กินน้ำตาลมากเกินไป รึเปล่า? มาดู 8 สัญญาณเตือนของร่างกายกัน!

สัญญาณเตือนร่างกาย กินน้ำตาลมากเกินไป

“กินน้ำตาลมากเกินไป” : รู้หรือไม่ว่า? คนไทยป่วยเป็นโรคเรื้องรัง อย่างเช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไปจนถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี สาเหตุหลักๆ คือติดการรับประทานอาหารประเภท ไขมัน  แป้ง และน้ำตาล ซึ่งได้รับในปริมาณที่สูงเกินความต้องการของร่างกาย

จากผลสำรวจของสสส. พบว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงวันละ 20-25 ช้อนชาต่อวัน เลยทีเดียว และการได้รับน้ำตาลมากเกินไปก็เป็นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เจ็บป่วยและเป็นโรคง่าย เพราะฉะนั้นหากอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืน จะต้องเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และหมั่นออกกำลังกาย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปแล้ว? ลองดูบทความนี้เลย 8 สัญญาณเตือนร่างกาย เมื่อคุณ “กินน้ำตาลมากเกินไป”

1. ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะมากกว่าปกติ

อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน เพราะโดนปกติแล้วฮอร์โมอินซูลินจะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน แต่ในคนที่เป็นเบาหวานนั้น จะทำให้ตับอ่อนหลั่งสารอินซูลินน้อยลงจนทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ร่างกายจึงพยายามขับน้ำตาลออกจากร่างกายทางปัสสาวะแทนนั่นเอง (บางคนที่เป็นเบาหวาน มดอาจตอมที่ปัสสาวะก็ได้)

2. หิวบ่อย หิวจุกจิก หิวมากกว่าเดิม

การทานน้ำตาลปริมาณมากจะส่งผลต่อฮอร์โมน โดยน้ำตาลจะเข้าไปทำให้ฮอร์โมนเลปติน (หลั่งสารออกมาเมื่อเรารู้สึกอิ่ม) หลั่งสารได้น้อยลง เลยทำให้เราหิวตลอดเวลา กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ

3. อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย

การได้รับน้ำตาลมากไปจะทำให้สูญเสียความเสถียรของพลังงานในร่างกาย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อทานน้ำตาลแรกๆ จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่พอผ่านไปสักพักก็จะรู้สึกหมดพลัง หงุดหงิดได้ง่าย

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 2
CTA Lipo 1
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

กินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวนง่าย

4. กินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้ ง่วงนอน อ่อนล้า เพลีย และขาดพลังงาน

ลองสังเกตดูว่าช่วงสายๆ หรือกลางวันที่เราทานข้าวมื้อหนักๆ (ข้าว แป้ง น้ำตาล) เข้าไปเสร็จก็จะรู้สึกหนังท้องตึงหนังตาหย่อน เกิดอาการง่วงมากกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะร่างกายเกิดการหลั่งสารอินซูลินออกมาจำนวนมาก เมื่ออาหารย่อยไปแล้วร่างกายหลั่งสารอินซูลินน้อยลง (น้ำตาลช่วยให้สดชื่นได้เพียงระยะสั้นๆ 30 นาทีเท่านั้น) และมีการหลั่งสารเซโรโทนินมาแทน ทำให้เกิดอาการง่วงนอน อ่อนเพลียนั่นเอง

5. ผิวหนังอักเสบ หรือเป็นสิว

อย่างที่บอกตอนต้นว่าการกินน้ำตาลมากเกินไป ส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ฮอร์โมนผันผวน ซึ่งทำให้เกิดโรคผิวหนัง ผิวหนังอักเสบ และเกิดสิวขึ้นได้ เกิดจากการที่น้ำตาลไปกระตุ้นฮอร์โมนแอนโดรเจนให้หลั่งออกมามากขึ้น ผิวหนังมีการผลิตน้ำมันมากขึ้นรวมถึงทำให้เกิดอาการคันตามจุดต่างๆ เพราะน้ำตาลทำให้สารอาหารและความชุ่มชื้นที่ผิวหายไป ขณะที่ขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ ทำให้ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

6. เกิดริ้วรอย แก่ก่อนวัย

การได้รับน้ำตาลที่มากเกินไปจะทำให้เกิดสารเร่งแก่มากขึ้น โดยโมเลกุลของน้ำตาลจะเข้าจับกับโปรตีนจนก่อให้เกิดสาร AGEs (Advanced Glycation End-Products) ซึ่งทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ทำให้ขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยขึ้นนั่นเอง

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 2
CTA Lipo 1
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

กินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย

7. ฟันผุ โดยปกติแล้วน้ำลายของเราจะช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในช่องปาก แต่หากกินน้ำตาล กินหวานแล้วไม่แปรงฟัน เมื่อแบคทีเรียกินความหวานที่ติดอยู่ที่ฟันแล้วก็จะกินลึกถึงฟันเราได้ รวมถึงการกินน้ำตาลปริมาณมากจะช่วยทำให้แบคทีเรียเติบโตและขยายพันธุ์ได้ไวขึ้นด้วย

8. กินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้น การทานน้ำตาลที่มากเกินไป สุดท้ายน้ำตาลจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันและสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายร่างกาย เช่น ไขมันสะสมที่หน้าท้อง , ต้นขา , ต้นแขน รวมถึงอวัยวะ ทำให้อวัยวะเสื่อมลงอย่างรวดเร็วนั่นเอง และหากไม่ได้ออกกกำลังกายเผาพลาญน้ำตาลออกไป น้ำตาลจะไปกระตุ้นการหลั่งสารอินซูลิน ซึ่งเป็นสารตัวสำคัญที่มีผลต่อน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

ไขมันสะสมตามร่างกาย ที่เกิดจากการ กินน้ำตาลมากเกินไป รักษาอย่างไร?

ไขมันสะสมตามร่างกายที่เกิดจากการ กินน้ำตาลมากเกินไป เช่น ไขมันสะสมต้นขา , ต้นแขน หรือหน้าท้อง นั้นสามารถกำจัดออกได้ด้วยการปรับพฤติกรรม การเลือกทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อย หรือออกกำลังกายเพื่อเผาพลาญน้ำตาลได้

แต่ในบางคนที่ใจไม่แข็งพอในการคุมอาหาร ลดของหวาน รวมถึงไม่ชอบออกกำลังกาย ก็อาจจะหาทางเลือกอื่นๆ ที่เข้ามาช่วยในการลดสัดส่วนเกินของร่างกาย เช่น การดูดไขมัน ในปัจจุบันก็นิยมมากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ข้อดีคือเห็นผลเร็ว เจ็บน้อย และไม่อันตราย เหมาะกับคนที่อยากลดสัดส่วนแบบเร่งด่วน ทันใจ

ส่วนใหญ่บริเวณที่นิยมทำคือ ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันเอว ดูดไขมันต้นขา และ ดูดไขมันต้นแขน ซึ่งเป็นจุดที่มีการสะสมของไขมันมากที่สุด

อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันคืออะไร? 

หากสงสัยว่าการดูดไขมันจะช่วยให้ดีขึ้นได้จริงไหม? ดูดไขมันช่วยทำให้สัดส่วนลดลงได้ ในบางคนน้ำหนักตัวอาจจะลดลงบ้าง (หากดูดออกในปริมาณมาก) แต่หากคุณเข้าข่ายภาวะน้ำหนักตัวเกิน หรือเป็นโรคอ้วน (BMI เกิน 30) การดูดไขมันอาจไม่ได้ผล และการดูดไขมันไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักจนผอมได้

ทางเลือกในการรักษาคนที่มี น้ำหนักตัวเกิน หรือ โรคอ้วนลงพุงนั้น จะต้องใช้วิธี ผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนักแทน เพราะคนในกลุ่มนี้มีข้อจำกัดทางด้านร่างกาย บางคนออกกำลังกายมากเกินไปไม่ได้ เพราะน้ำหนักที่มีผลต่อสุขภาพ นั่นเอง

ดูดไขมัน BodyTite ที่รัตตินนัท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ดูแลโดย นพ.สุทธิพงษ์ อาจารย์แพทย์สอนดูดไ
liposuction belly ดูดไขมันหน้าท้อง
รีวิว ดูดไขมันต้นขาด้านนอก ลดขาใหญ่ ขาปูด
รีวิว ดูดไขมันเอวผู้ชาย BodyTite

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 1
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

ภาวะโรคอ้วน ที่เกิดจากการกินน้ำตาลมากเกินไป รักษาอย่างไร?

กินน้ำตาลมากเกินไป แน่นอนว่าส่งผลระยะยาวทำให้เกิดโรคเรื้อรังอย่าง โรคอ้วน หรือภาวะน้ำหนักตัวเกินได้ ซึ่งการรักษาคนอ้วนให้กลับมามีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงนั้น หากทำด้วยตัวเองจะต้องมีวินัยมากๆ ทั้งในการควมคุมน้ำหนัก การเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ

แต่ในบางคนที่มีข้อจำกัด เช่น มีโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากน้ำหนักตัวที่มากนั้น ไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยตัวเองได้ อาจจะต้องอาศัยการรักษาทางการแพทย์ อย่างการ ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก หรือ ผ่าตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วน นั่นเอง นอกจากจะทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น แล้วยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้นตามไปด้วย เพราะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง

ในปัจจุบันการผ่าตัดกระเพาะนั่นมีหลายวิธี ซึ่งแพทย์จะเลือกตามความเหมาะสมของคนไข้

  • การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Gastric Sleeve) ผ่าตัดกระเพาะออกบางส่วน ให้กระเพาะมีขนาดเล็กลง
  • ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass) ผ่าตัดกระเพาะออก ร่วมกับการตัดต่อลำไส้ ซึ่งวิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวรที่สุด
  • การเย็บกระเพาะด้วยการส่องกล้อง (Overstitch) ไร้แผลเป็นหน้าท้อง เป็นเทคนิคใหม่ล่าสุด เป็นการส่องกล้องทางปากเพื่อเข้าไปตัดกระเพาะออก
  • การใส่บอลลูนในกระเพาะ (Intragastric Balloon) ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องหมั่นเติมน้ำเกลือและเปลี่ยนทุกๆ ปี

หากสนใจคลิ๊กอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก

มั่นใจในมาตรฐาน ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (ฺBest Bariatric Surgery in thailand)
คุณเก๊ว ผ่าตัดกระเพาะลดหน้ำหนัก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเซอร์
รีวิวผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนัก ชาวต่างชาติ
Review ตัดกระเพาะ คุณปาริสรา

บรรยากาศ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์

สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล
พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ประสบการณ์กว่า 24 ปี

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040
CTA Lipo 2
CTA Lipo 1
QR code surgery

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า