ท้องแตกลาย คืออะไร อาการและสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง พร้อมวิธีรักษา

ท้องแตกลาย

ท้องแตกลาย คือรอยผิวแตกลายที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าท้องโดยมีลักษณะเป็นเส้นหรือริ้วที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวหนังของแต่ละบุคคล สีของท้องแตกลายอาจเป็นชมพู แดง น้ำตาล หรือม่วงได้ สาเหตุที่ท้องแตกลายเกิดขึ้นได้มีหลายปัจจัย เช่น ตั้งครรภ์ อ้วนขึ้น หรือขยายขนาดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นแตกต่างไปจากเดิม นอกจากนี้ ผิวแตกลายอาจเกิดขึ้นได้ในส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ต้นขา สะโพก แม้ที่ท้องแตกลายจะไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเรา แต่มันอาจส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของเราได้

อาการของ ท้องแตกลาย

เมื่อเกิดท้องลายใหม่ ๆ บริเวณท้องอาจรู้สึกระคายเคือง หรือมีอาการคัน นอกจากนี้ ผิวหนังบริเวณที่แตกลายอาจบางลงหรือนูนขึ้นเล็กน้อย และมีลักษณะเป็นริ้วสีขาว ชมพู แดง น้ำตาล หรือม่วงได้ การเกิดท้องลายและลักษณะอาการของท้องแตกลายนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและความตึงของผิวหนังในแต่ละบุคคล อาการเหล่านี้อาจจะค่อย ๆ จางหายไปและไม่เห็นชัดเจนตามเวลาผ่านไปหลายปี

สาเหตุของท้องลาย

สาเหตุของท้องลายเกิดจากอะไร

Stretch mark หรือ ท้องแตกลาย เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังชั้นแท้ถูกยืดหยุ่นหรือหดตัวอย่างรวดเร็วจนเกินความจุของคอลลาเจนและอีลาสติน สาเหตุที่สำคัญสำหรับการเกิดท้องแตกลายมีดังนี้

  • การตั้งครรภ์และคลอด เนื่องจากการยืดหยุ่นของผิวหนังบริเวณหน้าท้อง ซึ่งทำให้ผิวหนังหดลงอย่างรวดเร็วหลังคลอด
  • พันธุกรรม มีผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าผู้อื่นในการเกิดท้องแตกลาย
  • น้ำหนักตัวเพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็ว
  • การใช้สารคอร์ติโคสเตียนกับผิว เช่นในการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
  • การเพิ่มขนาดหน้าอกด้วยซิลิโคน
  • การออกกำลังกายแบบ Weight Training ทำให้กล้ามเนื้อโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • เกิดความผิดปกติในร่างกาย เช่น โรคมาร์แฟนหรือโรคคุชชิ่ง ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาผิวท้องแตกลายไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอ้วนเท่านั้น แต่สาว ๆ ที่มีรูปร่างเล็กก็สามารถเกิดรอยแตกลายได้เช่นกัน รอยแตกลายมีสองประเภท

1. รอยแตกลายสีแดง เป็นรอยแตกลายรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการยืดหรือหดตัวเร็วเกินไป ทำให้เกิดริ้วรอยสีแดงเข้มหรือสีม่วงบนผิวหนัง ระดับความเข้มขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของแต่ละคน ส่วนคำถามที่ว่ารอยแตกลายแดงจะหายไหม? คำตอบคือมีโอกาสหายและกลับมาเรียบเนียนได้ง่ายกว่ารอยแตกลายสีขาว เนื่องจากเป็นรอยที่เกิดขึ้นใหม่จึงทำให้สามารถดูแลรักษาให้หายได้ดีและเร็วกว่านั่นเอง

2. รอยแตกลายสีขาว ที่เกิดจากรอยแตกลายสีแดงที่เมื่อเวลาผ่านไปจากสีแดงจะค่อย ๆ จางลง และเปลี่ยนเป็นเส้นสีขาว รอยแตกลายแบบนี้รักษายากกว่ารอยแดง เพราะมันฝังลึกอยู่บนผิวพอสมควร ดังนั้นหากต้องการรักษารอยแตกลายให้ได้ผล ควรเริ่มดูแลและรักษาตั้งแต่ยังเป็นเส้นสีแดงจะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้ง่ายกว่า

ท้องลาย

ปัจจัยเสี่ยงของท้องลาย

ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเกิดท้องลายได้แก่หลาย ๆ ปัจจัย ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบุคคลใดก็ได้ โดยปัจจัยเหล่านี้อาจประกอบด้วย

  • เป็นผู้หญิง เช่น อาจเกิดจากการตั้งครรภ์
  • ลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักเร็วเกินไป เนื่องจากอาจจะยืดหรือหดไม่ทัน อาจทำให้เกิดผิวแตกลายได้
  • พันธุกรรมที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับทางด้านสุขภาพ เช่น คุชชิ่งซินโดรม (Cushing’s Syndrome) เป็นผลมาจากฮอร์โมนคอลติซอลที่อาจทำให้เกิดการกินจุ กินบ่อย และอาจเกิดภาวะอ้วน มาร์แฟนซินโดรม (Marfan Syndrome) เป็นกลุ่มอาการผิดปกติของเนื้อเยื่อ โรคหนังยืดผิดปกติ (Ehlers-Danlos Syndrome หรือ EDS) โรคที่ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกายอ่อนแอ โดยผิวหนังจะยืดและบางจนแตกลายได้ง่าย
  • กำลังเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะบุคคลที่เจริญอาหาร และรับประทานอาหารมากจนทำให้ร่างกายท้วมหรืออ้วนเร็วเกินไป
  • ตั้งครรภ์ เนื่องจากผิวหนังขยายตามไม่ทันจึงอาจส่งผลให้ผิวแตกลายได้ง่ายขึ้น
  • การออกกำลังกายผิดวิธี เช่นการเพาะกายอย่างรวดเร็วอาจทำให้กล้ามเนื้อนูนและเกิดรอยแตกลายได้
  • การใช้สเตียรอยด์ สเตียรอยด์สามารถลดการสร้างคอลลาเจนของผิวหนังและการสูญเสียความชุ่มชื้น

วิธีลดและป้องกันผิวแตกลาย ทวงคืนผิวเรียบเนียน

วิธีลดและป้องกันการแตกลายของผิวนั้น มีวิธีมากมายที่สามารถทำได้ดังนี้

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแตกลายบนผิว
  • หลีกเลี่ยงการอดอาหารหรือลดน้ำหนักผิดวิธี เพราะอาจทำให้เกิดการแตกลายของผิวได้
  • หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารแคลอรีสูงในช่วงตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเกิดไขมันสะสมบริเวณต่าง ๆ ทำให้เกิดการแตกลายของผิวได้
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน A, C และสังกะสี เพื่อช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง
  • ใช้ครีมทาผิวแตกลายโดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์หรือเมื่อมีอาการคันบริเวณที่ผิวแตกลาย เพื่อป้องกันรอยแตกลายสีขาวได้อย่างดี (อย่าลืมศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนใช้)
  • ใช้สครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออกและกระตุ้นการผลัดเซลล์ใหม่โดยเฉพาะบริเวณที่มีความแห้งของผิว
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการใช้ว่านหางจระเข้สด หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อให้ผิวของคุณชุ่มชื้น ป้องกันความแห้งกร้าน

วิธีการรักษาท้องแตกลาย

วิธีการรักษาท้องแตกลาย รักษาอย่างไร

การรักษาท้องแตกลายมี 2 วิธีหลัก ๆ คือ การรักษาเฉพาะที่โดยการทายาและการรักษาโดยแพทย์โดยใช้เครื่องมือ ยาทาที่นิยมใช้ในการรักษาคือยาที่สามารถกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่หรือกระตุ้นการสร้างหนังกำพร้าหรือหนังแท้ใหม่ขึ้น ตัวอย่างเช่น ยาทาที่มีวิตามินเอ (กรดเรติโนอิก) หรือกรดผลไม้ เช่น อัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) ครีมต้องออกฤทธิ์ติดต่อกันอย่างน้อย 3-4 วัน เดือน การรักษาโดยการทายามักได้ผลในกรณีที่รอยแตกเพิ่งเริ่มเกิดขึ้นใหม่ ๆ ในขณะที่รอยยังเป็นสีชมพูอยู่ โดยทั่วไปประสิทธิภาพของการรักษาด้วยการทายามักด้อยกว่าการรักษาด้วยการใช้เครื่องมือ

การรักษาท้องแตกลายด้วยเครื่องมือ

อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้รักษารอยแตกลายซึ่งมีรายงานในวารสารทางการแพทย์ว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย ได้แก่ ไมโครเดอร์มาเบรชั่น เลเซอร์ และคลื่นวิทยุ การรักษาด้วยเครื่องมือเหล่านี้ต้องทำการรักษาต่อเนื่องกันหลายครั้ง โดยปกติควรทำการรักษาทุก 1-2 สัปดาห์ ติดต่อกัน 5-10 ครั้ง จำนวนครั้งของการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแตกลายและความพึงพอใจของคนไข้ การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีออกฤทธิ์โดยการปรับสภาพผิวภายนอกให้เรียบขึ้น ส่วนเลเซอร์ และคลื่นวิทยุออกฤทธิ์โดยการปรับสภาพผิวภายนอกและกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ขึ้น

การรักษาหน้าท้องลายด้วยเลเซอร์

เลเซอร์ที่ใช้กันทั่วไปในการรักษารอยแตกลายมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ Fractional laser และ non-invasive laser เลเซอร์ทั้งสองมีหลักการทำงานคล้ายคลึงกัน กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียนขึ้น เลเซอร์ผลัดผิวชนิดที่มีการบุกรุกน้อยซึ่งใช้กันทั่วไปในปัจจุบันคือเลเซอร์ผลัดผิวแบบแบ่งส่วน เลเซอร์แบบไม่รุกรานที่นิยมมากที่สุดสำหรับการรักษารอยแตกลายคือเลเซอร์สีย้อมแบบพัล

ซิ่งการรักษาด้วยเลเซอร์ทั้งสองประเภทจำเป็นต้องทำการรักษาหลายครั้ง จำนวนครั้งของการรักษามักจะประมาณ 5-10 ครั้ง ผลลัพธ์ของการผลัดผิวด้วยเลเซอร์ที่รุกล้ำน้อยกว่านั้นชัดเจนกว่าการผลัดผิวด้วยเลเซอร์แบบไม่รุกล้ำ และเช่นเดียวกันกับการรักษาวิธีอื่น ๆ การรักษาท้องแตกลายที่เกิดขึ้นใหม่ข้างต้นจะได้ผลดีกว่ารอยแตกที่เป็นมานานแล้ว

อ่านเพิมเติม :

รอยแตกลายมีกี่ประเภท ต้องรักษาอย่างไร ?

การรักษาด้วยเลเซอร์ได้ผลดีแค่ไหน

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น รอยแตกลายหรือท้องแตกลายเป็นแผลเป็นตื้น ๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่มีทางรักษาให้เรียบเนียนเหมือนผิวเดิมได้ โดยทั่วไป ผลของการรักษาด้วยเลเซอร์ผลัดผิวแบบเปิดแผลน้อยจะเห็นผลชัดเจนกว่าแบบเปิดแผล และเช่นเดียวกันกับการรักษาวิธีอื่น ๆ ดังกล่าวข้างต้น การรักษาท้องแตกลายที่เพิ่งเริ่มเป็นใหม่ ๆ จะได้ผลดีกว่ารอยแตกที่เป็นมานาน หากเริ่มรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดแผลน้อยอาจสามารถทำให้สภาพรอยแตกลายดีขึ้นประมาณ 50%

สิ่งที่ควรระวังในการรักษาด้วยเลเซอร์

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดหลังการรักษาด้วยเลเซอร์แบบแผลเล็กคือรอยคล้ำ ผลข้างเคียงนี้พบได้ประมาณ 10% ของคนไข้ โอกาสเกิดรอยคล้ำหลังการทำเลเซอร์แบบไม่เจ็บแผลก็พบเช่นกันแต่มีโอกาสน้อย รอยคล้ำหลังการทำเลเซอร์มักจะจางลงภายใน 3-6 เดือน

ถ้ามี หน้าท้องแตกลาย + ผิวหนังหย่อนยาน รักษาอย่างไร ?

การมีผิวแตกลายและมีผิวหนังหย่อนยานตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน ปีกหลัง หรือหน้าอก ที่เกิดจาก

  • การลดน้ำหนัก ในคนที่เคยอ้วนมากๆ มาก่อน เมื่อน้ำหนักลดลงอาจทำให้ผิวหนังที่เคยยือตัวหดกลับได้ไม่ดีจนเกิดเป็นผิวหนังส่วนเกิน รวมถึงมีผิวแตกลายจากการที่ร่างกายถูกขยายออก
  • คุณแม่หลังคลอด ส่วนใหญ่จะเกิด หน้าท้องแตกลาย มากกว่าส่วนอื่นๆ ซึ่งหลังคลอดลูกรอยแตกลายก็ยังอยู่และเห็นชัดเจน รวมถึงเกิดผิวหนังที่ขยายตัวนั้นขาดความยืดหยุ่น หดตัวกลับได้ไม่ดีอีกต่อไป

สาเหตุของผิวแตกลายและมีผิวหนังหย่อนยาน ในทางการแพทย์สามารถรักษาทั้ง 2 ปัญหาได้พร้อมกันด้วย

1. Morpheus8

เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เรียบตึง-เรียบเนียนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด รวมถึงมีคุณสมบัติในการสลายไขมันใต้ผิวหนังได้ดี ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและลดการทำงานของเม็ดสีผิว ฯลฯ

โดยหลักการทำงานของเครื่อง Morpheus8 คือการส่งคลื่นพลังงานวิทยุผ่านหัวเข็มขนาดเล็กในการกระตุ้นใต้ชั้นผิวให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และความร้อนจาก Fractional Microneedle RF ยังช่วยทำให้ผิวหนังเกิดการหดตัว ผิวกระชับเรียบตึงขึ้นด้วย

อ่านเพิ่มเติม :

Morpheus 8 เคลียร์รอยยับ ยกกระชับผิว
หัว Morpheus8

2. ศัลยกรรมผ่าตัดยกกระชับ

การผ่าตัดยกกระชับนั้นสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายในบริเวณที่ผิวมีความหย่อนยานสูง ผิวหนังถูดยืดเป็นเวลานานจนขาดความยืดหยุ่น ไม่สามารถหดกลับได้อีกต่อไป ส่วนใหญ่จะใช้การรักษาด้วยวิธีนี้ในกลุ่ม คนที่เคยลดน้ำหนักมาก่อน , คุณแม่หลังคลอด เป็นต้น

  • การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck)

สามารถทำได้ทั้งแบบ Mini Tummy Tuck คือตัดผิวส่วนเกินบริเวณท้องล่างที่ผิวหย่อนย้วย+มีรอบแตกลาย และแบบ Full Tummy Tuck คือการตัดหนังหน้าท้อง เย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำสะดือใหม่ พร้อมกับดูดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องและเอว

อ่านเพิ่มเติม :

ศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้อง แก้ปัญหาหน้าท้องย้วย ให้เรียบตึง
วิธีแก้ หน้าท้องย้วยหลังคลอด พุงห้อยหลังคลอด ทำไงดี
  • การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก

การมีหน้าอกหย่อน + หัวนมอยู่ผิดตำแหน่ง สามารถทำศัลยกรรมยกกระชับหน้าอกได้ โดยต้องให้แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยก่อน เพื่อออกแบบการรักษาและเลือกวิธีที่เหมาะสม เช่น

1. ในคนที่เคยลดน้ำหนักมาก่อน มีผิวหนังหน้าอกย้วยและมีหัวนมผิดตำแหน่ง แพทย์จะเลือกใช้เทคนิค Breast Amputation คือการตัดเต้านมทิ้งทั้งหมด โดยแผลจะมีความยาวตั้งแต่กลางหน้าอก + เทคนิค Nipple Graft คือการย้ายหัวนมให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

2. คุณแม่หลังคลอดลูก สามารถเลือกทำได้ทั้ง ยกกระชับหน้าอกให้เล็กลงเพียงอย่างเดียว หรือยกกระชับหน้าอก+เสริมหน้าอก เพื่อให้นมเข้ารูป ใส่เสื้อผ้าได้สวยงามก็ได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม :

ผ่าตัดยกกระชับต้นแขน ให้เรียบตึงได้สัดส่วน ลดขนาดหน้าอก เทคนิคใหม่ ผ่าตัดส่องกล้อง
รีวิวผ่าตัดหน้าอกผู้ชาย ผิวหนังเหี่ยวจากการลดน้ำหนัก

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
คลิ๊ก ติดต่อไลน์ รับส่วนลด
คลิ๊ก ติดต่อ messenger Facebook
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า