ระบบเผาผลาญพัง หรือสภาวะที่ร่างกายเผาผลาญได้ช้าลง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนลดน้ำหนักไม่สำเร็จและส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะสั้นและระยะยาว วิธีการแก้ไขคือการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ และให้ความสำคัญกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบเผาผลาญให้กลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง
“ระบบเผาผลาญพัง” คือสภาวะที่เกิดขึ้นในร่างกายเมื่อเผาผลาญพลังงานไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของร่างกาย ทำให้การเผาผลาญช้าลง และการใช้พลังงานลดลง ส่งผลให้ร่างกายนำพลังงานที่ได้มาใช้ได้น้อยกว่าปกติ อีกทั้งยังทำให้พลังงานที่ไม่ได้ถูกใช้ไปนั้นเปลี่ยนเป็นไขมัน และนำไปเก็บสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและฯลฯ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราโดยไม่ต้องการ
ระบบเผาผลาญพัง มีผลต่อร่างกายได้บ้าง ?
ระบบเผาผลาญพังเป็นยังไง หากไม่ดูแลร่างกายจนถึงขั้นระบบเผาผลาญมีปัญหา ผลเสียแรกที่เกิดขึ้นก็คือการสะสมไขมันในร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะสะสมไว้ที่ 4 จุดสำคัญต่อไปนี้
- ช่องท้อง: การสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องจะทำให้เกิดความอ้วนลงพุงและเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หลอดเลือดหัวใจขาดเลือด และหลอดเลือดสมอง ดังนั้น ควรรักษาสุขภาพโดยควบคู่กับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
- บริเวณใต้ผิวหนัง: การสะสมไขมันบริเวณสะโพก ต้นแขนต้นขา เอว และหน้าท้องจะทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและผิวเปลือกส้มหรือเซลลูไลต์ จึงควรรักษาสุขภาพโดยการออกกำลังกายและการรักษาเอาชนะความเครียด
- รอบอวัยวะภายใน: การสะสมไขมันบริเวณตับ กระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคประจำตัวที่ร้ายแรง และยังเป็นปัจจัยเร่งให้ระบบเผาผลาญพังเร็วขึ้นด้วย ซึ่งการลดไขมันในบริเวณนี้เป็นสิ่งที่ลำบากและต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ
- กล้ามเนื้อ: การสะสมไขมันในกล้ามเนื้อเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในบุคคลที่มีน้ำหนักตัวมากหรือโรคเบาหวานอยู่แล้ว ดังนั้น ควรรักษาสุขภาพโดยการออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อลดไขมันในกล้ามเนื้อ
การสะสมไขมันที่ต่าง ๆ ในร่างกายอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงได้และอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ขึ้น ดังนั้น ควรมีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมโดยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่เหมาะสม และควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญพังมีอะไรบ้าง?
สาเหตุของ เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งอาหาร พฤติกรรม อายุ และการลดน้ำหนักที่ผิดวิธี ระบบเผาผลาญพังเกิดจากอะไร อาจสรุปได้ ดังนี้
อายุเพิ่มมากขึ้น: การเสื่อมถอยของระบบฮอร์โมน กล้ามเนื้อ และระบบเผาผลาญ จะทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะระบบเผาผลาญที่สำคัญต่อการควบคุมน้ำหนัก การเสื่อมถอยนี้ยังทำให้เกิดอาการระบบเผาผลาญพังซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นง่ายขึ้น
ความเครียด: เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดจากต่อมหมวกไตเป็นจำนวนมาก ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีผลให้ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติและรู้สึกหิวบ่อยขึ้น นอกจากนั้นยังมีผลต่อต่อมไทรอยด์ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ ทำให้อัตราการเผาผลาญลดลง 20% ต่อวัน ดังนั้นคนที่เครียดบ่อยจึงมีความเสี่ยงที่จะมีอาการระบบเผาผลาญพังได้มากกว่าคนที่ไม่ค่อยมีความเครียด
ขาดฮอร์โมน: ไทรอยด์ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ส่งผลต่อระบบเผาผลาญโดยตรง
ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี: การลดน้ำหนักโดยไม่สอดคล้องกับวิธีที่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติได้มากที่สุด อย่างเช่นการอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง กินน้อยเกินกว่าค่าเผาผลาญในแต่ละวัน หรือเลือกกินอาหารแค่บางประเภท จนทำให้ร่างกายขาดสมดุล ในระยะแรกอาจแค่รู้สึกอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง แต่หากทำติดต่อกันเป็นเวลานานร่างกายจะเกิดการปรับตัวตามกลไกธรรมชาติเพื่อไม่ให้ขาดพลังงาน ด้วยการลดการเผาผลาญและเปลี่ยนพลังงานเก็บไว้ในรูปของไขมันมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีการควบคุมอาหารโดยไม่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง แนะนำว่าให้เปลี่ยนจากการงดหรืออดอาหาร และเลือกกินเมนูที่ให้สารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผลและมีสุขภาพดี
สารเคมีและอาหารที่ตกค้างในร่างกาย: หากรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ที่มีการปนเปื้อนสารเคมีจำพวก Endocrine disrupters อย่างยาฆ่าแมลง สารจำพวกพีซีบี สารปรอท หรือสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีผลให้การทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญ และระบบการทำงานอื่น ๆ ในร่างกายผิดปกติ นอกจากนี้ อาหารที่มีสารเคมีตกค้างอยู่ในร่างกายเช่นเดียวกัน อาจทำให้ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติได้เช่นกัน
พักผ่อนไม่เพียงพอ: ถ้านอนน้อย นอนดึก หรือนอนหลับไม่พอเป็นประจำ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเลปตินหรือฮอร์โมนความอิ่มลดลง ทำให้ไม่เพียงพอต่อกระบวนการส่งสัญญาณเพื่อหยุดความอยากอาหารที่สมองส่วนไฮโปธาลามัส ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกหิวบ่อย กินอาหารต่อมื้อมากขึ้น หรือกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่มแล้ว ในระยะยาวยังต้องเจอกับปัญหาระบบเผาผลาญพังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ: แอลกอฮอล์เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปขัดขวางระบบเผาผลาญไขมัน เพราะฉะนั้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ย่อมทำให้ระบบเผาผลาญผิดปกติมากกว่าคนที่ไม่ดื่มหรือดื่มน้อย
อาการระบบเผาผลาญพังเป็นอย่างไร?
ระบบเผาผลาญพัง รู้ได้ไง ข้อสงสัยว่าระบบเผาผลาญของตนเองพังหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จากอาการต่าง ๆ ดังนี้
- น้ำหนักตัวลดลงอย่างไม่ต้องการ: เนื่องจากระบบเผาผลาญเป็นกระบวนการสร้างและใช้พลังงาน หากร่างกายของเราไม่สามารถสร้างพลังงานเพียงพอจะทำให้เราไม่มีพลังงานที่เพียงพอต่อการทำงานต่าง ๆ และทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย
- ผิวหนังแห้งกร้านและผมร่วง: เพราะการทำงานของระบบฮอร์โมนภายในร่างกายลดลง ทำให้ร่างกายขาดความชุ่มชื่น และทำให้ผมร่วงได้ง่ายขึ้น
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ: เป็นอาการที่พบได้ในผู้ที่ระบบเผาผลาญพัง โดยเฉพาะผู้หญิง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้มีอาการประจำเดือนที่ผิดปกติ
ถ้ามีอาการดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาให้เหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล
วิธีแก้ระบบเผาผลาญพัง?
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ผ่านพฤติกรรม 6 ประการสามารถช่วยฟื้นฟูระบบเผาผลาญที่พังได้ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและฟื้นฟูระบบการเผาผลาญ
- อย่าปล่อยให้ตัวเองเครียด: ลดการผลิตฮอร์โมนความเครียดและกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยการหากิจกรรมที่ทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น
- ปรับทัศนคติให้พร้อม: เชื่อมั่นเสมอว่าเราทำได้ หมั่นให้กำลังใจและให้อภัยตัวเอง พร้อมเริ่มใหม่ในทุก ๆ วัน
- ออกกำลังกายแบบ WEIGHT TRAINING คู่กับ CARDIO: ออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
- ปรับพฤติกรรมการกิน: ด้วยสูตรอาหารฟื้นฟูระบบเผาผลาญ โดยแบ่งมื้อเป็นมื้อเล็ก ๆ ให้เพียงพอต่อค่าการเผาผลาญของร่างกาย และดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- เน้นอาหารที่มีโปรตีน และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่: รับประทานอาหารประเภทโปรตีนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน โดยควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนจากแหล่งที่ดี เช่น เนื้อสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มเนื้อที่ไม่มีไขมัน ไข่ขาว นมเปรี้ยว ถั่ว ฯลฯ และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งประกอบด้วย แป้ง เนื้อสัตว์หรือไข่ เนื้อปลา ผักและผลไม้ และน้ำมันร่วมด้วยเพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับฮอร์โมนในร่างกาย
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ผ่านพฤติกรรม 6 ประการจะช่วยฟื้นฟูระบบเผาผลาญที่พังได้ แต่ต้องเน้นทำอย่างต่อเนื่องและให้มีความตั้งใจ การปรับเปลี่ยนไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ จึงต้องรับรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเก่าให้เป็นพฤติกรรมใหม่เป็นเวลานาน ๆ หาวิธีลดพุงและอย่าลืมพักผ่อนและรับประทานอาหารอย่างถูกต้องเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย