เลเซอร์ลบรอยแตกลาย ลดแผลเป็นโดยแพทย์ผิวหนัง

เลเซอร์ลบรอยแตกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอย่างเห็นผล ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวอย่างล้ำลึก การมีผิวเนียนใสไร้รอยแตกลายคือสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่รอยแตกลายหรือรอยแผลเป็นจากการตั้งครรภ์ น้ำหนักขึ้นลง หรือฮอร์โมน กลับทำให้สูญเสียความมั่นใจ

รัตตินันท์ คลินิก พร้อมดูแลด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ล้ำสมัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อฟื้นคืนผิวสวยอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริง

การรักษารอยแตกลายให้ได้ผลจริง จำเป็นต้องอาศัยการวินิจฉัยและดูแลโดยแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ เพราะรอยแตกลายมีลักษณะและระดับความลึกแตกต่างกันในแต่ละบุคคล หากได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสม อาจไม่เห็นผลหรือก่อให้เกิดผลข้างเคียง

รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการเลเซอร์ลบรอยแตกลายโดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและผ่านการรับรอง พร้อมทั้งทีมแพทย์เฉพาะทางที่เข้าใจธรรมชาติของรอยแตก ทั้งแบบสีแดงในระยะเริ่มต้น และรอยแตกลายสีขาวในระยะเรื้อรัง ซึ่งต้องการแนวทางการรักษาที่ลึกและแม่นยำกว่า

รอยแตกลาย (Stretch Marks) คือร่องหรือเส้นสีที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง ซึ่งมักเกิดจากการยืดหรือหดตัวของผิวอย่างรวดเร็ว จนเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ฉีกขาด รอยแตกลายจึงมักมีลักษณะเป็นเส้นยาว มีสีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความรุนแรงของรอย

รอยแตกลายสีขาว เกิดจากอะไร

เมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกลายจะกลายเป็นสีขาวหรือเงิน เพราะหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพลง ทำให้บริเวณรอยดูจางลงและกลืนกับผิวโดยรอบ แต่ยังมีลักษณะเป็นร่องให้สังเกตได้ชัดเจน

ความแตกต่างระหว่างรอยแตกสีแดงและรอยแตกลายสีขาว

• รอยแตกสีแดง เป็นรอยในระยะเริ่มต้น ยังมีการอักเสบและเลือดไหลเวียนอยู่ จึงสามารถรักษาได้ง่ายกว่า
• รอยแตกลายสีขาว เป็นรอยเรื้อรังที่รักษายากกว่า ต้องใช้เลเซอร์หรือคลื่นพลังงานที่สามารถกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้ลึก

หลายปัจจัยสามารถกระตุ้นให้เกิดผิวแตกลาย โดยเฉพาะเมื่อผิวถูกยืดออกหรือหดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระทบต่อความยืดหยุ่นของผิว ทำให้เนื้อเยื่อขาดความสมดุลและเกิดเป็นรอยแตกถาวรได้

การเปลี่ยนน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

น้ำหนักที่เพิ่มหรือลดลงในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้ผิวหนังยืดขยายหรือหดตัวเกินกว่าที่คอลลาเจนจะรับไหว เป็นสาเหตุหลักของรอยแตกลายที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน

ฮอร์โมนและพันธุกรรม

ฮอร์โมน เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) ส่งผลให้เส้นใยผิวหนังอ่อนแอ ส่วนพันธุกรรมมีผลต่อความยืดหยุ่นของผิวและโอกาสการเกิดรอยแตกลายมากกว่าคนทั่วไป

การตั้งครรภ์ (ท้องลาย)

การขยายของหน้าท้องอย่างต่อเนื่องตลอดการตั้งครรภ์ ทำให้เนื้อเยื่อผิวถูกยืดออก และหากไม่มีการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดรอยแตกลายจำนวนมาก

การเจริญเติบโตในวัยรุ่น

ในช่วงวัยรุ่นที่มีการเจริญเติบโตของร่างกายรวดเร็ว เช่น สูงขึ้นหรือเพิ่มกล้ามเนื้อ ผิวหนังที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่อาจรับแรงดึงไม่ไหว และเกิดเป็นรอยแตกได้ง่าย

รอยแตกลายสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายตำแหน่งของร่างกาย โดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งตำแหน่งที่พบบ่อยมีดังนี้:

ขาแตกลาย

บริเวณต้นขาและน่องเป็นอีกหนึ่งจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกลาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีกล้ามเนื้อขาใหญ่ หรือเพิ่มน้ำหนักรวดเร็ว เช่น ผู้ที่เล่นเวทเทรนนิ่งหรือมีน้ำหนักตัวมากขึ้นอย่างเฉียบพลัน

นมแตกลาย

พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นที่หน้าอกขยายตัวอย่างรวดเร็ว หรือในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและโครงสร้างเต้านม

หน้าท้อง

หน้าท้องเป็นจุดที่พบรอยแตกลายได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งผิวหนังถูกยืดขยายตามขนาดของมดลูกที่เติบโต การดูแลผิวไม่ทันจึงทำให้เกิดท้องลายได้ง่าย

ผลกระทบทางด้านจิตใจและความมั่นใจ

รอยแตกลายอาจไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง แต่มีผลกระทบต่อความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ผู้ที่มีรอยแตกลายจำนวนมาก โดยเฉพาะในจุดที่มองเห็นได้ชัด อาจรู้สึกไม่มั่นใจในการใส่เสื้อผ้าแบบเปิดเผยผิว หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเผยร่างกาย

ความต้องการผิวเรียบเนียนในยุคปัจจุบัน

ในยุคที่รูปลักษณ์มีผลต่อการใช้ชีวิตทั้งด้านสังคมและอาชีพ การมีผิวเนียนใสไร้รอยแตกลายกลายเป็นเทรนด์สำคัญ การรักษารอยแตกลายจึงไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพผิวและความมั่นใจในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามิน E, เรตินอล, หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น Centella Asiatica มีบทบาทสำคัญในการเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ และช่วยให้รอยแตกลายดูจางลงเมื่อใช้เป็นประจำ

การใช้สารผลัดเซลล์ผิว

การใช้สารเช่น AHA, BHA หรือกรดไกลโคลิกช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออก ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนและกระตุ้นการฟื้นฟูบริเวณที่เป็นรอยแตกให้ค่อย ๆ จางลง

การดูแลผิวในชีวิตประจำวัน

การดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ลดโอกาสการเกิดรอยแตกใหม่ และเสริมประสิทธิภาพของการรักษา

เลเซอร์ลบรอยแตกลายถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยหลักการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ เพื่อให้ผิวที่เป็นรอยแตกลายมีการสร้างเซลล์ใหม่และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น

หลักการทำงานของเลเซอร์ลบรอยแตกลาย

เลเซอร์จะปล่อยพลังงานแสงที่เจาะลึกลงไปใต้ชั้นผิว กระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมตัวเองของเนื้อเยื่อ ซึ่งทำให้รอยแตกค่อย ๆ จางลง และผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนที่เป็นหัวใจของการฟื้นฟูผิวในระยะยาว

ข้อดีของเลเซอร์เทียบกับวิธีอื่น ๆ

• เห็นผลชัดเจนในระยะเวลาสั้นกว่า
• ฟื้นตัวไว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
• ปลอดภัยสูง เมื่อทำโดยแพทย์ผิวหนัง
• สามารถรักษาได้ทั้งรอยแตกลายสีแดงและสีขาวเรื้อรัง

รัตตินันท์ คลินิก คัดสรรเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยและปลอดภัย เพื่อให้การรักษารอยแตกลายได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยมีเครื่องมือหลักในการดูแล ดังนี้:

Picosecond Laser Enlighten III

Picosecond Laser Enlighten III เป็นเลเซอร์ระดับพรีเมียมที่ใช้พลังงานแสงความถี่สูงในระดับ picosecond เพื่อเจาะลึกสู่ชั้นผิวโดยไม่ทำลายผิวด้านบน เหมาะสำหรับรอยแตกลายที่ฝังลึกหรือสีขาวจาง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ดีมาก และยังมีผลต่อการปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Morpheus8 เทคโนโลยีผสมผสานคลื่น RF และไมโครนีดลิ่ง

Morpheus8 ผสานการทำงานของคลื่นความถี่วิทยุ (RF) กับการใช้หัวเข็มไมโครนีดลิ่ง ช่วยกระตุ้นผิวชั้นลึกให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับรอยแตกเรื้อรังที่มีความหย่อนคล้อยร่วมด้วย ทำให้ผิวแน่น กระชับ และลดรอยแตกลายอย่างได้ผขั้นตอนการทำเลเซอร์รอยแตกลายกับแพทย์ผิวหนัง

การรักษารอยแตกลายด้วยเลเซอร์ที่รัตตินันท์ คลินิก เริ่มต้นด้วยการประเมินจากแพทย์ผิวหนังอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้

การประเมินสภาพผิว

แพทย์จะตรวจสภาพผิวบริเวณที่มีรอยแตกลาย พร้อมสอบถามประวัติสุขภาพ เพื่อตรวจดูว่าควรใช้เครื่องมือใดในการรักษา และคาดการณ์จำนวนครั้งที่ควรทำ

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์

แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือการโดนแดดจัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ และควรงดการใช้สารที่อาจระคายเคืองผิว

ขั้นตอนการรักษา

ในระหว่างทำเลเซอร์ แพทย์จะใช้เครื่องที่เหมาะสมกับรอยแตกลายเฉพาะแต่ละจุด โดยมักใช้เวลารักษาประมาณ 30–60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณและความรุนแรงของรอยแตก

การดูแลหลังทำเลเซอร์

หลังทำอาจมีรอยแดงหรืออาการบวมเล็กน้อยซึ่งจะหายไปภายใน 1–2 วัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงแดด ทาครีมบำรุงตามคำแนะนำ และงดการขัดผิวบริเวณที่รักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์

คำถามที่พบบ่อย

หลายคนสงสัยว่าเลเซอร์สามารถลบรอยแตกลายได้จริงหรือไม่ จากประสบการณ์ของผู้รับบริการจริงและผลการวิจัยทางคลินิก ยืนยันว่าเลเซอร์สามารถลดรอยแตกลายได้ โดยเฉพาะเมื่อทำต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์