เหงือกบวม เป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แม้จะเป็นอาการที่ค่อนข้างเล็กน้อยและมักจะหายไปเองได้โดยไม่ต้องรักษา แต่ก็มีบางคนที่ให้ความสำคัญกับการรักษาอย่างรวดเร็วทันทีตั้งแต่มองเห็นอาการแรก ๆ ของเหงือกบวมเกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณเตือนที่บอกให้รู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากกำลังเกิดขึ้น เช่น โรคปริทันต์ ที่สามารถทำลายโครงสร้างของเหงือก กระดูกรอบ ๆ รากฟัน และระบบรองรับรากฟันได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟันในอนาคตได้
ดังนั้นการป้องกันการเกิดเหงือกบวมเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ โดยไม่ควรมองข้ามเหงือกบวมเพียงแค่อาการเล็ก ๆ ที่หายเองได้ แต่ควรมองเห็นว่ามันอาจเป็นสัญญาณเตือนที่บอกให้รู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบช่องปากอาจกำลังเกิดขึ้น การดูแลเหงือกอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีที่สุดได้ และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เหงือกบวมคืออะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง?
เหงือกบวมเกิดจากอาการที่เหงือกของเราถูกทำให้อักเสบ โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากคราบจุลินทรีย์ที่สะสมบริเวณขอบเหงือกและซึ่งลามไปในร่องเหงือก ทำให้สารพิษและกรดซึมผ่านเข้าไปในเหงือก ต่อมาร่างกายจึงตอบสนองด้วยการส่งเลือดเข้าไปเพิ่มเติม เนื่องจากการต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่สะสม ผลทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นขยายใหญ่ขึ้น และเกิดอาการบวมแดงบริเวณเหงือก
สาเหตุของเหงือกบวมสามารถมีหลายปัจจัย เช่น ภูมิต้านทานต่ำ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การสูบบุหรี่ การนอนกัดฟัน ปัญหาฟันคุด การมีเศษอาหารติดแน่นหรือค้างตามซอกฟัน-ตัวฟัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เหงือกบวมยังเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากของเราในระยะยาว
อาการเหงือกบวมประเภทต่าง ๆ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเมื่อมีเหงือกบวม เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเหงือกกำลังอักเสบหรือมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เพราะส่วนใหญ่แล้วอาการเหงือกบวมมักจะไม่แสดงออกมามากนัก หรือไม่มีอาการปวดอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นการสังเกตอาการเหงือกบวมหรือมีหนองเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ
- อาการเหงือกบวมแดงอักเสบ จะเปลี่ยนสีจากชมพูอ่อนเป็นแดงเข้มถึงม่วง และจะมีอาการบวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมักจะมีการบิดเนื้อฟันเกิดขึ้น หากจับหรือสัมผัสบริเวณที่บวมจะมีอาการเจ็บ หรือมีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน และอาจมีฟันผุร่วมด้วย
- อาการเหงือกบวมเป็นหนอง นอกจากเหงือกจะบวมโตแล้ว ยังมีหนองเกิดขึ้นด้วย เพราะหากเหงือกอักเสบหรือติดเชื้อ เปลี่ยนสีจากแดงเป็นสีม่วง และมีความคล้ำโดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือก และเมื่อกดหรือสัมผัสบริเวณที่อักเสบก็จะมีหนองออกมา
- อาการรากฟันอักเสบ เกิดจากการอักเสบของเส้นเลือดในโพรงประสาทฟัน ซึ่งจะมีการบวมที่เหงือกและเปลี่ยนสีของฟันเป็นสีคล้ำขึ้น หรือหากเคี้ยวอาหารก็จะรู้สึกเจ็บและเสียวฟัน บางคนถึงกับปวดหัวไมเกรนด้วยเลย
โรคที่เกี่ยวกับเหงือกมีอะไรบ้าง
โรคเหงือกเป็นปัญหาที่ใครหลายคนก็อาจพบเจอได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุ เราควรเข้าใจถึงโรคนี้อย่างถี่ถ้วน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปากของเรา วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคที่เกี่ยวกับเหงือก เพื่อเข้าใจและระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
- โรคปริทันต์เป็นหนึ่งในโรคที่เกี่ยวกับเหงือกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด โรคนี้เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อในช่องปาก ซึ่งมักจะมีอาการรุนแรงมากกว่าโรคเหงือกอักเสบ โดยสาเหตุมักเกิดจากคราบจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่รอบ ๆ เหงือก โรคนี้สามารถเกิดอาการอื่น ๆ เช่น มีเลือดออกตามไรฟัน ปวดฟัน หรือมีกลิ่นปาก หากไม่ได้รักษาอย่างเร็วที่สุด อาจทำให้ต้องถอนฟันได้
- โรคเหงือกอักเสบซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคที่เกี่ยวข้องกับเหงือก เราสามารถระบุได้จากสีของเหงือกที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเหงือกปกติมักจะมีสีชมพู แต่หากมีการเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มถึงม่วงพร้อมกับบวมและมีเลือดออก นั่นเป็นสัญญาณที่โรคเหงือกอักเสบอาจกำลังเข้ามาทำร้ายเหงือกของเรา
ดังนั้นการรักษาและการดูแลเหงือกเป็นสิ่งที่สำคัญ เราควรรักษาความสะอาดของช่องปากโดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและการใช้ไหมขัดฟันเพื่อป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ อย่างเช่นกันการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำเพื่อตรวจจับโรคที่เกี่ยวกับเหงือกได้เร็วที่สุด เพื่อให้เราสามารถรักษาและป้องกันการเสื่อมเสียของสุขภาพช่องปากให้ดีที่สุด
วิธีป้องกันอาการเหงือกบวม
อาการเหงือกบวมเป็นสัญญาณที่ช่วยเตือนให้รู้ว่าเราควรระวังและดูแลเหงือกของเราอย่างระมัดระวัง เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นเรื่องราวของโรคเหงือกอักเสบที่รุนแรงได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีป้องกันและดูแลเหงือกเพื่อรักษาให้หายขาดจากอาการเหงือกบวมด้วยวิธีง่าย ๆ ที่เริ่มต้นจากการขจัดคราบจุลินทรีย์บริเวณขอบเหงือกออกให้หมดโดยการทำความสะอาดฟันและเหงือกอย่างถูกต้อง
- การแปรงฟันเป็นเรื่องที่ต้องทำทุกวัน ควรแปรงฟันให้ครบ 2 ครั้งต่อวัน โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร เพื่อช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ อย่าลืมเข้าพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างเป็นประจำ เพื่อการรักษาและป้องกันโรคได้อย่างเหมาะสม
- การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สำคัญมากในการรักษาสุขภาพช่องปากด้วย เลือกทานผักผลไม้เพียงพอ เพราะมีไฟเบอร์สูงช่วยลดการเกิดฟันผุ และคราบหินปูน ระวังอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ฟันผุได้ง่าย สุดท้ายอย่าลืมดื่มน้ำสะอาดเพียงพอ เพื่อช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก
- การแปรงฟันอย่างถูกต้องเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่ช่วยในการป้องกันอาการเหงือกบวม โดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีที่สำคัญคือการแปรงบริเวณขอบเหงือก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่หากละเลยไป อาจทำให้เกิดอาการเหงือกบวมที่เป็นเรื่องราวของโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ได้
- การใช้แปรงซอกฟันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการป้องกันอาการเหงือกบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแบคทีเรียไม่สะสมเพียงแค่บริเวณผิวฟันและขอบเหงือก แต่ยังมีการสะสมอยู่ในบริเวณซอกฟันด้วย
ดังนั้นการรักษาและการดูแลเหงือกเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหงือกบวมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากของเราในอนาคต
เคล็ดลับในการรักษาเหงือกบวม สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ
เมื่อเผชิญกับอาการเหงือกบวม เราควรรู้จักวิธีการรักษาที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้น ขอเสนอเคล็ดลับที่ควรทำและควรหลีกเลี่ยงเมื่อเราพบเหงือกบวมและเหงือกอักเสบ
สิ่งที่ควรทำ
- แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ เพื่อรักษาและป้องกันภาวะเหงือกบวมและเหงือกอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เปลี่ยนอาหารที่รับประทานให้มีประโยชน์ โดยเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้สด และหลีกเลี่ยงโซดา แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปากที่อ่อนโยน เพื่อช่วยลดอาการเหงือกบวมและบรรเทาความเจ็บปวด
- รับประทานยาลดการอักเสบและเบนโซเคน ก่อนเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรักษาต่อไป
- รับประทานอาหารเย็น เพื่อช่วยลดอาการเหงือกบวมและยับยั้งการปวดได้
- พบทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการเหงือกบวมและรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่ทำให้ระคายเคือง เมื่อมีอาการเหงือกบวม และหลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันการเหงือกระคายเคืองและเหงือกบวม
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด และอาหารที่มีกรดจากมะนาวหรือผลไม้รสเปรี้ยว
ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ เราสามารถรักษาเหงือกบวมและเหงือกอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาสุขภาพช่องปากของเราให้แข็งแรงอีกด้วย
บทสรุป
การเป็นเหงือกบวมเป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านสุขภาพชั้นนำที่ผู้คนพบเจอบ่อย ๆ อาการนี้อาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย หรือมีความรู้สึกว่าเหงือกของคุณบวมและอักเสบ แม้ว่าเหงือกบวมจะไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง แต่ก็สามารถก่อให้เกิดความไม่สะดวกและรบกวนในชีวิตประจำวันได้
การรักษาเหงือกบวมเพื่อให้สามารถเยียวยาและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหากเห็นว่าอาการยังคงมีอยู่หรือเสียหายมากขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตามการรักษาเหงือกบวมนั้นสำคัญอย่างไรก็ตาม คือการป้องกันให้ไม่เกิดเหงือกบวมอีกครั้งในอนาคต โดยการรักษาปัญหาที่เป็นสาเหตุของเหงือกบวมอย่างเหมาะสม
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย