แอลคาร์นิทีน (L-CARNITINE) คืออะไร
แอลคาร์นิทีน (L-CARNITINE) คือ กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เองจากกรดอะมิโนจำเป็น 2 ชนิด คือ ไลซีน (Lysine) และ เมไธโอนีน (Methionine) มีบทบาทสำคัญในการ ลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) ของเซลล์เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันให้กลายเป็นพลังงาน
แอลคาร์นิทีน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ไม่ใช่แค่ช่วย ลดน้ำหนัก เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคุณประโยชน์สำคัญต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องการเผาผลาญ การทำงานของหัวใจ รวมไปถึงกล้ามเนื้อ และสมอง ซึ่งสรรพคุณของสารอาหารชนิดนี้มีมากมาย ดังนี้
1. ช่วยเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน
บทบาทหลักของ L-Carnitine คือ การลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรีย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน หรือ เพิ่มพลังงาน
2. เพิ่มพลังงานระหว่างออกกำลังกาย
แอลคาร์นิทีน ช่วยให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น ขณะออกแรง ความทนทานในการเล่นเวท คาร์ดิโอ หรือกีฬาอื่น ๆ ซึ่งพบว่าในบางกลุ่มคนทาน แอลคาร์นิทีน ก่อนออกกำลังกายเพื่อให้เบิร์นดีขึ้น
3. บำรุงสุขภาพหัวใจ
มีการใช้ L-Carnitine ในผู้ป่วยโรคหัวใจบางกลุ่ม เพราะจะช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีขึ้น งานวิจัยบางฉบับชี้ว่าอาจลดความเสี่ยงภาวะหัวใจวายซ้ำ (แต่ควรอยู่ภายใต้แพทย์ดูแล)
4. ช่วยบำรุงสมองและชะลอภาวะสมองเสื่อม
Acetyl-L-Carnitine (รูปแบบพิเศษ) สามารถผ่านแนวกั้นสมองได้ มีบทบาทช่วยเพิ่มสารสื่อประสาท และพลังงานในเซลล์สมอง อาจช่วยในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีอาการหลงลืม และสมองล้า
5. เสริมภาวะเจริญพันธุ์ในผู้ชาย
แอลคาร์นิทีน ช่วยให้การเคลื่อนไหวของอสุจิดีขึ้น บางงานวิจัยพบว่า แอลคาร์นิทีนอาจช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิ
6. ลดความล้าเรื้อรังและอาการเหนื่อยง่าย
แอลคาร์นิทีน ช่วยลดความล้าเรื้อรังและอาการเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะเหนื่อยเรื้อรัง ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้สูงอายุ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างพลังงานระดับเซลล์
7. ช่วยฟื้นตัวเร็วหลังออกกำลังกาย
แอลคาร์นิทีน ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือ การอักเสบ เหมาะกับนักกีฬา หรือคนที่เริ่มออกกำลังกายใหม่ ๆ
แอลคาร์นิทีน คือ ตัวช่วยเผาผลาญ เพิ่มพลังงาน เสริมสมรรถภาพร่างกายโดยรวม ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจหรือไต
พบ แอลคาร์นิทีน ในอาหารประเภทใด
สำหรับคนที่อยาก ได้รับ แอลคาร์นิทีน จากอาหารตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมเสมอไป
หมวดหมู่เนื้อสัตว์
กลุ่มอาหารหลักที่พบ L-Carnitine สูงที่สุด คือ เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะ เนื้อแดง และ เนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง โดย 5 อันดับ อาหารที่มี แอลคาร์นิทีนสูง มีดังนี้
- เนื้อวัว พบ แอลคาร์นิทีน ประมาณ 56–162 มิลลิกรัม
- เนื้อหมู พบ แอลคาร์นิทีน ประมาณ 24–26 มิลลิกรัม
- อกไก่ พบ แอลคาร์นิทีน ประมาณ 3-5 มิลลิกรัม
- ปลาทะเล (เช่น ปลาแซลมอน, ทูน่า) ประมาณ 3-7 มิลลิกรัม
- ผลิตภัณฑ์จากนม (เช่น นม ชีส) ประมาณ 2-8 มิลลิกรัม
หมวดหมู่ผักผลไม้
เช่น อะโวคาโด ธัญพืช ถั่วบางชนิด ฯลฯ
แอลคาร์นิทีนไหน เหมาะกับคุณ
แอลคาร์นิทีน มีหลายชนิดให้เลือกและแต่ละแบบเหมาะกับจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น ลดไขมัน บำรุงสมอง เพิ่มพลังงาน หรือช่วยฟื้นตัว ฯลฯ
ชนิด |
เหมาะกับใคร |
จุดเด่น |
1. L-Carnitine L-Tartrate | คนออกกำลังกาย / นักกีฬา | ช่วยเผาผลาญไขมัน เพิ่มพลังงาน ฟื้นตัวไว |
2. Acetyl-L-Carnitine (ALCAR) | คนทำงานหนัก / สมองล้า / ผู้สูงอายุ | ผ่านเข้าสมองได้ดี → ช่วยบำรุงสมอง ลดล้า เพิ่มสมาธิ |
3. Propionyl-L-Carnitine | ผู้มีปัญหาไหลเวียนเลือด / หลอดเลือด | ช่วยการไหลเวียน เพิ่มพลังให้หัวใจและกล้ามเนื้อ |
4. L-Carnitine Fumarate | คนต้องการพลังงานแบบสมดุล | บำรุงหัวใจ + เผาผลาญไขมัน |
5. Glycine Propionyl-L-Carnitine (GPLC) | นักเพาะกาย / ผู้เน้นกล้ามเนื้อ | เพิ่มการสูบฉีดของเลือดและพลังระเบิดช่วงเวทเทรนนิ่ง |
กิน แอลคาร์นิทีน ตอนไหนดีที่สุด?
กิน แอลคาร์นิทีน ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที หรือ ทานพร้อมมื้ออาหารหลัก โดยเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน เช่น 500 มก./วัน ดื่มน้ำเยอะ ๆ ระหว่างวัน และอย่าลืมควบคุมอาหาร พร้อมออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันและพลังงาน
1. ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที – 1 ชั่วโมง
กินแอลคาร์นิทีน ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที – 1 ชั่วโมง เป็นเวลาที่แนะนำมากที่สุด ช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาเผาผลาญได้ดีขึ้น เพิ่มพลังงานระหว่างออกกำลังกาย เหมาะกับคนที่มีเป้าหมาย ลดไขมัน ฟิตหุ่น เพิ่มสมรรถภาพร่างกาย
2. ตอนเช้าหลังตื่นนอน (ขณะท้องว่าง)
กิน แอลคาร์นิทีน ตอนเช้าหลังตื่นนอน (ขณะท้องว่าง) เป็นตัวช่วงที่ร่างกายยังใช้พลังงานจากไขมันได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ได้ออกกำลังกายตอนเช้า แต่ต้องการเพิ่มการเผาผลาญแนะนำให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ และอย่าลืมทานอาหารเช้าในภายหลัง
3. พร้อมอาหารมื้อหลัก (โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ออกกำลังกาย)
กิน แอลคาร์นิทีน พร้อมอาหารมื้อหลัก (โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ออกกำลังกาย) ช่วยให้ดูดซึมดีขึ้น ถ้าทานพร้อมอาหารที่มีไขมันเล็กน้อย เหมาะกับคนที่กิน L-Carnitine เพื่อบำรุงสมองหรือหัวใจ เพื่อเสริมพลังงานในชีวิตประจำวัน
เวลาที่ควรหลีกเลี่ยงการกิน แอลคาร์นิทีน
- ก่อนนอน เพราะอาจทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง นอนไม่หลับในบางคน
- หลังออกกำลังกายทันที เพราะร่างกายจะไม่ได้ใช้ แอลคาร์นิทีน ไปช่วยเผาผลาญ
ปริมาณที่แนะนำ เริ่มต้นที่ 500–1,000 มก.ต่อวัน นักกีฬาหรือสายฟิตเนส อาจเพิ่มได้ถึง 2,000 มก./วัน (ตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ)
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงของ แอลคาร์นิทีน
แม้ว่า แอลคาร์นิทีน จะเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์มากในด้านการ เผาผลาญไขมัน และ เพิ่มพลังงาน แต่ก็มี ข้อควรระวัง และ ผลข้างเคียง ที่ควรทราบก่อนการใช้งานอย่างปลอดภัย
1. ควรใช้ แอลคาร์นิทีน ในปริมาณที่เหมาะสม
ใช้ แอลคาร์นิทีน ปริมาณแนะนำทั่วไป 500 – 2,000 มก./วัน หากรับเกินขนาดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 3 เดือนโดยไม่ปรึกษาแพทย์
2. ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ผู้มีโรคไตเรื้อรังหรือเคยฟอกไต หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีโรคหัวใจหรือเบาหวาน ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด รวมไปถึงเด็กหรือผู้สูงอายุ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากแอลคาร์นิทีน
อาการ |
รายละเอียด |
คลื่นไส้ / อาเจียน |
โดยเฉพาะหากทานตอนท้องว่าง |
ปวดท้อง / ท้องเสีย |
อาจเกิดจากการดูดซึมของลำไส้ |
มีกลิ่นตัวแรง (เหม็นคาวปลา) |
เกิดจากสารเมตาโบไลต์ของ L-Carnitine ชื่อว่า TMA |
เวียนศีรษะ / กระสับกระส่าย |
พบได้เล็กน้อยในบางคนที่ไวต่อสารกระตุ้น |
อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ |
ในบางรายที่ใช้ร่วมกับยาหรือมีโรคหัวใจ |
เลือกซื้อ แอลคาร์นิทีน อย่างไรให้ปลอดภัย
การเลือกซื้อ แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) อย่างปลอดภัยนั้นสำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของยี่ห้อเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ ปริมาณ รูปแบบ มาตรฐานความปลอดภัย และ ความเหมาะสมกับร่างกายด้วย
1. ดูฉลากอย่างละเอียด
ชื่อเต็ม คือ L-Carnitine, L-Carnitine L-Tartrate, Acetyl-L-Carnitine (ALCAR) ฯลฯปริมาณต่อหน่วย ควรระบุชัด เช่น 500 mg หรือ 1,000 mg รวมไปถึงการดู วันหมดอายุ และเลข อย./FDA (หากขายในไทย) และส่วนผสมอื่น ๆ หลีกเลี่ยงสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น เช่น สี กลิ่นสังเคราะห์
2. เลือกชนิดที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณ
เป้าหมาย |
ชนิดที่แนะนำ |
ลดไขมัน / เพิ่มพลังงาน |
L-Carnitine L-Tartrate |
บำรุงสมอง / สมาธิ |
Acetyl-L-Carnitine (ALCAR) |
สายเวท / นักกีฬา |
GPLC หรือ L-Carnitine Fumarate |
ควรเริ่มจาก L-Carnitine ธรรมดา 500–1000 มก.
3. เลือก แอลคาร์นิทีน จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
การเลือก แอลคาร์นิทีน จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพราะมี มาตรฐานการผลิต เช่น GMP, HACCP, ISO โดยได้รับการรับรองจาก อย.ไทย / FDA ต่างประเทศ รีวิวดี ไม่เว่อร์เกินจริงไม่กล่าวอ้างเกินจริง เช่น “ผอมใน 7 วัน”
4. เลือกรูปแบบที่ต้องการ
- แบบเม็ด / แคปซูล = พกง่าย กินสะดวก
- แบบน้ำ = ดูดซึมไว เหมาะกับคนต้องการเห็นผลเร็ว
- แบบผงชงดื่ม = ปรับรสได้เอง (ควรดูเรื่องของน้ำตาล)
5. หลีกเลี่ยงแอลคาร์นิทีนที่มีส่วนผสมกระตุ้นแรง ๆ
หลีกเลี่ยง แอลคาร์นิทีน ที่มีส่วนผสมกระตุ้นแรง ๆ เช่น คาเฟอีนเยอะเกิน หรือสารกระตุ้นเผาผลาญบางชนิด โดยเฉพาะถ้ามี โรคหัวใจ ความดัน หรือเครียดง่าย ฯลฯ
6. อย่าซื้อตามกระแส หรือจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
การเลือกซื้อ แอลคาร์นิทีน ระวังของปลอม หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี อย. หลีกเลี่ยงการซื้อจากเว็บที่ไม่มีรีวิวหรือไม่มีข้อมูลผู้จำหน่าย
สรุป ประโยชน์ของ แอลคาร์นิทีน คืออะไร และควรกินตอนไหนดี
แอลคาร์นิทีน คือ กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่มีทั้งรูปแบบเม็ด น้ำ ผง ขึ้นอยู่กับความสะดวกและเป้าหมายในการทานของแต่ละคน โดยมีคุณประโยชน์ ลดไขมัน เพิ่มพลังงาน บำรุงสมอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นักกีฬา หรือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมไปถึงบุคคลที่สมองล้า ทำงานหนัก และผู้สูงอายุ
แต่ แอลคาร์นิทีน ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง หญิงตั้งครรถ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและความดัน รวมไปถึงเด็กเล็กไม่ควรทาน
รัตตินันท์ คลินิก ให้บริการด้านความงามและการรักษา โดยทีมแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์หลากหลายสาขา ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัยสูงและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้รับรองมาตรฐานจาก AACI สหรัฐอเมริกา ด้านศูนย์ศัลยกรรมผู้ป่วยนอกแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก 2 ปีซ้อน รวมถึงรางวัลจาก WhatClinic ด้านบริการลูกค้ายอดเยี่ยมระดับสากล เป็นปีที่4 จากลูกค้ากว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ให้ความไว้วางใจและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง