ใครที่กำลังมองหาอาหารลดน้ำหนักควรควบคุมอาหารและเบื่อเมนูเดิม ๆ วันนี้เรามีเมนูลดน้ำหนักมาแจก นอกจากจะมีบทความ ตารางลดน้ำหนักผู้หญิง 7 วันแล้ว เรายังมีเมนูลดน้ำหนักอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่เมนูธรรมดา แต่เรากำหนดเป็นแผนไว้ 30 วัน อาหารแคลอรีต่ำ กินได้ทุกมื้อ ไม่ต้องอด ไม่ต้องทนหิว แถมมีของว่างระหว่างวันอีกด้วย ใครที่กำลังควบคุมอาหารอยู่ แต่จะให้ดีแนะนำให้ใช้ตารางออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักควบคู่ไปด้วย จะได้เห็นผล ซึ่งก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันหน่อยว่า การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญคือ “การนับแคลอรี”
แคลอรีคืออะไร? ต้องเผาผลาญพลังงานเท่าไหร่เพื่อลดน้ำหนัก?
หลายคนที่ควบคุมน้ำหนักและศึกษาข้อมูลคงเคยเห็นคำว่า “แคลอรี” กันมาบ้างแล้ว แคลอรีเป็นหน่วยวัดพลังงาน โดยพลังงานที่ร่างกายใช้ไปเรียกว่า “กิโลแคลอรี” ซึ่งปกติแล้วร่างกายเราต้องการพลังงาน 25 กิโลแคลอรีต่อ “น้ำหนักตัวเอง 1 กก.” หมายความว่าถ้าเราหนัก 50 กก. พลังงานที่เราต้องได้รับคือ 1,250 นั่นเอง แต่ทำไมบางข้อมูลถึงบอกว่าเราควรได้รับพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000-2,500 แคลอรี
ร่างกายเราต้องได้รับพลังงานต่อวัน คือ 25 kcal x น้ำหนักของเรา แต่ทั้งนี้ต้องเป็นพลังงาน “ขั้นต่ำ” เท่านั้น เพราะบางคนต้องมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น เดินขึ้นลงบันได วิ่ง นั่งทำงาน ออกกำลังกายด้วยการยกแขนและขาไปมา เขาจึงเฉลี่ยพลังงานที่เราควรจะได้รับ ซึ่งมากกว่า 2,000 กว่านั้นเอง
เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก ทำไมต้องควบคุมอาหารโดยนับแคลอรี?
การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารคือการควบคุมพลังงานที่ได้รับต่อวันให้พอดีขั้นต่ำ เพื่อให้ร่างกายนำไขมันไปใช้เผาผลาญเป็นพลังงานในกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ ดังนั้นหากเราต้องการลดน้ำหนักก็ต้องทำกิจกรรมที่เผาผลาญแคลอรี เราต้องได้รับพลังงานมากกว่าที่เรากินเข้าไป 300-500 แคลอรี (ให้พลังงานเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย) ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราถูก “บังคับ” ให้นำ “ไขมันในร่างกาย” ออกมาใช้ เราจะสามารถลดน้ำหนักได้ 1 กิโล
ซึ่งหมายความว่าหากสาว ๆ บริโภค 500 กิโลแคลอรีต่อวันภายในหนึ่งสัปดาห์ จะเผาผลาญได้ถึง 3,500 กิโลแคลอรี น้ำหนักลดไป 0.4-0.5 กิโลค่ะ
และสูตรอาหารที่เราจัดไว้ในตารางลดน้ำหนักผู้หญิง 7 วัน ต่อไปนี้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งจัดตามกิโลแคลอรีที่เราต้องได้รับขั้นต่ำต่อวัน (บวกลบนิดหน่อย) มาดูกันเลยว่ามีเมนูไหนบ้าง
อ่านบทความเพิ่มเติม :
ตารางการลดน้ำหนักผู้หญิง 7 วัน
ตารางการลดน้ำหนักผู้หญิง 7 วันมีเมนูอาหารลดน้ำหนักต่อสัปดาห์ดังนี้
เมนูอาหารลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 1
มาเริ่มควบคุมอาหารและลดน้ำหนักด้วยการกินเมนูอาหารลดน้ำหนักในสัปดาห์แรก เราจะโฟกัสที่เมนูอกไก่ก่อน เพราะอกไก่นอกจากจะทำให้อิ่มแล้วยังรู้สึกอยู่ท้องอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นอาหารไดเอทที่ช่วยเพิ่มโปรตีน สำหรับสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนของว่างเราจะเน้นไปที่ผลไม้ แต่เป็นแบบที่ไม่หวานนะ เพราะถ้าหวานมากไปก็จะมีน้ำตาลมากตามไปด้วย ใครที่ไม่ชินกับการงดของหวานต้องอดทน ร่างกายของคุณจะค่อย ๆ ปรับตัวได้เอง
เมนูอาหารสำหรับการลดน้ำหนักและแคลอรีที่ได้รับแต่ละมื้อ
วันที่ 1
เช้า : โจ๊กข้าวโอ๊ตกับอกไก่สับและผัก น้ำส้ม 1 แก้ว (160 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ลาบไก่ (250 kcal), ข้าวไรซ์เบอรี่ (200 kcal)
ระหว่างวัน : แอปเปิ้ล (80 กิโลแคลอรี) โยเกิร์ตไขมันต่ำ (60 กิโลแคลอรี)
เย็น : สุกียากี้อกไก่ใส่ผักเยอะ ๆ (350 แคลอรี)
วันที่ 2
เช้า : ขนมปังโฮลวีตกับอะโวคาโดบด (220 kcal), ไข่ดาว (160 kcal), นมไขมันต่ำ (70 kcal)
กลางวัน : ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกไม่ใส่กระเทียมเจียวใส่ผัก (350 kcal)
ระหว่างวัน : น้ำผลไม้ (80 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal)
เย็น : สลัดอกไก่ น้ำสลัดโยเกิร์ต (100 kcal)
วันที่ 3
เช้า : กราโนล่า 1 ถ้วย กล้วย 1 ถ้วย และนมอัลมอนด์ 1/4 ถ้วย (400 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : อกไก่กะเพรา (250 kcal), ข้าวไรซ์เบอรี่ : ข้าว (200 kcal)
ระหว่างวัน : น้ำผลไม้ (80 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal)
เย็น : ต้มยำหมูสไลซ์ไม่ใส่กระเทียมเจียว (150 แคลอรี)
วันที่ 4
เช้า : ไข่เจียวข้าวกล้องไม่อมน้ำมัน (250 kcal) น้ำผลไม้ (80 kcal)
กลางวัน : ส้มตำ (80 kcal), อกไก่ย่าง (200 kcal), ข้าวเหนียวดำ (100 kcal)
ระหว่างวัน : ชาไม่ใส่น้ำตาล (50 kcal), แอปเปิ้ล (80 kcal)
เย็น : สลัดปลาย่าง (200 kcal), ไข่ต้ม (80 kcal)
วันที่ 5
เช้า : ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่นกับเนยถั่ว (500 กิโลแคลอรี) ผลไม้ที่ชอบ (100 กิโลแคลอรี) นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ฟักทองผัดไข่ (110 Kcal) ข้าวกล้อง (110 Kcal) ไข่ต้ม (80 kcal)
ระหว่างวัน : ข้าวโพดต้มมะพร้าวอ่อน (160 kcal)
เย็น : ยำวุ้นเส้นเน้นผัก (160 kcal)
วันที่ 6
เช้า : ข้าวกล้องต้มผักและปลาแห้ง (250 kcal)
กลางวัน : ปลาทูย่าง (135 kcal) น้ำพริกกะปิ (100 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal) ข้าวสวย (60 kcal)
ระหว่างวัน : กล้วยปิ้ง 2 ลูก (180 kcal)
เย็น : ไข่ตุ๋นอกไก่ 2 ฟอง (320 kcal) ข้าวสวย (60 kcal)
วันที่ 7
เช้า : ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น (250 กิโลแคลอรี) ไข่คน 2 ฟอง (200 กิโลแคลอรี) น้ำส้ม 1 แก้ว (40 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : สุกียากี้หมูกับผัก (250 kcal) ผลไม้ (100 kcal)
ระหว่างวัน : ผลไม้ไม่หวาน (80 kcal)
เย็น : โจ๊กไข่ขาว เห็ดหอม และแครอท (190 kcal)
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
เมนูอาหารลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 2
สัปดาห์ที่ 2 มีแต่เมนูลดน้ำหนักอร่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นยำเห็ดรวม สเต๊กไก่เทอริยากิ ข้าวหมูแดง ปลาลวก และอื่น ๆ อีกมากมาย อาหารลดน้ำหนักไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่อาหารไม่อร่อย เพราะเราเลือกกินหรือทำอาหารคลีนอร่อย ๆ กินเองได้ เน้นไม่ปรุงมากก็เหมือนเดิม พยายามอย่าทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง นมถั่วเหลือง ถั่วเหลือง ควรเลือกแบบไม่มีน้ำตาล
รายละเอียดแคลอรีในแต่ละเมนู
วันที่ 8
เช้า : สำหรับมื้อเช้า ให้กินนมถั่วเหลืองไม่ใส่น้ำตาล 70 กิโลแคลอรี ไข่ต้ม 2 ฟอง 160 กิโลแคลอรี และขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น 250 กิโลแคลอรี
กลางวัน : แกงจืดเต้าหู้มีทบอล (280 กิโลแคลอรี) และข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : ถั่วลิสงอบเกลือ 1 ห่อ (200 กิโลแคลอรี)
เย็น : อกไก่ย่างซอสเทอริยากิ (200 kcal) และสลัดผัก (100 kcal)
วันที่ 9
เช้า : โยเกิร์ตไขมันต่ำผสมผลไม้และน้ำผึ้ง (200 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ข้าวอกไก่ (550 kcal) และซุปใส (100 kcal)
ระหว่างวัน : ผลไม้ตามใจชอบ (100 kcal)
เย็น : สลัดเห็ดรวม (160 กิโลแคลอรี) และนมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
วันที่ 10
เช้า : แกงจืดเต้าหู้หมูสับ (150 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal)
กลางวัน : สปาเก็ตตี้โฮลวีตกับอกไก่ (550 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : นมเปรี้ยวไขมันต่ำ (55 กิโลแคลอรี) และผลไม้ (100 กิโลแคลอรี)
เย็น : สลัดไข่ต้ม 1 ฟอง (100 กิโลแคลอรี) และนมถั่วเหลือง (100 กิโลแคลอรี)
วันที่ 11
เช้า : สำหรับมื้อกลางวัน ให้ทานแซนด์วิชทูน่ากับมายองเนสไขมันต่ำ (180 กิโลแคลอรี) และน้ำส้ม (40 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : น้ำตกอกไก่และผักสด (300 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal)
ระหว่างวัน : มันทิพย์ปิ้ง 3 ลูก (300 kcal)
เย็น : สลัดผัก (100 กิโลแคลอรี) และไข่ต้ม 2 ฟอง (160 กิโลแคลอรี)
วันที่ 12
เช้า : เฟรนช์โทสต์สองแผ่น (550 กิโลแคลอรี) และนมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ผัดผักใส่กุ้ง (200 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal)
ระหว่างวัน : น้ำผลไม้ปั่น (100 kcal)
เย็น : ปลาต้ม (170 กิโลแคลอรี) ผักต้ม (70 กิโลแคลอรี) และข้าวสวย (60 กิโลแคลอรี)
วันที่ 13
เช้า : ต้มเลือดหมู (150 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal) ไม่ใส่กระเทียม
กลางวัน : สเต๊กไก่เทอริยากิ (350 กิโลแคลอรี) และผักนึ่ง (70 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : กล้วยตากไม่ใส่เกลือ 1 ลูก (60 กิโลแคลอรี) และน้ำมะพร้าว (20 กิโลแคลอรี)
เย็น : สลัดผลไม้ (120 kcal) และนมสด 1 กล่อง (170 kcal)
วันที่ 14
เช้า : อิ่มอร่อยไปกับน้ำปั่นผลไม้รวม กล้วย สตรอว์เบอร์รี สับปะรด นมสด และโยเกิร์ต 200 กิโลแคลอรี
กลางวัน : ข้าวหมูแดงราดซอสไม่ใส่หมูกรอบและกุนเชียง (500 kcal)
ระหว่างวัน : น้ำขิงเต้าหู้หรือนมจืด (150 kcal)
เย็น : นมถั่วเหลืองไม่มีสารเติมแต่งหรือน้ำตาล (70 กิโลแคลอรี) ไข่ต้ม 2 ฟอง (160 กิโลแคลอรี)
เมนูอาหารลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 3
อาหารสัปดาห์นี้เต็มไปด้วยเมนูลดน้ำหนักแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำไก่ย่าง แกงส้มกุ้ง เมี่ยงปลาย่างและแม้แต่ตำข้าวโพด ใครว่าอาหารลดน้ำหนักจืดชืด เห็นเมนูแล้วบอกเลยว่าไม่จริง คือทุกอย่างกินได้หมดแต่ต้องเลือกวัตถุดิบและการปรุงอาหารแบบคลีน ๆ เท่านั้นเอง ได้ฝึกฝีมือในการทำอาหารไปด้วยในตัว
รายละเอียดแคลอรีในแต่ละเมนู
วันที่ 15
เช้า : กล้วยปิ้งสองลูก (180 กิโลแคลอรี) ไข่ต้มหนึ่งฟอง (80 กิโลแคลอรี) และนมถั่วเหลืองหนึ่งกล่อง (100 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสผักรวมไม่ผัดกระเทียม (300 kcal)
ระหว่างวัน : ยำสาหร่ายญี่ปุ่น (100 กิโลแคลอรี) และนมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
เย็น : ส้มตำ (80 kcal) และอกไก่ย่าง (200 kcal)
วันที่ 16
เช้า : แกงจืดวุ้นเส้นไข่น้ำ (200 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal)
กลางวัน : ขี้เมาเส้นสปาเก็ตตี้โฮลวีทไก่ (550 kcal)
ระหว่างวัน : มันนึ่ง ฟักทองนึ่ง (40 kcal)
เย็น : แกงจืดเต้าหู้หมูสับวุ้นเส้น (120 kcal)
วันที่ 17
เช้า : ผัดผัก (220 กิโลแคลอรี) ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี) และไข่ดาว (160 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : อกไก่พริก (300 กิโลแคลอรี) และข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : เติมน้ำเชื่อมเล็กน้อย (150 กิโลแคลอรี) ลงในลูกตาลลอยแก้ว
เย็น : เมี่ยงปลาเผา (200 kcal)
วันที่ 18
เช้า : โจ๊กกุ้ง (200 กิโลแคลอรี) และน้ำส้ม (40 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : แกงส้มกุ้ง (120 กิโลแคลอรี) ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี) และไข่ต้ม 1 ฟอง (80 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : ขนมปังปิ้งกับโยเกิร์ตและอัลมอนด์ (300 kcal)
เย็น : สลัดโรล (240 กิโลแคลอรี) และนมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
วันที่ 19
เช้า : เพลิดเพลินกับสมูทตี้ผักรวมที่มีคุณค่าทางโภชนาการซึ่งทำจากผักโขมแช่แข็ง กล้วย นมสด และน้ำผึ้ง (200 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : เส้นหมี่ผัดอกไก่ (450 kcal)
ระหว่างวัน : สลัดทูน่าธัญพืชถ้วยเล็ก (200 แคลอรี)
เย็น : สลัดผลไม้กับน้ำโยเกิร์ต (200 kcal) และไข่ต้ม 1 ฟอง (80 kcal)
วันที่ 20
เช้า : อิ่มอร่อยกับแซนด์วิชอกไก่ย่างกับผัก 270 แคลอรี
กลางวัน : บรอกโคลีผัดน้ำมันหอย (200 กิโลแคลอรี) ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี) และไข่ต้ม (80 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : กล้วยหอม 2 ลูก (240 kcal)
เย็น : คอร์นสลัด (90 กิโลแคลอรี) ไข่ต้ม (80 กิโลแคลอรี) และนมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
วันที่ 21
เช้า : โยเกิร์ตไขมันต่ำ กราโนล่า และกีวี (250 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ยำลูกชิ้นปลา (100 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal) และไข่ต้ม (80 kcal)
ระหว่างวัน : มันเทศนึ่ง (40 กิโลแคลอรี) และนมสดหนึ่งกล่อง (100 กิโลแคลอรี)
เย็น : ลุยสวน ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ (300 kcal) และ ผลไม้ (100 kcal)
เมนูอาหารลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 4
เมนูลดน้ำหนักสัปดาห์ที่แล้วพบว่าร่างกายเริ่มชินกับอาหารไม่มันและไม่หวาน อาทิตย์นี้ก็ไม่ต่างกันกับเมนูเด็ดเพียบ มีทั้งข้าวหน้าสลัดแซลมอนและข้าวหน้าหมูอบน้ำผึ้ง รวมถึงข้าวหน้ากะเพรากุ้งและข้าวหน้าแซลมอน
รายละเอียดแคลอรีในแต่ละเมนู
วันที่ 22
เช้า : ไข่กระทะ (250 กิโลแคลอรี) และขนมปังโฮลวีตหนึ่งแผ่น (250 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ก๋วยเตี๋ยวหมูกระเทียมเจียว (250 kcal)
ระหว่างวัน : ผลไม้ (100 kcal)
เย็น : สลัดแซลมอน (300 kcal)
วันที่ 23
เช้า : กาแฟดำ (90 กิโลแคลอรี) และแซนด์วิชแฮม (240 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ข้าวปลาแซลมอนย่างเกลือ (250 kcal)
ระหว่างวัน : โยเกิร์ต กราโนล่า และน้ำผึ้ง (200 กิโลแคลอรี)
เย็น : ยำวุ้นเส้น (160 kcal) และ นมถั่วเหลือง (70 kcal)
วันที่ 24
เช้า : ทานนมถั่วเหลืองพร้อมท็อปปิ้งไม่ใส่น้ำตาล (120 กิโลแคลอรี) และขนมปังโฮลวีตปิ้งหนึ่งแผ่น (250 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : สเต๊กไก่พริกไทยดำ (300 กิโลแคลอรี) และผักนึ่ง (70 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : ข้าวปั้นแซลมอน 1 ชิ้น (200 kcal)
เย็น : สลัดอกไก่ย่าง (250 kcal) และผลไม้ (100 kcal)
วันที่ 25
เช้า : อะโวคาโดโทสต์ (220 กิโลแคลอรี) แซลมอนรมควัน (120 กิโลแคลอรี) และน้ำส้ม 1 แก้ว (40 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ข้าวหมูอบน้ำผึ้ง (380 kcal).
ระหว่างวัน : ผลไม้ (100 กิโลแคลอรี) นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
เย็น : ซุปไก่ มะเขือม่วง และมันฝรั่ง (130 kcal)
วันที่ 26
เช้า : มูสลี่ผลไม้กับโยเกิร์ตไขมันต่ำ (350 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : หมูหมักซอสเกรวี่และผัก (400 kcal).
ระหว่างวัน : บัวลอยในน้ำขิงไม่ใส่น้ำตาลหรือปาท่องโก๋ (160 kcal)
เย็น : แกงเลียงกุ้งสด (115 กิโลแคลอรี) กับข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี)
วันที่ 27
เช้า : โจ๊กหมูสับไข่ลวก (250 kcal)
กลางวัน : ผัดกะเพรากุ้ง (150 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal) และไข่ต้ม (80 kcal)
ระหว่างวัน : เฉาก๊วยไม่มีน้ำตาลมี 80 กิโลแคลอรี และนมพร่องมันเนยมี 100 กิโลแคลอรี
เย็น : สุกียากี้เส้นบุกทะเล (280 kcal)
วันที่ 28
เช้า : แซนด์วิชสลัดไข่ (180 kcal)
กลางวัน : เนื้อสันในไก่ย่าง (220 กิโลแคลอรี) ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี) และซุปใส (100 กิโลแคลอรี)
ระหว่างวัน : มันเผา (90 kcal)
เย็น : ไข่ตุ๋นอกไก่ (320 kcal) และฟักทองนึ่ง (40 kcal)
วันที่ 29
เช้า : ทูน่าแรป (200 กิโลแคลอรี) และน้ำผลไม้ (80 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ข้าวไข่ข้นกุ้งสด (250 kcal)
ระหว่างวัน : เพลิดเพลินกับขนมปังโฮลวีตกับโยเกิร์ตดิปและสตรอเบอร์รี่และเบอร์รี่ (300 กิโลแคลอรี)
เย็น : สเต๊กปลาย่างและผักต้ม (200 กิโลแคลอรี)
วันที่ 30
เช้า : ข้าวยำ (160 กิโลแคลอรี) และไข่ต้ม 1 ฟอง (80 กิโลแคลอรี)
กลางวัน : ต้มยำกุ้ง (100 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal)
ระหว่างวัน : โยเกิร์ตไขมันต่ำผสมผลไม้ (200 กิโลแคลอรี)
เย็น : น้ำพริกเผา (100 kcal) ปลาทูทอด (200 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal) และข้าวกล้อง (110 kcal)
นี่คือตารางลดน้ำหนักผู้หญิง 7 วันที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อเดือน และเมื่อออกกำลังกายเพิ่มเติม ก็สามารถลดได้มากกว่า 5 กิโลกรัมเลยทีเดียว
พุงไม่ยุบ หน้าท้องไม่ลด ดูดไขมันช่วยปรับสัดส่วนได้!
จากประสบการณ์ดูดไขมันมานานกว่า 24 ปี ของคุณหมอหนึ่งพบว่าคนที่เข้ามา ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นขา ด้วย BodyTite นั้นมีปัญหาจากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างนักหน่วง แต่ไขมันส่วนเกินไม่หายไปด้วยจนทำให้ท้อใจ หรือหลังลดน้ำหนักแล้วผิวหนังไม่หดกระชับเข้าที่ ก็จะมากระชับสัดส่วนด้วยเครื่อง PAL ทำให้รูปร่างสวยงามได้เร็วขึ้นได้อย่างปลอดภัย
สาวๆ หลายคนที่เข้ามาดูดไขมันนิยมทำหลายส่วนพร้อมกัน เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง ลดพุงป่อง พุงหมาน้อย + ดูดไขมันเอว เปลี่ยนสาวเอวปลิ้น เอวตรงให้เอวเคิร์ฟมากขึ้น รวมถึงดูดไขมันร่อง 11 สร้างกล้ามหน้าท้องผู้หญิงให้ดูเซ็กซี่ หน้าท้องเรียบแบน เป็นต้น
หากสนใจเรื่องดูดไขมัน อ่านเพิมเติมได้ที่นี่ค่ะ :
ดูดไขมันส่วนไหนได้บ้าง? ดูดไขมันร่อง 11 เทคนิคซ่อนแผล ดูดไขมันหน้าท้องพร้อมกระชับผิวด้วย BodyTiteรีวิวดูดไขมัน ด้วย BodyTite และ PAL
Rattinan Team เป็นทีมเขียนบทความสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงของเว็บไซต์สุขภาพในผลการค้นหาของ Google ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ในหลากหลายสาขา เช่น การแพทย์ การพยาบาล โภชนาการ และการออกกำลังกาย