความเสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทบริเวณใบหน้า ทำให้เกิดอาการชา หรืออ่อนแรงในบางราย นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการบวมและช้ำในช่วงแรกที่ต้องการการดูแลและการพักฟื้นที่เหมาะสม

รายละเอียดการรักษา

rattinan medical centre
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ได้มาตรฐาน AACI จากสหรัฐอเมริกา
operating room มาตรฐานห้องผ่าตัด ตามกฏกระทรวงสาธารณสุข
ลงทะเบียน form


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า